Group Blog
 
 
มิถุนายน 2549
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
6 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 
อันเนื่องมาจากจม. ฉบับวันอาทิตย์




ฉันได้ลงจม. ฉบับหนึ่งซึ่งเขียนขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ดูเหมือนว่า การโพสข้อความทั้งหมดลงไป ทำให้อรรถรสในการอ่านลดลงไป ฉันจึงขออนุญาติหยิงจม. ฉบับเดิม มาตกแต่งและโพสใหม่ให้ไฉไลขึ้น หวังว่าคนอ่านคงได้รับความรู้สึกในใจของผู้เขียนนี้มากขึ้นกว่าการโพสครั้งก่อนนะคะ เริ่มเลยแล้วกัน....
ในวันอาทิตย์
ใครสักหลาย ๆ คนบอกว่าเคล็ดลับในการเป็นนักเขียนไม่มีอะไรมาก ในการเริ่มต้นมีกฎอยู่สามข้อ
ข้อที่หนึ่ง คือลงมือเขียน ,
ข้อที่สอง คือลงมือเขียน
และข้อที่สาม คือลงมือเขียน
ได้อ่านแล้วฟังง่ายดี แต่ทำ(โคตร)ยาก

ผมว่ามันก็คงเหมือน ๆ กับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ทุกอย่างในชีวิตคนคือ...ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร
แต่จะเพียรหาคำตอบในเรื่องการเขียนจากระดับเกจิท่านใด มันก็จะได้คำตอบในแบบเดียวกัน
“ หากคุณอยากเขียนคุณก็ลงมือเขียน “ อันนี้คงจะเป็นสำเนียงคำตอบของนักเขียนแนวท่านทูตอย่างท่าน....ประภัสสร เสวิกุล
หรือ“อยากเขียน แล้วเป็นห่.อะไรไม่เขียน “
อันนี้ผมเดาเอาว่าคงเป็นทางของท่านปู่รงค์ วงศ์สวรรค์
ไม่รู้จะเหมือนกันไหมหนอ ? กับการที่นักแสดงผู้มากฝีมือ ฝันและใฝ่ที่วันหนึ่งจะเป็นผู้กำกับหนัง
หรือ...ผู้ชื่นชมในรสสุรา และมากมายด้วยไอเดียโดยเฉพาะเวลาตึง ๆ จะฟุ้งความคิดที่จะมีร้านเหล้า เพื่อจะตอบสนองให้ตรงใจของคอเดียวกัน
คนที่อ่านหนังสือ และโลดแล่นตามจินตนาการของตัวอักษร ก็จะคันมือที่จะเขียนหนังสือให้คนอื่นได้อ่านบ้าง
วันนี้เริ่มมาจากการที่ไม่มีอะไรจะทำเพราะเป็นวันหยุด(อันน้อยนิดของชีวิตลูกจ้าง) นั่งคิดถึงชีวิตที่ผ่านมาสามสิบห้าปี สามเดือนกับอีกยี่สิบกว่าวันของตัวเอง
มีกี่ฝันแล้วหนอ คำตอบคือเยอะมาก หลายฝันผุพังไปแล้ว จนมิอาจซ่อมแซมได้อีก หลายฝันยังอยู่ระหว่างใฝ่แบบยังไม่กล้าหวังผล และบางฝันยังคงอยู่ในตู้เก็บฝันใบใหญ่ของตัวเอง
เขียนหนังสือ คือฝันที่ยังไม่ผุพัง แต่ก็ยังไม่เคยลงมือก่อร่างสร้างให้เห็น ยกมือพนมท่วมหัวนึกถึงคำครูบาอาจารย์ที่ว่าต้องลงมือเขียน เดินอ้อยอิ่งไปหยิบกระดาษปากกา(ทำเป็นเรียกกระดาษกับปากกา เพื่อสร้างจินตนาการ จริง ๆ ผมใช้ปากกา กับกระดาษยี่ห้อ acer ) จ่อมก้นลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะเขียนหนังสือ แล้วก็ลงมือ....แล้วจะเขียนอะไรล่ะ ? ยังไม่รู้เลย แต่ก็ตั้งเป้าว่าต้องเขียนให้ได้สักหนึ่งหน้ากระดาษพิมพ์มาตรฐาน
นึกถึงก้าวแรกที่เข้าวงการนักพูด(โนแนม) เรียนรู้มาว่าองค์ประกอบเบื้องต้นของการพูดก็คือการกำหนดเนื้อหาเรื่องที่จะพูด แบ่งมันออกเป็นสามส่วนใหญ่ ๆ คือ...การเกริ่นนำ หรือการเปิดหัวเรื่องที่จะพูดเป็นส่วนที่หนึ่ง ตรงนี้จะต้องทำให้ผู้ฟังเห็นภาพคร่าวของเรื่องที่เราจะพูด และสำคัญที่จะต้องทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าเรื่องรวมทั้งผู้พูดมีอะไรที่น่าสนใจน่าติดตาม
ส่วนที่สอง คือเนื้อหาของเรื่องที่พูด อันนี้ก็ว่ากันในรายละเอียดเนื้อหาสาระวิชาการ กลเม็ดเด็ดพรายลีลามุขตลกขำกลิ้ง โศรกกระชากอารมย์ ก็ว่ากันไปในส่วนนี้
ส่วนสุดท้าย คือการสรุปปิดท้าย ตรงนี้ก็สำคัญไม่น้อยกว่าส่วนอื่น ๆ บางคนดีมาตั้งแต่ต้น ดำเนินเรื่องเนียนตลอด แต่มาจบแบบผู้ฟังเหว๋อ อ้าว! จบแล้วเหรอ อย่างนี้ก็ถือว่าเป็นการพูดที่ไม่ประสบความสำเร็จ
การพูดก็คงคล้าย ๆ กับการเขียนหนังสือตรงที่มีองค์ประกอบเหมือนกัน คือเป็นการสื่อสารเหมือนกัน
ในเมื่อผมทำพอใช้ได้ในการพูด ก็น่าจะทำได้ไม่ยากนักในการเขียน แต่ไหนทำไม่ได้ล่ะ เหมือนจะหาทางออกเจอแล้ว แต่ก็กลับมางง งง เหมือนเดินกลับมาที่จุดเริ่มต้นอีกคราว
ผมเอาฝันนี้ออกมาปัดฝุ่น ลังเลนิดหน่อยที่หน้าตู้เก็บความฝันใบโต ก่อนที่จะเปิดประตูตู้อันหนักอึ้งสมขนาดของมัน เอาฝันนี้ที่ปัดฝุ่นแล้วเก็บกลับเข้าไปยังที่เดิม ปิดล๊อคแน่นหนาอย่างหวงแหน ก่อนจะหันหลังให้ตู้เก็บฝัน มายืนที่หน้าซิงค์ล้างจาน โลกความจริง ยังมีจานใช้แล้วที่ต้องล้าง ยังมีรถคู่ชีพที่ต้องล้าง ยังมีงานบ้านที่ต้องทำอีกมากมายในวันหยุด มีงานอันเหนื่อยหน่ายรออยู่ในวันพรุ่ง และยังมีชีวิต มีลมหายใจที่ต้องแอบทอดถอนบ่อย ๆ และแน่นอนมันไม่เหมือนความฝัน...สักนิด

ส.ทรัพย์สกุล
อาทิตย์ ๒๕ พ.ค.๔๙

อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร ก็เขียนมาบอกกล่าวกันได้นะคะ สำหรับตัวนักเขียนเอง เอ้ย ตัวคนเขียนเอง บอกเล่ามาว่า ตอนนี้กำลังลงทะเบียนขอเป็นสมาชิกบล็อคแก็งค์ อยู่ ต่อไปเค้าคงได้วาดลวดลายให้ชม และเป็นนักเขียนสมความตั้งในนะคะ


โอม.... เพี่ยง จงเป็นๆๆๆๆ






Create Date : 06 มิถุนายน 2549
Last Update : 25 สิงหาคม 2550 11:35:08 น. 5 comments
Counter : 465 Pageviews.

 
พูดเหมือนง่ายแต่ทำยาก
ลงมือเขียน
ลงมือเขียน
ลงมือเขียน
Ha


โดย: สายลมอิสระ IP: 58.147.69.252 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:16:16:45 น.  

 
ขอบคุณมาก ๆ พี่เปิ้ล ที่อุตสาห์เข้ามาจัดหน้าใหม่
ให้สื่อได้อย่างที่ตั้งใจ
ได้เสื้อเหลืองมาแล้วนะ....


แพงจัง....


โดย: ป๊อก...เอง IP: 58.136.208.52 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:16:58:48 น.  

 
ครับผม ดีใจด้วยเห็นว่าเสื้อสีเหลือง แพงมากเลย อย่างไรแล้ว เวลาใส่ก็ซีกบ้างนะ เดี๋ยวกลิ่นออกนะจะบอกให้ แล้วสมัครสมาชิกได้ยังล่ะ


โดย: นักเดินทางพเนจร (นักเดินทางพเนจร ) วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:11:32:39 น.  

 
เข้ามาแอบฟัง..บทความสสอนนักเขียนรุ่นใหม่ค่ะ อือิ

แซนดี้ จะจำเอาไปใช้บ้าง ยังงัยก็ลองแวะเข้าไปอ่านเรื่องราว

นักเขียนน้องใหม่รุ่น...ดึก นามว่าแซนดี้มั่งนะคะ แล้วช่วยติชมด้วยค่ะ

เพราะก็เขียนต่อจากพล๊อตเรื่องที่รุ่นพี่คนนึงทำทิ้งไว้เอามาสานต่อเอง

คิดจาก จินตนการบวกกับความน่าจะเป็นของเรื่องราว แล้วก็บวกกับ

ชีวิตความเป็นของตัวเอง และคนรอบข้าง เอามาผสมผสานกันจนได้เรื่องราว

รักกุ๊กกิ๊กของผู้หญิง ติงต๊อง คนนึง..ยังงี้อ่ะค่ะ ช่วยชมและแร๊คเชอร์ให้ด้วยนะคะ อิอิ


โดย: copbureau วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:4:44:41 น.  

 
แวะมาเยี่ยมชมคร่า แบล็คกราวด์ดูแล้วสบายตาดีจังเนอะ


โดย: กุ๊กกิ วันที่: 26 มิถุนายน 2550 เวลา:10:19:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นักเดินทางพเนจร
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]





New Comments
Friends' blogs
[Add นักเดินทางพเนจร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.