|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ฮวงจุ้ย มั่วหรือเปล่า????
ฮวงจุ้ยกรุงเทพฯ เมื่อเจ้าพระยา กลายเป็น ′ท้องมังกร′ แต่ ′ถุงรั่ว ?′ ที่มา //www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1286944883&grpid=&catid=02
ยังอยู่ในภาวะอารมณ์ร่วมจากปฏิบัติการปรับฮวงจุ้ยทำเนียบรัฐบาล ซึ่งทางสถาบันค้นคว้า วิชการฮวงจุ้ยแห่งประเทศไทยโดย ′อ.มาศ เคหาสน์ธรรม′ มีข้อคิดเห็นเกี่ยวกับ ′ฮวงจุ้ยทำเนียบรัฐบาล′ มาแล้ว ในโอกาสเดียวกัน ′อาจารย์มาศ′ ได้ให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับหลักวิชาการ ฮวงจุ้ย โดยย้ำว่า ′วิทยาศาสตร์ฮวงจุ้ย′ เป็นศาสตร์แห่งวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ศาสตร์แห่ง ′ไสยศาสตร์′ หลักวิชาการตั้งต้น ′ฮวง′ คือลม ′จุ้ย′ คือน้ำ ฮวงจุ้ยที่ดีจึงเป็นฮวงจุ้ยที่ตั้งอยู่ในทิศทางรับพลังงานจักรวาลได้ดี ′อาจารย์มาศ′ ได้หยิบยกกรณีศึกษาพื้นที่เขตมหานครกรุงเทพ โค้งน้ำเจ้าพระยาเป็นรูป ′ท้องมังกร′ คือสะสมความมั่งคั่ง การทำมาค้าขายในเมืองหลวงจึงเจริญรุ่งเรืองเป็นลำดับ "ชัยภูมิกรุงเทพฯ คือแม่น้ำเจ้าพระยาตวัดลงเป็นท้อง (มังกร) ตั้งแต่วัดพระแก้ว ตั้งแต่สีลมจนถึงพระรามที่ 3 มาตวัดกลับอีกทีที่บางกระเจ้า ทำให้พลัง (ความมั่งคั่ง) สะสมตัวไม่ไปไหน" น่าเสียดายที่ชัยภูมิกรุงเทพฯมีจุดอ่อนที่เรียกว่า บางลงล่าง ปากน้ำเปิดมากเกินไป แผ่นดินถูกฉีกเป็นสองฝั่ง คนจะมีสองความคิดตลอดเวลา สังเกตผู้นำฝ่ายค้าน ผู้นำฝ่ายรัฐบาล จะมาจากสองฝั่งเสมอ (ฝั่งธนฯ-ฝั่งมหานคร)
เวลานี้ชัยภูมิ ′ท้องมังกร′ กำลังมาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อมีโปรเจ็กต์ ′คลองลัดน้ำ′ ใต้สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นสะพานข้ามเจ้าพระยาที่มี 3 แยกลอยฟ้าเชื่อมไปยัง 3 ถนนสายหลัก คือ พระราม ที่ 3-ปู่เจ้าสมิงพราย-พระประแดง
′คลองลัดน้ำ′ ดังกล่าวเป็นการขุดคลองลัดน้ำบริเวณคลองโพธิ์ เป็นทางลัดไม่ให้น้ำท่วม เมื่อใดก็ตามที่เกิดฝนตกหนักก็สามารถเปิดคลองลัดน้ำแห่งนี้ระบายน้ำได้ทันที ปัญหาอยู่ที่ ′ระบบราชการไทย′ บริหารจัดการแบบที่เปิดประตูระบายน้ำ ′ตลอดเวลา′ ทำให้ฮวงจุ้ยที่ท้องมังกรเคยเป็นชัยภูมิสะสมความมั่งคั่งเกิดสภาพ′ถุงรั่ว′ โดยไม่รู้ตัว แถมเจอเรื่องการ เปิดประตูระบายน้ำตลอดเวลาซ้ำเติม ยิ่งทำให้กลายสภาพจาก ′ถุงรั่ว′กลายเป็น ′ถุงรั่วหนัก′
ข้อแนะนำคือ ควรมีการบริหารจัดการ′เปิด-ปิดเป็นเวลา′ ตามความจำเป็น เพื่อให้ชัยภูมิท้องมังกรของเจ้าพระยาสะสมความมั่งคั่งให้กรุงเทพฯ ตามเดิม
จากข่าวนี้ ผมว่าหนังสือพิมพ์เอาแต่ได้ ในฐานะข้าราชการสังกัดกรมชลประทาน ถามว่าถ้าไม่มีประตูนี้ ๑. น้ำจะระบายทันหรือไม่ในกรณีน้ำเหนือมาก ๆ และถ้าช่วยบรรเทาผลกระทบจากน้ำท่วม กทม. ได้ คุ้มหรือเปล่า
๒. โครงการนี้เป็นโครงการพระราชดำริ หนังสือพิมพ์นี้มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า
ต้องอย่างนี้ซี กรมชลประทาน
โครงการคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ คุณประโยชน์ในฤดูน้ำหลากและการผลิตกระแสไฟฟ้า
โครงการปรับปรุงคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่กรมชลประทาน ได้สนองพระราชดำริ ในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานพระราชดำริ ให้ปรับปรุงคลองลัดโพธิ์ บริเวณคุ้งน้ำช่วงที่ไหลผ่านเขตพื้นที่บางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ จากเดิมที่มีสภาพตื้นเขินมีความกว้างเพียง 12 เมตร ให้สามารถรับปริมาณน้ำได้เพิ่มขึ้น อีกทั้ง ยังเป็นทางลัดของน้ำลงสู่ทะเลได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นด้วย ช่วยร่นระยะทางการไหลของแม่น้ำเจ้าพระยาจาก 18 กิโลเมตร ให้เหลือเพียง 600 เมตร จึงสามารถบรรเทาปัญหาน้ำท่วมบริเวณกรุงเทพฯและปริมณฑลได้อย่างดี โดยสามารถลดระดับน้ำท่วมสูงสุดได้ 5 6 เซนติเมตร รวมทั้ง ลดระยะเวลาน้ำท่วมลงเหลือ 1 2 วัน โดยจะอาศัยจังหวะในช่วงที่น้ำทะเลลงทำการระบายน้ำและจะปิดการระบายในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งในช่วงที่เกิดน้ำเหนือไหลหลากและน้ำทะเลหนุนสูงของทุกปี กรมชลประทาน ได้ใช้ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ช่วยลดผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนในช่วงฤดูแล้ง จะลดบานประตูลง เพื่อป้องกันน้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
สำหรับโครงการคลองลัดโพธิ์นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับพลังงานน้ำ เพื่อให้โครงการคลองลัดโพธิ์ฯ สามารถทำประโยชน์ได้สูงสุด กรมชลประทาน จึงร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนองพระราชดำริ โดยการดำเนินโครงการศึกษาวิเคราะห์ศักยภาพของคลองลัดโพธิ์ ด้านไฟฟ้าพลังน้ำและการปรับปรุงคุณภาพน้ำ ซึ่งผลการศึกษาวิจัยนี้ ได้มีการประดิษฐ์กังหันไฟฟ้าพลังน้ำไหลต้นแบบขึ้นมา 2 แบบ คือ แบบหมุนตามแนวแกน (Axial Flow) และแบบหมุนขวางการไหล (Cross Flow) โดยใช้ใบพัดต้นแบบที่วิเคราะห์และผลิตขึ้นแบบหมุนตามแนวแกนมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เมตร และใบพัดแบบหมุนขวางการไหลมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร ยาว 2.50 เมตร ที่ความเร็วน้ำออกแบบ 2 เมตรต่อวินาที จะทำให้ได้กำลังไฟฟ้าสูงสุด 5 กิโลวัตต์ โดยได้ดำเนินการประกอบและติดตั้งกังหันทั้ง 2 แบบกับโครงเหล็กที่ปรับขึ้นลงได้บริเวณท้ายประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ เพื่อทำการทดลองผลิตกระแสไฟฟ้าผลปรากฏว่า ได้กำลังไฟฟ้าสูงสุดถึง 5.74 กิโลวัตต์ สูงกว่าที่ได้วิเคราะห์และคำนวณออกแบบไว้
อนึ่ง ความรู้ที่ได้จากการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ กรมชลประทาน ได้นำไปขยายผลเพื่อพัฒนาและผลิตกังหันพลังน้ำติดตั้งในประตูระบายน้ำต่างๆทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานน้ำให้แก่คนไทย อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนและประหยัดพลังงานอื่นๆให้แก่ประเทศชาติได้อย่างมหาศาลด้วย
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อยู่ในระหว่างดำเนินการขอจดสิทธิบัตรเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานจลน์และชุดสำเร็จเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานจลน์ในพระปรมาภิไธย คาดว่าจะสามารถประกาศได้ในเร็ววันนี้ และจะได้นำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อไป *************************** 14 ตุลาคม 2553 ที่มา //irrigation.rid.go.th/news/news_53_482.htm
Create Date : 14 ตุลาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 14 ตุลาคม 2553 15:45:44 น. |
Counter : 724 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|