! ที่นี่ ! เราเลิกเขียนแล้วครับ ..กับเรื่องธรรมดา ที่คุณสามารถหาอ่านที่ไหนก็ได้
Group Blog
 
 
เมษายน 2563
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
9 เมษายน 2563
 
All Blogs
 
อีกสองเดือน...ผมก็ไม่ตาย ตอนที่ 1 (2/2)


ขอบคุณภาพปกนิยาย จากคุณ ApitarN ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ


งานเขียนชิ้นนี้ เป็นผลงานการเขียนแบบทีม ประกอบด้วยผู้เขียนหลายท่าน
ในแต่ละตอน จึงมีการลงชื่อกำกับไว้ ในแต่ละส่วนการเขียนของผู้เขียนท่านนั้น ๆ
ท่านสามารถรับฟังเป็นรูปแบบเสียงได้จากคลิปข้างล่างนี้





              “G ทำไมนายไม่จัดการดินสอสีเทียน เธอทำงานพลาด”

              “เธอทำงานพลาดก็จริง แต่อย่าลืมว่าเป็นเพราะส่วนต่างจูน ที่ยื่นมือเข้าไปแทรกก่อนเวลา คนที่ควรตายจึงเป็นจูนมากกว่า”

              เสียงสนทนาสั้น ๆ เงียบลง ในห้องมีเพียงเงาดำของใครบางคนที่รู้จักกันในนาม  G  ผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารคนสำคัญของโลกจำนวนมาก แสงไฟจากหน้าจอคอมพิวเตอร์จำนวนสิบกว่าเครื่องในห้องกว้างสลัว ทำให้สามารถมองเห็น ความเคลื่อนไหวจากหลายมุมโลกผ่านหน้าจอ

              G ผละออกจากหน้ากระจก ทำให้ไซโคซึ่งเป็นอีกร่างในกระจกของเขาหายไป แม้แต่คนสนิทที่สุด ก็ไม่รู้ว่าเขามีสองร่าง

              ร่างแรกเป็นที่รู้จักกันในนามเรียกขานสั้น ๆ ว่า G ผู้ลึกลับไปมาไร้ร่องรอย แต่เป็นศูนย์กลางขององค์กรนักฆ่าที่มีเครือข่ายโยงใยซับซ้อนครอบคลุมไปทั่วโลก เป็นผู้สืบต่อรุ่นที่สามของผู้นำแห่งองค์กร

              ร่างที่สอง  G จะเรียกเขาว่า ไซโค เขาจะปรากฏให้เห็นเมื่อ  เขาอยู่ต่อหน้ากระจกเท่านั้น การตัดสินใจ การแก้ปัญหา แบบเฉียบคม หลายครั้งเกิดจากความคิดของไซโคผู้มีตัวคนอยู่ในโลกของเงาสะท้อน

              องค์กรของ G  จึงเป็นผู้นำแห่งวงการนักฆ่าอย่างแท้จริง


              งานล่าสุด คือการสังหารอภิธัน หนุ่มผู้กุมชะตากรรมของโลกด้วยสิ่งประดิษฐ์ชั้นยอดของเขา ซึ่งมันจะส่งผลกระทบกระเทือนต่อระบบธุรกิจการค้าขายของโลกเป็นอย่างมาก ถ้าพิมพ์เขียวหรือเครื่องต้นแบบออกสู่ตลาด  ทำให้มีทั้งคนอยากทำลายและอยากได้มันไว้ครอบครอง

              บรรดานักฆ่าในสังกัดมีจำนวนมาก เพราะบรรดามือสังหารต่างก็อยากเข้ามาอยู่ในสังกัด ด้วยเงินค่าจ้างต่องานสูงกว่าองค์กรอื่น แต่ผลเสียก็คือทำให้บางครั้งก็เกิดการหักหลังทรยศกันขึ้นบ้าง แต่ที่ผ่านมาปัญหาก็จะถูกขจัดไปได้เสมอ

              เพียงแต่ครั้งนี้ เป็นการหักเหลี่ยมของ ‘ส่วนต่าง’  นักฆ่าสาวผู้ถีบตัวมาจากนักฆ่าระดับโนเนม ขึ้นมาเป็นนักฆ่าระดับมืออาชีพแถวหน้า ได้ในเวลาอันรวดเร็วเหลือเชื่อ จากอดีตเด็กหญิงที่แม้แต่ปาลูกโป่งในงานวัดไม่ถูก จะมากลายเป็นนักฆ่าที่ส่งกระสุนเข้าเป้าหมาย ในระยะหลายสิบเมตรได้อย่างแม่นยำราวจ่อยิงระยะเผาขน รวมทั้งทักษะการต่อสู้ด้วยมือเปล่า ชนิดหาตัวจับยาก

              แต่ดูเหมือนว่า ส่วนต่างยังไม่ได้รับความไว้ใจแบบเต็มร้อยจากองค์กร G  จึงสั่งให้วันทนีย์แอบติดตามความคลื่อนไหวของจูนอย่างไม่ให้รู้ตัว  วันทนีย์มือสังหารที่เหนือชั้น โหด ไร้ความปรานีที่ไว้ใจได้

              ส่วนดินสอสีเทียน เป็นหมากอีกตัวที่  G  ส่งไปทำงาน โดยไม่ได้คิดว่าเธอจะลงมือเป็นผลสำเร็จ  แต่ให้เธอเป็นตัวล่อการเปิดเผยตัวตนแท้จริงของจูนเท่านั้น G เพียงต้องการยืนยันความสงสัยของตนเอง  เพราะตามตารางงานแล้ว วันตายของอภิธันไม่ใช่วันนี้  

              อภิธันเป็นเพียงหมากเบี้ยตัวน้อย และจะต้องเป็นตัวกลางเชื่อมโยงไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลัง ว่าใครกันแน่ที่ออกเงินทุนในการวิจัย ในการสร้างเครื่องประดิษฐ์สะท้านโลก จุดหมายแท้จึงพวกมันคืออะไร  ถ้ารู้ข้อนี้งานเดียว เงินทองมหาศาลจากหลายหน่วยงานหลายชาติจะหลั่งไหลเข้าสู่องค์กรทันที หล่อเลี้ยงคนในองค์กรได้อีกนานหลายปี รวมทั้งสร้างรากฐานให้มั่นคงยิ่งขึ้นไปอีก

 
GTW
 
 




.........ที่บ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง รอบล้อมด้วยแมกไม้นานาพรรณ กลางห้องโถง มีชายสองคนนั่งอยู่ข้างกันบนเก้าอี้ หน้าโต๊ะตัวโต ภาพจากจอตรงหน้า ลุงแมน เป็นคลิปสั้น ๆ ของฝนฟ้าคะนอง แสงจากฟ้าแลบสว่างจ้า ท่ามกลางความมืดและเม็ดฝน สลับกับฟ้าผ่ายาวลงมา ตามด้วยเสียงครืนใหญ่กึกก้องไปทั่วบริเวณ  ก่อนความมืดจะกลับมาปกคลุม และหลังจากนั้นไม่ถึงวินาที เส้นแสงหยัก ๆ เรืองรองเห็นเป็นกระแสไฟฟ้าชัด ก็คดเคี้ยวลงสู่พื้นดิน ส่งเสียงก้องสนั่น ขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมส่งแสงสว่างจ้าไปทั่ว ก่อนที่คลิป จะจบลง

       ลุงแมน มองชายตรงหน้า ก่อนยิ้มมุมปากออกมา พร้อมเอ่ยขึ้นเบา ๆ

       “คุณให้ผมดูเรื่องนี้ทำไม”

       ชายผู้นั้น ยิ้มตอบ พร้อมลุกขึ้นยืน เดินไปที่ตู้เซฟใบใหญ่มุมห้อง เปิดประตู ยกวัตถุโลหะรูปโค้งครึ่งวงกลมเงาวาว ขนาดเท่าเคสคอมย่อม ๆ เคสหนึ่ง ออกมา ประคองเดินกลับมาวางบนโต๊ะ ตรงหน้าลุงแมน ถ้ามองผิวเผิน สิ่งนั้น มีลักษณะคล้ายยานอวกาศจำลอง เสาที่ยื่นออกด้านข้างเหมือนปืนยิงเลเซอร์ ในหนังต่างดาว
  เขาเลื่อนฝาด้านบนเปิดออก ดึงจอกว้างขนาดสิบนิ้วขึ้นมา  มือกดไปยังปุ่มต่าง ๆ บนแผงคอนโทรล ที่มีไฟแพรวพราว พลางพูดเบา ๆ ไปด้วย

       “ปรากฏการณ์ฟ้าผ่า เกิดจากการปลดปล่อยประจุไฟฟ้า ออกจากเมฆฝนฟ้าคะนอง โดยภายในก้อนเมฆจะมีการไหลเวียนของกระแสอากาศอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้หยดน้ำและก้อนน้ำแข็งในเมฆเสียดสีกันจนเกิดประจุไฟฟ้า โดยพบว่าประจุบวกมักจะอยู่บริเวณยอดเมฆ ส่วนประจุลบอยู่บริเวณฐานเมฆ ซึ่งประจุลบที่ฐานเมฆอาจจะเหนี่ยวนำให้พื้นผิวของโลกที่อยู่ใต้เงาของมันมีประจุเป็นบวกด้วย”

       เขาพูดยาว พลางมองยิ้ม ๆ มาทางลุงแมน ที่ทำท่าแปลกใจ

       “ฟ้าผ่า สร้างความเสียหายได้ ทั้งกับสิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ และแม้กระทั่ง ชีวิตคน”

        ชายผู้นั้นกดปุ่มคอนโทรลไปมาอยู่ครู่หนึ่ง จึงหันหน้าจอ มาทางลุงแมน แล้วยิ้มออกมา

        ภาพในเวลาปัจจุบัน จากมุมสูงปรากฏต่อสายตา เป็นภาพบ้านหลังที่ทั้งสองคนนั่งคุยกันอยู่ รถยนต์ของลุงแมนจอดอยู่หน้าบ้านเห็นชัด ลุงแมน ขยับเข้าไปมองใกล้ ๆ พลางเงยหน้าขึ้นมอง ชายเจ้าของบ้านด้วยความเคลือบแคลง

        “นี่คือต้นแบบ ของเครื่องสร้างประจุไฟฟ้า ใช้พลังงานจากยูเรเนียม ค้นหาเป้าหมายจากทุกมุมโลก ได้จาก ดาวเทียมทุกดวงในห้วงอวกาศ”

        เขายิ้มกว้าง มองลุงแมน ที่เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าด้วยกัน

        “หมายความว่า...” ลุงแมนเข้าใจทุกอย่างทันที

        “ใช่แล้ว” ชายเจ้าของบ้าน หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนเอ่ยออกมา

        “เราสามารถ สั่งให้ฟ้าผ่าที่ไหนก็ได้ ในโลกใบนี้ ด้วยเครื่องที่อยู่ตรงหน้านี้”

        ลุงแมนเป่าลมออกจากปากเบา ๆ พลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้  นึกในใจว่า ถ้าได้เครื่องนี้มาสักเครื่อง งานคงเบาขึ้นมากมาย ไม่ต้องซ่อนชิ้นส่วนปืนเซรามิคเดินทางรอบโลก ไม่ต้องโดนค้นตัวจนแทบจะแก้ผ้าเดินเข้าเครื่องสแกน ไม่ต้องใช้ปืนติดกล้องยิงจากระยะสามกิโล ไม่มีเรื่องต้องเสี่ยงใด ๆ ทั้งสิ้น เขาสามารถนั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ อยู่ในห้องหรูที่ไหนก็ได้ ขณะมองเหยื่อจากทางหน้าจอ โดนฟ้าผ่าหัวกระจายในบ้านตัวเอง ท่ามกลางสายตาของบริวารหลายร้อยคน

        โอ ฝันนี้คงอีกไกล เมื่อเสียงชายเจ้าของบ้านแว่วมา ปลุกเขาขึ้นจากภวังค์

        “หนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ กับราคาล่าสุด ที่กลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มหนึ่งเสนอมา ส่วนทางยุโรป เกริ่นมาว่า จะให้ถึงสามพันล้าน ถ้าที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ ขณะรอคำตอบ ทางเราก็มีปัญหาเล็ก ๆเกิดขึ้นเสียก่อน”

        เขาปรับค่าบนหน้าจอ ให้เปลี่ยนมุมมอง ไปเรื่อย ๆ จนล่าสุด สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือ บ้านพักหลังใหญ่ของหัวหน้ากลุ่มกบฏ กลางทะเลทราย คนโพกหน้าสะพายปืนที่อยู่โดยรอบ น่าจะมีจำนวนถึงห้าสิบ จากการประมาณด้วยสายตา

        เป็นการโชว์ศักยภาพของเครื่องให้เห็นประจักษ์แก่สายตา ว่าถึงแม้จะอยู่คนละมุมโลก ก็ยังเห็นภาพชัดเจน เหมือนอยู่ไม่ไกล ลุงแมน หันมองเจ้าของบ้านด้วยความสนใจ

        “เครื่องนี้ เป็นต้นแบบ ของการยิงประจุบวก ส่วนอีกเครื่อง ที่ก่อกำเนิดประจุลบ อยู่ที่ อภิธัน”

        “อ้อ ได้ข่าวว่าไล่ยิงกันเละตุ้มเป๊ะเลยนี่ แถมงานนี้ มือปืนสาวสวยระดับพระกาฬโคจรมารวมกันเพียบ เป็นเพราะเรื่องนี้นี่เอง แล้วจะให้ผมเก็บ อภิธัน เลยไหมครับ”

 ลุงแมน เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง และพร้อมลุยทันทีตามสไตล์ของตัวเอง ชายเจ้าของบ้านยิ้มกว้าง หัวเราะในลำคอเบา ๆ ใจหนึ่งก็ชอบในนิสัยทำอะไรไม่รีรอของลุงแมนอยู่ไม่เบา

        “ใจเย็น เรื่องเก็บมันเรื่องจ้อย แต่จะทำยังไงให้ได้ของในมือ อภิธัน มานี่สิ สำคัญกว่าสิ่งใด” เขามองหน้ายิ้ม ๆ ขณะลุงแมนพยักหน้าเข้าใจ

        “แล้วจะให้ผมทำยังไง บอกมาได้เลย” ลุงแมน พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ ชายเจ้าของบ้านหัวเราะเบา ๆ ยิ้มกว้างตาเป็นประกายขณะเอ่ยออกมา

        “คุณก็คอยระวังหลังให้อภิธันสิ ทำไงก็ได้ ให้เขารอดจากมือปืนทุกคน แล้วมาเดินตามเกมของเรา จนกว่าเขา จะเดินเข้ามาหาเราเอง”...........


  
 ลุงแผน
 
 



              บ้านเช่าหลังหนึ่งมีรั้วรอบขอบชิด  ตั้งอยู่ในซอยลึกแห่งหนึ่งย่านชานเมือง  เวลานั้นเป็นตอนเย็นย่ำจวนใกล้ค่ำ  แสงอาทิตย์กำลังจะลับหายไปจากขอบฟ้า  หญิงสาวคนหนึ่งในเครื่องปกปิดอันล่อแหลม พันกายด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ก้าวออกมาจากห้องน้ำ  เม็ดน้ำที่ยังพร่างพราวไปทั่วทั้งตัว  กอปรกับผมสีม่วงเข้มเหลือบแดงที่เปียกชื้นแนบใบหน้าและลำตัว  ช่วยขับให้เรือนร่างอวบอัดกลมกลึงของจูน มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามเป็นอันมาก

              สายตาของอภิธันจับจ้องไปยังหญิงสาวอยู่อย่างไม่วางตา  ความสัมพันธ์ระหว่างจูนกับเขายังคลุมเครือไม่เป็นที่แน่ชัด  พวกเขาสองคนไม่ใช่ทั้งเพื่อนและคนรัก  แม้จะพูดคุยทำนองเย้าแหย่ยั่วหยอกเชิงชู้สาวกันบ้าง  แต่ก็ยังไม่มีอะไรลึกซึ้งเกินเลยไปมากกว่านั้น

              ทั้งคู่เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กัน  ตอนที่อภิธันนึกสนุก ลองทำตัวเป็นนักพิสูจน์อักษร  เข้าไปอ่านนิยายของนามปากกา ‘ส่วนต่างที่เขาไม่ต้องการ’ และช่วยตรวจทานคำผิดให้อีกฝ่าย  การกระทำของเขาก่อให้เกิดความซาบซึ้งใจและพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์อย่างลับๆ  กระทั่ง จูนยอมเปิดเผยข้อเท็จจริงว่า ตัวเองเป็นนักฆ่า  และก็เป็นจูนนี่เอง ที่ช่วยให้อภิธันไหวตัวหลบหนีทัน  ในตอนที่ชายหนุ่มตกอยู่ในการไล่ล่าของดินสอสีเทียน

              “กำลังดูอะไรอยู่หรือคะ”

              หญิงสาวทิ้งตัวลงนั่งตรงข้างขอบเตียง  ยกปลายเท้าขึ้นกดปุ่มเปิดพัดลมตั้งพื้นตัวหนึ่ง หวังใช้แรงลมช่วยเป่าตัวให้แห้งอีกทาง  แม้คนทั้งคู่จะอยู่ในห้องที่เปิดแอร์จนเย็นฉ่ำอยู่ก็ตามที

              “ผมกำลังไล่เช็ครายชื่อและข้อมูล ของคนที่จะเข้าร่วมประมูลทั้งหมด”

              บนเตียง  มีคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงวางเรียงราย ล้อมรอบตัวชายหนุ่มเต็มไปหมด  ตั้งแต่คนทั้งคู่สามารถสลัดพ้นการติดตามของวันทนีย์  จนพากันหนีมาหลบซ่อนอยู่ในที่กบดานอย่างบ้านเช่านอกเมืองในตอนนี้  อภิธันก็ใช้เวลาทุกนาทีไปกับการเฝ้าดูและป้อนข้อมูลคำสั่ง ลงในคอมพิวเตอร์ของเขา ด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด

              “ทีนี้ คุณจะบอกฉันได้รึยังว่า ไอ้สิ่งประดิษฐ์อะไรนั่นของคุณ มันคืออะไรกันแน่  ฉันอยากรู้”

              จูนถาม ทั้งอยู่ในท่าหลับตา แหงนหน้าขึ้นรับแรงลมแลดูเซ็กซี่  อภิธันมองดูกิริยาท่าทางนั้น พลางลอบกลืนน้ำลายลงคอ  รู้สึกเหมือนเลือดลมพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

              “คุณแน่ใจหรือว่าอยากจะฟัง  มันออกจะค่อนข้างน่าเบื่อสำหรับคุณนะ”

              “วันนี้ทั้งวัน  ฉันตื่นเต้นมามากพอละ  เล่าๆ มาเถอะ”

              คำตอบจากอีกฝ่าย ทำให้อภิธันถอนหายใจ  เขาก้มลงมองดูตัวอักษรและตัวเลข ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนหน้าจออย่างนึกชั่งใจ  ก่อนตัดสินใจบอกเล่าที่มาที่ไปของสาเหตุที่ตนต้องหนีตาย ในครั้งนี้

              “ผมเป็นหนึ่งในทีมออกแบบและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ ที่ต่อยอดมาจากผลการวิจัยเกี่ยวกับสมองส่วนหน้า  ส่วนที่เรียกกันว่า Forebrain”

              พอมองไปเห็นใบหน้าแสดงอาการงวยงงของอีกฝ่าย  ชายหนุ่มจึงรู้ตัวว่า จำเป็นต้องอธิบายให้ง่ายขึ้น  เพื่อให้คนธรรมดาที่ไม่ได้มีสมองอัจฉริยะอย่างตน  ตามทันความเข้าใจได้

              “หมายถึง ก้อนสมองส่วนที่ใหญ่ที่สุด  และมีรอยหยักมากที่สุดน่ะ  คุณคงจะเคยเห็นภาพมาบ้าง”

              “อ่อ  อันนี้พอจะเข้าใจ  เพราะฉันเคยเป่าสมองคนมาอยู่บ้าง สองสามคน เห็นจะได้”

              หญิงสาวเท้าแขนทั้งสองข้างไปข้างหลัง  ทำท่าแอ่นตัวขึ้นรับแรงลมเต็มที่  ร่องและเนินอกที่เห็นอยู่รำไร ทำให้อภิธันต้องเสมองไปทางอื่น  ด้วยกลัวเลือดกำเดาของตนพาลจะไหล ให้กับภาพที่ได้เห็นอยู่ตอนนี้

              “องค์กรที่ผมทำงานให้  มีนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะคนหนึ่ง ได้ทำการวิจัยเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับซีรีบรัม (Cerebrum) หรือสมองส่วนที่เกี่ยวความสามารถในการเรียนรู้ และความจำ ได้เป็นผลสำเร็จ  ไม่เพียงแต่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง  ในทางกลับกัน  ยังสามารถหาวิธีนำความรู้ และข้อมูลปริมาณมหาศาล ฝังเข้าไปในสมองของมนุษย์ได้อีกด้วย”

              “ทำแบบนั้นแล้วจะได้อะไรขึ้นมา”

              จูนปรือตา เผยอริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย  ก่อนท้วงในเรื่องที่ตนยังมองไม่ออกว่า จะทำเงินให้ได้อย่างมหาศาลอย่างไร

              “ได้สิ  มันสร้างประโยชน์ได้อย่างมหาศาล ยิ่งกว่าที่เราจะคาดคิดเลยล่ะ  คุณลองนึกภาพดูสิ จูน  สิ่งนี้สามารถเปลี่ยนคนธรรมดา ให้กลายเป็นผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญได้ในพริบตา  ไม่ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์  นักบินอวกาศ นักธุรกิจชั้นแนวหน้า  เชฟระดับมิชลินสตาร์  หรือแม้แต่นักแข่งรถฟอร์มูล่าวัน  เราไม่ต้องเสียเวลาอ่านหนังสือ ศึกษา หรือฝึกฝนให้เสียเวลาอีกต่อไป  หรือแม้แต่จะถ่ายทอดทักษะการเป็นนักฆ่าของคุณให้แก่คนอื่น ก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน เพราะเราทำให้มันกลายเป็นจริงได้”

              “จริงหรือ  ยอดไปเลย  ถ้าอย่างนี้ ฉันก็สามารถสร้างองค์กรนักฆ่าเป็นของตัวเองได้น่ะสิ”

              พอได้ยินได้ฟังตามนั้น  นักฆ่าสาวก็ออกอาการตื่นเต้นขึ้นมาทันที  เพราะลึกลงในใจ จูนคิดฝันอยากที่จะโค่นล้มองค์กรนักฆ่าของ G มานานแล้ว  ไม่มีใครล่วงรู้เจตนาที่แท้จริงว่า การที่เธอแฝงตัวเข้ามาเป็นนักฆ่าในสังกัดของ G ก็เพื่อต้องการล้างแค้นให้กับพ่อ  ผู้ซึ่งต้องมาจากไปด้วยน้ำมือของนักฆ่าคนหนึ่งในสังกัดนี้

              และเพื่อถอนรากถอนโคนฝันร้ายที่กัดกินครอบครัวของเธอมาแสนนาน  จูนยอมเสียสละตัวเอง ยอมทำงานสกปรก มือเปื้อนเลือด เพื่อจะหาทางเข้าถึงตัวหัวหน้าและจัดการกับมัน  ทั้งที่อีกนิดเดียว เธอก็จะสามารถทำได้สำเร็จแล้วแท้ๆ  ทว่าความพยายามทั้งหมดที่สู้อุตส่าห์ทุ่มเทมา กลับต้องเสียเปล่า..

              ..เพียงเพราะเธอเกิดหลงรัก ‘อภิธัน’  ช่างน่าขัน  นักฆ่ากลับมาหลงรักเหยื่อของตัวเอง..

              “แต่ฟังดูยังไง  ฉันก็ยังไม่เห็นว่า มันควรจะมีราคาได้ถึงพันล้านขนาดนั้น”

              หญิงสาวยังคงแสดงความคิดเห็นในมุมมองของตน  ตามความคิดของคนธรรมดา

              “มันมีแน่ จูน  ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพตามอย่างที่ผมเพิ่งบอกไป  สิ่งประดิษฐ์นี้สามารถล้างสมอง เปลี่ยนบุคลิกภาพและความทรงจำของคนคนหนึ่ง ให้กลายเป็นใครก็ได้  รัฐบาลประเทศหนึ่งสามารถสร้างกองทัพทหารที่ไร้ซึ่งความกลัวตาย  หรือสร้างทาสผู้ซื่อสัตย์ซึ่งมีแต่ความจงรักภักดี  หรือแม้แต่เปลี่ยนคนให้กลายเป็นเหมือนหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึกก็ยังได้  คิดดูสิ  โลกนี้จะเปลี่ยนโฉมหน้าไปสักแค่ไหน  ที่แน่ๆ  ไม่ว่าจะเป็นบุคคล องค์กร หรือประเทศใด  ย่อมต้องการมีสิ่งนี้ในครอบครองอย่างแน่นอน  ผมคิดว่า การประมูลในครั้งนี้ จะต้องเป็นศึกแย่งชิงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด เท่าที่โลกเคยมีทีเดียวล่ะ”

              อภิธันพูดพลางหัวเราะอย่างตื่นเต้นยินดี  จูนที่มองไปเห็นแววตามุ่งมั่นของอีกฝ่าย ถึงกับรู้สึกหวิวไหวขึ้นมาในอก  เธอจึงลุกขึ้น  เดินไปใกล้เขา  ก่อนโน้มใบหน้าลงจุมพิตที่ริมฝีปากนั้น อย่างต้องการให้รางวัลที่อีกฝ่ายแสดงสีหน้าถูกใจเธอ

              “คุณยังมีอะไรที่ปิดบังฉันอยู่ใช่ไหม”

              คำถามดังกล่าวทำให้ชายหนุ่มผู้กำลังเหม่อลอย ด้วยรสสัมผัสอันวาบหวามหลุดออกจากภวังค์  เขาลืมไปเสียสนิทเลยว่า จูนเป็นนักฆ่าที่เคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ  เธอมีพรสวรรค์ในการจับพิรุธจากลักษณะท่าทาง หรือการแสดงออกบางอย่างที่ผิดปกติของคนอื่น ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

              “ผมก็ไม่อยากปิดคุณหรอกนะ  แต่สิ่งประดิษฐ์ในคราวนี้  มันมีสองอย่าง  อย่างหนึ่งก็คือเครื่องคอนโทรลสมองที่เพิ่งพูดถึง  ส่วนอีกอย่างหนึ่งคือ เครื่องสร้างประจุไฟฟ้า พลังงานยูเรเนียม ที่จะสามารถทำเงินให้ในระดับพันล้านเช่นเดียวกัน  เพียงแต่เครื่องนั้นแบ่งออกเป็นสองส่วน  และผมก็ขโมยออกมาได้แค่ครึ่งเดียว มันเลยกลายเป็นของไม่สมบูรณ์ ที่ยังออกประมูลขายไม่ได้”

              คำตอบจากปากชายหนุ่ม ทำให้จูนพ่นลมหายใจออกทางปากเบาๆ  เป่ารดต้องถูกใบหน้าของอีกฝ่าย  เธอเผยอยิ้มอันแสนหวานขึ้นบนใบหน้า  ดวงตาระยิบระยับเหมือนแสงแดดที่ตกกระทบผิวน้ำยามบ่าย

              “ฉันชอบคุณจริงๆ เลย  คุณอภิธัน  คุณทำให้ฉันตื่นเต้นได้เสมอเลยนะ”

              “ผมก็ชอบคุณ จูน  คุณไม่เหมือนใครที่ผมเคยเจอมาก่อน”

              “แน่นอนค่ะ  ฉันไม่มีวันเหมือนใคร  และจะไม่ยอมให้ใครมาเหมือนด้วย”

              นักฆ่าสาวยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าของอีกฝ่าย  ก่อนผละออกไปทางหนึ่ง เพื่อแต่งตัวให้เรียบร้อย

              “ฉันมีความคิดดีๆ ละ  พวกเราควรจะว่าจ้างลุงแมน  เราต้องการกำลังเสริม และคนที่สามารถช่วยคุ้มกันคุณ จากนักฆ่าคนอื่นๆ ได้”

              ชื่อดังกล่าวทำให้อภิธันเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ  เนื่องจากตัวเขาเองก็รู้จักชื่อรหัส ‘ลุงแมน’ แห่งถนนนักฆ่าเป็นอย่างดี  ในเมื่อตอนนี้ จูนขึ้นบัญชีคนทรยศเหมือนอย่างตนแล้ว  เธอจะเปิดช่องให้พวกนักฆ่าเข้าถึงตัวพวกเขาเพื่อการใด

              “แต่ลุงแมนเป็นนักฆ่าของ G ไม่ใช่หรือไง  คุณคิดอะไรอยู่ จูน”

              “ลุงแมนสังกัดเดียวกับฉันก็จริง  แต่ทุกคนในองค์กรต่างรู้ว่า ขอแค่มีเงินจ่าย  ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน  ลุงแมนก็พร้อมที่จะทำงานให้ทั้งนั้น  G เองก็รู้ข้อนี้ดีเช่นกัน  เขาถึงได้ให้เด็กหญิงเต้ย คอยจับตาดูลุงแมนอยู่ตลอด  G ไม่เคยไว้ใจใคร  เราแต่ละคนต่างอยู่ในสายตาของ G ทั้งนั้น”

              จูน หรือ ‘ส่วนต่างที่เขาไม่ต้องการ’ เอ่ยถึงนักฆ่าอีกคนหนึ่งในชื่อรหัส ‘เด็กหญิงเต้ย’ นักฆ่าสาวนิสัยแปลกอีกคนหนึ่ง ผู้มีพรสวรรค์ในการแต่งกลอน และเขียนนิยายแนวแฟนตาซี

              “ก็ถ้า.. คุณคิดว่า ลุงแมนจะไม่หันกลับมาฆ่าพวกเราทีหลัง  ผมก็จะยกเรื่องนี้ให้คุณจัดการไปตามที่เห็นสมควรเลย  แล้วเราต้องใช้เงินเท่าไหร่กันล่ะ ตอนนี้”

              นักฆ่าสาวรูดซิปเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำเป็นมันเงาขึ้นจนสุดคอ  ก่อนคว้าหยิบเอาหมวกแก๊ปสีดำ และผ้าปิดปากสีดำขึ้นมาสวมใส่เพื่อปกปิดใบหน้า  จูนกำลังจะออกไปข้างนอกอีกครั้ง

              “ฉันต้องใช้เงินวางมัดจำกับลุงแมนก่อน  ห้าล้านบาท  คุณมีไหม”

              “มีน่ะมี  แต่ผมสงสัยว่า ทำไมถึงแพงนักล่ะ”

              “ราคานี้ไม่แพงหรอก  ถ้าคุณยอมจ่าย  ฉันรับประกันเลยว่า แม้แต่ยุงหรือมดตัวเดียวก็จะไม่ได้เข้าใกล้คุณ  และฉันว่า มันคุ้มค่ามากนะ  ถ้าหากคุณจะยอมให้ฉันใช้ไอ้เครื่องนั่น  ..กับลุงแมนดูสักหน”

              รอยยิ้มของนักฆ่าสาวแลดูเยือกเย็นจนน่าขนลุก  ถึงตอนนี้  อภิธันชักไม่แน่ใจแล้วว่า วันทนีย์ หรือ ส่วนต่างที่เขาไม่ต้องการ  ใครกันแน่ที่น่ากลัวกว่ากัน

              โลกของนักฆ่าพวกนี้  มันชักจะซับซ้อนกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียแล้ว..


 
ApitarN (พล็อต) + zionzany (บรรยาย)



Create Date : 09 เมษายน 2563
Last Update : 9 เมษายน 2563 18:37:50 น. 0 comments
Counter : 539 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zionzany
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เขียนนิยาย

ปลดปล่อยจินตนาการ

ไม่ยึดติดกับแนวไหน

เพราะจะไปให้ถึงที่สุด..

เท่าที่เราสามารถแผ่

กิ่งก้านความสามารถ

ออกไปสู่โลกกว้างได้

ยินดีต้อนรับทุกคน

สู่โลกของ zionzany

ที่นี่ .. ตรงนี้นะจ้ะ
แต่งนิยายทำร้ายผู้อ่าน ..Tcell H-A-V.. ..Tacticle Ball.. ..Kiss Myself.. ..ZhuXian จูเซียน.. ..เพียงฝันนี้ ศรีสุวรรณ.. อยากคูล อยากคัลท์ อยากมันส์ ที่สำคัญ อยาก-เขียน-ให้-จบ Let's rock Baby
New Comments
Friends' blogs
[Add zionzany's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.