Final Destination 5 : โกงตายสุดขีด , แค่เข้าไปรอดูฉากการตายในระบบ 3D ก็คุ้มแล้วหละ... Final Destination 5 (2011) [ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ หรือ ไม่สปอยล์] Rated R for strong violent/gruesome accidents, and some language กลับมาอีกครั้งกับซีรี่ย์การโกงความตายภาคที่ 5 ซึ่งเหตุผลที่ดูหนังเรื่องนี้ก็คงไม่มีอะไรมากนอกจากซะว่า อยากได้หนัง 3D ที่ทะลุเข้าตาเยอะๆเท่านั้นเอง เนื่องจากภาค 4 ของหนังทำ 3D พุ่งทะลุจอออกมาได้ค่อนข้างใช้ได้พอสมควรเลยหละครับ ซึ่งภาคนี้นั้นจะเป็นภาคที่ดีที่สุดรึปล่าว ไปอ่านเลยครับ Final Destination 5 เรื่องราวก็เหมือนกับภาคที่แล้วของหนัง ซึ่งในภาคนี้เล่าถึงเรื่องราวของเหล่าลูกจ้างพนักงาน และ หัวหน้าของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ได้มีการจัดไปท่องเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกินขึ้นเมื่อระหว่างที่รถกำลังติดอยู่บนสะพานนั้นเอง สะพานนั้นได้ดันถล่มและฆ่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 86 ศพ แต่เนื่องจากพระเอกของเราอย่าง แซม ได้เห็นภาพนิมิตล่วงหน้าก่อนว่าสะพานจะถล่ม จึงพาแฟนและเพื่อนๆของเขาหนีออกมาจากรถบัสนั้นได้อย่างทันเวลา โดยไม่รู้เลยว่า ความตาย นั้นไม่ชอบให้ใครมาโกง และกำลังจะตามเก็บชีวิตด้วยวิธีพิสดารกว่าเดิมในระบบ 3D !! Final Destination 5 ได้ผู้กำกับอย่าง Steven Quale ที่หลังจากเคยเป็นผู้กำกับกองสองให้กับหนังสุดฮิตในประวัติศาสตร์อย่าง Avatar และ Titanic คราวนี้ไม่รู้ว่าอะไรถึงทำให้เขาคิดอยากจะลองกำกับหนังโกงความตายที่เริ่มหมดมุขหากินในหนังภาคนี้แล้ว ซึ่งอย่างแรกที่หลายๆคนอยากรู้แน่ๆคงหนีไม่พ้นกับระบบ 3D ของหนัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมคาดหวังพอสมควรว่าจะมีอะไรทะลุออกมาเยอะๆเหมือนภาค 4 ซึ่งหลังจากดูแล้วก็ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังจริงๆ เนื่องจากมีฉากทะลุจอค่อนข้างมาก ซึ่งคงเป็นจุดเด่นในซีรี่ย์ชุดนี้ไปแล้ว ถึงแม้ว่าฉากการคุยธรรมดานั้น 3D จะไม่ค่อยมีมิติก็ตามที แต่ถ้าใครอยากได้หนังทะลุจอโหดๆสักเรื่องนั้น เรื่องนี้ก็เป็นตัวเลือกที่คุณไม่น่ามองข้าม รวมไปถึงในด้านของ ฉากการฆ่า แสนพิสดารในภาคนี้ ที่เรียกได้ว่า ทำเอาคนดูนั้น... ดูแล้วลุ้นๆในหลายฉากดีเหมือนกัน และในสิ่งที่โดดเด่นที่สุดในภาคนี้คงหนีไม่พ้นการที่หนังพยายามจะใส่เรื่องราวของประเด็นที่เกี่ยวกับ ชีวิตเป็นสิ่งไม่มั่นคง เข้ามาด้วย ซึ่งในข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ใส่เข้ามาพร้อมกับฉากการตายได้ออกมาแนวที่ไม่ได้ยัดเยียดนัก แต่หนังก็ไม่ได้เน้นน้ำหนักในข้อนี้ซะจนเกินไป จึงทำให้ข้อนี้นั้นถือว่าเป็นข้อคิดเล็กๆน้อยๆหลังดูหนังจบของคนดูก็เป็นได้ แต่น่าเสียดายเมื่อลองมองอีกด้านนอกจากฉากการตายที่เป็นจุดเด่นของซีรี่ย์ชุดนี้อย่างเช่นในด้านของ บท ในหนังเรื่องนี้ที่ถึงแม้จะมีการเพิ่มกฎใหม่ๆเข้ามาในการโกงความตาย แต่หนังก็ดันไม่เน้นที่กฎใหม่จนทำให้ทุกสิ่งในหนังนั้น เหมือนกับ.. เดินตามรอยหนังทั้ง ภาค 1-4 กันหมด (เดาได้ง่ายๆเลยคือประมาณว่า พระเอกเห็นนิมิต มีคนตายไป 2 คนหลังจากหนีลงมา พระเอกไปเตือนคนที่ 3 และคนที่ 3 ก็ไม่เชื่อ บลา บลา) ซึ่งผมคิดว่าถ้าหนังเน้นตรงประเด็นของ กฎใหม่ ที่หนังตั้งขึ้นมานั้น การโกงความตายในภาค 5 อาจจะน่าสนใจ และไม่สามารถคาดเดาได้ก็เป็นได้ แต่หนังดันเลือกที่จะเดินตามอีหรอบเดิมซะงั้น และนอกจากนั้นสิ่งที่เห็นได้ชัดๆในซีรี่ย์โกงความตายทุกภาคคงหนีไม่พ้นด้านของ ตัวละคร ที่ในภาคนี้เล่นใส่ผู้รอดชีวิตมาซะ 8 คนทำให้รู้สึกบทหนังจะเกลี่ยไปไม่ทั่วทุกตัวละคร โดยเฉพาะในด้านของปูมหลังของตัวละครนั้น ที่หนังยังถือว่า.. มีการใส่มิติต่างๆให้กับตัวละครพอสมควร (อย่างน้อยก็มากกว่าภาค 4 ที่ไม่รู้เลยว่าปูมหลังของตัวละครเป็นมาอย่างไร โผ่ลมาก็ตาย ตาย ตาย อย่างเดียว) แต่นั้นก็ยังถือว่าไม่เพียงพอกับการที่จะทำให้คนดูนั้นสามารถเอาใจช่วยตัวละครต่างๆนั้นได้อย่างที่ เพราะส่วนใหญ่ที่คนดูตีตั๋วเข้าไปดูหนังเรื่องนี้นั้นก็คงอยากเห็นแต่ฉากตายๆเท่านั้นแหละมั้ง.. แต่ยังไงก็ตามทีนั้น ก็ถือว่า Final Destination 5 นั้นยังสอบผ่านในด้านของฉากไส้ สมอง ทะลุจอในระบบ 3D ที่มาพร้อมกับฉากการตายอันสยดสยองของหนัง ที่ถือว่ายังอยู่ในขั้นมาตรฐาน และ สามารถทำให้คนดูลุ้นไปกับหนังได้ รวมไปถึงในด้านของประเด็นที่เป็น.. เรื่องราวเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ของหนังนั้น ก็ถือว่าอาจจะเป็นประเด็นสอนใจหลายๆคนได้ทีเดียว แต่น่าเสียดายเมื่อมองในด้านของบทแล้วนั้น หนังยังดันหากินกับบทเดิมๆอยู่ และ ด้านของตัวละครก็ออกมาเยอะซะเกินไป แต่ยังไงซะ ใครอยากได้หนังโหดๆทะลุจอนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณไม่ควรพลาดซะทีเดียว เรื่องนี้ผมให้ B- ครับ   Create Date : 21 สิงหาคม 2554 3 comments Last Update : 21 สิงหาคม 2554 9:24:55 น. Counter : 2954 Pageviews. Share Tweet

ไปดูมาแล้วคับ เสียวท้องน้อยมากมาย   โดย: imagewing_zero 21 สิงหาคม 2554 9:48:31 น.

สวัสดีครับ แวะมาทักทายครับผม   โดย: konseo 21 สิงหาคม 2554 13:21:28 น.

ผมว่าแย่นะเรื่องนี้ ผมให้ D+ หนังเป็นการตายประดิษฐ์มากเกินไป ไม่เหมือนภาคก่อนๆ ภาคก่อนดูีดีกว่านี้เยอะ ต ตัวหนังพยายามจะเน้นฉาก 3D ทะลุจอมากเกินไป เลยไปลดด้านความสมจริง ซึ่งดูแล้วไม่สนุกเลย   โดย: -.- IP: 182.53.43.54 6 ตุลาคม 2554 3:03:20 น.