บริหาร การจัดการ การตลาด พัฒนาตนเอง พัฒนาความคิด กลยุทธ์ ธรรมะ จักรราศี ฯลฯ
จัดตั้งธุรกิจ ปรับปรุงกิจการ | ไขความลับสมองเงินล้าน | การเขียนแผนธุรกิจ | บริหารคน บริหารงาน | พัฒนาความคิด
พระไตรปิฎกฉบับหลวง | แด่องค์กรที่แสนรัก | สุขใจกับเด็กสมาธิสั้น
Group Blog
 
 
มกราคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
ชีวิตที่ดีกว่าหลังเปลี่ยนเพศเป็น... (ตอนที่ 6) : ปากเป็นเหตุ

ชีวิตที่ดีกว่าหลังเปลี่ยนเพศเป็น...
(ตอนที่ 6) : ปากเป็นเหตุ


โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)
หมวด : หลักพัฒนาตนเอง



คนเราจะเปลี่ยนเพศของตนเองได้สักกี่ครั้ง สำหรับผม การเปลี่ยนเพศครั้งนี้ นับว่าให้ประสบการณ์มากมายเลยทีเดียว ได้พัฒนาตนเองได้มากขึ้น และ มีข้อคิดมุมมองที่มากมายมาเล่าเสริมเติมแต่งกันเป็นนิยายสนุกๆนะครับ...



ตอนที่ 1 : จุดเริ่มของการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 2 : หน้าที่ใหม่
ตอนที่ 3 : วิเคราะห์ข้อมูล
ตอนที่ 4 : First Impression
ตอนที่ 5 : ครึ่งเดือนผ่านไป



พอเริ่มจะทำงานก็เริ่มสนุกกับงาน เจ้านายสั่งให้ทำอะไรก็ทำให้มันดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมีปัญหามากมายนัก อยู่มาก็เกือบครึ่งเดือน อธิการเพิ่งเรียกตัวเข้าพบ ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจว่าจะเรียกพบทำไม... จะเตรียมตัวอย่างไรก็ไม่รู้ อธิการฯอยู่ชั้นไหน ห้องไหนก็ต้องถามเพื่อนเอาว่าตรงไหน เพื่อนก็ใจดีพาไปส่งถึงด้านหน้าเลย แถมเพื่อนยังหน้าแตก เปิดประตูเข้าไปในห้องประชุม ซึ่งผู้บริหารระดับสูงกำลังประชุมกันอยู่อีก... ท่านอธิการฯเลยฝากบอกผ่านเพื่อนมาว่าให้รอข้างนอกเดี๋ยวจะออกมาพบ... พูดจบเพื่อนก็ชิ่งกลับไปก่อนเลย สงสัยกลัวหน้าแตกอีก

ท่านอธิการออกมาจากห้องประชุมพร้อมกับแฟ้มประวัติของผม แล้วถามไล่เลยว่าชอบทำอะไรไม่ชอบทำอะไร พอบอกว่าชอบบริหารชอบการตลาดแต่ไม่ได้เรียนมา ท่านก็เลยให้โอกาสโดยไปวางแผนการตลาดของมหาวิทยาลัยมาให้ท่านพิจารณาโดยตรงไม่ต้องผ่านเจ้านายผมอีกต่างหาก และสั่งให้เข้าประชุมการตลาดด้วย... ผมก็เลยยิ่งงงเลยว่าเกิดอะไรขึ้น และตบท้ายด้วยยืนยันตัวเลขที่เจ้านายผมให้ ซึ่งก็ได้เงินเดือนเพียงครึ่งหนึ่งของที่ผมได้รับจากบริษัทฯวิจัย ตัวเลขนี้ผมยอมรับได้เพราะผมถือว่า อีกครึ่งหนึ่งถือเป็นการชดใช้ทุนค่าเรียนปริญญาโทฯ ซึ่งในใจก็กะอยู่แค่ 4 เดือนก็น่าจะเกินค่าเรียนโทฯแล้ว และอีกอย่างผมอยากเข้ามาสอนหนังสือด้วย ก็เลยไม่ค่อยจะใส่ใจเรื่องเงินสักเท่าไหร่ มารู้ทีหลังว่า ขนาดตัวเลขครึ่งหนึ่งของผมก็ยังสูงกว่าอาจารย์ หรือ ผู้บริหารบางคนเสียอีก ทำให้อึดอัดว่าเงินเดือนสูง ตำแหน่งนิดเดียว ถ้าเกิดคนอื่นรู้มีหวังอยู่ไม่รอด มิน่าท่านอธิการฯถึงมอบหมายงานอื่นๆให้มาทำเพิ่มอีก

ดีนะได้อ่านคู่มือนักศึกษาใหม่ มาก่อนค่อนข้างเยอะ ประกอบกับเคยเรียนปริญญาโทฯ ของมหาวิทยาลัยศรีปทุม ก็เลยพอที่จะเข้าใจและหลักการของมหาวิทยาลัยอยู่บ้าง ผมเริ่มการทำการตลาดด้วยการเขียนองค์ประกอบทั้งหมดของมหาวิทยาลัย ใครบ้างที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในการเข้าศึกษา ปัจจัยอะไรที่มีผลต่อการตัดสินใจ กลุ่มนักเรียนแบบไหนถึงจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของมหาวิทยาลัย และ อื่นๆอีกมากมาย ที่ขาดไม่ได้ก็ต้องเป็นรูปแบบการตลาดเดิมของมหาวิทยาลัย และ รูปแบบการตลาดของมหาวิทยาลัยคู่แข่ง ออกมาก่อน เพื่อที่จะได้นำข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์เป็นแผนการตลาด

เขียนแผนการตลาดเสร็จตามเวลาที่กำหนด ก็ส่งตรงให้กับท่านอธิการฯ และ อีก 2 วันก็จะเป็นการประชุมการตลาด ระหว่างนี้ ไม่มีสัญญาณใดๆปรากฏให้เห็นเลยว่า อธิการได้อ่านชอบไม่ชอบ หรือว่า มันเป็นเพียงการตลาดของมือใหม่หัดทำการตลาดคนหนึ่ง... จนเข้าห้องประชุมการตลาด...

ท่านอธิการเปิดประชุม ซึ่งก็มีบางแนวคิดมาจากแผนการตลาดของผม จากนั้น กลุ่มการตลาดเก่า ได้อธิบายถึงการตลาดทั้งหมดที่ผ่านมาทั้งปี และ สรุปผลการดำเนินการตลาดว่าได้ทำจนครบถ้วน ซึ่งในปีที่ผ่านมาจำนวนคนสมัครเข้าเรียนไม่ได้ตามเป้าที่กำหนด และเท่าที่ฟังดูผมว่ามันมีจุดอ่อนอยู่หลายจุดทีเดียว เมื่อสรุปเสร็จ ท่านอธิการฯ ก็ให้ผู้บริหารแต่ละคนวิจารณ์ ก็ไม่เห็นมีใครวิจารณ์สักคน แค่พูดอ้อมๆไปโน่นไปนี่ ไอ้ตัวผมก็อยากจะพูดบ้างแต่ก็ติดตรงที่เป็นคนใหม่ก็เลยสงบปากสงบคำไว้ แต่แล้ว ท่านอธิการฯ ก็ให้โอกาสผมได้พูดเป็นคนสุดท้าย...

บลา...บลา...บลา... ผมชี้ประเด็นจุดอ่อนของแผนการตลาดซะยับเลยแบบว่า ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ซึ่งก็แปลกว่า แต่ละคนก็เห็นดีด้วย แต่ทำไมแต่ละคนไม่กล้าพูดกันออกมา ปล่อยให้มาถึงผมได้อย่างไร... ผมทั้งชี้ประเด็น และ เสนอแนะแนวทางการตลาดที่ผมได้คิดขึ้นที่ได้เสนอท่านอธิการบดีไป เจ้านายผมมีแย้งในบางจุดบ้าง และ เบรกผมในบางจุดที่ถึงกับอึ้งเหมือนกันว่า ทำไมต้องเบรกและอ้างอิงในเชิงเปรียบเทียบว่าผมไม่เข้าใจองค์กร ซึ่งผมก็ยอมรับว่าผมยังใหม่ไม่เข้าใจทั้งหมดขององค์กร ก่อนจบการประชุม ก็มีการนัดให้ประชุมการตลาดในสัปดาห์หน้า หลังจากประชุม มีผู้บริหารท่านหนึ่งเข้ามาแนะนำตัวกับผม และยังเสนอแผนการตลาดของเขาซึ่งเขาคิดมาเมื่อ 2-3 ปีก่อนว่าถ้าต้องการเขาจะส่งมาให้อ่าน แถมตบท้ายด้วย ผมสนับสนุนคุณเต็มที่เลย ลุยต่อไป ผมยืนอึ้งสักครู่แล้วคิดในใจว่า แหมทำไมดีกับเราจังเลย...

พอออกจากห้องประชุมก็มาเจอเพื่อนร่วมงาน ก็เพิ่งรู้ว่า การตลาดทั้งหมดหน้าที่ดูแลเป็นของเจ้านายผม ซึ่งคนที่เข้ามาคุยกับผมเป็นคนที่อยากจะทำหน้าที่การตลาด แต่กลับต้องไปทำงานอื่นเพราะมีเจ้านายผมทำอยู่แล้ว วันนั้น เจ้านายไม่เข้าที่ทำงานเรียกเลขาฯเอาของไปให้ที่รถ และ ไม่เข้าห้องทำงานอีก 2-3 วันเลยทีเดียว พอเห็นสภาพอย่างนี้แล้ว ก็เริ่มมองเห็นชะตากรรมของตนเองแล้วว่า อนาคตไม่มีทางรุ่งแน่นอน

พอเจ้านายเข้าที่ทำงาน ผมก็โดนเรียกเข้าไปรับงานเพิ่ม เป็นงานตรวจสอบคุณภาพการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย ส่งหนังสือให้มาอ่าน... ไม่เป็นไรได้งานใหม่มา งานเก่าไม่ได้เรียกคืนก็ยังรับได้ ถือว่าทำงานชดใช้ละกัน

เพื่อนที่เคยแนะนำให้มาทำงานที่นี่ออกไปก่อนผมเข้ามาทำงาน โทรศัพท์ชวนไปกินข้าวกับผู้หลักผู้ใหญ่ของมหาวิทยาลัยท่านหนึ่ง ท่านขอให้ช่วยเรื่อง PR กับการตลาดของคณะท่าน ก็ได้ตอบตกลงไปว่าจะไปกินข้าวด้วย พอไปถึง เพื่อนแนะนำให้รู้จักว่าเป็นสามีของท่านอธิการบดี และยังมีคณบดีอีกหนึ่งท่านด้วย ท่านเปิดสาขาใหม่ และต้องการให้เพื่อนผมช่วยทำ PR ให้ได้จำนวนคนที่ต้องการ ผมก็ได้แต่นั่งทานข้าวและนั่งฟัง ให้คำปรึกษาเพื่อนในเรื่องที่เขาติดปัญหาบ้าง ซึ่งก็ผ่านค่ำคืนนั้นมาด้วยดี

การประชุมการตลาดครั้งที่สอง ผมก็สงบปากสงบคำเอาไว้ แต่ก็ช่วยงาน Present ของเจ้านายบ้าง จะบอกว่าโดนข่ม และ ขัดแนวความคิดและการนำเสนอบ้าง ไม่มาก ยอมรับได้ พอเข้าประชุมการตลาดครั้งที่สอง ก็ได้เรื่องเลย มีการแบ่งกลุ่มคนออกมา ซึ่งท่านอธิการสั่งให้ผมอยู่ในกลุ่มวางกลยุทธ์ในการหานักศึกษาเข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัย ร่วมกับคณบดีอีก 2 ท่าน ท่านหนึ่งก็คือคณบดีที่ผมได้ไปทานข้าวกับเพื่อนนั่นเองก็โล่งใจอย่างน้อยก็มีคนรู้จักแล้ว และที่ดียิ่งขึ้นเพื่อนที่ทำงานด้วยกันก็ขอตามมาอยู่กับผมด้วยเพราะว่าผมเพิ่งเข้ามาใหม่ไม่รู้ว่าการตลาดเดิมเป็นอย่างไร แต่เจ้านายกลับถูกแขวนไว้ ไม่ให้รับหน้าที่อะไรในคราวนี้...

การประชุมการตลาดครั้งที่สาม ก็ได้ถูกนัดขึ้นมา แต่งวดนี้ เจ้านายสั่งให้ผมเข้าประชุมเกี่ยวกับการตรวจสอบคุณภาพ ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ใกล้ๆกับห้องประชุมการตลาด และ ประชุมในเวลาเดียวกัน ทำให้ผมขาดการประชุมกับท่านอธิการฯ แต่กลับต้องมานั่งฟังสิ่งที่ไม่มีสาระอะไรแค่เป็นการกำหนดว่า หลักสูตรแต่ละหลักสูตรต้องเขียนรายงาน ตอบคำถามอะไรประเภทนี้อย่างไร เข้าไปก็ฟังไม่รู้เรื่อง ผมสังเกตเห็นเจ้านายเดินมาดูห้องประชุมการตรวจสอบคุณภาพด้วย... (มันอาจจะเป็นการบังเอิญเพราะผู้ดำเนินการประชุมก็เป็นลูกน้องของเจ้านาย)

ผมใช้เวลาในการวางแผนกลยุทธ์เพื่อใช้ในการนำนักศึกษาเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย เขียนเองคนเดียวจนเสร็จเป็นเล่ม และได้ส่งให้หัวหน้ากลุ่มไป... ซึ่งหัวหน้ากลุ่มก็ชอบใจนะแต่ว่า อธิการบดีอีกท่านหนึ่งกลับตอกเอาหน้าหงายเลยว่าต้องศึกษาการตลาดของเก่าก่อนค่อยมาวางกลยุทธ์หาคนเข้ามหาวิทยาลัย... ตกลงว่า หัวหน้ากลุ่ม จะใช้แนวทางการหาลูกค้าของผม หรือจะกลับไปวิเคราะห์ศึกษาการตลาดที่ผ่านมานั้น หัวหน้ากลุ่มจะเลือกแนวทางการดำเนินงานอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป...



ข้อคิดที่ได้รับ

1. ผู้บริหารระดับสูงเลือกใช้คนตามความถนัดและความต้องการของคนทำงาน ซึ่งหากคนทำงานอยากที่จะทำงานนั้นๆ (มีฉันทะ) จะทำให้มีความพยายามที่จะเรียนรู้ ศึกษา หาข้อมูล ลงมือทำอย่างจริงๆจังๆ ใส่ใจในรายละเอียด (มีวิริยะและจิตตะ) และทบทวนไตร่ตรองความเป็นไปได้อย่างถี่ถ้วน (มีวิมังสา) ได้มากกว่าคนที่ไม่อยากทำงาน

2. คนที่เคยทำงานกับฝรั่ง เวลาประชุมก็ประชุมคุยกันด้วยเหตุ ด้วยผล แล้วก็จบในที่ประชุม นอกห้องประชุมก็ยังเป็นเพื่อนกัน ไปกิน ไปเที่ยวด้วยกัน แต่เวลามาทำงานกับคนไทย ในห้องประชุม กับนอกห้องประชุม เขาถือว่าเป็นห้องเดียวกัน ความเป็นพวกเดียวกัน สีเดียวกันรุนแรง เรื่องนี้จึงต้องระวังสำหรับคนที่เปลี่ยนงานจากบริษัทฯฝรั่งมาเป็นบริษัทฯของคนไทย

3. คนที่มีอำนาจ บางคนอาจจะไม่ได้ใช้อำนาจเพื่อให้องค์กรประสบความสำเร็จ แต่จะใช้อำนาจในการสร้างบารมีให้กับตนเอง กีดกันคนที่จะสั่นคลอนอำนาจตน ป้องกันอำนาจของตนให้ดำรงคงอยู่ให้นานที่สุด โดยไม่ได้เล็งเห็นถึงการเสียผลประโยชน์ขององค์กร เอาแต่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก



ตอนที่ 7 : ความแตกต่าง



Create Date : 24 มกราคม 2554
Last Update : 25 มกราคม 2554 16:57:05 น. 3 comments
Counter : 2029 Pageviews.

 
ปัญหาองค์กร จุดทศนิยมนะคะพี่


โดย: :) (ราชินีไม้เท้า ) วันที่: 24 มกราคม 2554 เวลา:18:57:53 น.  

 
thx for sharing na ka.


โดย: kanoon21 IP: 115.87.128.109 วันที่: 24 มกราคม 2554 เวลา:19:06:10 น.  

 
จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย

ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน


โดย: คนรู้มาก วันที่: 25 มกราคม 2554 เวลา:14:19:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wbj
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 210 คน [?]




ต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com หรือ 062 641 5992, 062 826 1544

วิทยากรเชิงกิจกรรม

วิทยากรกระบวนการ

ที่ปรึกษาธุรกิจ

ด้านการบริหารจัดการ

การตลาดและการประชาสัมพันธ์

การบริหารทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนกลยุทธ์

วิจัยธุรกิจ

IT Dashboard



ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้...
ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย
และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด



<< Main Menu >>



ดวงถาวร


ดวงตามวันเกิด



ดวงตามปีเกิด






;b[^]pN 06' ไรินนื ่นนืเ "รินนื ๋นนืเ c:j06'

ต้องการสอบถาม โทร 062-641-5992, 062-826-1544
ติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com
Line ID : wbjoong

ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารจัดการ การตลาดและการประชาสัมพันธ์ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และ การวางแผนกลยุทธ์ วิทยากรเชิงกิจกรรม, วิทยากรกระบวนการ นักวิจัยการดำเนินงานธุรกิจ Executive & Management Coach

ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้... ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด
<< Main Menu >>
Friends' blogs
[Add wbj's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friends


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.