........สวัสดีครับ..เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่รักทุกคน...วลีข้างบนน่ะไม่เกี่ยวกับเรื่องที่จะเล่าวันนี้เลยจ๊ะ..แค่ความชอบส่วนตัว..ฮ่า ๆ.....วันนี้มาอารมณ์เหงาจ๊ะ..บอกก่อนเลย..จะได้ไม่ต้องทายไม่ต้องเดา เหงา ชัวร์ ๆ...ความเหงามักจะแอบย่องมาหาเราทางหน้าต่าง...แล้วเดินจากเราไปอย่างไม่แยแสเราสักกะติ๊ด..ทางประตู....เฮ่อ..วันนี้ผมคิดถึงบ้านจัง..สงสัยเป็นเพราะว่าวันนี้รู้สึกว่าร่างกายไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีแรงเอาซะเลย..พอร่างกายไม่ฟิตจิตใจมันก็เลยพลอยไม่ค่อยแจ่มใสไปด้วย..และน่าแปลกที่วันนี้ผมรู้สึกคิดถึงบ้าน...พอมีเวลาว่างสักเล็กน้อยก็เลยหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน แล้วก็ได้พบกับเรื่องที่มีเนื้อหาโดนใจอย่างจัง....อดรนทนไม่ไหวก็ต้องหยิบยกเอามาฝากให้แฟน ๆ ได้อ่านกันบ้าง...สำหรับคนที่อยู่ใกล้บ้านแต่ไม่ค่อยได้กลับบ้าน..อ่านเรื่องนี้แล้วก็จะได้กลับบ้านให้บ่อย ๆหน่อย..เพราะว่าคนอยู่ไกลบ้านอยากกลับแต่กลับไม่ได้มีอยู่เยอะเลยนะจ๊ะ..............วันนี้ตื่นแล้ว นอนลืมตาเฉย ๆ ไม่ต้องกลัวเข็มนาฬิกาเดินไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องกลัวว่าต้องกินข้าวให้ครบ ๓ มื้อตามหลักสุขศึกษา หรือตามตำราวิทยาศาสตร์เรื่องกินดีอยู่ดี เพราะวันนี้อยากอยูสบาย ๆ ........นอนฟังเสียงลมหายใจของตัวเอง....และพบว่าไม่ได้อยู่กับบ้านอย่างนี้มานานแล้ว.." บ้าน "........ที่ที่เราสามารถหัวเราะได้เสียงดังที่สุด ไม่ต้องกลัวใครหมั่นไส้...........ที่ที่เราร้องไห้ได้ดังที่สุดแบบไม่ต้องอายใคร...........แต่บ่อยครั้ง บ้านกลับเป็นทางเลือกสุดท้าย ในวันที่ไม่มีโปรแกรมอื่นใดน่าสนใจอีกแล้ว มีโฆษณาทางทีวีอยู่ชิ้นนึง ยังจำกันได้มั๊ยเอ่ย ผู้ชายคนนึงใช้โทรศัพท์กดหาคนนู้นคนนี้ ชวนไปเที่ยวแต่โชคร้าย มีเสียงปฏิเสธจากปลายสายแทบทุกสาย สายสุดท้ายโทรหาแม่ แล้วบอกว่า " เดี๋ยวผมกำลังจะกลับบ้านนะครับแม่.." จบด้วยสโลแกนว่า "อย่าให้บ้านเป็นที่สุดท้ายที่คุณจะคิดถึง" ดูแล้วรู้สึกดีจังเลย...บ้านและคนที่รออยู่ที่บ้านก็รู้สึกแบบนี้...........พ่อแม่ไม่เคยเตรียมโปรแกรมอะไรเอาไว้ในเทศกาลพิเศษ..เพราะสิ่งที่เค้านึกเสมอคือ คงไม่มีใครอยู่บ้าน เดี๋ยวจะเฝ้าบ้านทำให้บ้านเป็นบ้านที่สมบูรณ์ที่สุด รอลูกกลับมาเมื่อวันที่เค้าไม่มีธุระที่ไหน........ในวันที่รู้สึกแย่ ๆ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการอยู่บ้าน อยู่ใกล้คนที่รักเราโดยไม่ต้องมีเหตุผลใด ๆ........ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะเลิกรักเราเมื่อไหร่ แล้วจะแปลกใจว่าแค่เราไม่ได้ออกไปไหนในวันนี้ ทำให้วันธรรมดา ๆ วันนึงกลายเป็นวันพิเศษของคนที่รอเราอยู่ที่บ้านทุกวัน..........ไม่อยากยิ้ม ก็ไม่ต้องแกล้งยิ้มปล่อยหน้าตาปกติธรรมชาติสร้างมางไงอย่างงั้น ไม่ต้องเอาสีอะไรต่อมิอะไร มาแต้มแล้วรู้สึกกับตัวเองว่าสวยขึ้น ฟังเสียงบ่นของพ่อแม่บ้าง หลังจากได้ยินแต่เสียงบ่นของตัวเอง ลองเอามือถือไปซ่อนดูซิว่า จะถึงขั้นหายใจไม่ออกรึเปล่า..........บ้านหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ เดินหากันเจอทุกคน ห้องโถงใหญ่ไว้นั่งคุยกัน ห้องนอนเล็กไว้สำหรับโลกส่วนตัว มีประตูใหญ่ แวะเข้ามาในโลกส่วนตัว..ของกันและกันได้ แต่ไม่รื้อข้าวของให้กระจาย........อยู่มาหลายปี แต่ทุกทีที่ได้อยู่บ้านมักจะได้เห็นบางมุมของบ้านที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเสมอ เพิ่งจะได้เห็นแสงอาทิตย์สุดท้ายของวัน ที่หน้าต่างของบ้าน เพราะปกติก้าวเท้าเข้าบ้านเมื่อตอนเห็นแสงดาวแล้ว....
~*ถ้ามันเหนื่อยเกินไป ก็พาหัวใจกลับบ้าน*~
...คิดถึงพ่อนะ...