พฤษภาคม 2550

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
 
All Blog
บทเรียนสำหรับวัยรุ่น (แม่ผมบ้า และซ่าจนหยดสุดท้าย)





"แม่...ไปดูหนังกัน" ผมกับน้องพยายามชวนแม่ไปดูหนังในวันหยุด
ปกติแม่ของผมไม่ค่อยจะมีวันหยุดที่ตรงกับชาวบ้านชาวช่องเขาหรอก
แต่ก็มีหลายครั้งที่อยู่ๆ แม่ก็บอกว่า "วันนี้ขี้เกียจไปทำงาน
หยุดอยู่กับลิงดีกว่าเน๊อะ"
ผมว่ามันเป็นข้ออ้างที่น่ารักของแม่ และมันแสดงให้เห็นว่าแม่กำลัง
เบื่องาน เบื่อนาย หรือเบื่ออะไรสักอย่าง นิสัยทำอะไรตามอารมณ์ของแม่
เป็นสิ่งที่หลายคนในบ้านปวดหัวอยู่เหมือนกัน
ไว้เล่าให้ฟังวันหลังนะครับ เรื่องมันยาว


"ไปดูเรื่องอะไร" แม่ถามแบบเนือยๆ ช่วงนี้แม่เหนื่อยกับงานที่ทำมาก
แม่อาจจะไม่พร้อมที่จะไปดูหนังกับพวกผม แต่คำถามของแม่ก็ทำให้
ผมกับน้องพอมีหวังอยู่บ้าง
ผมรีบวิ่งไปหยิบหนังสือพิมพ์มากางแล้วพยายามเรียกให้แม่ช่วยออกความคิดเห็น

"เรื่องนี้" ผมชี้ไปที่ภาพโฆษณาหนังตลกที่เคยเปรยๆ ไว้ว่าอยากดู
"ไม่เอาเรื่องนี้ไม่เหมาะกับเด็ก"
แม่ตอบขณะยังมองตรงไปที่จอคอมพิวเตอร์
ผมกับน้องพยายามหาเรื่องอื่นๆ อีก
"งั้นเรื่องนี้" กุมภาชี้ไปที่หนังการ์ตูนที่กำลังดังที่สุดในตอนนี้
"อืม น่าสนใจ แต่ไม่มีรอบดู ไม่มีพากย์ไทยนะ จะดูรู้เรื่องเหรอนั่น"
ในที่สุดเราก็ตกลงจะไปดูหนังสำหรับเด็กที่แม่เห็นว่าน่าสนุกและ
เหมาะสมด้วยเหตุผลนานาประการ

"นั่งรถอะไรดี" แม่มักจะถามแบบนี้ตอนพวกเราเดินออกจากบ้านมาแล้วเสมอ
"รถสองแถว" ผมตอบ
แม่ไม่เห็นด้วยเพราะรถสองแถวที่นี่จะเป็นรถคันใหญ่และสูงมาก
ผมกับน้องตัวเล็กเกินกว่าจะเกาะได้
แล้วสิ่งที่แม่ไม่ชอบที่สุดก็คือรถแบบนี้จะวิ่งเร็วแต่จอดนานมาก
"ไปแค่พระประแดงใช้เวลาตั้งชั่วโมง ไม่รู้มันจอดอะไรนัก
พอเห็นเงาคนริบๆ
มันก็จอดแล้ว บางทีคนยังทำงานอยู่ในโรงงาน มันก็เริ่มรอแล้ว
น่าเบื่อมาก"
แม่ของผมไม่ชอบนั่งรถนานๆ แม่เบื่อง่าย แม่เรียกรถแบบนี้ว่า
"รถท้องถิ่น" หรือไม่ก็ "รถหวานเย็น"
"ไปรถเมล์" กุมภาตอบบ้าง
แล้วก็พาลจะทำท่าอ้อนแม่ให้ขึ้นรถเมล์เสียให้ได้
บ้านผมน่ะมีรถประจำทางสายเดียวที่ผ่าน คือ ปอ.20
"อืม น่าสน คนละ 25 บาท เท่ากับ 50 บาท เพิ่มไปอีก 30 บาท
นั่งแท็กซี่ได้สบายๆ ไม่ต้องเบียด ไม่ต้องจอดป้าย
ไม่ต้องลุกให้ใครนั่ง"
แม่หัวเราะภาคภูมิใจในความคิดตัวเอง
ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าแม่จะถามทำไม
เพราะทุกครั้งแม่ก็นั่งแท็กซี่นั่นแหล่ะ แม่เล่าให้ผมกับน้องฟังว่า
แม่เคยเป็นลมบนรถเมล์ และบางทีแม่ก็ไปทำท่าระทวยหน้าห้าง
หลังจากเบียดกับผู้คนบนรถเมล์ เพราะอาการไมเกรนกำเริบ

"นี่เลยบทเรียนแรกของการเป็นวัยรุ่น เราต้องเดินแบบนี้"
แม่ทำท่าเดินเหมือนแม่ปูในนิทาน
ผมกับกุมภาไม่ทำตามแม่หรอก ใครจะบ้าได้เท่าแม่ผมล่ะ
"บทเรียนที่สอง เราต้องมาแวะดูรอบหนังที่เราอยากดูตรงนี้ก่อน
เวลาไปซื้อตั๋วจะได้ไม่เสียเวลา"
แม่เป็นคนขี้เกรงใจมากพอๆ กับเป็นคนเอาแต่ใจ
แม่ไม่ชอบเบียดเบียนเวลาของคนอื่น

หลังจากซื้อตั๋วได้แล้ว แม่ชวนพวกผมไปกินข้าวเพื่อรอเวลา
"กินอะไรดี" กุมภามักจะเลือกร้านด้วยของเล่นที่แจกมาพร้อมกับอาหารเสมอ
ส่วนผมจะตามใจแม่แทบทุกครั้ง ใครจะกล้าขัด เหตุผลแม่เยอะเหลือเกิน

ใกล้ได้เวลาฉายหนังแล้ว
"บทเรียนที่ 3 ใช่มะ หรือ 4 เออนั่นแหล่ะ
เราต้องเข้าโรงหนังก่อนหนังฉาย
ยกเว้นเหตุจำเป็น จะได้ดูหนังตัวอย่างและไม่รบกวนคนอื่นด้วย"
พวกเรามักจะจองหนังเรื่องต่อไปที่จะมาดูด้วยกัน แต่ก็นั่นแหล่ะครับ
เราแทบจะไม่เคยมาดูหนังที่จองไว้เลยสักครั้ง เพราะพอถึงเวลาจริงๆ
แม่ก็ไม่ว่างอยู่เสมอ

"บทเรียนต่อไปสำหรับวัยรุ่น ต้องซื้อป๊อบคอร์นและเป๊ปซี่แก้วโตๆ"
แล้วแม่ก็รีบเดินไปซื้อของที่ว่า แม่ของผมไม่ชอบกินป๊อบคอร์น
มันทำให้แม่ไอมากๆ
แต่แม่ก็อุตส่าห์ซื้อมากระป๋องใหญ่มาก เพื่อให้ผมกับน้องได้เป็นวัยรุ่น

ทุกครั้งที่ดูหนังเราจะจองตั๋ว 2 ใบ สำหรับ 3 คน หรือไม่ก็พยายาม
ชวนใครมาอีกคน แล้วผมกับน้องก็จะไปนั่งเบียดๆ กับแม่ เก้าอี้อีกตัว
ถ้าไม่มีใครมาด้วยก็จะว่าง
"ทำไมวัยรุ่นไม่ใส่เสื้อกันหนาวล่ะ" แม่ถามไปอย่างนั้น
เหมือนแม่กำลังสนุกสนานกับคำว่าวัยรุ่น


"บทเรียนต่อไป เป็นวัยรุ่นที่ดีต้องปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด
เมื่อเข้าชมมหรสพและที่ที่ต้องการความเงียบทุกที่"
แม่พูดเสียงไม่เบานัก ทำเอาพี่ๆ
วัยรุ่นที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่เงียบเสียงลงไปมาก
ผมได้ยินพี่เขาบอกว่า "แค่นี้ก่อนนะ ป้าแกด่าแล้ว"
แม่แอบหัวเราะสะใจเล็กๆ

การร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีออกเสียงในโรงหนัง ก็เป็นกิจกรรม
ที่วัยรุ่นควรจะทำในความคิดของแม่
"ทีเพลงบ้าอะไรร้องไปได้ซะดังลั่น ภาษาต่างด้าวต่างดาวมันก็ร้องกัน
ทีเพลงดีๆ แบบนี้ไม่รู้จักร้อง อายอะไรกันนักก็ไม่รู้"
แม่ ผม และน้องจะร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีออกเสียงทุกครั้ง
และจะนั่งลงหลังสุด
เพื่อรอให้เสียงดนตรีตัวสุดท้ายจบลงก่อน
ก็ความคิดของแม่อีกนั่นแหล่ะครับ
"ยืนอีกนิดมันจะตายไหมนั่น" ยืนรอดูพวกศิลปินหัวแดงกันได้เป็นวันๆ
แค่นี้ทำเมื่อย" ผมไม่แน่ใจว่าโตขึ้น
ผมกับน้องจะเป็นวัยรุ่นแบบไหนกันแน่

แต่ผมก็ยังไม่เคยเห็นวัยรุ่นคนไหนที่คุยกับแม่แล้วเกลียดแม่เลยสักคน



Create Date : 10 พฤษภาคม 2550
Last Update : 10 พฤษภาคม 2550 1:00:26 น.
Counter : 214 Pageviews.

1 comments
  
เย้ เย้
มาเป็นคนแรกเลย

เป็นวัยรุ่น (ตอนปลาย) คนนึง ที่ไม่เกลียดแม่สองลิงนะจ๊ะ

แถมจะหลงรักอีกตะหาก

โดย: chichi IP: 58.136.79.137 วันที่: 11 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:05:10 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แฟนไท
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Friends Blog
[Add แฟนไท's blog to your weblog]