Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
12 พฤศจิกายน 2557
 
All Blogs
 

Nainital ณ กาลครั้งหนึ่ง (3)



บันทึกการเดินทางในอินเดีย ครั้งที่ 2 : ตุลาคม 2014

(ได้ทำการเรียบเรียงเนื้อหาใหม่อีกครั้งในปี 2017) 






ฉันอยากเดินขึ้นไปบนภูเขา แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนดี?

เมื่อนึกไปถึงสมัยเรียนใน คาบวิชา ลูกเสือ-เนตรนารี  บอกตามจริงเลยว่า
ไม่เคยชอบชั่วโมงเรียนนั้นเท่าไหร่  
เว้นเสียจาก 'การเดินทางไกล' 
ที่ต้องเดินเท้าออกไปยังพื้นที่รอบนอกโรงเรียนไปหลายกิโลเมตร
ซึ่งฉันก็มักจะตื่นเต้นเสมอ กับการที่จะได้ออกไปเห็นภูมิทัศน์รอบนอก
ว่ามีอะไรบ้าง...
มันคงเป็นชั่วโมงเรียนเดียวที่ทำให้ใจฉันได้เตลิด
ไปถึงไหนต่อไหน
ได้ และคิดถึงเรื่องการเดินป่าเดินเขา บนเส้นทางแปลก ๆ
ที่อาจจะไร้ชื่อเรียก 
ไร้คนสำรวจมาก่อน

เอาน่า ถึงจะดูเป็นความคิดที่ไกลเกินจริงไปหน่อยก็เถอะ

แต่ในวันนี้ ภูเขามันก็อยู่ตรงหน้าเราแล้วนี่ 




หากมองจากแผนที่จะพบว่าจุดชมวิวหลักทั้งสามแห่ง มีที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากกัน
และดูเป็นไปไม่ได้เลยว่าจะเดินไปได้ครบในหนึ่งวันหากไม่พึ่งพารถยนต์

กลุ่มคนที่มาพักยังเรือนรับรองจะเดินทางออกเที่ยวรอบเมืองกันด้วยรถรับจ้าง
ไปยังสถานที่ต่าง ๆ และหากว่าฉันจะร่วมหารค่ารถไปด้วยกันก็ยังมีที่ว่างเหลืออยู่
แต่ฉันไม่ค่อยชอบนั่งรถชมเมือง จากนั้นลงไปเก็บรูปตามจุดต่าง ๆ อย่างละนิด-
อย่างละหน่อย สุดท้ายแล้วก็เลยไม่ได้ตัดสินใจไปกับพวกเขา

ฉันอยากเดินขึ้นเขาด้วยเท้าไปเรื่อย ๆ มากกว่า หากเป็นไปได้ก็จะไปจนถึง
ที่ตั้งของ
 China Peak (อ่านว่า ชีน่า) หรือในอีกชื่อก็คือ Naina Peak 
หนึ่งในเส้นทางเทรลของที่นี่ มันอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,610 เมตร
ว่ากันว่าจากที่นั้นจะสามารถมองเห็น  Camel's Back จุดชมวิวบนเขาสูง
ที่เมืองมัสซูรี ซึงตั้งอยู่ในฟากฝั่งการ์ฮวาลได้ด้วยตาเปล่า

การไปถึงยังจุดหมายที่ว่านั้น โดยคร่าวแล้วหากไม่นั่งรถรับจ้าง 
เราก็สามารถเดินเท้าจาก Mallital ขึ้นไปได้ หรือจะย่นย่อให้ไวขึ้นหน่อย
ก็ใช้ Ropeway ขึ้นไปยัง Snow View แล้วก็เดินต่อไปอีกราว 5 กิโลเมตร






รูปปั้นของ Govind Ballabh Pant บริเวณ Mall Road 
รัฐบุรุษ และเป็นหนึ่งในผู้นำการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อเรียกร้องเอกราชของอินเดีย 


จุดเริ่มต้นการเดินในครั้งนี้ ก็คือปากทางบริเวณตั้งของ Hotel city heart ซึ่งอยู่
ติดกับ Nainital Mountaineering club
แถวนั้นจะมีร้านขายของชำเล็ก ๆ ตั้งอยู่
เลยแวะซื้อขนม น้ำดื่ม พกติดไปด้วย

บริเวณทางเดินจะเป็นถนนคอนกรีตแคบ ๆ และมักจะมีรถมอเตอร์ไซค์
วิ่งสวนผ่าน
มาบ้างซึ่งก็ไม่ได้ดูเปลี่ยวจนเกินไป  แต่สิ่งที่ชอบที่สุดสำหรับเส้นทางนี้ก็เห็นจะ
เป็นร่มไม้ระหว่างทางนี่แหละมันร่มเย็นเสียจนไม่เจอแดดนี่แหละ และบางครั้งก็จะ
มีพุ่มไม้เตี้ยที่ออกดอกให้เห็นตามริมทางนอกเหนือไปจากมอสสีเขียว

ฉันอาจเผลอเรอเดินเลี้ยวผิดตรงทางแยก แต่ก็ไม่ได้ใช้เวลาหลงเดินนานนัก
เพราะมักจะเจอทางตัน
ที่เป็นพื้นที่บ้านขนาดย่อมของใครสักคนตั้งอยู่ จะมีป้าย
ติดบอกไว้
เป็นภาษาอังกฤษข้างรั้วเสียด้วย  พอดูจากชื่อก็น่าจะคาดเดาได้ว่า
เจ้าของเรือนคงเป็นชาวตะวันตก
ที่มาลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่กันตั้งแต่ในยุคก่อน





ไนนิตาล ในอดีตเคยถูกเก็บงำเป็นสถานที่ลึกลับจนยากจะมีคนภายนอกรู้จัก
ก็เห็นจะมีแต่เพียงชาวบ้านท้องถิ่น หรือคนเลี้ยงสัตว์ในละแวกใกล้เคียงเท่านั้น
ที่รู้เส้นทาง ซึ่ง
พวกเขาก็ถือว่าที่นี่เป็นที่ประทับของเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์


ในปี ค.ศ. 1823 ก็ได้มีชาวตะวันตกคนแรก ๆ มาสำรวจเจอที่ตั้งของไนนิตาลเข้า 
นั่นก็คือข้าหลวงชาวอังกฤษ G.W. Traill ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการณ์
ประจำภูมิภาคคูมอนและการ์ฮวาล
(Commissioner of Kumaon and Garhwal) 

แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้เมืองแห่งนี้เป็นที่แพร่หลาย เพราะด้วยความที่ผู้ตรวจการณ์ผู้นี้
ค่อนข้างให้ความเคารพความเชื่อท้องถิ่น 
โดยเกรงว่าผู้คนจะแห่แหนกันเข้ามาจน
ทำลายความเงียบสงบของสถานที่
ศักดิ์สิทธิ์นี้เข้าสักวัน  เรื่องของเมืองแห่ง
ทะเลสาบที่ซุกซ่อนตัวกลางหุบเขา 
จึงยังถูกอุบเงียบไว้เป็นความลับต่อไป 


กระทั่งปี ค.ศ. 1839  ตามบันทึกในหนังสือ 'Wanderings in the Himmala' 
ของผู้
ค้าน้ำตาลชาวอังกฤษนามว่า Peter Barron ที่ได้เดินทางมาพบกับ
สถานที่แห่งนี้เข้าด้วยความบังเอิญ หลังจากที่ได้ยินคำร่ำลือมานาน และอ้างว่า
ก่อนหน้านี้เคยมีพวกนักสำรวจชาวยุโรปหลายรายพยายามที่ค้นหาไนนิตาล
แต่ก็ล้มเหลวเพราะคนนำชาวท้องถิ่นมักจะแกล้งพาเลี่ยงไปยังเส้นทางอื่น

ภาพของไนนิตาลเมื่อแรกเห็น ทำให้ Barron ถึงกับหลงไหลไปกับบรรยากาศ
ของทะเลสาบและป่าไม้ จึงนึกคิดอยากจะสร้างให้เป็นเมืองตากอากาศ
เขา
ได้หวนกลับมาที่นี่อีกในปี ค.ศ. 1841 โดยได้สร้างเรือนพักที่เรียกว่า
Pilgrim's cottage เอาไว้ และต่อมาก็การ
ขนนำเรือใบมาแล่นในทะเลสาบ 
ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ที่้ทำให้ไนนิตาลไม่ใช่เมืองลี้ลับอีกแล้ว
แต่ได้กลับกลายไปเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยม 

กระทั่งมีสถานะเป็นเมืองหลวงภาคฤดูร้อนของ United Provinces ในเวลาต่อมา





เส้นทางเดินขึ้นเขา ที่เริ่มต้นจาก Hotel City Heart จะเต็มไปด้วยร่มไม้ตลอดทาง



บ้านเรือนบนเขาที่เห็นบางส่วน เราชอบต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นปกคลุมพื้นที่ด้านบนที่พักนี้มาก



ฉันเดินเลี้ยวมายังที่แห่งหนึ่ง ตามเสียงคนสวดมนต์ด้วยภาษาที่ไม่คุ้นเท่าไหร่
ท่องวนไปมาอยู่ไม่กี่คำ โดยพบทางเดินขึ้นบันไดตรงไปยังวัดเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ 



แผ่นป้ายต่าง ๆ ที่ติดแปะไว้ตามต้นไม้ทั่วบริเวณส่วนมากก็จะเป็นคำสอน
ของทะไลลามะ องค์ปัจจุบัน โดยจารึกไว้เป็นภาษาอังกฤษ



บริเวณดาดฟ้าของวัดมีสัญลักษณ์ของธรรมจักรและกวางหมอบตั้งอยู่ 
ส่วนพื้นที่ลานด้านล่างถัดไปจากนี้ เดาว่าน่าจะเป็นที่พักของผู้ที่มาแสวงบุญ


ที่แห่งนี้คือวัดพุทธวัชรยานแบบทิเบต นิกายเกลุกปา (Gelugpa) ขนาดเล็ก
หรือที่รู้จักกันในนาม'นิกายหมวกเหลือง' โดยมี ทะไลลามะ เป็นประมุขสูงสุด

ส่วนเจ้าของเสียงท่องสวดที่ว่านั้น เป็นหญิงสูงวัยกำลังกราบอัษฎางคประดิษฐ์
(
chag tsel) วนหลายรอบอยู่เป็นเวลานานที่ลานด้านนอก แต่จะว่าไปแล้วที่นี่
คือวัดพุทธทิเบตแห่งแรกของฉันที่ได้เข้ามาเยี่ยมเยือนเชียวนะ แต่น่าเสียดาย
ที่ในขณะนั้นกลับมีเพียงหญิงชาวทิเบตอยู่สองสามรายที่คุยกันอยู่ พวกเธอมาเดิน
หมุนวงล้ออธิษฐานกันและสักพักก็หายไป  ไม่มีพระประจำอยู่สักรูปเลย ส่วนพื้นที่
ด้านในตัววัดจะมีธรรมมาสที่วางภาพถ่ายขององค์ทะไลลามะตั้งเป็นประธาน
ดังนั้นฉันจึงแค่แวะมาเห็นได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น 




ธงมนตรา (Lung Ta) ที่แขวนตามต้นไม้บริเวณพื้นที่วัด



ป้ายทางเดินไป Birla Vidya Mandir โรงเรียนประจำฯ ที่ตั้งอยู่บนเขา

ถัดไปจากพื้นที่วัด เมื่อเดินออกมาได้สักระยะก็จะมาถึงยังหมู่บ้านเล็ก ๆ
ที่อยู่ใกล้กับทางแยกไปโรงเรียนประจำชายล้วน ซึ่งมีที่
ตั้งอยู่บนเขา  
ส่วนชุมชนบริเวณนั้น ก็มีบ้านพักอาศัยอยู่แค่ไม่กี่หลังคาเรือน  มีร้านน้ำชาเล็ก ๆ 
ร้านขายของชำ ที่ชาวบ้านเปิดร้านไว้ให้เป็นจุดแวะพักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
เพราะบริเวณนี้มีเส้นทางเชื่อมต่อกับถนนที่สร้างให้รถยนต์ขับขึ้นมาบนเขาได้



ตู้ไปรษณีย์สีแดงท้องถิ่นที่ตั้งตรงทางแยก
เส้นทางต่อจากนี้จะเชื่อมไปถึงจุดชมวิวเดียวกับที่ขึ้นมาทาง Ropeway 




คิดว่าน่าจะสร้างไว้เพื่อเป็นทางระบายน้ำ



วัดฮินดู ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลไปจาก Ropeway และเมื่อเดินต่อไป
มีที่ตั้งของโรงเรียนท้องถิ่นเล็ก ๆ แล้วก็ที่ตั้งของชุมชน 




ซากปรักหักพังเก่า ๆ ที่ไม่ได้ถูกระบุไว้ว่าถูกใช้สร้างเป็นอะไรมาก่อน


เส้นทางที่เป็นถนนสำหรับรถวิ่งขึ้นน่าจะเป็น ถนน Kilbury แต่นาน ๆ ทีถึงจะเจอ
รถสวนผ่านมาและเข้าจอดพักข้างทาง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปถ่ายรูปมุมสูง
ของทะเลสาบ ไม่ก็แวะ
เล่นเกมยิงปืนอัดลม ปาเป้า ส่องกล้องทางไกล ฯลฯ
หรือซื้อของกินเล็กน้อย
ตรงซุ้มเล็ก ๆ ที่จัดเตรียมไว้รองรับตามจุดแวะพัก




ภาพทะเลสาบจากมุมสูง ในวันที่หมอกลงจัด ไม่มีวี่แววว่าจะได้เห็นเทือกเขาหิมาลัย
ที่มีหิมะปกคลุมตามที่คิดซะแล้ว 



ชาวบ้านที่มาเก็บไม้จากในป่า กับรถรับจ้างที่จอดรอนักท่องเที่ยวตรงข้างทาง


ป่าไม้สีเขียว 



ปากทางเข้า Jungle Camp ; Kahal สถานที่พักแรมในป่า และส่องนก





ถ้าจำไม่ผิด กว่าฉันจะเดินขึ้นมาถึงจุดนี้ก็บ่ายสองกว่าแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววว่า
จะถึงที่หมายเสียที ระหว่างข้างทางก็มีคนงานกำลังทำการซ่อมแซมถนนกันอยู่

ฉันไม่ค่อยสนุกกับเส้นทางที่ไม่มีป้ายบอกกำกับแบบนี้สักเท่าไหร่ (หรือมีแต่
ก็อ่านไม่ออก) คงได้แต่เก็บจำรายละเอียดที่ตั้งเอาไว้เทียบเคียงกับแผนที่ภาย
หลังจากนี้เท่านั้น 

ยิ่งอยู่สูงขึ้นหมอกก็ยิ่งลงจัด อากาศก็เย็นลง 
และเริ่มลังเลที่จะไปต่อ ... 



แผนที่จาก Loney Planet ที่มีอยู่ ไม่ได้ระบุอะไรเป็นพิเศษถึงเส้นทางเดิน
หลังจากผ่าน Snow view point  ไปแล้ว มันได้แต่ลากทิศทางไปสู่ China peak
แบบโดยคร่าว ซึ่งไม่ได้ลงถึงรายละเอียดสถานที่เล็ก ๆ ระหว่างนั้นให้เป็นจุดสังเกต
หรือใช้เทียบเคียงกับระยะห่างของที่หมาย ฉันจึงไม่รู้ว่าเดินมาไกลขนาดไหน 
จนภาพของวัดฮินดูสีเหลืองที่ตั้งอย่างโดดเดี่ยวตรงช่องเขาปรากฏให้เห็น
นั่นก็คือที่ตั้งของวัด Satya Narayan โชคดีที่วันนั้นมีนักบวชประจำอยู่
จึงได้รู้ชื่อศาสนสถานนี้ ไม่อย่างนั้นละก็คงหาพิกัดสุดท้ายของตัวเองไม่เจอแหง






นักบวชที่ประจำอยู่ที่นี่มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ท่านพอสื่อสารภาษาอังกฤษได้นะ
ท่าทางใจดีและมีวิธีการต้อนรับที่แปลกไปจากที่คิดไว้ เพราะฉันเคยเห็นแต่
การเจิมหน้าผากตามแบบแผนที่คุ้นตา 

พราหมณ์หยิบเอาดอกไม้สีเหลืองที่คล้ายดาวเรืองแต่กลีบไม่ซ้อนที่วางในพาน
มาบิกลีบออกพร้อมกับแตะตรงหน้าผาก จากนั้นก็โปรยกลีบดอกที่เหลือลงบน
ศีรษะไม่มีมนตราใด ๆ ท่องกำกับ แต่พูดว่า "for god's visitor" เป็นการทักทาย
ดูช่างเป็นการต้อนรับต่อผู้มาเยือนอย่างอบอุ่นและเรียบง่ายดีจริง

ก่อนออกจากที่นั่น ท่านก็ยื่นข้าวตอกกับก้อนน้ำตาลมาจำนวนหนึ่ง 
พร้อมกับอวยพรให้ฉันโชคดีกับการเดินทาง





ทางที่จะไปต่อยังจุดชมวิว "ชีน่า พีค" ดูเหมือนจะเริ่มเลือนลางไปไกลแล้ว
แม้นักบวชจะบอกว่ามันอยู่ถัดจากนี้ประมาณสามกิโลเมตรเท่านั้น แต่ถนนหนทาง
ที่กำลังถูกบูรณะก็เต็มไปสิ่งกีดขวางจนดูไม่น่าเดินเอาเสียเลย 

ฉันมาหาจุดปักหลักยืนมองแนวเขาตรงเบื้องหน้าที่อยู่ถัดไปไม่ไกลไปจากวัด
สักเท่าไหร่  มันตั้งสลับซับซ้อนกันไปมาโดยไม่รู้เขาลูกไหนชื่อว่าอะไร และต่อให้
ไปถึง ชีน่า พีค โดยการเช่าลาขี่เข้าไป ทิวทัศน์ของมันก็คงสุดสายตาแค่ในระดับ
นี้อยู่ดี

ในที่สุดฉันก็เลือกที่จะเดินกลับ ก่อนที่เมฆฝนก่อตัวครึ้มในอีกไม่ช้า






สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ 

- สวนสัตว์ 
- Raj Bhawan (Governor House)
- Eco cave garden
- จุดชมวิว Tiffin Top

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ 

- Kilbury ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าเขา ไกลจากตัวเมือง Nainital 12 กิโลเมตร

เมืองที่อยู่ใกล้เคียง 

- Ranikhet





 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2557
34 comments
Last Update : 27 ธันวาคม 2560 11:19:35 น.
Counter : 1109 Pageviews.

 

โหวต Travel Blog ให้เลยครับน้องฟ้า

อย่าหนึ่งที่ชอบมากที่สุดของอินเดียก็คือ
การรักษาต้นไม้นี่ล่ะครับ
เค้าแทบไม่ตัดต้นไม้เลยเน๊าะ

ต้นใหญ่ เขียวชะอุ่ม ร่มรื่นมากจริงๆ


 

โดย: กะว่าก๋า 13 พฤศจิกายน 2557 8:27:02 น.  

 

บ้านเราตัดต้นไม้เป็นเรื่องปกติครับ 555
ต้นฉำฉา ต้นยางใหญ่ๆ
ชาวบ้านแอบเจาะต้นไม้ให้เป็นรู
แล้วเอาน้ำมันเครื่องหยอดเข้าไปในต้นให้มันตาย
จากนันก็ตัด เพราะคิดว่าต้นไม้ใหญ่เหล่านั้นขวางทาง เกะกะ

ต้นไม้อายุ 70-80 ปีในเชียงใหม่ถูกตัดไปเยอะมากครับในรอบหลายปีที่ผ่านมา


 

โดย: กะว่าก๋า 13 พฤศจิกายน 2557 11:13:26 น.  

 

ดูร่มรื่นดีแบบคุณก๋าบอก
แตเดินเยอะขนาดนี้ ป้าแก่แล้ว คงไม่ไหวค่ะ
ถึงวันนี้จะเดินไม่ถึงจุดหมาย
แต่ก็ได้แวะทั้งวัดฮินดูและวัดคริสต์นะคะ
ถือว่าไม่เสียเปล่าค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

 

โดย: เนินน้ำ 13 พฤศจิกายน 2557 11:48:41 น.  

 







เออ .. อินเดีย ..


ก้อ อยากไปอีกนะคะ ..

แต่ .. 3 รอบ ละ ..

กระจายรายได้ ไปที่อื่นมั่ง ..










 

โดย: foreverlovemom 13 พฤศจิกายน 2557 12:22:53 น.  

 







555555555555555555555555555



ของพี่ป๋อง เจอแต่ต้น มะรุม ..

ขึ้นอยู่ทั่วไป .. ถามเขาว่า กินใบ บ้างหรือเปล่า ??

เขาบอกว่า กินแต่ ลูกยาวๆ ของมัน ..



 

โดย: ปิดเครื่อง เปิดใหม่ ยังไม่ได้ 3Log in IP: 101.109.226.71 13 พฤศจิกายน 2557 13:00:31 น.  

 








. . . ถ้า " อ๊อกซิเจน " ทำชีวิตนี้ดำรงอยู่ได้ . . .

. . . " ความรัก " . . . ก็ทำให้ . . .

. . . การมีชีวิตนั้นมีความหมายมากยิ่งขึ้น . . .





*~..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..~*


*~ต้นกล้า...ของหัวใจ~*








 

โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* 13 พฤศจิกายน 2557 13:50:18 น.  

 

โหวตเดินทางค่ะ ก็เดินเก่งโพด ๆ สูงมากจริง ๆ

 

โดย: tuk-tuk@korat 13 พฤศจิกายน 2557 14:11:42 น.  

 

ตอยผมอยู่จีนได้ไปจงเตี้ยนก็มีบรรยากาศแบบวัดธิเบต เหมือนกันมีธงแบบในภาพเลย

คนท้องถิ่นรู้จักกันหมดมั้งครับ ไม่มีเลขที่แต่รู้ว่าบ้านใครก็ส่งได้ละ จะว่าดีก็ดี จะว่าไม่ดีก็ไม่ดีนะ


ผมมาช้าไปหน่อย พอดีแวะไปดูบล็อกเก่าๆ ด้วยน่ะ ไปครั้งที่ 2 ถึงจะรู้อะไรมากขึ้นกว่าครั้งแรก แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นหรอกว่ามั้ยครับ

+

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 14 พฤศจิกายน 2557 0:15:03 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog

น้องฟ้าที่น่ารัก แม่บุยเข้ามาสวัสดีแล้วจะขอไปทำธุระก่อน รับรองกลับมาอ่านแน่ๆ จ้า

แม่บุญก้อัพบล้อคก่อนหนีเที่ยวเช่นกันวันนี้

 

โดย: Maeboon 14 พฤศจิกายน 2557 2:47:13 น.  

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 14 พฤศจิกายน 2557 3:32:30 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า



 

โดย: กะว่าก๋า 14 พฤศจิกายน 2557 6:06:31 น.  

 

หวัดดีครับ

ตามไปเที่ยวด้วย
ฝั่งนี้ยังไม่เคยไปเลย คงต้องหาโอกาส

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล๊อกนะครับ

 

โดย: wicsir 14 พฤศจิกายน 2557 9:09:37 น.  

 

สวัสดีจ้าน้องฟ้า

โอ้โห ที่ไปเที่ยวตรงนี้ มีรถกระเช้าให้ขึ้นด้วย น่าตื่นเต้น หวาดเสียวมากเลยนะนี่

เพราะ อ.เต๊ะ เคยดูหนังทีไร รถกระเช้าชอบเสีย ชอบค้างกลางเหวทุกทีเล้ย ไม่รู้มันเป็นอาราย อิอิ

แล้วก็ที่หนาวๆแบบนี้ น้ำไม่ต้องไปอาบบ่อยหรอกจ้า เดี๋ยวมันจะไปชะไขมันที่ผิวออกหมด เราจะยิ่งหนาวหนัก

คิดได้ไงเนี่ย เข้าข้างน้องฟ้าเต็มที่เลย 555

โห แล้วทางเดินขึ้นเขา นี่ไม่ใช่ใกล้ๆเลยน้า 2600ม. ก้เกือบ 3กิโล
เป็น อ.เต๊ะ น้ำหนักตัวเกือบเท่าข้าวสาร1กระสอบ

คงเป็นลมสิ้นสติ คลานอยู่แถวนั้น ตั้งแต่ 30เมตรแรกแล้วละ อิอิ
ถ้าเป็นไปได้ อ.เต๊ะ ขอเช่าซาเล้งซักคัน ให้แขกบิดขึ้นไปส่งดีฝ่านะ 555

แล้วก้เรื่องเข้าวัด กราบพระนี่ เป็นปัญหากับ อ.เต๊ะ มาเลยดีทีเดียว เพราะนั่งพับเพียบ คุกเข่า แล้วมันติดพุง นั่งไม่อยู่ มันคอยจะล้มกลิ้งเป็นลูกขนุนอยู่เรื่อย 555

จะให้กราบแบบ อัษฎางคประดิษฐ์ คงไม่ได้แน่

ต้องนอนคว่ำราบทั้งตัว กราบได้ท่าเดียว อิอิ

ดุไปดุมาเห็นภาพสาวแขก ทูนของหนักขนาดนั้น เดินตัวปลิวขึ้นเขา

อ.เต๊ะ เปลี่ยนใจไม่เช่าซาเล้งดีฝ่า
จะจ้างสาวๆพวกนี้สัก2-3คน อุ้มเข้าสะเอวขึ้นเขา ท่าทางจะสบายกว่ากันแยะ สุดยอดจริงๆ อิอิ

แล้วก็อาหารมื้อนี้ ดูดีกว่ามื้อที่แล้วนะนี่ แถมมีช้อนให้ด้วย อ.เต๊ะ นึกว่าไปอินเดียนี่ ต้องขยำข้าว ยกซดแกงตลอดซะแล้ว 555

แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อยๆ ไอ้ที่เละๆนี่ หน้าตาเหมือนน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะเลยเนอะ เอ๋ หรือมันจะเป็นแกงกะหรี่น้อ สงสัยจริง

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรและกำลังใจด้วยจ้า

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

กาบริเอล Travel Blog ดู Blog



 

โดย: multiple 14 พฤศจิกายน 2557 10:10:11 น.  

 

รอลุ้นชม China Peak เสียดายไปไม่ถึง

 

โดย: สำรวจฟ้า IP: 58.137.161.226 14 พฤศจิกายน 2557 11:35:48 น.  

 

ใช้ชีวิตมาระยะนึง
พี่ก๋าคิดว่าชีวิตคือการลดทอนนะ
อะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกไปจากชีวิต
บางคนอาจจะคิดว่าต้องหาอะไรมาเติมมาเพิ่มตลอด
ก็ว่ากันไป

 

โดย: กะว่าก๋า 14 พฤศจิกายน 2557 12:57:04 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

หฯท่องเที่ยวอินเดียเล่าเรืองท่องเที่ยวได้น่าสนใจมาก
กลับบ้านหรือยัง

 

โดย: ยายเก๋า (ชมพร ) 14 พฤศจิกายน 2557 14:15:38 น.  

 

หนูเดินเก่งมาก นับถือเลย พี่คงเดินไม่ไหวแน่ๆ เพราะสูงเกิน เห็นบรรยากาศแล้วก็อยากไป อากาศคงดีมาก ติดแต่เรื่องกิน...เรื่องใหญ่ อิ อิ เพราะกินเหมือนๆ เดิมทุกวันยังจำได้ดี ถ้าจะไปคงต้องแอบเอาน้ำพริกอะไรสักอย่างติดตัวไป แล้วกินกับไก่ทอด น่าจะพอไหว คนแก่ก็งี้แหละ

 

โดย: Maeboon 14 พฤศจิกายน 2557 14:39:12 น.  

 





สวัสดีค่ะ ..



 

โดย: foreverlovemom 14 พฤศจิกายน 2557 21:25:52 น.  

 

ขอบคุณสำหรับโหวตครับ
มาเที่ยวด้วยครับ
โหวตท่องเทีี่ยวไปแล้ว เดี๋ยวมาใหม่ครับ

 

โดย: เศษเสี้ยว 14 พฤศจิกายน 2557 22:48:36 น.  

 


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

ชอบอ่านการเดินทางท่องเที่ยว
ของน้องฟ้าค่ะ เดินเก่งมาก ๆ

 

โดย: AppleWi 14 พฤศจิกายน 2557 22:48:39 น.  

 

สวัสดีค่า คุณฟ้า ^^
ไนนิตาล เพิ่งเคยได้ยินค่ะ
คุณฟ้าไปหลายๆที่ๆไม่เคยรู้จักเลยนะคะ
คงต้องศึกษามากๆแน่ๆก่อนไป

ชีน่าปาร์ค จำๆๆเลยค่ะ อ่านทีแรก ไชน่าปาร์คจริงๆด้วย


วัดธิเบตเหมือนกันทุกที่เลยนะคะ
สีเน้นแดง สดๆ
อีกนิดเดียวจะถึง แต่ก็ไกลโขอยู่นะ สอง กม.เผลอๆกลับไม่ทัน
ดีแล้วค่อยเริ่มใหม่

ชอบประโยคที่ว่า
สวัสดีคุณภูเขา เราสูงเท่ากันแล้วนะ
เนี่ยๆ เขียนหนังสือได้เลยนะคะ

ขอบคุณที่พาเที่ยวค่า

 

โดย: lovereason 15 พฤศจิกายน 2557 1:09:29 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า

 

โดย: กะว่าก๋า 15 พฤศจิกายน 2557 7:11:07 น.  

 

เห็นต้นไม้ ใบเขียว ถนนเล็กแต่น่าเดินไป แต่เดินกลับ คิดดูก่อน
ครับ คงไกลน่าดู

คุณฟ้าเขียนเล่า มองเห็นภาพเลยครับ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
lovereason Literature Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

โหวตให้คุณฟ้าครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 15 พฤศจิกายน 2557 9:30:13 น.  

 






สวัสดี สาวน้อย ..

แวะมาเยี่ยมค่ะ ..




 

โดย: foreverlovemom 15 พฤศจิกายน 2557 19:21:39 น.  

 

pantawan Health Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog

ขอบคุณที่แวะไปอวยพรวันเกิดโมเสสคับ
yeepeang de nude นี่อาร์ตเล็ก ๆ คับ อาร์ตใหญ่ ๆ แม่โมเห็นทุกวัน อิ อิ

 

โดย: mariabamboo 15 พฤศจิกายน 2557 20:34:23 น.  

 


อุ้มตามมาเที่ยวด้วยคน
เดินเก่งจังเลยนะคะ...สุดยอด นับถือค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 15 พฤศจิกายน 2557 20:37:29 น.  

 

รักษาสุขภาพด้วยนะครับน้องฟ้า
พี่ก๋าก็มึนๆจะเข้านอนแล้วล่ะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 15 พฤศจิกายน 2557 22:58:18 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า

 

โดย: กะว่าก๋า 16 พฤศจิกายน 2557 7:12:40 น.  

 

บรรยากาศน่าใช้ชีวิตจริงๆ

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 16 พฤศจิกายน 2557 12:09:23 น.  

 


ตามไปเที่ยวด้วย
ดูสดชื่น สีสันสดใสดีค่ะ
ส่งกำลังใจค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้า(น)ป่า Home & Garden Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog
Karz Music Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: pantawan 16 พฤศจิกายน 2557 15:53:27 น.  

 

ตามมาอ่านต่อค่า

อืม ไม่เผืออ่าน ไชน่านะคะ เข้าใจว่าอ่านอย่างนี้จริงๆ
แล้วที่จริงต้องอ่านว่ายังไงคะ

แม้ mission failed แต่ก็เดินทางกลับมาอย่างปอดภัยถือเป็นของขวัญแล้วค่ะ ^_^

คุรฟ้าเก่งจัง กินอาหารอินเดียได้

 

โดย: AdrenalineRush 23 พฤศจิกายน 2557 0:40:27 น.  

 

บันทึกการเดินทาง และข้อมูลประกอบ น่าอ่าน น่าสนใจมากค่ะ

ชอบๆ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 7 มกราคม 2558 16:50:47 น.  

 

การท่องเที่ยว ที่แสนวิเศษนั้น"เดินแล้วก็เดิน" เท่าที่ลุงสังเกตมา การชอบเดินท่องเที่ยวฯลฯ ชาวเอเซีย จะแพ้ชาวตะวันตก,

Nainital ลุงเพิ่งได้ยินนามนี้ ก็ครั้งมาตามแอบอ่าน "ที่คุณหลานฟ้า"นี่แหละ

ทุกวันนี้ ลุงแอ็ดก็เป็นคนหนึ่ง ที่ชอบเดินๆๆๆ เคยแปลกใจตนเองอยู่เหมือนกัน ทำไม?ตนของเรา จึงชอบเดินๆๆๆๆ มองโน้นนี่นั่น หากย้อนอดีตกลับไป(อีกแหละ)สมัยลุงแอ็ดไปเป็นเด็กวัดไว้หางเปี้ย หมาที่ชาวบ้านเลี้ยง มันคือ จะเป็นศัตรูกับลุง มันไล่ๆๆๆกัดลุง แล้วลุงก็วิ่งไปร้องแหกปาก จนลั่นทุ่งสวนทุ่ง(สวนทุ่งแม่กลองปี2498+)เพื่อให้เจ้าของหมา ออกมาห้ามหมา ไม่ให้มากัดลุง "อยู่ยอดต้นมะขามอ่ะจิ"...ฮ่าาาาา...ไอ้หมาน่าโง่...อดกัดตูดตรู..

การที่ได้ไปเดินฯลฯ...ให้ถึงท้องถิ่นที่ ที่เราไปเยือนนั้น ลุงตนหนึ่งที่ชอบมั้กๆมาก แต่น่าเสียดาย ลุงแอ็ดก็มีข้อจำกัด ที่ตนของลุง อ่าน/พูด ภาษาสากล มันเป็นกำแพงขว้างกั้น สำหรับลุงแอ็ดจริงๆ....

ขอบคุณหลานฟ้ามั้กๆมาก ที่บันทึกการเดินทางฯลฯ ให้ลุงแอ็ดได้มีโอกาส ได้มาอ่านพบเข้าโดยที่ลุงแอ็ดไม่เคย อ่านฯแนวนี้มาก่อนเลย....

 

โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) 15 กุมภาพันธ์ 2562 14:27:12 น.  

 

ปล.
บันทึก"การเดินทาง"ในยุคปัจจุบันของหญิงไทยเธอหนึ่ง(2558+) ที่ชื่อ"ฟ้ากาบริเอล"กับงานเขียนฯลฯ.....

 

โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) 15 กุมภาพันธ์ 2562 14:33:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.