มองโลกให้งาม ชีวิตก็งดงาม....................
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
22 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
7 วัน ที่ฉันรู้สึกตัว..ที่วัดป่า ตอน 2

กับครั้งแรกในชีวิต



ตามครูบาออกบิณฑบาต เข้าไปในหมู่บ้าน เดินตามด้วยความเงียบสงบ เห็นบรรยากาศความเป็นอยู่แบบธรรมชาติ การใส่บาตรของชาวบ้านในหมู่บ้าน

กินข้าวก้นบาตรพระ ก็ต้องตอบแทนเจ้าของข้าวด้วยการรีบทำความเพียร

อากาศร้อนทั้งวัน ไปที่ปฏิบัติตั้งแต่ 9 โมงเช้า โดยจะไม่ย้อนกลับมาโรงครัวอีก ก็เลยต้องห่อข้าวไปด้วย


กินข้าวเหนียวเป็นมื้อเพล ทำให้ตอนบ่ายง่วงนอนมาก แต่ก็พยายามฝืนทน เดินจงกรม แต่ถ้าคิดเรื่องฟุ้งซ่านที่ตัวเองชอบ ก็จะหายง่วงนอน ให้มันได้อย่างนี้สิ ..วันนี้ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ก็เลยชดเชยด้วยการเดินจงกรมหลังทำวัตรเย็น ตั้งแต่ 1 ทุ่ม - 3 ทุ่ม เดินกลางคืนไม่ร้อน ไม่เหนื่อย ไม่คิดอะไร โล่งๆ ตัวเบามาก บางคืนก็ต่อไปจนถึง 4 ทุ่ม....ชอบการเดินจงกรมตอนกลางคืนมาก

วันที่ 3 - 7 ก็เริ่มจับตัวง่วงได้
ตัวง่วงเข้ามาอย่างไร.... มาเลย ความง่วงเป็นความรู้สึกแบบตื้นๆ เห็นมันค่อยๆลอยมา ต้องลุกขึ้นเดินจงกรมสู้ทันที ไม่งั้นเอาไม่ทัน พอได้ที่ค่อยนั่งสร้างจังหวะ สลับไปมาทั้งวัน.....

ตั้งแต่วันนี้ไป...ก็ไม่ได้ห่อข้าวมากินเพลแล้ว เพราะรู้สึกว่าเป็นภาระ ส่วนน้ำดื่ม เพราะอากาศร้อนทำให้น้ำกินหมดขวดเร็ว ต้องเดินไปเอาน้ำกินที่โรงครัว ทำให้เสียเวลาในการปฏิบัติ วันนี้ เราทุกคนก็ต้องพากันถือเหยือกน้ำไปกันทุกคน เพราะมันจุน้ำได้มาก จะได้ปฎิบัติกันเต็มที่ ทั้งวัน

ส่วนเรื่องความเบื่อ มีแน่นอน เป็นเพราะตัดความคิดที่เข้ามาได้ทันอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายเหมือนจะ shut down บอกไม่ถูก เนื่อยๆ ล้า ๆ เบื่อ หรือประมาณเพลีย พยายามประคองสติไว้ ความง่วงจะเข้ามาโจมตีตอนเราเผลอนี้แหละ บางทีก็รู้สึกหลอกล่อ อาการง่วงเหมือนกัน ถ้าผ่านได้มันจะได้สว่างโพล่ง ...ยิ่งจับความง่วงได้ถี่เท่าไร มันก็จะจู่โจมบ่อยเท่านั้น ถ้าเป็นมวยก็เหมือนแลกกันคนละหมัด


ส่วนเรื่องคิดก็มีไม่มาก อาจเป็นเพราะเราทำความรู้สึกตัว เขย่าตะกอนรับน้ำใหม่ตลอดเวลา ความคิดในอดีตเลยไม่ค่อยเกิดขึ้นเท่าไร.. ส่วนอนาคตก็คิดไม่ไกลมาก เอาแค่ลมหายใจเวลานี้ ตอนนี้ก็พอ....


การปฎิบัติคราวนี้ ถ้าให้คะแนนตัวเองก็ดีกว่าที่คิด



การนั่งสร้างจังหวะ..ไม่ชอบเท่าเดินจงกรม แต่ก็ฝืนทำไป ไม่ชอบก็ยิ่งต้องทำ.....

ยังนึำกเลยว่าถ้าได้เก็บอารมณ์จะทำได้ขนาดไหนนะ ยิ่งตัวเองค่อยข้างไฮเปอร์ด้วยอาจจะคาดหวังกับตัวเองสูงไป บอกตัวเองว่าค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า ตามแรงของตัวเอง

วันสุดท้าย คิดว่าจะอำลาทางเดินจงกรม และอำลา เจ้ากระรอกน้อย ที่มาปลุกทุกวัน กิ้งก่า จิ้งเหลน ตุ๊กแกที่อยู่เป็นเพื่อนทุกวัน ทุกค่ำคืน
สัตว์ตัวน้อยเหล่านี้คืนแรกรับขวัญพี่ผู้มาใหม่....ซะเขย่าขวัญน่าดู แทบจะยืนกอดต้นไม้ร้องไห้ทีเดียว พอเราคุ้นเคยเรียนรู้กันแล้ว...สัตว์่ตัวน้อยก็จะช่วยเวลาเราเหนื่อย เบื่อ ขี้เกียจ หรือง่วงนอนหัวแทบจะโขกกับเทียน เพื่อนตัวน้อยๆ เหล่านี้ก็จะวิ่งพล่านส่งเสียงพลิกใบไม้ไปมา ส่งสัญญาณให้สู้ๆๆตลอด .....

จะจากลากันด้วยการเดินจงกรมให้ได้ดึกที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด .....
เพราะไฟป่าบนภูเขาลุกลามรุนแรง เสียงไฟประทุเหมือนคนยิงปืน ยิงประทัดตลอดเวลา เห็นไฟแดงเต็มท้องฟ้าแล้วขยายไปเรื่อยๆ ครูบาสั่งทุกคนให้ออกจากป่าทันที เพราะต้นไม้แห้งมากไม่น่าจะปลอดภัย เลยพากันย้ายเต้นท์อย่างทุลักทุเลตอนสองทุ่ม ต่างคนก็ต่างช่วยตัวเอง
ย้ายเต้นท์มาอยู่ลานต้นไผ่ห่างกันพอสมควร แต่ก็มองเห็นกันชัดเจนภายใต้เเสงเทียนของใครของมัน พร้อมเสียงไฟไหม้่ป่าประทุ ดีหน่อยที่ควันไฟลอยขึ้นไปข้างบน



ไฟป่าประทุอย่างนี้ทั้งคืน บนภูเขา

คืนสุดท้ายทำได้เต็มที่ แค่เที่ยงคืน
ตี 3 ก็รีบตื่นมาเดินจงกรมเพื่ออำลา วันสุดท้ายแล้วนะ กำลังความเพียรมีเท่าไร ใส่ไปให้หมด ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไรจะได้กลับมาที่นี่อีก หรืออาจจะไม่ได้มาเลย

ก็เหมือนการเล่นเกมส์กับตนเอง.... ชอบการปฏิบัติก็เพราะอย่างนี้แหละ
กลุ่มที่ไปด้วยกัน ครูบาก็คงดูสภาพ หรือภาวะที่ได้ ก็ทะยอยสั่งให้เริ่มเก็บอารมณ์ (หมายถึงปฎิบัติอย่างเดียวในที่ของตน)ไม่ต้องออกมาทำวัตรหรือรับอาหาร จะมีคนนำอาหารหรือน้ำปานะไปให้

ส่วนตัวเองยังไม่พร้อมที่จะเก็บอารมณ์...เพราะยังอยากปลูกต้นไม้ อยากตามครูบาออกไปบิณฑบาต หรืออยากสวดมนต์ตอนทำวัตรนั่นเอง







7 วัน....เวลาผ่านไปรวดเร็ว เหมือนมาเมื่อวาน วันนี้ต้องกลับเสียแล้ว
เหมือนไปเรียน และทบทวนวิชาดังต่อไปนี้
วิชาทำใจ
วิชารักษาใจ
วิชาดูแลใจ
วิชารู้จักใจตัวเอง


กลับมาก็มารักษาสิ่งที่ได้มาต่อ คิดว่าสิ่งที่คุ้มที่สุดคงเป็นเรื่องกำจัดความกลัวในใจออกไปได้ กลัวป่ารก กลัวความมืด นี้คงหายไปมาก

สุขใจอย่างบอกไม่ถูก ทำงานอย่างมีสติ ใครมากระทบกระทั่ง กระเเนะกระแหนดูเราเย็นๆ อย่างบอกไม่ถูก...
อาจจะมีอารมณ์ไม่อยากยุ่งกับใคร ไม่อยากคุยกะใครบ้าง เพราะอยากเก็บสิ่งที่ได้มาไว้กับตัวนานๆ

กราบขอบพระคุณ ครูบา ที่เป็นคนสำคัญ ที่ชี้ให้เห็นถึงจุดบอดของตัวเองได้อย่างถ่องแท้ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ครูบาให้แต่ละวันเหมือนติดอาวุธให้ และใช้งานได้จริงในสนาม

จะตั้งใจทำความเพียรต่อไป เท่าที่กำลังของตัวเองจะไปถึง

ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชมบล๊อก




Create Date : 22 เมษายน 2553
Last Update : 9 พฤษภาคม 2553 17:01:36 น. 0 comments
Counter : 1126 Pageviews.

Mena Summer
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




1.ชอบท่องเที่ยว ชอบเดินทาง
2.ศึกษาปฎิบัติธรรม เจริญสติแบบเคลื่อนไหวแนวหลวงพ่อเทียน ตามธรรมะจัดสรร
3.สนใจงานถักนิตติ้ง
4.สะสมไหมพรม มีอุปกรณ์งานถักหลากหลาย
5.รักการอ่านหนังสือ สนุกกับการอ่านหนังสือหลายแนว มีความฝันว่าอยากมีห้องสมุดเป็นของตัวเอง แต่สุดท้ายก็เอาหนังสือที่ตนเองมีอยู่ทะยอยแบ่งปันกันไป ...
6.ชอบซีรีย์ญี่ปุ่น และเกาหลี
7.ชอบกีฬาว่ายน้ำ
8.เติมเต็มเรื่องราวดีๆ ให้ชีวิต ไปเรื่อยๆ
Friends' blogs
[Add Mena Summer's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.