สอนเด็กวัยอนุบาล เรื่องการใช้เงิน
ต้นหอมอยู่ชั้น อนุบาล หนึ่งแล้ว ตอนนี้ ก็ใกล้จะสี่ขวบอยู่ไม่กี่อาทิตย์แล้ว วันนี้จะมาคุยเรื่องการสอนลูกเรื่องการใช้เงิน ยอมรับนะ ว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เราไม่อยากเป็นพวก พ่อแม่รังแกฉัน ที่ปรนเปรอลูกทุกรูปแบบ เรื่องรักลูก บอกได้ว่า เราก็รักลูกเหมือนกับพ่อแม่คนอื่นๆที่รักลูกนั่นแหละ เราอยากให้เค้าได้สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่ดีที่สุด เราวัดจากอะไร ส่วนใหญ่ถ้าแค่กรอบนอก ทุกคนที่มองที่มูลค่าของสิ่งต่างๆอยู่แล้ว สำหรับเด็กๆ ของเล่นที่ดีที่สุด ก็มาคู่กับราคา รร.ที่ดีที่สุด ก็มาคู่กับการจ่ายเช่นเดียวกัน เสื้อผ้าที่ดีที่สุด ก็มาจากราคาเช่นเดียวกัน แต่สำหรับเรา สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับต้นหอมคือการสอนให้เค้ารู้จักคุณค่าของสิ่งที่เค้ามีตะหาก ไม่ว่าจะเป็นของเล่นราคาถูก เสื้อผ้าจากห้างบิ๊กซี หรือโลตัส แม้กระทั่ง ตลาดนัด ดังนั้น การสอนให้เค้ารู้จักค่าของตัวเอง การพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เป็นสิ่งที่เราจะเน้นให้กับลูกมากกว่า พ่อแม่หลายคน พยายามให้ทุกอย่างกับลูก แม้กระทั่งบางเรื่องที่เค้าคิดว่า ยอมทุกอย่างเพื่อลูก บางครั้งเราก็รู้สึกหงุดหงิดใจจริงๆในหลายเรือ่งของคนที่พ่อแม่ แต่ไม่สอนให้กับลูก เช่นการฟุ้งเฟ้อต่างๆ ไม่รู้สินะ เราเห็นหลายครอบครัวเป็นแบบนี้ เราเคยเจอ แม่คนหนึ่ง ซื่งทำให้เกิดคำถามขึ้นในใจจนวันนี้ว่า เรารักลูกไม่เท่ากับเค้าหรือเปล่า ครั้งหนึ่งเราไปเจอแม่คนนี้ ที่งานจำพวกขายของสำหรับเด็ก เป็นเรื่องของหนังสือพูดได้ เราไปก็ไปดูมา แต่เราคิดว่าไม่จำเป็นสำหรับลูกเรา เพราะว่าลูกเราขยันเรียนแล้ว แหะๆ เราไปซื้อหนังสือ มาอ่านให้ลูกเราฟัง เป็นปีๆ ยังไม่ถึง หมื่นเลย เพราะว่าตอนนี้เราซื้อหนังสือให้ลูกเรา ต่อเดือน ประมาณ สาม สี่ร้อย บาทเอง แต่ก็อย่างว่า พนักงานขาย พยายามจูงใจ บอกให้เราลงทุนเพื่อการศึกษาลูก เราว่า มันแพงเกินไป ชุดหนึ่ง สองหมื่นกว่า เกือบสามหมื่น เราก็บอกไม่เอา (คิดแล้ว มากกว่า ค่าเทอม ลูกเราอีก ) แต่พอเจอแม่คนนี้เค้าก็ซื้อ ลูกเค้าก็อยู่รร.เดียวกับลูกเรา เราก็ ..เอ๊ะ เกิดความไม่แน่ใจในตัวเองทันที แล้วเราก็สงสัยตัวเองเล็กๆ จนบัดนี้ว่า เราให้ลูกน้อยไปหรือเปล่า เพราะว่าเค้าบอกกับเราว่า เค้าลงทุนให้ลูกเค้า ตัดบัญชี แบบผ่อน เดือนละสองพันกว่าบาทเอง เราก็เออ.. เรางกเกินไปสำหรับลูกหรือเปล่า เพราะว่าเราดูจากครอบครัวของเค้า พอดีน้องเค้าอยู่ใกล้บ้านเรานะ เค้าต้องเช่าบ้านอยู่ ทำงานเป็นพนักงานในเต็นท์รถ (อันนี้เราไม่แน่ใจว่ารายได้เค้าอาจจะดีกว่าเราก็ได้ หรือเปล่า ???? แล้วเราก็คงไม่กล้าถามด้วย ) ขี่มอเตอร์ไซด์ (หุๆๆ อันนี้เราก็อยากจะซื้อไว้รับส่งลูกนะ แหะๆ แต่โดนประนามอย่างเดียวเลย ) เราก็เลย สงสัยตัวเองด้วย แต่ก็นั่นแหละ ลูกเราไม่เห็นอยากได้เลย แหะๆ พูดถึงเรื่องการสอนเรื่องเงิน เราบอกตรงๆ ว่าเราสอนต้นหอมเรื่องการใช้เงิน ปกติ เรามักจะคุยกับลูกเสมอ เรื่องเล็กๆน้อยๆ ฟังเค้าพูด ให้เค้าออกความคิดเห็น ดูทีวีเราก็จะสอนเค้าว่ามีอะไรทีไม่ดี อะไรที่ดีมัง อย่างเรื่องการเงิน เราก็คุยกับเค้า นานแล้วหล่ะ ตอนเค้าอยู่ เนอส เค้ามานั่งคุยกับเราว่า เพื่อนเค้ามีนาฬิกาสวยใส่มารร.ด้วย เค้าอยากได้ เราก็เลยถามเค้า ว่า เค้าดูเวลาเป็นแล้วเหรอ เค้าก็บอกว่าไม่เป็น แต่มันสวยเค้าอยากได้เหมือนเพื่อน เราก็เลย ถามเค้าว่า "ต้นหอม แม่รู้ว่าหนูอยากได้ จริงๆ แม่ก็ให้หนู แต่แม่อยากถามหนูว่า ถ้าหนูอยากได้ ทุกอย่างที่เพื่อนของหนูมี แล้ว ถ้าแม่หาให้หนุไม่ได้หล่ะ เกิดแม่ไม่มีเงินมากเท่าพ่อแม่ของเพื่อนหนู แล้วหนูคิดว่า เราจะทำยังไงกันดีหล่ะ แต่ถ้ามีแม่มีเงินมากๆ แม่ก็หาทั้งโลกมาให้หนูเลยนะ " ต้นหอม เค้าก็เงียบไปหน่อยหนึ่ง เราก็บอกต่อว่า " แม่ก็ให้หนูได้ ถ้าหนูบอกแม่ว่า มีประโยชน์ยังไงมากกว่า แค่หนูอยากได้ แม่แค่อยากให้หนูคิดว่า ถ้าหนูอยากได้ทั้งหมดทีเพื่อนมี แต่แม่หาให้ไม่ได้ เราจะทำยังไงกันดี " ต้นหอม ก็ตอบกับเรา ว่า " แม่หนูไม่อยากได้นาฬิกา แบบน้อง...แล้ว " เราก็บอกว่า " หนูไม่อยากได้จริงแล้วนะ แม่แค่อยากให้หนูคิดจริงๆว่า ทำไมหนูอยากได้ " เค้าก็บอกว่า ไม่อยากได้แล้ว แล้วนั่นก็เป็นบทเริ่มต้นจริงๆสำหรับต้นหอม ตั้งแต่นั้นมา เราก็คิดว่าเราต้องสอนให้ลูกรู้จักการพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี เค้าต้องรู้ว่า แม่ไม่ได้ร่ำรวยมากพอที่จะหาทุกอย่างที่เค้าต้องการในโลกมาให้เค้าได้ เค้าต้องเรียนรู้ว่า ทุกวันนี้ เงินของแม่ ได้มาจากการทำงาน และตอนนี้เราก็ไม่ได้มีเงินมากพอที่หยุดทำงาน บางครั้งเค้าก็บ่นว่า ไม่อยากให้แม่ทำงาน อยากให้แม่อยู่กับเค้า อยากให้แม่ไปรับเค้าที่รร.ทุกวัน ไม่อยากกลับรถรร. อยากให้แม่ไปรับ ไปส่ง แต่คำตอบคือ ไม่ได้ แม่ต้องทำงาน แม่ต้องทำงานเพื่อให้ต้นหอมเรียนหนังสือ แต่นั่นคือการบ่นนิดหน่อย แต่ต้นหอม ก็ตระหนักในความเป็นจริงของชีวิต แต่สิ่งที่คนเป็นพ่อแม่ จะให้ลูกได้ คือ อ้อมกอดจริงๆ คุยกับเค้าแค่วันละห้านาที ก็มีความหมายมากมายสำหรับเค้าแล้ว และการคุยควรเป็นการคุยอย่างมีคุณภาพ การคุย แบบเข้าใจ การคุย แบบการฟัง ไม่ใช่แค่ได้ยิน แต่ไม่ได้ฟัง ไม่รู้สินะ สิ่งที่เรารู้สึกตลอดเวลาคือ การสื่อสารของเค้ากับเราไม่เคยขาดเลย กลับมาต่อ เรื่องการเงิน สำหรับการสอนลุก ง่ายๆ เลย เราไม่จำเป็นต้องให้ของแพง และสอนให้ลูกรู้จักค่าของสิ่งต่างๆ และการให้ลูกมีส่วนร่วมด้วย เช่นการซื้อของ การรับเงินทอน เราให้ลูกเรามีส่วนร่วม เราสอนลูกเราเสมอว่า ถ้าไปซื้ออะไร แพง เราก็มักจะคุยกับลูกว่ามันแพง แต่เราไม่ได้บอกว่า ไม่ให้เอานะ แต่เราให้เค้าช่วยตัดสินใจว่า จะเอาหรือเปล่า เงินในสายตาลูกเรา จับได้ แค่ ห้าบาท สำหรับซื้อไอศกรีมข้างบ้านเท่านั้นเอง แต่อย่างหนึ่งที่ลูกเราโอเค สำหรับวัยนี้คือ เค้านับเลขเป็น แหะๆ เค้ารู้จักค่าของมากน้อยของตัวเลข ดังนั้น ตัวเลขยิ่งมาก เค้าจะรู้ว่า มันแพง แหะๆ แม่ม๊านสอนเอง ล่าสุด เราพาเค้าไปกินข้าวที่ ร้าน S&P ไม่มีอะไรหรอก แม่ม๊านขี้เกียจเดิน ไปรพ.ของอาม่าแล้วเค้ากินข้าว แม่ม๊านขี้เกียจเดินไปกินไกลเลยกินในรพ.เนี่ยหล่ะ อันที่จริงที่ร้านนี้ก้จัดว่า แพงหน่อย เรากับต้นหอม กินไปคนละจาน แค่ผัดไทย กับ ข้าวหน้าไก่ กับน้ำเปล่าเท่านั้นเอง ก็ประมาณ สองร้อยกว่าบาท จริงๆ ก็เป็นราคาที่เราคิดไว้แล้ว แต่พอเรียกมาเก็บเงิน เค้าบอกราคาเท่านั้น ยัยต้นหอม พูดเสียงดังเลย "หา แม่ ตั้ง สองร้อยสี่สิบเจ็ดบาทเลยเหรอ แพงจังเลย " คนเก็บเงินทำหน้าไม่ถูกเลย ยัยแม่ ก็ทำหน้าไม่ถูกเลย พอตอนเย็นเดินผ่าน ร้านนี้อีกรอบ ยัยต้นหอม ประกาศ ว่า " แม่ หนูไม่กิน ที่นี้แล้ว มันแพง แล้วก็ไม่อร่อยด้วย " แหะๆ แม่ม๊านก็เลยประหยัด ด้วยการไปกินข้าวต้ม สามสิบบาท ก็อิ่มแล้ว และหลายครั้งที่ต้นหอม ทำให้แม่ รู้สึกดีๆมาก ครั้งหนึ่งพาไปซื้อของ ต้นหอมนะ โปรดปราน คอลเลคชั่นเจ้าหญิงมากๆ เสื้อก็ขอเจ้าหญิง คราวนี้ไปเจอเสื้อคอลเลคชั่นเจ้าหญิงอีก ไปลองทาบตัวแล้วต้นหอมก็ชอบ เลยบอกแม่ว่า "ต้นหอมอยากได้จังเลย มันสวย" ยัยแม่ วิญญานความงกเข้าสิง จริงๆ เสื้อก็ตัวละ สองร้อยกว่าบาทเอง จะซื้อก็ได้ แต่ด้วยความงก ว่ายังไงก็มันก้มีลดราคาเรื่อยๆ รออีกหน่อยก็ได้นะ ต้นหอมเห็นแม่ ลังเล จับๆๆอยู่นั่น เลยถามว่า " แม่ มันแพงหรือเปล่า " ยัยแม่จอมงก " แม่ว่า มันค่อนข้างแพงนะ " ต้นหอม " ถ้าแพง ก็ไม่เอาแม่ ต้นหอมมีเสื้อเยอะแล้ว " กรี๊ดเลย คนที่แถวนั้นที่กำลังเลือกเสื้ออยู่หันมามองแล้วยิ้มเลย ยัยแม่ม๊านก็เลย ไม่ซื้อซะเลย ทั้งที่ถ้าเค้าตื้อว่าอยากได้ แม่ก็คงซื้อให้ เพราะว่าก็ดูว่ามันน่ารักดีเหมือนกัน แต่ต้นหอม ตัดสินใจแล้วว่าไม่เอา ก็เลยหยุดเท่านั้นเอง แล้ววันนี้ต้นหอม ก้น่ารักมาก หุๆๆ วันนี้ แม่พาต้นหอม ไปเดินบิ๊กซี บอกว่า เราเดินไปนะ จะได้ออกกำลังกาย แล้วประหยัดตังค์ หุๆๆ จริง ขี่จักรยานก็ได้ แต่แม่ม๊านขี้เกียจสูบลมจักรยานนะ พอไปบิ๊กซี ต้นหอมตั้งใจจะไปซื้อหนังสือมากกว่า แต่แม่ก็พาเดินเล่นซะเนีย พอเห็นจักรยานเท่านั้น เค้าขอลองขี่ดู อันนี้ แม่เคยบอกว่า ถ้าต้นหอม กล้าปั่นจักรยานเมือ่ไหร่ แม่จะซื้อให้ เพราะเคยพาเค้าไปลองแล้วต้นหอม ก็ไม่เอา ไม่กล้าปีนไปขี่สักที ( เด็กวัยเดียวกัน เค้าปั่นไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ แหะๆ ) คราวนี้ เค้าปั่นจักรยานออกไปได้นะ เค้าก็เลยขอ แต่เราว่ามันแพงหง่ะ เพราะเคยเห็นที่โลตัส ถูกกว่าตั้งเกือบครึ่ง เลยไม่อนุมัติ เท่านั้นนะ ร้องไห้เลย เราก็เลยแอบกระซิบว่า แม่พาไปซื้อโลตัสดีกว่า มันถูกกว่านะ ไม่เอาที่นี่ เท่านั้นต้นหอม บอกว่า ขอขี่อีกรอบหนึ่งนะแม่ แล้วเราไปเลย พอขี่ไปรอบหนึ่งเท่านั้น ต้นหอม ก็เก็บจักรยานให้เค้า ออกมาทันที พอผ่านร้านผู้พันไก่ อ้ายเราเราก็ไม่อยากให้ลูกกินไก่เท่าไหร่ ยอมรับว่า ไม่ค่อยพาเข้าร้านไก่นะ พวกแมคยังพาบ่อยกว่า แต่ร้านผุ้พันไก่เนี่ย นับครั้งเลย ต้นหอมเห็นคนในร้านเยอะแล้วก็มีเด็กเยอะด้วย เค้าก็อยากกินมังเลย บอกว่า "แม่ต้นหอมหิวข้าวแล้วนะ " แม่ยังไม่เก็ด ทั้งที่ต้นหอม หยุดอยู่หน้าร้านแท้ๆ " แล้วหนูจะกินอะไรหล่ะ ไปกิน บะหมี่เลขแปดที่โลตัสไหม " ต้นหอมยังลีลา " ไม่เอานะแม่ หนูหิวข้าว " "หนูจะกินที่นี่หรือ หิวแล้วจริงๆหรือลูก หิวข้าวเหรอ " แม่เริ่มมองหาร้าน ตอนแรกคิดจะพาไปกินฟาสฟู๊ดดีกว่า ถ้าหิว เพราะว่ามีให้เลือกเยอะ " ต้นหอมอยากกินอะไร แถวนี้ ก็ไม่มีอะไรด้วย " เห็นแล้วหยุดอยู่หน้าร้าน "จะกินร้านนี้เหรอ กินอะไร " แม่เริ่มมองร้านแต่ไม่ชอบร้านผู้พันไก่ มองแล้วก็ไม่บอกอะไร ต้นหอมเลยพูดว่า " แม่จ๋า กินร้านนี้มันแพงหรือเปล่า ถ้าแพง ต้นหอมไม่กินก็ได้นะ " เจอแค่คำนี้ เลยบอกต้นหอมว่า " ก็ไม่แพงมากเท่าไหร่ หนูอยากกินก็กินได้นะ แต่อยากกินอะไร ไปดูกันนะ " คือรู้เลยว่า ต้นหอมอยากกินร้านนี้ แต่ใจเรา ไม่ชอบให้ต้นหอมกินไก่เท่าไหร่นะ เพราะว่ามันไม่ค่อยดีกับเด็กผู้หญิงนะ แต่นานๆ ทีก็โอเคนะ บางทีเราก็คิดนะ เราสอนลูกเรื่องการใช้จ่ายมากเกินไปหรือเปล่า ต้นหอมนะ ยังไม่สี่ขวบเลย อยากจะได้อะไร ต้องถามเราทุกครั้งว่า แพงไหมแม่ มองอีกทีก็ดีว่าเค้า ตระหนักในเรื่องการใช้จ่ายนะ แต่อีกด้านเราก็กลัวเหมือนกันว่าเราไปเข้มงวดกับเค้าหรือเปล่า แต่ทุกครั้งเราก็คิดว่าเราให้เค้าตัดสินใจร่วมกับเรานะ แค่เราบอกข้อเปรียบเทียบและความเห็นของเราเท่านั้น สำหรับเรื่องจักรยาน วันนี้ไปซื้อมาแล้วคะ ต้นหอม ขี่ไม่เลิกตั้งเอากลับมาที่บ้าน ราคาแพงกว่าที่คิดไว้นิดหน่อย แต่ก็ถือว่า ถูกกว่าที่จะซื้อบิ๊กซี รุ่นที่เค้าโปร ราคาถูก เราดูแล้วไม่ safety ล้อข้างมันเล็กไปนิด แล้วก็ ไม่ตระกร้าหน้า และฟังค์ชั่นเราก็ไม่โอ เลือกอีกแบบที่แพงกว่านิด แต่ที่แน่ๆ คือ ล้อด้านข้างใหญ่หน่อย มันจะได้ปลอดภัย หุๆๆ ขนาดเลือกแล้วต้นหอมยังแขนถลอกนิดหนึ่งจากรถล้มเลย ฮ่าๆ แต่ ยัยแม่บอกว่า ต้นหอม ไม่เป็นไร คนขี่รถจักรยานได้ ต้องหกล้มเลือดออกแล้วก็เป็นแผลมาทุกคน ว่าจะขี่จักรยานได้ ต้นหอมน้อย เลยพยายามเป็นบักอึด ไม่ร้องไห้ เวลารถล้ม ปล. หุๆๆ รถสี่ล้อนะยังล้มไปหลายรอบเลย
รูปนี้นั่งแทะกระดูกไก่ สารภาพจริงๆ แม่ม๊านกินเอง ต้นหอมหันมาถามว่าแม่ไม่กินแล้วเหรอ แล้วก็ขอกระดูกไปนั่งแทะ แม่ให้กิน เบอร์เกอร์ปลา
แทะจริงๆ
อร่อยมากเหรอ ลูก
สำรวจก่อน
กินจริงๆนะ
แทะเกลี้ยงเลย
อีกด้านหนึ่ง แม่นั่งมอง แล้วอึ้งๆๆ แม่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าต้นหอมชอบแทะไก่แบบนี้มาก
เกลี้ยงมากเลย
พอแล้ว ไม่ไหว ดูจักรยานของต้นหอมดีกว่า
ร่าเริงทั้งที่ง่วงนอน ขี่วนในห้างเนี่ยหละ
กลับมาบ้าน ก็ไม่เลิกเล่น
ตั้งหน้าตั้งตา และมุ่งมั่น
วิธี เบรคจ้า หนูเบรคด้วยการชนกำแพง หรือชนอะไรสักอย่าง
สาเหตุที่เบรคไม่ได้ก็เพราะว่ามือหนูเล็กกว่าที่จะกดเบรคถึง แป๋วๆๆ แม่ก็พยายามสอนให้หนูทำนะเนี่ย
พยายามต่อ
ขี้เกียจโพสแล้ว ง่วงนอน
สุดท้ายแล้วนะไม่ไหว
Create Date : 05 กันยายน 2553 |
Last Update : 6 กันยายน 2553 0:10:04 น. |
|
12 comments
|
Counter : 1412 Pageviews. |
|
|