วัดกล้วย (สันติธรรม) ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 

ทำวัตรเย็น


ทำวัตรเย็น
๑. คำบูชา
โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ,
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นพระองค์ใด, เป็นพระอรหันต์,
ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกสิ้นเชิง,
ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง,
สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม,
พระธรรมเป็นธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด,
ตรัสไว้ดีแล้ว,
สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
พระสงฆ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด,ปฏิบัติดีแล้ว,
ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง, อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ,
ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอบูชาอย่างยิ่ง, ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น, พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์, ด้วยเครื่องสักการะทั้งหลายเหล่านี้, อันยกตามสมควรแล้วอย่างไร,
สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ,
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ, พระผู้มีพระภาคเจ้าแม้ปรินิพพานนานแล้ว, ทรงสร้างคนสำเร็จประโยชน์ไว้แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย,
ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา,
ทรงมีพระหฤทัยอนุเคราะห์แก่พวกข้าพเจ้า,
อันเป็นชนรุ่นหลัง,
อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณา การะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ,
ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงรับเครื่องสักการะ,
อันเป็นบรรณาการของคนยากทั้งหลายเหล่านี้,
อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ,
เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย,
สิ้นกาลนานเทอญ.

คำบูชาพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา,
พระผู้มีพระภาคเจ้า, เป็นพระอรหันต์, ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง, ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง,
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ.
ข้าพเจ้าอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน.
(กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม,
พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ตรัสไว้ดีแล้ว,
ธังมัง นะมัสสามิ.
ข้าพเจ้านมัสการพระธรรม.
(กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ปฏิบัติดีแล้ว,
สังฆัง นะมามิ.
ข้าพเจ้านอบน้อมพระสงฆ์.
(กราบ)

(ปุพพะภาคะนะมะการ)
(หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต
ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เส.)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต,
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น,
อะระหะโต,
ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส,
สัมมาสัมพุทธัสสะ.
ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง.
(ว่า ๓ ครั้ง)
อันเพชรนิล จินดา มีค่ามาก
แม้ว่าหาก ไก่เห็น แล้ววางเฉย
คนใจต่ำ พบธรรมะ ก็ละเลย
ยิ่งทำเฉย ไม่สนใจ เช่นเดียวกัน
เมาตัวลืมตาย เมากายลืมแก่
เมาคู่ครอง ลืมพ่อแม่
เมาสมบัติ เมาอำนาจ ลืมศาสนา
พุทธานุสสติ
(หันทะ มะยัง พุทธานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส.)
ตัง โข ปะนะ ภะคะวันตัง เอวัง กัลยาโณ กิตติสัทโท อัพภุคคะโต
ก็กิตติศัพท์อันงามของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น,
ได้ฟุ้งไปแล้วอย่างนี้ว่า,
อิติปิ โส ภะคะวา,
เพราะเหตุอย่างนี้ๆ, พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น,
อะระหัง,
เป็นผู้ไกลจากกิเลส,
สัมมาสัมพุทโธ,
เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง,
วิชชาจะระณะสัมปันโน,
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชาและจรณะ,
สุคะโต,
เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี,
โลกะวิทู,
เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง,
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ,
เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า,
พุทโธ,
เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม,
ภะคะวาติ,
เป็นผู้มีความจำเริญจำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ ดังนี้,

พุทธาภิคีติ
(หันทะ มะยัง พุทธาภิคีติง กะโรมะ เส.)
พุทธะวาระหันตะวะระตาทิคุณาภิยุตโต,
พระพุทธเจ้าประกอบด้วยคุณ,
มีความประเสริฐแห่งอรหันตคุณเป็นต้น,
สุทธาภิญาณะกะรุณาหิ สะมาคะตัตโต,
มีพระองค์อันประกอบด้วยพระญาณ,
และพระกรุณาอันบริสุทธิ์,
โพเธสิ โย สุชะนะตัง กะมะลังวะ สูโร,
พระองค์ใดทรงกระทำชนที่ดีให้เบิกบาน,
ดุจอาทิตย์ทำบัวให้บาน,
วันทามะหัง ตะมะระณัง สิระสา ชิเนนทัง.
ข้าพเจ้าไหว้พระชินสีห์, ผู้ไม่มีกิเลสพระองค์นั้น,
ด้วยเศียรเกล้า.
พุทโธ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง,
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด,
เป็นสรณะอันเกษมสูงสุด ของสัตว์ทั้งหลาย,

ปะฐะมานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง,
ข้าพเจ้าไหว้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น,
อันเป็นที่ตั้งแห่งความระลึกองค์ที่หนึ่ง ด้วยเศียรเกล้า,
พุทธัสสาหัสมิ ทาโส (ทาสี) วะ พุทโธ เม สามิกิสสะโร,
ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระพุทธเจ้า,
พระพุทธเจ้าเป็นนายมีอิสระเหนือข้าพเจ้า,
พุทโธ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม,
พระพุทธเจ้าเป็นเครื่องกำจัดทุกข์,
และทรงไว้ซึ่งประโยชน์แก่ข้าพเจ้า,
พุทธัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญ ชีวิตัญจิทัง,
ข้าพเจ้ามอบกายถวายชีวิตนี้, แด่พระพุทธเจ้า,
วันทันโตหัง (ตีหัง) จะริสสามิ พุทธัสเสวะ สุโพธิตัง,
ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่จักประพฤติตาม,
ซึ่งความตรัสรู้ดีของพระพุทธเจ้า,
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง,
สรณะอื่นของข้าพเจ้าไม่มี,
พระพุทธเจ้าเป็นสรณะอันประเสริฐสูงสุดของข้าพเจ้า,
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน,
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้,
ข้าพเจ้าพึงเจริญในพระศาสนาของพระศาสดา,

พุทธัง เม วันทะมาเนนะ (มาเนยะ) ยัง ปัญญัง ปะสุตัง อิธะ,
ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่ซึ่งพระพุทธเจ้า, ได้ขวนขวายบุญใดในบัดนี้,
สัพเพปิ อันตะรายา เม มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา,
อันตรายทั้งปวง, อย่างได้มีแก่ข้าพเจ้าด้วยเดชแห่งบุญนั้น,

(กราบหมอบว่า)
กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,
ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี,
พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,
กรรมน่าติเตียนอันใด, ที่ข้าพเจ้ากระทำแล้วในพระพุทธเจ้า,
พุทโธ ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,
ขอพระพุทธเจ้าจงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น,
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ,
เพื่อการสำรวมระวัง, ในพระพุทธเจ้าในกาลต่อไป,

ธัมมานุสสติ
(หันทะ มะยัง ธัมมานัสสะตินะยัง กะโรมะ เส.)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม,
พระธรรมเป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว,
สันทิฏฐิโก,
เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง,
อะกาลิโก,
เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล,
เอหิปัสสิโก,
เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด,
โอปะนะยิโก,
เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว,
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ,
เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ดังนี้,

ธัมมาภิคีติ
(หันทะ มะยัง ธัมมาภิคีติง กะโรมะ เส.)
สวากขาตะตาทิคุณะโยคะวะเสนะ เสยโย,
พระธรรมเป็นสิ่งที่ประเสริฐ, เพราะประกอบด้วยคุณ,
คือความที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ดีแล้วเป็นต้น,
โย มัคคะปากะปะริยัตติวิโมกขะเภโท,
เป็นธรรมอันจำแนกเป็นมรรค ผล ปริยัติ และนิพพาน,
ธัมโม กุโลกะปะตะนา ตะทะธาริธารี,
เป็นธรรมทรงไว้ซึ่งผู้ทรงธรรม, จากการตกไปสู่โลกที่ชั่ว,
วันทามะหัง ตะมะหะรัง วะระธัมมะเมตัง,
ข้าพเจ้าไหว้พระธรรมอันประเสริฐนั้น,
อันเป็นเครื่องขจัดเสียซึ่งความมืด,
ธัมโม โย สัพพะปาณีณัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง,
พระธรรมใด, เป็นสรณะอันเกษมสูงสุดของสัตว์ทั้งหลาย,
ทุติยานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง,
ข้าพเจ้าไหว้พระธรรมนั้น,
อันเป็นที่ตั้งแห่งความระลึกองค์ที่สอง ด้วยเศียรเกล้า,
ธัมมัสสาหัสมิ ทาโส (ทาสี) วะ ธัมโม เม สามิกิสสะโร,
ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระธรรม,
พระธรรมเป็นนายมีอิสระเหนือข้าพเจ้า,
ธัมโม ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม,
พระธรรมเป็นเครื่องกำจัดทุกข์,
และทรงไว้ซึ่งประโยชน์แก่ข้าพเจ้า,
ธัมมัสสาหัง นิยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง,
ข้าพเจ้ามอบกายถวายชีวิตนี้, แด่พระธรรม,
วันทันโตหัง (ตีหัง) จะริสสามิ ธัมมัสเสวะ สุธัมมะตัง,
ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่จักประพฤติตาม,
ซึ่งความเป็นธรรมดีของพระธรรม,
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง,
สรณะอื่นของข้าพเจ้าไม่มี,
พระธรรมเป็นสรณะอันประเสริฐของข้าพเจ้า,


เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน,
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้,
ข้าพเจ้าพึงเจริญในพระศาสนาของพระศาสดา,
ธัมมัง เม วันทะมาเนนะ (มานายะ) ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ,
ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่ซึ่งพระธรรม, ได้ขวนขวายบุญใดในบัดนี้,
สัพเพปิ อันตะรายา เม มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา,
อันตรายทั้งปวง, อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งบุญนั้น,

(กราบหมอบว่า)
กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,
ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี,
ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,
กรรมน่าติเตียนอันใด, ที่ข้าพเจ้ากระทำแล้วในพระธรรม,
ธัมโม ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,
ขอพระธรรม, จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น,
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม.
เพื่อการสำรวมระวัง, ในพระธรรมในกาลต่อไป.

เจ้าเกิดมา มีอะไร มากับเจ้า
จะมัวเมา โลภมาก ไปถึงไหน
เวลาตาย ไม่เห็นหอบ สิ่งใดไป
ติดตามได้ แต่บาปบุญ ของตัวเอง
สังฆานุสสติ
(หันทะ มะยัง สังฆานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส.)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นหมู่ใด, ปฏิบัติดีแล้ว,
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด, ปฏิบัติตรงแล้ว,
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด,
ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว,
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด, ปฏิบัติสมควรแล้ว,
ยะทิทัง,
ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ,
จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา,
คู่แห่งบุรุษ ๔ คู่, นับเรียงตัวบุรุษได้ ๘ บุรุษ,
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
นั่นแหละสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า,
อาหุเนยโย,
เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เข้านำมาบูชา,
ปาหุเนยโย,
เป็นสงฆ์ควรรับทักษิณาทานที่เขาจัดไว้ต้อนรับ,
อัญชะลีกะระณีโย,
เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี,
อะนุตตะรัง ปัญญักเขตตัง โลกัสสาติ.
เป็นเนื้อนาบุญของโลก, ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้.

สังฆาภิคีติ
(หันทะ มะยัง สังฆาภิคีติง กะโรมะ เส)
สัทธัมมะโช สุปะฏิปัตติคุณาทิยุตโต,
พระสงฆ์ที่เกิดโดยพระสัทธรรม,
ประกอบด้วยคุณมีความปฏิบัติดีเป็นต้น,
โยฏฐัพพิโธ อะริยะปุคคะละสังฆะเสฏโฐ,
เป็นหมู่แห่งอริยบุคคลอันประเสริฐแปดจำพวก,
สีลาทิธัมมะปะวะราสะยะกายะจิตโต,
มีกายและจิต, อันอาศัยธรรมมีศีลเป็นต้นอันบวร,
วันทามะหัง ตะมะริยานะ คะณัง สุสุทธัง,
ข้าพเจ้าไหว้หมู่แห่งพระอริยเจ้าเหล่านั้น, อันบริสุทธิ์ด้วยดี,
สังโฆ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง,
พระสงฆ์หมู่ใด, เป็นสรณะอันเกษมสูงสุดของสัตว์ทั้งหลาย,
ตะติยานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง,
ข้าพเจ้าไหว้พระสงฆ์หมู่นั้น, อันเป็นที่ตั้งแห่งความระลึกองค์ที่สาม ด้วยเศียรเกล้า,
สังฆัสสาหัสมิ ทาโส (ทาสี) วะ ธัมโม เม สามิกิสสะโร,
ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระสงฆ์,
พระสงฆ์เป็นนายมีอิสระเหนือข้าพเจ้า,
สังโฆ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม,
พระสงฆ์เป็นเครื่องกำจัดทุกข์,
และทรงไว้ซึ่งประโยชน์แก่ข้าพเจ้า,
สังฆัสสาหัง นิยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง,
ข้าพเจ้ามอบกายถวายชีวิตนี้, แด่พระสงฆ์,
วันทันโตหัง (ตีหัง) จะริสสามิ สังฆัสโสปะฏิปันนะตัง,
ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่จักประพฤติตาม,
ซึ่งความปฏิบัติดีของพระสงฆ์,
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง,
สรณะอื่นของข้าพเจ้าไม่มี,
พระสงฆ์เป็นสรณะอันประเสริฐของข้าพเจ้า,
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน,
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้,
ข้าพเจ้าพึงเจริญในพระศาสนาของพระศาสดา,
สังฆัง เม วันทะมาเนนะ (มานายะ) ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ,
ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่ซึ่งพระสงฆ์, ได้ขวนขวายบุญใดในบัดนี้,
สัพเพปิ อันตะรายา เม มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา.
อันตรายทั้งปวง, อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าด้วยเดชแห่งบุญนั้น.
(กราบหมอบว่า)
กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,
ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี,
สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,
กรรมน่าติเตียนอันใด, ที่ข้าพเจ้ากระทำแล้วในพระสงฆ์,
สังโฆ ปฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,
ขอพระสงฆ์, จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น,
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ.
เพื่อการสำรวมระวัง, ในพระสงฆ์ในกาลต่อไป.

กรวดน้ำตอนเย็น
(อุททิสสนาธิฏฐานคาถา)
(หันทะ มะยัง อุททิสสะนาธิฏฐานะคาถาโย ภะณามะ เส.)
อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยบุญนี้อุทิศให้
อุปัชฌายา คุณุตตะรา อุปัชฌาย์ผู้เลิศคุณ
อาจะริยูปะการา จะ แลอาจารย์ผู้เกื้อหนุน
มาตาปิตา จะ ญาตะกา ทั้งพ่อแม่แลปวงญาติ
สุริโย จันทิมา ราชา สูรย์จันทร์และราชา
คุณะวันตา นะราปิ จะ ผู้ทรงคุณหรือสูงชาติ
พรัหมะมารา จะ อินทา จะ พรหมมารและอินทราช
โลกะปาลา จะ เทวะตา ทั้งทวยเทพและโลกบาล
ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ ยมราชมนุษย์มิตร
มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ ผู้เป็นกลางผู้จ้องผลาญ
สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ขอให้เป็นสุขศานต์ทุกทั่วหน้า
อย่าทุกข์ทน
ปุญญานิ ปะกะตานิ เม บุญผองที่ข้าทำ
จงช่วยอำนวยผล
สุขัง จะ ติวิธัง เทนตุ ให้สุขสามอย่างล้น
ขิปปัง ปาเปถะ โว มะตัง ให้ลุถึงนิพพานพลัน
อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยบุญนี้ที่เราทำ
อิมินา อุททิเสนะ จะ แลอุทิศให้ปวงสัตว์
ขัปปาหัง สุละเภ เจวะ เราพลันได้ซึ่งการตัด
ตัณหุปาทานะเฉทะนัง ตัวตัณหาอุปาทาน
เย สันตาเน หินา ธัมมา สิ่งชั่วในดวงใจ
ยาวะ นิพพานะโต มะมัง กว่าเราจะถึงนิพพาน
นัสสันตุ สัพพะทา เยวะ มลายสิ้นจากสันดาน
ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว ทุกๆ ภพที่เราเกิด
อุชุจิตตัง สะติปัญญา มีจิตตรงและสติ
ทั้งปัญญาอันประเสริฐ
สัลเลโข วิริยัมหินา พร้อมทั้งความเพียรเลิศ
เป็นเครื่องขูดกิเลสหาย

มารา ละภันตุ โนกาสัง โอกาสอย่าได้พึงมีแก่หมู่มาร
สิ้นทั้งหลาย
กาตุญจะ วิริเยสุ เม เป็นช่องประทุษร้าย
ทำลายล้างความเพียรจม
พุทธาทิปะวะโร นาโถ พระพุทธผู้บวรนาถ
ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม พระธรรมที่พึ่งอุดม
นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ พระปัจเจกะพุทธสม-
สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง ทบพระสงฆ์ที่พึ่งผยอง
เตโสตตะมานุภาเวนะ ด้วยอานุภาพนั้น
มาโรกาสัง ละภันตุ มา ขอหมู่มารอย่าได้ช่อง
ทะสะปุญญานุภาเวนะ ด้วยเดชบุญทั้งสิบป้อง
มาโรกาสัง ละภันตุ มา อย่าเปิดโอกาสแก่มาร เทอญ ฯ

คาถารวมจิต
อิติสัมมา สัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง

(จบทำวัตรเย็น)









 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2550
1 comments
Last Update : 5 กรกฎาคม 2550 19:57:35 น.
Counter : 1046 Pageviews.

 

 

โดย: โสมรัศมี 5 กรกฎาคม 2550 20:56:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ส.วิชายงค์
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คิดดี พูดดี ทำดี ได้ดี
ธรรมติดใจ ธรรมะดิลิเวอรี่ ศูนย์รวมข้อมูลสำหรับพระวิทยากร ฐานข้อมูลพระพุทธศาสนา อาหารจานน้อยของจิตใจ ITzaa รวมคลิป เกมส์ หา เพื่อน ข่าวเด็ด ที่วัยรุ่นต้องการ tidtak.com

[Add ส.วิชายงค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.