สดชื่นแจ่มใส มากกกกก
|
|||
ภูหัวฮ่อม-เชียงคาน-แก่งคุดคู้-สวนหินผางาม 1 สวัสดีค่ะ ได้ฤกษ์ รีวิว ชีพจรลงฝ่าเท้าเรื่องแรก ขอน้ำเสนอตามหัวเรื่องด้านบนเลยนะคะ ที่จริงถ่ายรูปมาเป็นพัน แต่ว่าคัดมาเฉพาะรูปที่ตัวเองชอบและก็เข้ากับการบรรยายในครั้งนี้ แฮ่ เป็นทางการมาก เอาใหม่ เพื่อนผู้ร่วมเดินทาง 10 คน นั่งรถตู้จากโลตัสพระราม3 เวลา 21น.ของวันที่ 14มค.54 ถึงภูหัวฮ่อม5.30โดยประมาณค่ะ นั่งรอนอนรอ เดินรอ พระอาทิตย์ขึ้นด้วยอุณหภูมิที่เจ้าหน้าที่อุทธยาน แจ้งว่า 10 องศา ชิลๆ ใช่ค่ะ ชิลจนสั่น แถวบ้านนี่ 24 องศาก็หนาวโฮกแล้ว รอตั้งแต่มืดจนสว่าง----สว่างมากๆ โหย คุ้มค่า สวยงามมาก ตามภาพเลย
มีลานกางเต้นท์ ด้วยนะคะ แต่ว่าไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เหงาๆ(สงสัยไปภูเรือกันหมด) ลักษณะภูจะขนาบด้วยเอ่อ เรียกว่าอะไรนะ เหวหรือหุบผา อะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ มีทะเลหมอกให้ชมทั้งซ้ายขวา งามงดหมดจดสุดๆ ภาพด้านล่างเป็นฝั่งลาวนะคะ จนท.อุทธยานว่างั้น
ด้านบน เป็นภาพจากลานกางเตนท์นะคะ อุ้ยเกือบลืม ไปแวะไร่สตอร์เบอรี่ด้วยค่ะภูสวนทราย อร่อยหวานมากที่สุดในชีวิต ไม่เคยลิ้มรสสตอร์เบอรี่ที่อร่อยแบบนี้มาก่อน(จริงๆนะคะไม่ได้โม้) เด็ดจากต้น ติดใจ ซื้อมาอีก 150บาท/โล ซื้อมา 2 โล ยังไม่เท่าไร หมดแล้วค่ะ เฮ้อน่าจะพกตู้เย็นไปด้วย
หลังจากนั้นเราก็แวะไหว้พระที่วักนิรมิตวิปัสสนา สวยงามมากกกกกอีกแล้วค่ะ อร้าอร่ามไปหมด มีหลวงพ่อและมัคนายกคอยแนะนำตลอดการทำบุญ (ขออภัยมือใหม่หัดถ่าย อาจจะไม่สวยเท่าของจริงนะคะ)
ภายในนี้จะมีลูกนิมิตอันใหญ่มากค่ะ ห้อยอยู่ตรงกลาง แล้วก็มีบ่อตรงลูกนิมิต ตกลงไป ตายแน่
หลังจากนั้น เราก็ไปแวะอีกแล้วค่ะ ที่พระธาตุศรีสองรัก สูงและสวยงามอีกแล้วค่ะ
หลังจากนั้นเราก็มุ่งเข้าจุดมุ่งหมายค่ะ เชียงคานคานคานคาน(กรุณาออกเสียงแบบแอคโค่นิดนึงเพื่อได้อารมณ์นะคะ) เรามาถึงช่วงเย็นแล้ว อ่ะลืมบอกไปตอนแรกเรากะจะค้างกันที่ภูเรือแต่ไปถึงแล้ว คิดว่าถ่านอนที่นั่นต้องเหยียบกันตายแน่ๆ เพราะหมู่มวลมนุษย์เยอะมากค่ะ แต่หนาวมากเช่นกัน แดดแรงแต่ลมแรงและหนาวมากกก เลยเข้าเมืองดีกว่า หนีคน เลยถึงเชียงคานสัก6โมงได้แล้วอ่ะค่ะ มาถึงก็ไปที่ริมโขงก่อนเลยค่ะ ได้มาซึ่งวิวพระอาทิตย์ตกค่ะ กำลังตกแล้วค่ะ Free TextEditor
กลัวความสูงสุดๆลงมาได้ขึ้นไม่ได้ หลังจากนั้นเราก็เข้าที่พักเตรียมตัวเดินถนนคนเดินหน้าบ้านเลยค่ะ ที่พักของเราก็คือชื่อตามภาพเลยค่ะ(ลืมถ่ายห้องพักมา เพราะกว่าจะเข้าก็มืดแล้วเลยง่วง ลืมไปเลย แต่ก็โอเคนะคะ 150บาท/คนพัก4คน/ห้อง เช้ามากาแฟโอวัลตินฟรี โหย ป้าใจดีมาก เราก็เลยช่วยแค่ ล้างจานเก็บข้าวของเอง และที่สำคัญ ไม่กินเยอะค่ะ แต่มื้อเย็นเราก็กินของป้านี่ล่ะค่ะ ขี้เกียจเดิน5 55+)
ถนนคนเดินวันนี้วันเสาร์ คนเยอะมากกกกกค่ะ ป้าศรีพรรณบอก ช่วงนี้คนเยอะมากมาย วันนี้อากาศไม่หนาวเท่าไรค่ะ แต่ลมพอควร ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อหนาวค่ะ พวกเราเดินไปเรื่อยๆกินอย่างเดียวเลยค่ะ ไม่ว่าจะเมี่ยงคำเอย ข้าวจี่เอย บาบีคิวเอย ข้าวโพดเอย กุ้งทอด/ย่างเอย ที่เอ่ยมาเอาพอเป็นสังเชบแต่สรุปว่า ซื้อครบทุกอย่างที่มีขายอ่ะค่ะ ไม่แพงอ่ะค่ะ 10บาท/อย่าง อย่างละนิดละหน่อย สุดถนนก็อิ่มพอดีเรอเอิ๊ก...
ส่วนใหญ่ที่นี้เค้าจะปั่นจักรยานหรือนั่ง3ล้อเครื่องใหญ่ๆกันซะมากกว่า ส่วนรถยนต์ก็มาจากคนที่มาเที่ยวนี่ล่ะค่ะ บ้านเก่าเสน่ห์ของเชียงคานที่คนเมืองกรุงอย่างเราหลงใหล เพราะแถวบ้านเราไม่มี 555+
มีของขายหน้าบ้านเต็มเลยอ่ะ- - แล้วดันอร่อยๆทั้งนั้น หลังจากนั้น กว่าจะอาบน้ำกันได้ นานมากๆๆๆ เพราะมันหนาวมากกค่ะกลางคืน คนแถวนั้นเค้าก็ว่าไม่หนาวเท่าไรแต่ วันพวกขี้หนาว อาบน้ำเสร็จ หลับเลยค่ะ สัก3-4ทุ่มก็นอนกันแล้วค่ะเพื่อเตรียมตัวตื่นตี5 ตักบาตรข้าวเหนียว สาธุๆๆ เช้าแล้ว เราก็ได้แค่หล้างหน้า แปรงฟันเพราะว่าตื่นสายค่ะ 5.45น.เข้าไปแล้ว รีบลงมาปะแป้งให้นวลเข้าไว้ก่อน ช่วงรอพระมาเราก็กังวลมากค่ะไม่อยากจับอะไรมาก เพราะว่าเราต้องใช้มือหยิบข้าวเหนียวก็เลย กลัวเปรอะแล้วหยิบใส่บาตรจะเป็นบาปแทนระหว่างรอถ่ายรูปกันไปพลางทั้งคนและวิวริมโขงค่ะ
หลังจากใส่บาตรอิ่มใจกันไปเราต้องมาอิ่มท้องกันบ้างนะคะ เริ่มจากกาแฟของป้าแล้วก็ปั่นจักรยานของที่บ้านป้าศรีพรรณซึ่ง ฟรีๆๆๆๆๆ ใจดีมากๆ ไปกินปาเต้ (ขนมปังฝรั่งเศสใส่ตับบดหรือใส่เนยแล้วแต่จะสั่งค่ะ)ไข่กะทะ+โจ๊ะ+ข้าวเหนียวหมูทอด+บลาๆ อาจจะสงสัยว่าทำไมกินเยอะ เพราะกินอย่างละนิดละหน่อยน่า แฮ่ๆๆๆ
หลังจากนั้นเราก็เตรียมตัวเห็บของไปแก่งคุดคู้ พักที่นั่นอีกคืน ยะฮู้ ไงตามไปภาค2นะคะ เดี๋ยวกลับมารีวิวต่อค่ะ Free TextEditor @คุณ deeplove ขอบคุณค่ะ
@คุณ auau_py อย่าลืมไปให้ได้ค่ะ โดย: WanShalala วันที่: 24 มกราคม 2554 เวลา:13:43:31 น.
|
WanShalala
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] จะลองเล่นดูแระ Group Blog All Blog Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ภาพสวยนะคะ