Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2565
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
8 กุมภาพันธ์ 2565
 
All Blogs
 

Ladakh 2019 - การเดินทางออกจากเลห์


การเดินทางออกจาก เลห์ - ลาดัก ด้วยรถรับจ้างนั้นไม่น่าจะใช่เรื่องยากเย็น
นอกเหนือไปจากระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถโดยสารธรรมดา ๆ ที่ใช้เวลามากถึงสองวัน
ทั้งนี้ยังมีตัวเลือกอื่นที่เร่งรัดกว่านั้นก็คือรถรับจ้างรอบกลางคืนที่สะดวกรวดเร็วแต่ข้อเสียก็
คือจะไม่สามารถเห็นวิวอะไรเลยระหว่างทาง

 

เท่าที่ติดต่อมาก็มีอยู่สองเจ้าคือเป็นรถยนต์ขนาดสามตอนที่มีกำหนดออกรถจากเลห์ช่วงเวลา
สี่โมงเย็นและจะไปถึงมะนาลีหกโมงเช้า ค่าโดยสารจะคิดตามตำแหน่งนั่ง หลังสุด 2,500 บวก
ราคาเพิ่มตามตำแหน่งเบาะไล่จนถึงแพงสุดคือข้างหน้าคือ 3,000 รูปี

 

ส่วนอีกรายหนึ่งก็คือ Tempo Traveller มีที่ตั้งสำนักงานเล็ก ๆ ตั้งอยู่บริเวณท่ารถสำหรับ
จองเที่ยวรถและออกตั๋ว ตัวรถมีขนาดกว้างกว่าและคิดราคาแค่ 2,300 รูปี ดูนั่งสบายกว่าตัวเลือกแรก
กำหนดการออกรถก็ดีงาม คือหกโมงเย็นและไปถึงมะนาลีในเวลาสิบโมงเช้า
เราตกลงที่จะเดินทางไป
กับตัวเลือกที่ว่านี้


 

เมื่อถึงเวลารถออกตามกำหนดนัดหมาย บรรดารถรับจ้างเจ้าเดียวกันนี้ นอกเหนือไปจากคันที่นั่ง
ก็ยังมีอีก
หลายคันที่จะร่วมขบวนออกไปพร้อมกัน เมื่อเหลือบไปเห็นรถคันอื่นที่เต็มไปด้วยผู้โดยสาร
ต่างชาติ
ก็เดาว่าคงจองผ่านเอเจนต์ถึงได้ไปรวมตัวอยู่บนรถเดียวกัน ส่วนรถของเรานั้นหากไม่นับผู้คน
ท้องถิ่น ก็จะมีเราและคู่รักชาวอินเดียสองรายที่ถือว่าเป็นนักท่องเที่ยว




บนรถรับจ้างที่จะวิ่งออกจากเลห์ไปยังมะนาลีในช่วงหกโมงเย็น



ก็คงไม่มีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่นะ กับวิวข้างทางขากลับในช่วงที่ยังอยู่ในเขตลาดักในขณะ
ที่
แสงอาทิตย์ยังคงมีอยู่ หลังล้อหมุนเราก็ตรงไปยังทางใต้สู่ Leh-Manali Highway ไล่ตาม
เส้นทาง
ที่คุ้นตาผ่าน Shey – Thiksay – แยก Karu และตรงมายังแยก Upshi ช่วงหนึ่งทุ่ม


ที่แยกอุปชิ รถรับจ้างจะหยุดจอดพักเพื่อให้ผู้โดยสารได้แวะพัก ดื่มน้ำชา ไม่ก็หาอะไรกินรองท้อง
ส่วนคนต่างชาติอย่างเราจำเป็นที่จะต้องไปรายงานตัวต่อหน้าเจ้าหน้าที่พร้อมคนขับรถเพื่อลงบันทึก
ตรวจตราตามกฏระเบียบของพื้นที่ ก่อนกลับขึ้นไปยังรถเพื่อออกเดินทางกันต่อ เราได้เห็นหมู่บ้าน
Meru, Lhato, Gya และแนวเจดีย์อันยาวเหยียดอีกหนเมื่อผ่าน Rumste ภายนอกเริ่มมืดลงและ
ไม่มี
แสงอื่นนอกจากไฟหน้าอากาศคืนนี้ดูเหมือนจะเย็นยะเยือกลงเรื่อย ๆ




⭗ เมฆฝนที่กำลังปกคลุมเทือกเขาด้านหน้าในช่วงบ่ายแก่ของวัน ถ่ายจากที่หน้าระเบียงที่พักย่าน upper tukcha


จากภาพจำสุดท้ายที่เราได้เห็นจากระเบียงที่พักไกล ๆ ก็คือมีเมฆฝนพัดปกคลุมเทือกเขาในช่วงบ่ายสี่
อากาศที่เลห์วันนี้ก็ดูแปรปรวนทั้งลมที่พัดกรรโชกแรง และมีละอองฝนโปรยลงมาด้วยเล็กน้อย  (ไม่น่า
จะเรียกว่าฝนตกได้เต็มปากเพราะสัมผัสได้แค่ชั่วอึดใจเดียว
) คิดดีไม่ได้เลยนะว่าขากลับหนนี้จะมีอาเพศ
อะไรอีกมั้ย  สาบานได้ว่าไม่ใช่นักท่องเที่ยวขาลุย แค่ที่ผ่านมาพระเจ้าไม่ค่อยอนุญาต
ให้เดินทางสบาย ๆ
สักเท่าไหร่  555


 

เผลอหลับไปพักหนึ่งก่อนที่จะตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะรถจอดนิ่ง ที่นั่งด้านหน้าที่เป็นเบาะเดี่ยว
ติดกับประตู มันจึงกลายเป็นทางผ่านให้ผู้คนในรถเดินผ่านเพื่อลงจากรถ...หลังรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อ
บานประตูรถถูกเคลื่อนเปิดและปิดอย่างไว ไอเย็นจากด้านนอกก็ลอยเข้ามาแตะหน้าอย่างจัง ถึงจะ
มองหาสัญลักษณ์ สิ่งก่อสร้าง บนพิกัดนี้แทบไม่เห็นว่าเป็นที่ไหน แต่คนที่ออกไปนอกรถ 
ดูเหมือน
จะตื่นเต้นกันกับหิมะที่ปกคลุมพื้นในขณะนี้กันยกใหญ่ โดยเฉพาะสองนักท่องเที่ยวชาว
อินเดียที่ลง
จากรถไปโต้ลมหนาวข้างนอก พวกเขาฮัมเพลงกันสนุกสนาน  ตั๊ก ตั๊กลัง ล๊าา ตั๊กลัง ลาาา ~


อ๋อ รู้แล้ว...ที่นี่คือ Taglang La นั่นเอง พอหยิบเวลามาดูตอนนี้ก็ปาไปสามทุ่มแล้ว ดูเหมือนว่า
เราได้หยุด
จอดที่ช่องเขาแห่งนี้แค่ระยะหนึ่งแค่นั้น




ที่ตั้งของร้านอาหาร และจุดพักแรมของนักเดินทางที่ Pang 



ช่วงสี่ทุ่ม รถวิ่งมาถึง Pang ที่มีร้านอาหาร และจุดพักแรมให้บริการด้วยนะ ที่นี่หนาวมาก ๆ จนไม่
อยากก้าวลงจากรถเลย พี่คนขับก็หันมาถามว่าไม่ลงไปดื่มชาสักหน่อยรึไง เราไม่ชอบดื่มชาอยู่แล้ว
เพราะมันจะทำให้นอนไม่หลับ อีกอย่างหนึ่งที่เลือกเดินทางตอนกลางคืน เพราะใจจริงก็อยากจะนั่ง
หลับยาว ๆ แล้วไปตื่นอีกที
ที่มะนาลีเลย

 

01.15 . ถึง Sarchu มีการแวะจอดพักรถเพื่อกินอาหาร ดื่มชากันอีกครั้ง ใครใคร่ลงก็ลงไปเต๊อะ
(ขอหลับต่อ) พอหลังจากนั้นรถก็ออกตัววิ่งยาวไปเรื่อย ๆ กระทั่งช่วงตีสามที่ตื่นขึ้นมา เพราะเหมือน
รถจอดมันนิ่งสนิทจนนานผิดปกติ 
สะลึมสะลือลืมตาหันไปดูเหตุการณ์รอบนอกว่ามีอะไรเกิดขึ้น?

พื้นที่ที่รถจอดแน่นิ่งอยู่นั้นเป็นที่ราบท่ามกลาง
หุบเขา ไร้ผู้คนและแหล่งพักอาศัยรายทาง เบื้องหน้า
ของเราเมื่อมองไปตามแสงไฟของรถที่สาดไป
มีรถยนต์คันหนึ่งกำลังพยายามดันตัวเองให้พ้นไปจาก
หล่มหินที่ติดอยู่ โดยอยู่ไกลจากกันราวห้าเมตร  และต่อมาก็
ดูเหมือนว่าพี่คนขับจะมองเห็นเจ้าของ
รถคันดังกล่าวแล้วว่าเป็นใคร

 

"ลามะจี!   ลามะจี!"

 

อากาศข้างนอกก็หนาว แถมพื้นที่รอบด้านมีแค่หิน แผ่นดิน และภูเขา แถมยังมืดตื๋ออีกตะหาก
อะไรดลใจให้พระคุณเจ้ารีบร้อนขับรถลุยเดี่ยวจนมาติดหล่มทางในตอนนี้ได้เนี่ย … มีคนบนรถ
รายหนึ่งอาสาลงไปช่วยขยับรถแต่ก็ไม่เป็นผล มากสุดก็คือเคลื่อนย้ายมุมเล็กน้อยเพื่อเปิดช่อง
ให้รถของเราวิ่งฝ่าด่านหินตรงนั้นไปได้ หลังจากที่ผ่านเลยจุดนั้นไปแล้วก็หวังว่าจะมีรถคันอื่น ๆ
ที่วิ่งตามต่อจากนี้จะพอมีอุปกรณ์ช่วยเหลือหลวงพี่และรถให้พ้นออกมาจากจุดนั้นได้นะ

 

03.57 . มาถึงจุดรายงานตัวอีกครั้งที่ Darcha หนนี้ไม่ต้องลงไปแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่แล้ว
คนขับรถจะทำหน้าที่ถือพาสปอร์ตของเราไปโชว์ที่ check post ให้เอง


*check post เดียวที่ต้องไปแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตอนขาออกจากเลห์ก็มีแค่ upshi




05.05 . รถวิ่งมาถึง Keylong รุ่งสางก่อนฟ้าสว่าง และเริ่มมองเห็นวิวข้างทางได้บ้าง
ถึงจะดูไม่น่าตื่นเต้นอะไรแต่เรายังคงฝังใจกับเส้นทางผ่านหลังจากนี้ได้ไม่ลืม หลังจากนี้
ก็จะต้องผ่าน Tandi – Sissu – Koksar ตามลำดับ ได้แต่ภาวนาให้ทางมันไม่พังเละเทะ
เหมือนกับที่เคยเจอตอนขามาก็แล้วกัน ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นเส้นทางรถวิ่งที่ว่าดูมีสภาพปกติ
ไม่มีร่องรอยความเสียหายจาก ดินโคลนและน้ำที่ไหลเอ่อท่วมที่สร้างความเสียหายให้เห็น
เราผ่านจุดนี้
ไปได้ด้วยดี  และเมื่อถึง Koksar จุดแวะพักที่รถจะจอดให้พักนานหน่อยเพื่อ
กินอาหารเช้า ส่วนคนต่างชาติอย่าง
เราก็จำเป็นต้องลงไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง




มาถึง Koksar ในเวลา 06.25 น. (มีใครจำที่นี่ได้บ้าง อิอิ)


 

การนั่งหลับบนรถอย่างยาวนานหลายชั่วโมงโดยไม่คิดที่จะลงมายืดเส้นยืดสายบ้าง รวมถึง
สภาพอากาศที่หนาวเย็นเฉียบตลอดคืนที่ผ่านมา มันกำลังส่งผลเลวร้ายให้กับเข่าของเราใน
ตอนนี้ … ก้าวเดินแทบไม่เป็น! ระยะห่างจากจุดจอดรถกับสถานที่รายงานตัว อยู่ไกลกันแค่
ไม่กี่เมตรเองนะ แต่รู้สึกเลยว่าทรมานมาก ๆ ~ ไม่น่าเลย

 

"เป็นยังไงบ้าง มาจากที่ไหนและกำลังจะไปไหนครับ"

เจ้าหน้าที่หยิบพาสปอร์ตของเราไปเขียนข้อมูลบันทึกลงสมุดรายงาน

"เดินทางมาจากเลห์ กำลังจะไปมะนาลีค่ะ"

อยากจะแถมอีกว่า ไม่สบายนักหรอก ตอนนี้ตะคริวกำลังกินขา มันก็จะยังไงอยู่เนอะ
 

"คงจะเป็นทริปที่ดีมากใช่มั้ย" จนท. ยื่นพาสปอร์ตคืนมาให้  ดูจากหน้าตาแล้วก็น่าจะเป็น
คนละคน
กับที่เคยพูดโน้มน้าวให้เราเปลี่ยนใจไม่ให้เดินทางไปเลห์ ตอนที่ทางมันพังยับเยิน 117

 

 


 

 

07.40 . Rohtang La ในวันฟ้าเปิด  
มันเป็นภาพยามเช้าที่ไม่มีเมฆฝน และไม่มีรถติดเลยสักนิด ถนนเปิดโล่งและพื้นที่สีเขียวบนภูเขา
ข้างหน้าที่ดูสดชื่น พอได้เจอแดดก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ตอนนี้เรากำลังนั่งรถลงไปยังมะนาลี
สู่พื้นล่างที่ต่ำกว่าอบอุ่นกว่าและดูวุ่นวายกว่า ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า  

 



⭗ สภาพอากาศที่ Rohtang La ในวันฟ้าเปิด
 



รถโดยสารท้องถิ่นสีเขียวขาวที่คุ้นตาของ HRTC คิดว่าคันนี้กำลังจะวิ่งไป Keylong
 



⭗ ทักทายกันระหว่างทาง เรามักเห็นคนขับรถจอดแวะทักกันหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลสภาพเส้นทางด้วยรูปแบบนี้เสมอ ๆ




⭗ พื้นที่สีเขียวบนภูเขาและเส้นทางถนนที่จะพาเราลงไปยังเมืองด้านล่าง




รถที่วิ่งสวนผ่านกันบนถนนเมื่อมองจากระยะไกล ในช่วงเวลาที่การจราจรยังไม่ติดขัด 




 




+++ เพิ่มเติม +++

สรุปเรื่องเวลาการเดินทางโดยคร่าว 

17.40 น. ___เวลานัดหมาย 
18.00 น. ___เดินทางออกจากเลห์
19.00 น. ___แยก Upshi  *check post ด่านแรก
21.00 น. ___Taglang La *รถมักจะจอดพักครู่หนึ่งที่ช่องเขาสำคัญ 
22.00 น. ___Pang

01.15 น. ___Sarchu
03.57 น. ___Darcha  *check post ด่านสุดท้าย
05.05 น. ___Keylong 
06.25 น. ___Koksar  *check post สำหรับเขต Lahaul 
07.40 น. ___Rohtang La *รถมักจะจอดพักครู่หนึ่งที่ช่องเขาสำคัญ 
09.45 น. ___Manali 




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2565
14 comments
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2565 20:14:30 น.
Counter : 1280 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณSleepless Sea, คุณtoor36, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณkatoy, คุณmultiple, คุณเริงฤดีนะ, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณtuk-tuk@korat, คุณInsignia_Museum

 

เดินทางกลางวันก็ได้ดูวิว กลางคืนไม่ได้ดู เพราะมองไม่ค่อยเห็นะไรเท่าไหร่ ได้อย่างเสียอย่าง แต่เดินทางกลางคืนมันได้ตรงที่เราพักผ่อนได้เลย แต่ผมรู้สึกว่าถ้าเดินทางกลางคืนแล้วนอนบนพาหนะที่เดินทาง มันรู้สึกเหมือนไม่ได้พักเลย ไม่รู้คนอื่นรู้สึกแบบนี้มั้ย

เวลารถมันจอดสนิท ถ้าหลับอยู่เราจะรู้สึกตัวเลยครับ เวลาดับเครื่องยนต์ก็เหมือนกัน จุดพักรถก็ต้องมีแวะบ้างล่ะ

นั่งนานเกินก็ไม่ดีจริงๆ แหละครับ

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 9 กุมภาพันธ์ 2565 15:48:09 น.  

 

@toor36 : ที่จริงแทบไม่ได้หลับเลยนะ
เพราะระหว่างนั้นเราต้องคอยส่งพาสปอร์ตให้คน
ขับรถลงไปแจ้งที่ด่านหลายรอบมาก (มากกว่า
สองแห่ง) ถ้าย้อนกลับไปได้คงเลือกนั่งด้านหน้าอ่ะ

 

โดย: กาบริเอล 9 กุมภาพันธ์ 2565 16:30:28 น.  

 

เห็นภาพภูเขา แล้วอ้างว้าง..เงียบมากเลยครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 11 กุมภาพันธ์ 2565 6:50:45 น.  

 

จริครับ นั่งด้านหน้าน่าจะสบายกว่า ฝากคนขับยังได้เลย

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 11 กุมภาพันธ์ 2565 17:24:55 น.  

 

อ่านเรื่องราวที่น้องฟ้าเล่าแล้ว
Enjoy the trip
เหมือนติดเป้มาด้วยจริงๆค่ะ
ละเอียดและสนุกเพลินเพลิน..
วิวที่ผ่านตาบนรถเมล์ ระหว่างทางบนขุนเขาสีเขียว
ดูเป็นอิสระในโลกกว้าง..ดีจังค่ะ

 

โดย: katoy 13 กุมภาพันธ์ 2565 13:24:18 น.  

 

เดินทางกลางคืนด้วยรถสาธารณะแบบนี้ ยังไม่เคยซักครั้ง
เคยแต่เดินทางด้วยรถไฟ เมืองไทยแบบเป็นห้องนอน เคยหนนึง
เวียนหัวเหมือนกัน

แต่เดินทางคนเดียวในต่างแดน แถมกลางคืนด้วย ต้องนับถือเลย
หรือว่า ผู้คนบ้านเขาเป็นมิตร ไม่เหมือนบ้านเราก็เป็นได้

แต่ดูแล้วก็ไม่ค่อยได้นอน เพราะต้องคอยลงไปรายงานตัวตามจุดตรวจ
ร้านอาหารตามจุดพักรถ ก็ดูเหง้า เหงามากๆ อยากจะกินผัดไทย หอยทอด คงไม่มี 555

เส้นทางนี้ ถ้าจำไม่ผิดเคยอ่านตอนที่มีน้ำป่า+โคลน ปิดถนน
รถไปไม่ได้ ต้องลงเดิน ไม่รู้ใช่หรือเปล่า

แต่ตอนเช้าตามรูป อากาศแจ่มใสแบบนี้นี่
ถ้ามีโฟล์วีล หรือ มอไซค์ซักคัน ขี่ไปเรื่อยๆให้ลมตีหน้า ชมวิวระดับร้อยล้านนี่ น่าจะมีความสุขมากเลยเนอะ
หิวก็แวะกิน โจ๊กข้างทาง ไม่มีอีกอะ555

คนที่ไปเที่ยวแบบนี้ ต้องกินง่ายอยู่ง่ายเนอะ
พวก extrovert คงไม่ชอบแน่ เพราะมันเงี้ยบ เงียบ+เหงาซะไม่มี555


 

โดย: multiple 14 กุมภาพันธ์ 2565 19:16:56 น.  

 

@katoy : วิวแถบนี้สวยมากค่ะ ถ้ามาช่วงหน้าร้อน
จะมีดอกไม้ป่าขึ้นระหว่างทางด้วยนะ

 

โดย: กาบริเอล 14 กุมภาพันธ์ 2565 20:04:27 น.  

 

เที่ยวฟืนๆแบบนี้ชอบๆๆจังค่ะ
ตัวเองทพได้แค่ตระเวณเที่ยวในประเทศเท่านั้น
นอกประเทศต้องบล็อกนี้เท่านั้ร
Happy Valentine"s Day ค่ะ

 

โดย: เริงฤดีนะ 14 กุมภาพันธ์ 2565 22:01:24 น.  

 

อุ๊ย ดีอะ มีมอไซค์ให้เช่าขี่ชมวิวด้วย
ลองไปค้นดู Royal Enfield Classic 350 ว่า
หน้าตาเป็นไง หูย สวยClassicมาก ลองหาราคาดูซิ
เผื่อจะถอยมาขี่เล่นซีกคัน อะ จ๊ากกก 139900 บาท
งั้นเช่าเค้าขี่เอาก็แล้วกัน 555

ปล.อ.เต๊ะ ขี่มอไซค์แบบมี คลัชเป็นด้วยนะ
หัดขี่คันแรก ก็มอไซค์ ฮอนด้า 2สูบ ท่อคู่เลย
ขี่ไปล้ม ตอนนั้น10กว่าขวบ นั่งร้องไห้
เพราะยกมอไซค์ตั้งไม่ได้
มันหนักมาก 555

 

โดย: multiple 15 กุมภาพันธ์ 2565 10:50:45 น.  

 

ใช่ ๆ นั่งข้างหน้านี่แหละดี
แต่ไม่ขอนั่งหน้าสุดแล้วกัน ยังขยาดกับรถที่กรุงเทพฯ อยู่อะ
คนขับรถเมล์,รถตู้ชอบปาดซ้ายปาดขวา จี้คันหน้าแบบชิด ๆ
พอนั่งหน้าสุดนี่ภาพมันใกล๊~ใกล้อย่างกะหนังสามมิติแน่ะ!
นั่งไปเสียวไป นึกว่าเสยคันหน้าไปหลายทีแล้ว
แต่รถโดยสาร เลห์-ลาดัก ไม่น่ามีอย่างงี้เนอะ
ตอนกลางวันยังเห็นมีรถสวนกันบ้าง
แต่กลางคืนนี่แทบไม่เจอรถสวนกันบนถนนเลยใช่มั้ย ^^"

 

โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก 15 กุมภาพันธ์ 2565 15:39:03 น.  

 

@ทุเรียนกวนฯ : หน้าตาของรถที่นั่งมาคือคันสี
ขาวนะ จากที่เห็นในรูป เบาะหน้าสุดมันไม่มีพนัก
พิงคออ่ะ คิดว่าควรเว้นให้คนท้องถิ่นนั่งคุยเป็น
เพื่อนคนขับดีกว่าเด๋วเกิดแกหลับใน แล้วจะพาร่วง
ตกเหวกัน

ช่วงเวลาปล่อยรถน่าจะมีกำหนดไว้แล้ว
จำได้ว่าตอนขามา เคยสวนทางกับรถบรรทุก
น้ำมัน ช่วงหัวค่ำ

ว่าแล้ว เด๋วจะลองไปค้นรูปดูก่อนน้อ

 

โดย: กาบริเอล 15 กุมภาพันธ์ 2565 16:04:30 น.  

 

สวัสดีค่ะ
เพิ่งเข้ามาตามเที่ยว
เราเป็นคนมีปัญหาเรื่องห้องน้ำห้องท่า การกินสัมพันธ์กับห้องน้ำ ไปไม่ได้แน่ ๆ เลยถึงจะอยากไป

 

โดย: tuk-tuk@korat 16 กุมภาพันธ์ 2565 16:41:13 น.  

 

ลำพังผู้หญิงเดินทางคนเดียว
น่ากลัวๆ
แต่คงเป็นเมืองท่องเที่ยว (แม้จะเป็นแนวผจญภัย)
ชนพท้นเมืองชาวเมืองคงถูกปลูกฝังมาให้ดป็นมิตรกับทุกเพศทุกวัย

 

โดย: เริงฤดีนะ 7 มีนาคม 2565 10:21:49 น.  

 

เอามั่ง

ขคมม สรคอพ !!!

 

โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก 9 มีนาคม 2565 8:51:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.