ถามจริงๆ ไม่ได้กวนนะ >>> เคยตายไหม <<< ต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่นักเล่าเรื่องที่ดีนัก จะขอลำดับเหตุการณ์โดยย้อนไปตั้งแต่ เมษาปีที่แล้ว (ปี50) เมื่อเสร็จจากงานในไร่อ้อยก็ใกล้จะมืดแล้ว ผมขี่มอร์ไซค์กลับบ้านในสภาพที่พะรุงพะลัง สะพายถังฉีดพ่นยา มีถังพลาสติก ถุงปุ๋ยสัมภาระ ตามประสาชาวไร่ทั่วไป บนถนนลาดยางที่ห่างจากบ้าน สัก3กม.ค่อนข้างเปลี่ยวเพราะเป็นทางท้องถิ่น แต่กับผมแล้ว คุ้นเคยมากเพราะใช้ประจำ แล้วก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับผมจนได้ เท่าที่พอจะเรียกความทรงจำในตอนนั้นได้ก็คือ มีรถยนต์เปิดไฟสูงดาหน้าสวนมาเต็มถนนไปหมด จากนั้นก็รู้สึกถึงการกระแทกตามลำตัวบ้าง ศีรษะบ้าง การเจ็บตัวเป็นแบบสะท้านตามแกนลำตัว จากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย ประมาณเวลาตอนเกิดเหตุน่าจะหนึ่งทุ่ม กระทั่ง สามทุ่ม ผมก็ยังไม่กลับบ้าน ก็เป็นเรื่องปกติ ที่ผมมักจะเถล ไถลแวะตามบ้านเพื่อน ซึ่งกว่าจะถึงบ้านก็ สี่ทุ่มบ้าง ห้าทุ่มบ้างในสภาพที่กลิ่นเหล้าโชย เมื่อเป็นอย่างนั้นซะแล้ว คนในบ้านก็เลยไม่รู้ถึงความผิดปกติ ที่เกิดกับผม มันน่าเสียใจกับชะตากรรมของตัวเองจริงๆ ที่จะต้องมาตายเป็นผีเฝ้าโค้งอย่างน่าอนาถ ห่างจากที่เกิดเหตุไปสักเกือบ สองกิโลเมตร จะมีคนที่มีอาชีพหาส่องนกคุ่ม ตอนกลางคืนโดยลัดเลาะตามริมถนน ลำแสงสว่างของไฟฉายแพนมาตรงทิศทางที่ผมนอนอยู่ คนส่องนกเล่าว่า แสงไฟกระทบอะไรบางอย่าง ให้เห็นเป็นเงาสะท้อนวาวๆ จึงได้เดินไปตามแสงสะท้อนนั้น ใกล้มาเรื่อยๆ บางที่แสงก็หาย บางทีก็กลับมาเห็นแวบๆวาวๆอีก ความอยากรู้ทำให้ พรานล่านก เลิกสนใจที่ส่องนก แต่สนใจที่จะตามแสงสะท้อนเพียงอย่างเดียว เมื่อใกล้ที่จะถึง คนส่องนกจึงได้รู้ว่า ที่สะท้อนวาวๆให้เห็นนั้น แท้จริงคือ ส่วนกระจกไฟหน้ารถมอร์ไซค์ที่นอนตะแคงอยู่ริมถนน แต่ก่อนจะถึงรถที่คว่ำตะแคง สัก สิบเมตร คนส่องนกคนนี้ บอกว่าสังเกตุเห็นสัมภาระอะไรสักอย่างเกลื่อนกระจายอยู่ริมถนนข้างล่าง เขาจึงละไฟจากรถ หันมาส่องกองอะไรสักอย่างที่ดูเกลื่อนกระจาย เมื่อเข้ามาส่องใกล้ๆ พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไรเท่านั้น ...ผีหลอก ช่วยด้วย ผีหลอก
คนสนิทของนายกเทศมนตรี ก็มาเลียบๆเคียงที่บ้าน เพื่อจะมาขอเป็นเจ้าภาพคืนสุดท้าย เพื่อนผมหลายคนที่เป็นครู ไม่ยอมตกกระแสร์ แกแอบไปร่างคำสดุดีเกียร์ติประวัติ เพื่อเอาไว้อ่านหน้าเมรุ ทุกอย่างพร้อมแล้ว เป็นงานศพที่น่าจะสมบูรณ์แบบที่สุด ว่าแต่ตกลงว่าเขาจะเคลื่อนกันมาวันไหน มาหรือยัง หมดลมหรือยัง ก็ไหนใครบอกเมียมันร้องไห้เป็นลมแล้วเป็นลมอีก ทุกอย่างล้วนสับสน ตอนสายของวันที่ห้า นับจากวันที่เกิดเหตุ บรรดาญาติผู้ใหญ่ที่นำผมไปส่งโรงพยาบาล พร้อมด้วยภรรยาผม ขับรถพากันกับมาจากโรงพยาบาล เมื่อผ่านตลาด บรรดาแม่ค้า และคนแถวนั้นเห็นรถเข้าก็จำได้ ต่างก็ชักชวนกันฮือออกมาดักรถไว้ เพราะอยากจะถามในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ แล้วนำมาประเมินสถานการณ์ เพื่อฟันธงให้หายสงสัย แม้แต่เพื่อนผมที่กำลังขับรถบัสโดยสารเข้าตัวจังหวัด รถกำลังเคลื่อนตัวออกไปเพราะได้เวลาออกแล้ว มันยังอุตส่าห์จอด ทิ้งผู้โดยสารเกือบ 80 ชีวิต ให้รอก่อน แล้วตัวมันก็มาร่วมมาเป็นไทยมุง ด้วยความอยากรู้ข่าวล่าสุด แล้วเสียงป้าคนหนึ่งก็ถามแฟนผมว่า... โถ...แม่คุณได้ข่าวว่าหมอบอกให้ทำใจ อาจไม่รอด ตอนนี้อาการเป็นอย่างไรล่ะจ๊ะหนู (แล้วหันไปทางกลุ่มไทยมุง)คิดแล้วก็เศร้านะพวกเรา เมื่องานปีใหม่ยังเห็นขึ้นไปตกรางวัล ให้ โคโยตี้ อีสาวบางโพ อยู่เล้ย มาตอนนี้... พี่เขาฟื้นแล้วจ้า แฟนผมเธอชิงตัดบท และพูดต่อ ฟื้นตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแล้ว ทางฉันก็รีบกลับมาแก้บน แล้วมาเตรียมเสื้อผ้าเพื่อไปอยู่เฝ้า ยาวหลายวัน ก็ถึงกับวงแตกฮือ บ้านใครบ้านมันเลยละครับ
|
วีระริก
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] . Group Blog All Blog Link |
||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |