เต้นรำกับฟองคลื่น ที่ Lake Michigan ธันวาคม 2008 หิมะโปรยสายโอบกอดคลอเคลียยอดไม้ ทิ้งไว้แต่ดอกหิมะไสวบานทุกก้านกิ่ง เมื่อสายลมหนาววูบไหว หิมะก็เริงระบำพริ้งพราย ผ่านหมู่ไม้ที่พากันสลัด ใบทิ้งจนหมดสิ้นตั้งแต่เดือนก่อน จากนั้น ทุกสิ่งก็ถูกปกคลุมด้วยหิมะจนดูเหมือน โลกนี้ได้ถือกำเนิดใหม่อีกรอบ กลายเป็นความงามบริสุทธิ์ในทุกนาฎกรรมแห่ง การเริงรำ . . ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง จิบกาแฟอุ่นๆ พลันหวนนึกถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่ง เพิ่งไปเยือนมาเมื่อไม่นานและหัวใจยังจดจำ เพราะหิมะที่โรยตัวอยู่ตรงหน้านี้มา กับสายลมเหนือที่เหน็บหนาวจาก Lake Michigan นั่นเอง ตุลาคม 2008 ก่อนหิมะจะมาเยือนอีกครา เราตัดสินใจแวะไปที่เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบมิชิแกน อีกครั้ง เพราะติดใจความเป็น "เมืองเล็กๆ น่ารัก" ที่นั่น ซึ่งเราเคยไปกันมาแล้ว เมื่อสองปีก่อน . . St. Joseph เป็นเมืองเล็ก แต่น่าอยู่ ในรัฐ Michigan ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัฐ อินเดียน่าทางตอนเหนือ เพียงชั่วเวลาหนึ่งหมายิ้ม (ใครไม่แน่ใจว่า หนึ่งหมายิ้ม นานเท่าไหร่ ให้ลองเดินไปดูหน้าหมาที่บ้านเอาเอง) เราก็ไปถึงเมืองนั้นได้อย่าง ยิ้มๆ และสบายๆ . . . . หากไม่ใช่ฤดูหนาว ตลอดสองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านขายผลไม้ที่เก็บมาสดๆ จากสวน ไม่ว่าจะเป็นองุ่นที่ใช้ในการหมักไวน์ (Concord grapes) รสหวานเปรี้ยว อมฝาด หรือแอปเปิ้ลสดฉ่ำ แต่หวานกรอบ ซึ่ง Michigan apples ถือเป็น แอปเปิ้ลที่มีคุณภาพดีสายพันธุ์หนึ่งในอเมริกาเลยทีเดียว . . . . แต่ในวันที่เรากลับไปเยือนอีกครั้งในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง พืชผลที่เอามาวางขาย ช่วงนี้ ก็เห็นจะมีฟักทองและสควอช นี่แหละที่ดูเกินหน้าเกินตาน้องแอปเปิ้ลอย่าง เห็นได้ชัด . . . . นอกเหนือจากความสนุกสนานในการเลือกซื้อผลไม้สดฉ่ำจากสวนแล้ว จุดดึงดูด หลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวละแวกใกล้เคียงหลั่งไหลมาเที่ยวที่เมืองนี้ตลอดทั้งปีคือ Lake Michigan . . . . Lake Michigan เป็นทะเลสาบสำคัญ หนึ่งในห้าของทะเลสาบใหญ่ใน ทวีปอเมริกาเหนือ คนส่วนมากมักจะเรียกทะเลสาบทั้งห้าแบบรวมๆ ว่า Great Lakes อันประกอบด้วย ทะเลสาบสุพีเรีย ทะเลสาบมิชิแกน ทะเลสาบฮูรอน ทะเลสาบอีรี และทะเลสาบออนแทริโอ ซึ่งเส้นแบ่งระหว่างสหรัฐอเมริกาและ แคนาดาก็คือเส้นที่ลากผ่านทะเลสาบเหล่านี้นั่นเอง ยกเว้นทะเลสาบมิชิแกนที่ถือ เป็นทะเลสาบเดียวที่อยู่ในอเมริกา หรืออาจจะพูดได้ว่า ทะเลสาบทั้งสี่นั้น ล้วน แต่ถือสองสัญชาติทั้งสิ้น แต่ทะเลสาบมิชิแกนถือสัญชาติอเมริกันโดยสมบูรณ์ เพียงแห่งเดียว . . ความกว้างใหญ่ของทะเลสาบมิชิแกนนี้ กินเนื้อที่ถึงสี่รัฐ คือ รัฐวิสคอนซิน รัฐอิลิ นอยส์ รัฐมิชิแกนและ รัฐอินเดียน่า โดยตัวทะเลสาบเองแล้ว มีขนาดใหญ่เท่าประ เทศโครเอเซีย โดยมีพื้นที่ประมาณ 58,000 ตารางกิโลเมตร ส่วนคำว่า "มิชิแกน (Michigan) มาจากคำในภาษาโอจิบเว ซึ่งเป็นภาษาโบราณตระกูล อันกอนเควียนว่า มิชิกามิ (Mishigami)ซึ่งมีความหมายว่า " น้ำชั้นเลิศ"นั่นเอง . . . . ถึง Lake Michigan เป็นทะเลสาบน้ำจืดแต่อุณหภูมิของน้ำ ไม่ได้อุ่นตามความจืด เลยแม้แต่น้อย เมื่อสองปีที่แล้ว จำได้ว่า ถึงจะเป็นช่วงหน้าร้อน แต่น้ำใน ทะเลสาบก็ไม่ได้อุ่นเหมือนน้ำทะเลบ้านเรา ตรงกันข้าม กลับเย็นเยียบ เหมือนเอา ขาจุ่มลงไปในกะละมังน้ำแข็ง ต้องอาศัยความใจกล้าอย่างยิ่งสำหรับคน ไทยอย่างเราๆ ที่ไม่ชินอากาศหนาว หากอยากลงเล่นน้ำที่นี่ . . ทะเลสาบมิชิแกนจะคึกคักมาก ในช่วงหน้าร้อน เสียดายที่มีกฎห้ามจูงหมาลงไป เดินลอยชายบนหาด ไม่งั้น ก็อยากจูงไอ้หมาหน้าค้างคาวแก่ที่บ้านออกไปเดิน โฉบดูสาวๆ ในชุดบิกินี่เหมือนกัน ใครอยากไปนั่งริมหาดก็ต้องขนอุปกรณ์ไปเอง อารมณ์ประมาณเสื่อผืนหมอนใบนั่นแหละ แถมยังต้องคอยไล่ปัดฝูงนกนางนวลที่ ยืนเขม้นมองจ้องจะขโมยอาหารที่เราเอามาอย่างชนิดที่เรียกได้ว่า "ตาเป็นมัน" อีกด้วย . . . . ในช่วงหน้าร้อน สามารถนำรถไปจอดที่ชายหาดได้เลย แต่เสียค่าผ่านทาง $12 จากนั้น เลือกที่จอดกันตามอัธยาศัย อุ้มลูกจูงหลาน ปูผ้าปูเสื่อลงไปนอนเขลง กันอย่างสบายอารมณ์ ของกินของใช้ก็หอบกันไปเอง มีให้แค่เตาปิ้งบาร์บิคิว ต้องเอาอุปกรณ์ทุกอย่างไปเอง ไม่ได้มีวางขายเกลื่อนกลาดเหมือนเที่ยวทะเล บ้านเราที่แสนจะสะดวกสบายไปทุกอย่าง เพราะมีขายทุกอย่างตรงเพิงริมหาด ทั้ง กางเกงอาบน้ำ บุหรี่ไฟแช็ก สุรายาเมา ไปจนถึงถุงยางอนามัย !!! . . สำหรับ บางใครแล้วอาจถือว่า Lake Michigan แห่งนี้เป็นทะเลที่สุดแสนจะ โรแมนติก เพราะเรื่องแปลกแต่จริงที่เกิดขึ้นของความรักในขวดลอยน้ำนั่นเอง . . เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อเมโลดี้ คลอสกา กับแมตต์ เบอร์สแต่งงานกันที่ชายหาดริม ทะเลสาบมิชิแกนเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม และได้เขียนคำสาบานรักลงในขวดพร้อม ชื่อและที่อยู่ของทั้งสองลงไปด้วย จากนั้นก็ขว้างลงทะเลสาบมิชิแกนไป ขวด แห่งความรักได้ลอยไปอีกฝั่งของทะเลสาบมิชิแกน ซึ่งลินเนตต์ ดูเบนดอร์ฟ ที่ เมืองเมียร์ส รัฐมิชิแกน กำลังเดินออกเก็บขยะตามชายหาดในตอนเช้า แต่แล้ว เธอก็พลันพบขวดพลาสติกจมอยู่ในทราย จึงเก็บมาเปิดอ่านข้อความข้างในด้วย ความตื่นเต้นแล้วตอบจดหมายกลับไปว่า เธอเก็บขวดได้ และตัวเธอกับสามีก็แต่ง งานกันริมหาดมิชิแกนเช่นกัน และที่สำคัญคือ แต่งกันในวันที่ 18 สิงหาคม เหมือนกันด้วย แต่แต่งก่อนคู่ของเมโลดี้และแมตต์นานถึง 28 ปี นี่แหละ ที่อาจจะ เป็นความอ่อนหวานอันน่ามหัศจรรย์ที่บางใครไม่มีวันลืมเลือนเลยตลอดชีวิต . . . . ไม่ว่า Lake Michigan จะเป็นอะไรในใจใครก็ตาม แต่เชื่อไหมว่า Lake Michigan มีอารมณ์ของตนเอง ในหน้าร้อนจะเป็นห้วงยามที่ Lake Michigan เปล่งประกาย เจิดจ้าที่สุดในรอบปี ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้าไปหาอย่างหลงใหลชื่นชมแทบทุก พื้นที่แห่งเธอ แม้กระทั่งคลื่นก็ม้วนตัวเข้าหาฝั่งอย่างอ่อนโยนพลางจุมพิตทราย ชายฝั่งอย่างอ่อนหวาน ดังนั้น ฤดูร้อนที่ Lake Michigan จึงกลายเป็นความ สมบูรณ์แบบในฝันได้โดยไม่ยากเย็นอะไร . . หากแต่ Lake Michigan ในอารมณ์ใบไม้ร่วง ดูหม่นเศร้าและเทาทึมไปอีกแบบ หนึ่ง เราเดินจูงมือกันเงียบๆ ย่ำไปบนทรายสะอ้าน ปล่อยให้ลมหนาวสนทนากับ ระลอกคลื่นอยู่เพียงลำพัง . . . . เราสองคนยังพากันย่ำเดินไปสู่ประภาคารเบื้องหน้า เสื้อโค้ทตัวยาวกระพือเพยิบ ตามแรงลมราวหางนกนางแอ่น เรากระชับเสื้อโค้ทแนบตัว เพราะอารมณ์แห่ง Lake Michigan ยามใบไม้ร่วงนั้น ช่างเกรี้ยวกราดและรุนแรงยิ่ง คลื่นแต่ละลูกที่ ถาโถมเข้าสู่ฝั่ง เหมือนพร้อมที่จะพัดพาทุกอย่างให้พินาศพังทะลายในพริบตา สายลมกรรโชกกระหน่ำโบยตีบาดผิวหน้า หนาวลมจับหัวใจ ยังดีที่ได้อังไอจาก มืออุ่นๆของชายหนุ่มสามัญประจำบ้านช่วยคลายหนาวได้ในระดับหนึ่ง . . เรานั่งดูทะเลสนทนากับชายฝั่งอย่างเงียบงัน ควันบุหรี่สีเทาลอยกรุ่น ก่อนปลิว กระจายไปในสายลมฤดูใบไม้ร่วง ผู้คนที่แวะมาทักทายชายหาดในวันนั้นต่างเดิน มุ่งหน้าไปสู่ประภาคารกันเงียบๆ ชายหาดแทบร้างผู้คน มีเพียงไม่กี่ครอบครัวเท่า นั้นที่ลงไประเริงเล่นกับท้องทะเล ช่างแตกต่างกันลิบลับกับ Lake Michigan ใน ฤดูร้อน . . มองท้องทะเลเบื้องหน้าแล้วอดไม่ได้ที่จะนึกถึงอารมณ์แห่งทะเล ที่แปร เปลี่ยนไปตามฤดูกาลที่หมุนเวียนไปตามธรรมชาติ . . ในฤดูแห่งใจ เราจะยังสามารถรับมือความ "สั่นไหว" ในอารมณ์ได้เช่นนี้หรือไม่ หากหัวใจเกิด "มรสุม" . . . . ฉันเชื่อว่า ทุกคนมี "ฤดูใบไม้ร่วงในใจ" ด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่จะยาวนานเท่าใด ก็ย่อมขึ้นอยู่กับสภาพชายฝั่งทะเลใจของแต่ละคน ฤดูใบไม้ร่วงของบางใคร อาจ จะครอบคลุมทั้งชีวิต แต่สำหรับบางคนแล้ว สิ่งนี้ เป็นแค่ "ปรากฏการณ์" ที่เข้า มาทักทายให้ชีวิตมีรสชาติเท่านั้น . . และเมื่อ"ฤดูใบไม้ร่วง" ก้าวเข้ามาครอบคลุมดวงใจ เราควรจะต้อนรับความโหด ร้ายนี้อย่างไรดี ฉันเชื่อว่า นี่คงเป็นคำถามที่เราทุกคนต้องเคยถามตัวเองมาแล้ว ในชีวิต . . มีถ้อยคำหนึ่งที่มักบอกกับตนเองเสมอ เมื่อลมหนาวพัดเข้ามาในใจว่า แล้วมัน ก็จะผ่านไปเช่นเดียวกับฤดูกาลธรรมชาติ เพราะเชื่อมั่นในวัฎจักรของโลกว่า ทุก สิ่งทุกอย่างคือการเดินทางของวงกลม จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดล้วนเป็นหนึ่งเดียว . . น่าแปลกที่ธรรมชาติสอนบทเรียนอันยิ่งใหญ่ในการดำรงชีวิตอยู่ให้สรรพสิ่งบน โลกอยู่ตลอดเวลา หากแต่เรากลับมืดบอดต่อการเรียนรู้สัจธรรมแห่งธรรมชาติ นั้นอย่างสิ้นเชิง . . . . ฉันนั่งมองระลอกคลื่นคลั่งที่ถั่งโถมทะยอยซัดชายหาด พลางตกตะกอน ความรู้สึกบางอย่างไว้ภายใน จากนั้นก็ร่ำลาผืนทรายและท้องทะเลในท่ามกลาง ความเกรี้ยวกราดของสายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วง ยิ้มให้กับดอกไม้ดอกหนึ่งที่ บังเอิญพลัดจากมือใครบางคนและถูกคลื่นซัดมาให้เห็นเบื้องหน้า พลางสัญญาว่า จะกลับมาอีกครั้งเพื่อเรียนรู้บทเพลงแห่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ในฤดูกาลอื่นๆ ที่ริม Lake Michigan แห่งนี้ ธันวาคม 2008 เสียงผู้ประกาศข่าวจาก CNN รายงานด่วนถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศ ไทยปลุกฉันให้ละมือจากการสาละวนย่อรูปชุด Lake Michigan เพื่อเตรียมถ่าย ทอดลงสู่บล็อค . . เสียงตะโกนกรีดร้อง เสียงปืน และเสียงร่ำไห้ จากแผ่นดินแม่ ไม่เพียงสั่นไหว หัวใจคนไทยบนแผ่นดินไทยเท่านั้น หากแต่ยังกึกก้องสะท้านสะเทือนส่งตรง ความวิปโยคมาถึงเมืองหิมะ เมืองเล็กๆ ที่ฉันอาศัยอยู่บนแผ่นดินอเมริกาด้วย . . มองออกไปนอกหน้าต่าง หิมะยังคงกระหน่ำพัด สายลมหนาวหวู่หวิวกรีดเสียง เหมือนบ้าคลั่งราวกับโลกจะแตกดับลงในวันนี้ ฉันถอนหายใจ........... และโดยพลัน เกล็ดหิมะก็ร่วงคว้างเย็นเยียบลงแตะหัวใจ ตีพิมพ์ครั้งแรก : นิตยสาร "หัวใจเดียวกัน" ปีที่ 1 ฉบับที่ 3. 2552 "เจริญขวัญ" : เรื่องและภาพ ข้อมูลบางส่วน : //www.wikipedia.org and //www.yahoo.com   Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2552 6 comments Last Update : 15 กันยายน 2552 23:29:37 น. Counter : 1521 Pageviews. Share Tweet

แวะมาอ่านค่ะ ภาพสวยดี แต่เล็กไปหน่อย อยากดูเต็มๆตา เราเต้นรำไม่เป็น ว่ายน้ำก็ไม่แข็ง ไปไม่ได้แน่เลยทริปนี้   โดย: Febie 6 กุมภาพันธ์ 2552 23:23:59 น.

สวยจังเลยค่ะ อ่านเพลินไปเลย ได้รู้ความหมายมิชิแกนไปด้วยเลยค่ะ   โดย: tiktoth 6 กุมภาพันธ์ 2552 23:50:34 น.

เขียนดีมากเลยอ่ะ แต่ยังเก็บใจความได้ไม่หมด เพราะเจ้าตัวเล็กมาป่วนอยู่ข้างๆ ประโยคนึง บางทีต้องอ่านสามรอบ โรแมนติคมาก เดินจูงมือกันสองคนตายาย   โดย: ตรีนุช3903 7 กุมภาพันธ์ 2552 4:02:29 น.

โดย: สายลมอิสระ 8 กุมภาพันธ์ 2552 13:14:46 น.

ป้าที่รัก ไอ้นิสัย ไพเราะทุกคำนะ มันยากจริงๆ นะ อย่าว่าแต่นิยายเลย แค่ชีวิตประจำวันก็ แทบจะไม่รอด อยู่แล้ว บังเอิญมันมีตัวเปรียบเทียบซะด้วย คนนึง พูดจาไพเราะเสนาะหูทุกคำ อีกคน โผงผาง ตรงไปตรงมา ไม่ค่อยจะหวานหยด เท่าไหร่ คนที่พูดไม่หวาน ต่อให้ความสามารถในการทำงานสูงแค่ไหน นาย ก็ไม่รัก   โดย: ดาริ IP: 58.9.200.11 10 กุมภาพันธ์ 2552 12:26:27 น.

มาทักทาย ..๑๑   โดย: .. IP: 89.149.227.43 12 กุมภาพันธ์ 2552 20:20:47 น.