Bloggang.com : weblog for you and your gang
may the force be with you
Group Blog
หน้ารถ
ห้องโดยสาร
บั้นท้ายรถ
ธันวาคม 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
4 ธันวาคม 2550
นั่งปู๊น ปู๊น ชมทุ่งทานตะวัน
All Blogs
หน๊าว หนาว ที่อ่างขาง (3)
หน๊าว หนาว ที่อ่างขาง (2)
หน๊าว หนาว ที่อ่างขาง (1)
1 วันกับเขาดินวนา (2)
1 วันกับเขาดินวนา (1)
นั่งปู๊น ปู๊น ชมทุ่งทานตะวัน
นั่งปู๊น ปู๊น ชมทุ่งทานตะวัน
By ขลุกขลิกทัวร์
นั่งรถไฟชมทุ่งทานตะวัน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตั้งใจไว้นานว่าจะไปเที่ยวมาหลายปีตั้งแต่ที่การรถไฟเริ่มพาเที่ยวในปีแรกๆ ก็ได้แต่ ว่าจะ ว่าจะ ไม่ขยับเสียที โครงการเลยค้างเติ่งมาหลายปี มาปีนี้ได้ชมทุ่งทานตะวันโดยปู๊นปู๊นทัวร์สมใจอยาก โดยมีคุณนายร่วมขบวนชมทุ่งด้วยกันในวันที่ 2 ธ.ค ที่ผ่านมา เราดักขึ้นรถไฟที่สถานีบางเขน ตามเวลาแล้วรถไฟขบวนรถพิเศษท่องเที่ยวจะถึงบางเขน เวลา 7.11 น. พอถึงเวลารถไฟไม่มา
(อย่างงี้ทุกที)
ก็ได้แต่นั่งรอกันต่อไป เวลาล่วงไปร่วม 20 นาที ได้ยินนายสถานีประกาศให้ผู้จะไปชมทุ่งทานตะวันเตรียมตัวเพราะรถไฟขบวนรถพิเศษท่องเที่ยวมาแล้ว เฮ้อ จะได้ขึ้นรถไฟเที่ยวสักที
พอรถไฟจอดก็รีบพาคุณนายขึ้นตู้ที่ 4 ทันที ตู้ของเราคือ ตู้ที่4/5 เลยต้องเดินไปทางท้ายขบวนอีก 4 ตู้ เพราะรถไฟจอดไม่นาน ขืนเดินไปขึ้นตู้ที่ 4/5 มีหวังตกรถก็คราวนี้ พอเดินไปถึงตู้ที่เราได้ตั๋ว ปรากฏว่าผีหลอกกลางวันแสกๆเลย เฮ้ย ก็ตั๋วที่เราถือระบุว่าตู้ที่ 4/5 ก็ถูกแล้วนี้ ที่นั่ง 33 กับ 34 แล้วทำไมมีเจ้าที่แล้วล่ะ อ้าว งง ล่ะสิ ไรเนี่ย รถไฟออกแล้ว เรา 2 คนยังยืนทำหน้าเอ๋ออยู่เลย พอดีมีเก้าอี้ว่าง 2 ที่เลยนั่งไปก่อน คนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วบอกว่าเขานั่งกันมั่ว ไม่นั่งตามเลขที่ในตั๋ว รถไฟเราก็ขึ้นบ่อยเขาก็นั่งกันตามเลขที่ทั้งนั้น แต่ตู้นี้ออกจะพิเศษ เพราะตู้อื่นที่เดินผ่านมา จะเขียนเลขที่นั่งโดยปากกาเมจิที่ข้างฝารถให้เห็นชัดเจน แต่ตู้ 4/5 กับไม่มี มีแต่เลขที่ติดกับพนัก 33,34,80 งงจัง ทำไมไม่เป็น 35 ล่ะ 80 มาจากไหน แถมเจ้าที่ก็นั่งหลับเหมือนที่ของฉัน ฉันจองยังงั้นล่ะ ไม่รู้ว่า ไม่รู้เลขที่นั่งจริงๆ หรือแสร้งไม่รู้
(หรือว่าเราไม่รักษาสิทธิก็ไม่รู้ ขลุกขลิกตั้งกะขึ้นรถซะงั้น)
นั่งมาได้หน่อย นักท่องเที่ยวอีกกลุ่มขึ้นมาหาที่นั่งเหมือนเราเลย ก็โดนผีหลอกเหมือนกัน เจ้าหน้าที่การรถไฟเลยมากระแซะ พวกผีให้ย้ายไปนั่งที่ตัวเอง เราก็เลยได้นั่งที่ตามที่ระบุไว้ในตั๋ว
(ผียังมาทำหน้าก๊ง ก๊ง อีกนะ)
นั่งชมวิวข้างทางไปเรื่อยๆ พร้อมกับปั้นข้าวเหนียวหมูปิ้งใส่ปากอย่างมีความสุข ไม่นานเท่าไหร่(แค่ชั่วโมงกว่าเอง) ก็ถึงทุ่งทานตะวันที่มองแล้วสุดลูกตาสีเหลืองอร่ามบานเต็มทุ่งไปหมด
(ระหว่างที่รถไฟวิ่งก็มีทุ่งทานตะวันโผล่มาให้เห็นปะปรายเรียกเสียงวี๊ดว้ายจากสาวๆได้มากเหมือนกัน)
มหกรรมกดชัตเตอร์ก็เริ่มขึ้นตั้งแต่รถไฟยังไม่จอดเลย
พอรถจอดก็เฮโลลงไปลุยในทุ่งทานตะวันกันเป็นแถว ทางรถไฟให้เวลา 30 นาที ในการกดชัตเตอร์อย่างไม่ยัง โพสท่าถ่ายรูป 100 แบบ โดยเฉพาะการเอาหน้าตัวเองแนบกับดอกทานตะวันเพื่อถ่ายรูป
(ไม่รู้ว่าความใหญ่ของดอกทานตะวันจะทำให้หน้าเราเล็กลง หรือบานเท่าดอกทานตะวันก็ไม่รู้ ส่วนใหญ่จะเป็นประการหลังซะมากกว่า)
รถไฟกำลังถึงทุ่งทานตะวันที่จะจอดให้ชม
ก็เลยชวนคุณนายตะลุยดงทานตะวันไปตรงจุดคนไม่เยอะเก็บภาพดอกทานตะวัน (คนแค่ตัวประกอบ) ลุยไปลุยมาไม่ไหวแล้ว คันตามตัวยิบๆ เพราะผงจากดอกทานตะวันจะติดตามเสื้อผ้าและผิวเราทำให้คันก็เลยชวนคุณนายขึ้นรถไฟดีกว่า เสียดายดอกทานตะวันเล็กไปหน่อยไม่ใหญ่สะใจเท่าไหร่
พอได้เวลารถไฟก็ออกเดินทางต่อไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ นี้ล่ะที่รอคอย ทุ่งทานตะวันไม่เท่าไหร่เพราะเห็นบ่อย แต่อยากไปดูทางรถไฟวิ่งกลางน้ำในเขื่อนมากกว่า แต่ถ้ามองจากสันเขื่อนจะเห็นว่ารถไฟวิ่งในน้ำเพราะไม่เห็นราง พอเห็นกับตาไม่ผิดหวังจริงๆ ประทับใจ
จอดให้ถ่ายรูปชมวิวประมาณ 20 นาที
แล้ววิ่งต่อไปจอดที่สถานีโคกสลุง เพื่อเปลี่ยนหัวรถไฟมาอยู่ด้านท้ายขบวนเพื่อพากลับไปจอดที่สถานที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ให้เราได้เดินเที่ยว ประมาณ 2 ชั่วโมง เป้าหมายเราไม่ใช่เขื่อน แต่อยู่ที่ดอกทานตะวันสีแดง อยากรู้ว่าเป็นยังไง เพราะเห็นแต่สีเหลือง ต้องจ่ายค่ารถ 30 บาทเพราะเป็นของเอกชน นั่งรถไปได้ 3 นาทีก็ถึง แปลงไม่ใหญ่ เขาลงดอกทานตะวันสีแดงไว้ประมาณ 2 -3 ร่อง สลับดอกทานตะวันพันธุ์ปุ้ยฝ้าย ดอกทานตะวันประกายแดง ทั้ง 3 พันธุ์นี้เป็นพันธุ์เมืองนอกมาทดลองปลูก ต้นนึงมีหลายดอกแต่ละชนิดก็มีความงามที่ต่างกัน และยังมีดอกทานตะวันสีเหลืองบ้านเรา (ที่นี้ดอกใหญ่จริงๆ ใหญ่กว่าหน้าอีกสะใจ)
ดอกทานตะวันแดง
ดอกทานตะวันพันธุ์ปุ้ยฝ้าย
ดอกทานตะวันพันธุ์ประกายแดง
เดินชมสักพักก็รถนั่งรถกลับไปที่เขื่อน เกิดปรากฎการณ์รถติดมาก เพราะคนไปเที่ยวกันเยอะ แต่รถที่เรานั่งเป็นประเภทสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกก็ตะลุยไปทางที่รถไม่วิ่งไปส่งเราใกล้จุดเดิม
พาหนะที่พาเราไปชมดอกทานตะวันสีแดง
พอเห็นสิ่งที่ต้องการสมใจอยากท้องก็เริ่มประท้วงด้วยความหิว โอ๊ะ บ่ายโมงกว่าแล้ว เลยชวนคุณนายไปหาข้าวกลางวันหม่ำเพราะ รถไฟจะมารับตอนบ่ายสองกว่าๆ ส่วนในเขื่อนไม่ได้เดินเข้าไป เพราะคาดว่าคงจะลมใส่ทั้งคู่ตั้งแต่เดิน เพราะร้อนมากๆ แดดเปรี้ยงเหมือนทุกครั้งที่เคยมา แถมคนเยอะอีกต่างหาก เลยตัดสินใจช้อปแถวทางรถไฟดีกว่าเพื่อรอรถไฟมารับกลับ บ่าย 2 กว่ารถไฟก็ถอยมารับ ขึ้นตู้เดิมที่นั่งเดิม
(ขากลับไม่ถูกผีหลอกเพราะเจ้าหน้าที่การรถไฟกำชับว่านั่งตู้เดิมที่เดิมนะครับ อิอิอิ)
ขากลับภายในตู้รถไฟบรรยากาศไม่เหมือนกับขามา เพราะแต่ละคนคงจะโดนแดดเผาจนเฉา เหมือนทุ่งทานตะวันที่เห็นตอนขากลับ เริ่มที่จะเฉาและคอตก รถไฟมาส่งเราที่สถานีบางเขนประมาณ 17.30 น. รถไฟไปแล้ว แต่ความประทับใจที่ได้ไปปู๊นๆทัวร์ยังคงอยู่
ถึงจะขลุกขลิกบ้างในช่วงเริ่มต้นของการเดินทาง แต่ถ้าบวกลบคูณหารแล้วก็สามารถหักลบกลบหนี้กันได้
รอรถไฟจนเหนื่อยเลยนั่งพัก
มาเฟียคุมรางรถไฟ
ปล. ห้องน้ำในรถไฟเขาพัฒนาแล้วกลิ่นหอมเชียว ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เวลาเข้าก็มีเทคนิคหน่อย เทคนิคเฉพาะตัวนะ เพราะแต่ละคนมีวิธีการไม่เหมือนกันเพื่อประคองตัวให้สมดุล ไม่เอียงไปมาตามจังหวะการแล่นของรถไฟ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
Create Date : 04 ธันวาคม 2550
Last Update : 4 ธันวาคม 2550 21:47:43 น.
9 comments
Counter : 964 Pageviews.
Share
Tweet
ขออภัยนะค่ะ แบบว่า ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใหม่ ที่เม้นท์กันมาเลยหายเกลี้ยง ถ้าผ่านมาอ่านอีกก็ฝากรอยจารึกอีกครั้งแล้วกันนะ
โดย: Spy (
Spy_Anakin
) วันที่: 4 ธันวาคม 2550 เวลา:19:09:36 น.
ดอกทานตะวันปุยฝ้าย สวยจัง ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ส่วนดอกทานตะวันแดง ก็แปลกเหมือนกัน
ได้เห็นแต่ของแปลก ๆ ดีจังค่ะ
โดย:
nam_sila
วันที่: 4 ธันวาคม 2550 เวลา:21:13:10 น.
สวยมากเลย ผมก็ตั้งใจจะไปเหมือนกันแต่ก็ต้องเลื่อนออกไป ให้กับทริปไปนครปฐมก่อน ว่าแต่ให้คะแนนเท่าไหร่ครับสำหรับทริปนี้จะได้เก็บไว้เป็นข้อมูล
ราคาตั๋ว, กลับถึงกรุงเทพกันกี่โมงครับ
ถามเยอะไปหรือเปล่าเนี๊ยะ
ขอบคุณครับที่พาไปเที่ยว
โดย:
กระเพราไก่สับ
วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:16:08:25 น.
ทริปนี้ไม่มีคะแนนค่ะ เพราะไม่ได้ดหวังอะไร แค่อยากไปเที่ยวโดยทางรถไฟเท่านั้นค่ะ ตอบสนองความอยากและความฝันของตัวเองเท่านั้นค่ะ คุณกระเพราไก่สับ
ราคาตั๋วเป็นรถไฟชั้น 3 ไม่มีแอร์ไปกลับอยู่ที่ 240 กลับถึง กรุงเทพ ประมาณ 17.45 น. อย่าคาดหวังว่ารถไฟไทยจะตรงเป๊ะๆนะ ทำใจจี๊ดนึง จะได้ไม่เสียอารมณ์ตอนเที่ยว สนุกดีค่ะ วี๊ดว๊ายกันตอนเจอทุ่งทานตะวันทั้งรถ เฮโลโผล่หน้าถ่ายรูปตอนรถไฟวิ่งกลางเขื่อน ได้อีกบรรยากาศอีกแบบ
โดย:
Spy_Anakin
วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:19:12:08 น.
ขอบคุณมากๆ เลยครับสำหรับข้อมูล
ผมว่าผมจะไปอาทิตย์หน้านี้ครับ สงสัยว่าจะต้องจองตั๋วโบกี้หน้าๆ หน่อยจะได้ถ่ายรูปมาสวยๆ
โดย:
กระเพราไก่สับ
วันที่: 7 ธันวาคม 2550 เวลา:14:12:34 น.
อยากไปเที่ยวบ้างค่ะ แต่อยากทราบว่า มีรถไปหเขื่อนทุกวันไหมค่ะ อยากไปวัน พฤหัส อะค่ะ พอจะทราบไหมค่ะ จองตี๋ยวที่ไหน ขึ้นรถได้ที่ไหนบ้าง
โดย: apple IP: 203.113.23.125 วันที่: 17 ธันวาคม 2550 เวลา:9:37:28 น.
คุณ Apple ตอนนี้คงต้องสอบถามกับทางรถไฟโดยตรงแล้วค่ะ เพราะเป็นรถไฟนำเที่ยวพิเศษค่ะ ไม่แน่ใจว่าช่วงนี้รถไฟเที่ยวพิเศษจะหมดเขตการวิ่งหรือยัง ยังไงลองโทรไปสอบถามนะค่ะ เบอร์ 0-2621-8701 ต่อ 5217
หรือ ดูรายละเอียดที่ //www.railway.co.th/railwaythailand.asp
โดย:
Spy_Anakin
วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:17:26:51 น.
สวยง่ะ อิจฉาๆๆๆ ได้เห็นแค่พันธุ์ธรรมดาเอง ไปกะวัยชราก้องี้แหละ เขาเดินมากไม่ไหว แดดร้อนสุดๆ เสียดายจังเลย
โดย: Kitsunegari IP: 124.120.176.186 วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:16:00:48 น.
คราวหลังก็ไปกะพี่สิน้อง ตะลุยอย่างเดียว กะลังอยู่ในวัยละอ่อน กำลังวังชามีเหลืออยู่แล้ว
โดย:
Spy_Anakin
วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:14:33:46 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Spy_Anakin
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
หลังBlog
Friends' blogs
Kitsunegari
โตมิโต กูโชว์ดะ
yadegari
ป้ามด
nam_sila
lozocat
-*-Superbaker
KungGuenter
โสดในซอย
betty_best
รักษ์บ้านเกิด
Webmaster - BlogGang
[Add Spy_Anakin's blog to your web]
Links
กิ๊ก
ผาด พาสิกรณ์
บ้านพี่พลอย
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.