Writer ฉบับ '80 กะรัตพนมเทียน' ว้าว!
ปกตินักล่าฯไม่ค่อยได้เขียนถึงนิตยสารสักเท่าไรนะคะ แต่ไรเตอร์เล่มที่ 3 นี้ ไม่พูดถึงไม่ได้เลยค่ะ
เพราะเป็นไรเตอร์ฉบับยอยศ'พนมเทียน'
นักเขียนที่นักล่าฯไม่รู้จะคารวะท่านยังไงดีให้สาสมกับที่ท่านได้สร้างความสุขให้กับคนไทยมานาน
ก็อย่างที่คุณวรพจน์ พันธุ์พงศ์ ผู้สัมภาษณ์บอกไว้ตอนเกริ่นนั่นแหละค่ะว่า
“ร้อยปีเราถึงจะมีทรัพยากรเช่นนี้สักคน”
นักล่าฯอ่านบทสัมภาษณ์พนมเทียนมาหลายครั้ง แต่คราวนี้ผู้สัมภาษณ์ได้เผยตัวตนของท่านชัดขึ้นอีกนิดนะคะ
อ่านแล้วได้เห็นอีกคาแรกเตอร์ที่ดูห้าวๆห่ามๆกว่าที่เคย ตรงนี้ต้องขอชมคนสัมภาษณ์ที่แงะออกมาได้
และการนำเสนอครั้งนี้ ก็เหมือนกับให้ท่านได้ออกมาพูดคนเดียว เป็นเดี่ยวไมโครโฟนจริงๆ
เพราะคนสัมภาษณ์ แค่ขึ้นหัวข้อ แล้วจากนั้นก็ปล่อยให้แขกบรรเลง'ปล่อยของ'ของท่านไป
ปกติด้วยด้วยความเด่นของผู้สัมภาษณ์มือหนึ่งของแผ่นดินคนนี้ หลายคำถามมันแย่งซีนแขกไปได้หลายหน
แต่คราวนี้คิดว่าคุณวรพจน์ มิบังอาจค่ะ ให้เกียรติท่านผู้อาวุโสโดยเฟดตัวเองออกไปแบบเจียมตัว
เอ๊ะ! หรือความยิ่งใหญ่ของพนมเทียน ข่มให้คนสัมภาษณ์ตัวลีบเล็กลงเองก็ไม่ทราบ 555
“ ไกปืนมันยวนใจจริงๆ ยิ่งกว่าเห็นนมผู้หญิง เห็นแล้วอยากจับ”
ไงล่ะ บุคลิกของพนมเทียนในไรท์เตอร์เล่มนี้ แตกต่างไปจากสุภาพบุรุษจอมไพรอย่างรพินทร์ พอควร
แต่ไปละม้ายกับบรรดาพระเอกนิยายบู๊ๆของท่าน ประมาณ ชีพ ชูชัย อะไรนั่นก็คงจะได้
สมัยก่อนท่านก็มีกิ๊กมากไม่ต่างกัน แล้วก็ใช้ชีวิตผู้ชายซะคุ้ม ไปเที่ยวตามซ่อง กัญชา ฝิ่นเอาหมด
ก็ไม่น่าเชื่อว่า หัวราน้ำขนาดนั้น ยังมีเวลานั่งนิ่งๆเขียนงานออกมาได้ถึงขนาดนี้
ไม่เรียกว่าพรสวรรค์ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร
ยิ่งอ่านแล้วยิ่งทึ่งจริงๆค่ะ คนอายุจะครบ 80 ในพฤศจิกายนนี้ ยังมีความจำใสแจ๋ว สมองยังไม่พร่องแม้แต่นิด
ยังทันสมัยใหม่เสมอ มีเสน่ห์ มีอารมณ์ขัน มีความรู้ล้นหลามเหมือนงานหลากหลายที่ท่านบรรจงสร้างขึ้นมา
คนคนนี้มีทุกอย่างเฉกเช่นอัจฉริยะระดับโลกเขามีกัน
ภูมิใจแทนคุณผาด พาสิกรณ์จริงๆที่ได้เกิดมาเป็นลูกชายของท่าน (แถมเก่งไม่แพ้กันอีกต่างหาก)
เอาเป็นว่านะคะ แฟนเพชรพระอุมาและพนมเทียนต้องเก็บไรท์เตอร์เล่มนี้ไว้ในคอลเลคชั่นอีกเล่ม
เชื่อว่าเล่มนี้ต้องขายดี
เพราะในเมืองไทย นักล่าฯว่าแฟนคลับพนมเทียนที่ส่งต่อกันรุ่นต่อรุ่นนั้นมากมายมหาศาลจริงๆค่ะ
อ้า...
มาพูดเรื่องไรท์เตอร์กันหน่อย นิตยสารสำหรับคนรักวรรณกรรมเล่มนี้ผ่านมือบก.มาหลายคน
ติดๆดับๆมาสองยุคและมาสว่างโพลนเป็นหลอดไฟเรืองแสงในยุคนี้
ซึ่งถือเป็นยุคที่สามที่ได้ทีมงานคนหนุ่มรุ่นใหม่ถึงสามคนมาเรียงคิวลงแขกกันเป็นบก.
ก็มีบินหลา สันกาลาคีรี นักเขียนขวัญใจคนสายพันธุ์สายสะดือในอดีต
วรพจน์ พันธุ์พงศ์คนนี้เป็นมือสัมภาษณ์ที่นักล่าฯแอบรักมานานแล้วแต่ไม่กล้าบอก
และนรา นักเขียนนักวิจารณ์ขั้นเทพอีกคน
ทั้งหมดนี้ปลุกผีปลุกปั้นให้ไรเตอร์ฟื้นมาสู่แผงหนังสืออีกครั้ง
และการฟื้นครั้งนี้ นักล่าฯชอบตรงที่พวกเขาทำให้มันเข้าถึงผู้อ่านมากขึ้น
ชอบกับสโลแกนหน้าปกที่บอกว่า “โลกนักอ่าน บ้านนักเขียน ห้องเรียนนักฝัน”
แต่เดิม ความรู้สึกนักล่าฯที่มีต่อไรเตอร์ รู้สึกว่ามันยากและดูเฉพาะกลุ่มไปหน่อยค่ะ
คือบางทีเน้นพวกวรรณกรรมต่างประเทศ หรือนำเสนอบทวิพากษ์วรรณกรรมไทยที่ใครๆก็ไม่รู้จัก
หรือเสนออะไรก็ตามที่คิดกันว่า 'ไม่โหลและมีคุณภาพ'และ ”ยกระดับการอ่าน”
ค่ะ คำเอียนๆแบบนั้น นักล่าฯเบื่อเต็มทน ยุคก่อนๆแม้ใครจะว่าไรเตอร์ดีเด่นมีสาระยังไง แต่นักล่าฯไม่เอาด้วยคน
คือนักล่าฯเชื่อว่า ถ้าเราไม่ยกระดับการอ่านด้วยการดึงคนของเราให้อ่านหนังสือซะก่อนเป็นเบื้องต้น
ยังไงก็ไม่มีทางยกระดับการอ่านให้สูงขึ้นมาได้
เรื่องแบบนี้ผู้อ่านเขาพัฒนาไปเองทีละขั้น ถ้าอยากช่วยให้สังคมรักการอ่าน ก็มาช่วยกันปลูกฝังดีกว่า
ช่วยเป็นบันได ดีกว่าอยู่ดีๆตั้งตนเป็นเทวดาแล้วกวักมือให้เขาเหาะไปหาเอง
เพราะชีวิตไม่ติดของยาก แต่ติด "ของง่ายบ้าง ยากบ้างปะปนกัน"
การกำเนิดใหม่ของไรเตอร์เที่ยวนี้ นักล่าฯมองว่าเป็น ”การทำหนังสือที่รักคนอ่าน"
ไม่ใช่"การทำหนังสือที่รักนักเขียนด้วยกัน”
ก็เลย เนี่ยค่ะ ซื้อมาสามเล่มแล้ว และจะซื้อต่อไป
รูปเล่มน่ารัก คุณภาพข้างในคับแก้ว
นักเขียนก็มีแบบที่ป๊อปๆอย่างนิ้วกลม ศุ บุญเลี้ยง, เพลงดาบฯ
และระดับมือพระกาฬอย่างชาติ กอบจิตติ, สุชาติ สวัสดิ์ศรี, ปราบดา หยุ่น, อุทิศ เหมะมูล,ไพรวรินทร์ ขาวงาม และอีกมากมาย
คือมีนักเขียนทั้งป๊อป ทั้งร้อก ทั้งอินดี้ มาอยู่รวมกันได้แบบสามัคคีปรองดอง
ค่ะ...แล้วใครว่าต้องแยกชั้นวรรณะกันคะ ?
หนังสือเพื่อคนรักการอ่านการเขียนเล่มนี้ นักล่าฯเรคคอมเมนด์จริงๆ
ไม่อยากให้ทีมงานฟังเสียงนกเสียงกา ที่พร่ำบ่นว่าไรท์เตอร์ไม่เหมือนก่อน
ถ้าอยากเหมือนก่อน ก็เจ๊งก่อนอะค่ะ เลือกเอาสิ แล้วไอ้คนที่ด่า จะมาช่วยเจ๊งกะเขามั้ย?
บางคนนี่ มือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำจริงๆ นักล่าฯละเซ็งนัก
อยากถามว่า
"ทำหนังสือดีๆมีคุณภาพสักเล่ม แล้วใส่ความสนุกไปบ้าง มันผิดตรงไหนฟระ ?
..................................
Create Date : 14 กันยายน 2554 |
|
44 comments |
Last Update : 14 กันยายน 2554 20:51:12 น. |
Counter : 1554 Pageviews. |
|
|
|
น พฺยาเธ ปตฺตสํสยํ......ข้อสอง ถึงมีเหตุอาจถึงแก่ชีวิต ไม่พึงใจเสีย
วายเมเถว กิจฺเจสุ........ข้อสาม พึงพยายามทำกิจทั้งหลายเรื่อยไป
สํวเร วิวรานิ จ.............ข้อสี่ พึงระวังตนมิให้มีช่องเสีย
ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขด้วยธรรมทั้ง ๔ ประการ ตลอดไป...นะคะ
พนมเทียน....สุดยอด
นักล่าคนสวย...ยอดสุด