สวนเมืองพร...สวรรค์บนดิน...ถิ่นโคราช...(1) ^^

ธันวาคม 2554 หลังจากที่เห็นรีสอร์ทแห่งนี้มานานจากเวปท่องเที่ยวทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากห้อง Blueplanet แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวจากคุณชายไม้ชายเขา หรือท่านอื่น ๆ เห็นแล้วก็สะดุดใจสะดุดตาเอามาก ๆ แค่โคราชแค่นี้ไม่ไกลเลย แต่มีสถานที่สวย ๆ ขนาดนี้ ต้องหาโอกาสไปให้ได้สักครั้ง แต่หลังจากพยายามเข้าไปดูเวปไซด์

//www.suanmuangporn.com/resort.htm

ห้องว่างที่จะสามารถจองเพื่อเข้าไปพักได้แล้ว ก็เกิดอาการท้อ ห้องพักที่นี่เต็มยาวไปหลายเดือนโดยเฉพาะเสาร์อาิทิตย์ยิ่งเป็นเสาร์อาทิตย์ที่เป็นวันหยุดปลายปีอากาศดี ๆ แล้วหละก็ เรียกว่าต้องจองกันมาเป็นเวลาค่อนปีกันทีเดียวถึงจะได้ห้องพักที่นี่ จังหวะดีที่เห็นมีคนประกาศขายใบจองห้องพักในช่วงวันหยุดของเดือนธันวาคม เลยตกลงตัดสินใจซื้อต่อ vc มา นับเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดเลยเพราะได้ห้องพักของสวนเมืองพรมาในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งพอได้รับ vc ก็อึ้งเล็กน้อยเนื่องจากเจ้าของเดิมใช้เวลาจองห้องพักแห่งนี้มาแล้วประมาณ 1 ปี (แอบเสียดายแทนเจ้าของเดิมเบา ๆ นะคะ ^^)





แต่เมื่อมารู้ว่าที่เจ้าของเดิมเค้าเลื่อนไม่ไปโคราชในช่วงวันนั้น นอกจากเหตุผลส่วนตัวของเจ้าของ vc เดิมแล้วอาจจะเป็นเพราะว่า ในวันที่เราจะเดินทางไปโคราชวันนั้นมีงานคอนเสิร์ตใหญ่ประจำปีที่โบนันซ่า เขาใหญ่ ใช่แล้วค่ะ คอนเสิร์ต Bigmountain นั่นเอง ส่วนตัวจริง ๆ แล้วก็แอบอยากไปคอนเสิร์ตนี้นะคะ หลังจากเคยดูหนังเรื่อง "เลิฟจุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก"

แล้วก็เลยคิดอยากจะไปดูคอนเสิร์ตกลางแจ้งแบบนี้สักที ติดที่ หาแนวมร่วมไม่ได้เลย อะชวนแล้วก็ไม่มีใครไป บอกว่ากลัวรถติด กันหมด แหะแหะ แต่เรื่องรถติดบนเขาใหญ่ก็เป็นเรื่องน่ากลัวจริง ๆ วันนั้นเราเลยเดินทางออกจากบ้านกันแต่เช้าตรู่เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดในเส้นทาง เช้าตรู่มาก ๆ เลยคือตีสี่ล้อหมุน แล้วคนนั่งอย่างเราก็สบาย หลับไปตลอดทาง ตื่นมาอีกทียังมืดอยู่เลยแต่ จำข้างทางได้คร่าว ๆ ว่าถึงสระบุรีแล้ว (คนขับขับได้ไวมว๊ากกกจริง ๆ )

เลยยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนก่อน ระหว่างนั้นแวะลงปั้มกลางทางแถวปากช่องเพื่อหากาแฟลงท้อง ปลุกให้ตื่นสักที ปรากฎว่าพอลงมาจากรถแล้วต้องรีบวิ่งกลับเข้าไป อากาศที่ปากช่องตอนนั้น(เช็กจากไอโฟนดูมันอยู่ที่ 14 องศาเซลเซียลเท่านั้น OMG เราไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวมาเลยสักนิดมีแต่เสื้่อคลุมบาง ๆ เท่านั้น อากาศต่างกับกรุงเทพที่เราเดินทางออกมาสุด ๆ แถมลมก็แรงมาก ๆ ด้วยคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าจะรอดมั้ยวะเรา แต่ก็นะ ตอนอยู่เกาหลีเคยเดินตอนอากาศ 1 องศาแบบไม่มีเสื้อคลุมมาแล้ว แค่นี้คงเฉย ๆ 555 (ทำเป็นเก่งไอ้คราวนั้นก็เล่นเอาแทบไม่รอดนะยะหล่อน)

เสร็จจากดื่มกาแฟก็เลยขึ้นไปเขาใหญ่กันก่อน เพื่อไปสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่ แม้เราจะึขึ้นไปแต่เช้าแล้ว เวลาตอนนั้นยังไม่ถึงเจ็ดโมงเช้าดีเลย แต่หน้าศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ก็เต็มไปด้วยเครื่องสักการะบูชาจำนวนมาก หัวหมูนี่เป็นสิบ ๆ หัวเลยทีเีดียว นั่นพอจะบรรยายความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อเขาใหญ่ได้ดีนะคะ อากาศเย็นมาก ๆ แต่ก็สดชื่นมาก ๆ ค่ะ




จากนั้นก็ลงมาแวะถ่ายรูปที่ปาลิโอ ซึ่งเ้ช้ามากยังไม่เปิดและยังไม่มีคนมาเดิน ลุงยามที่ปาลิโอดุมากเลยไมใ้ห้เดินเข้าไปถ่ายข้างใน แต่ก็เข้าใจนะคะ เพราะว่ามันเต็มไปด้วยร้านค้า ถ้าของอะไรในร้านลูกค้าหายไปเค้าคงเดือดร้อนเนอะ



อัพบลอคไปทำอย่างอื่นไปด้วยขออภัยนะคะ ถ้าไม่ต่อเนื่องพอ ^^










จากนั้นก็แวะมาอีกที่ ที่เป็นไฮไลท์อีกแห่งบนถนนธนะรัชต์ค่ะ ใช่แ้ล้ว Smoke house นั่นเอง ก็อารมณ์เดิมคือเช้ามาก (ยังไม่แปดโมงเช้าเลย ) จอดรถปั๊ป ลุงยามก็เดินมาบอกเลยว่า "เราเปิดบริการ 10 โมงครับ" 555 แต่ลุงยามที่ smokehouse ดูเป็นกันเองกว่าที่ปาลิโอนะคะ ก็เลยบอกแกว่าขอถ่ายรูปหน่อย แกก็เิชิญครับ เชิญครับ น่ารักจริง ๆ เลย อิอิ









แดดเริ่มออกแล้ว อากาศดีมาก ๆ เลยค่ะ Smoke house นี่เป็น The must สำหรับเส้นทางเขาใหญ่เลยนะคะ ต้องหาโอกาสมาหม่ำสักครั้งให้ได้ค่ะ ^^














จากนั้นก็มุ่งหน้าไปสวนเมืองพรและแวะทานข้าวเช้าที่เขื่อนลำตะคองก่อน ตรงลำตะคองก็มีหลายร้านนะคะ ได้ัจังหวะจอดตรงร้าน อีสาน ๆ อะไรสักอย่างนี่หละคะ สั่งอาหารไปสองสามอย่างแต่หนึ่งในนั้นมี ปลานิลเขื่อนเผา ซึ่งเป็นอาหารแนะนำของทางร้านเลย ตอนแรกเห็นทางร้านมาเสิร์ฟโต๊ะข้าง ๆ ปลาตัวใหญ่มากกกกกกกกกก เลยรีบไปบอกแม่ครัวว่าไม่เอาตัวใหญ่นะคะ ตัวใหญ่ดูไม่น่ากินและคิดว่าหลายโล เสียตังส์ไปป่าว ๆ ทางร้านก็เลยเอาขนาดย่อม ๆ มาให้ ปรากฎว่ามารู้ทีหลังตอนเช็คบิลว่าเค้าคิดตัวละ 250.- เท่ากันไม่ว่าตัวเล็กตัวใหญ่ กรรม (งงๆ เหมือนกันเพราะในเมนูคิดราคาเป็นน้ำหนักแต่ตอนเช็คบิลบอกว่าคิดเท่ากันตัวใหญ่ตัวเล็ก อะไรฟระ )

เสร็จจากทานข้าวพร้อมชมวิวเขื่อนลำตะคองก็เกือบสิบโมงแล้ว เลยขึ้นไปที่สวนเมืองพรด้วยความหวังเล็ก ๆ ว่าจะได้เช็คอินก่อนเวลา (กล้าหวังเนอะ 55) แต่ปรากฎว่าไปก็ไม่สามารถเช็คอินได้ค่ะ (แน่นอนหละ) เด็กที่ร้านบอกว่าให้ขึ้นไปเที่ยวข้างบนเขายายเที่ยงก่อน มีที่เที่ยวค่ะ หรือจะไปวัดหลวงพ่อโตก็ได้ สารถีคนขับสมัครใจขึ้นข้างบนมากกว่า เพราะว่าจริง ๆ ก็ง่วงนอนแล้ว (ตื่นเช้ามากนั่นเอง) กะว่าจะไปหาที่งีบสักตื่นสองตื่นก่อน ^^

แต่ปรากฎว่าพอขึ้นไปบนเขายายเที่ยงแล้วก็ไม่ได้นอนหรอกค่ะ ข้างบนเขายายเที่ยงเป็นเขื่อนเก็บน้ำขนาดใหญ่ของการไฟฟ้า มีกังหันลมไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอยู่ด้วย บรรยายกาศและวิวสวยมาก ๆ เลย ประทับใจกับเขายายเที่ยงมาก แต่สำคัญที่สุดคือลมแรงและอากาศเย็นสุด ๆ ถามแม่ค้าที่ขายของอยู่ด้านบนก็ได้คำตอบว่าเพิ่งจะหนาวเมื่อเช้านี้เอง คนที่เดินทางมาเที่ยวเสาร์อาทิตย์นั้นถือว่าโชคดีมาก ๆ ได้รับลมหนาวแบบเต็ม ๆ กันเลยทีเดียว ^^

แต่ว่าแบตหมด เลยถ่ายรูปมาได้แค่รูปเดียว เศร้าจิต T-T




ลงมาด้านล่างจากอ่างเก็บน้ำ ก็มีบ้านพักเป็นลักษณะโฮมสเตย์เยอะเลย คาดว่าwalk in เข้าไปก็น่าจะยังมีที่พักสำหรับคนที่ไม่ได้จองบ้านพักมาก่อนนะคะ ผ่านจุดนึงตอนแรกคิดว่าเป็นรีสอร์ทแต่พอแวะลงไปเป็นแค่ร้านกาแฟกับสวนสวย ๆ ค่ะ แต่ทำเลดีมากเลย กาแฟก็อร่อยใช้ได้ ใครผ่านไปลองแวะไปดูนะคะ ชื่อร้าน "บ้านไร่ปลายเนิน" ค่ะ

หน้าร้านดอกไม้กำลังบานสวยเชียว ^^



วิวจากด้านบนร้าน ที่นั่งดื่มกาแฟ มองเห็นได้ไกลสุดลูกหูลูกตามากค่ะ

Create Date : 19 ธันวาคม 2554 Last Update : 21 ธันวาคม 2554 11:22:32 น. Counter : 1798 Pageviews.		2 comments
Share Tweet