|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
บท 2 : สายลมแห่งสราญรมย์
เหอหยาง เมืองศูนย์กลางของเหล่าจอมยุทธและวาณิชย์สัญจร
นี่ท่านนักพรต สนใจผลไม้เชื่อมสักหน่อยไหมเล่า ลูกกวาดก็มีนะท่าน
เสี่ยวหวน แม่ค้าสาวน้อยส่งเสียงใสเรียกร้องความสนใจจากผู้ผ่านไปมา การค้าขาย ณ เมืองอิสระแห่งนี้เป็นไปอย่างครึกครื้นและมีแง่มุมลึกลับอยู่เสมอ สำหรับชาวบ้านทั่วไป พ่อค้าแม่ขายก็พร้อมจะนำเสนอสินค้าจิปาถะต่างๆ นานา แต่หากเป็นนักท่องยุทธภพที่มีสังกัดวิชา ก็จะเกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าลับเป็นด้านคู่ขนาน
นี่แน่ะ หรือว่า ท่านจะมีฝุ่นลึกลับ หรือ หม้อสะสมทรัพย์มา ข้ายินดีแลกสื่อนำวิเศษทุกชนิดกับท่าน อ๊ะ ถ้าท่านยังไม่ต้องการอะไรจากข้า ก็หลีกทางให้คู่นั้นสักครู่นึงหนา ดูเหมือนจะมารับของชำร่วยจากข้า กับทำนายโชคชะตาให้
ฝูอิง เอี้ยวตัวหลีกทางให้กับคู่หนุ่มสาวที่พากันตรงมาหาเสี่ยวหวน ไม่ไกลจากจุดที่นักพรตหนุ่มยืนอยู่แลดูมองเห็นเซียนเสื้อทองกำลังให้คำแนะนำกับกลุ่มคนที่มีความต้องการจะก้าวเข้าสู่ยุทธภพ ก่อนหน้านี้ ตัวเขาเองก็เคยยืนอยู่ตรงนั้น เคยลังเลใจว่า ควรเข้าร่วมกับสำนักไหนดี
มุกวัฏจักร เครื่องเวทย์อันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวศิษย์สำนักอารามผดุงฟ้า ลอยวนเวียนเอื่อยๆ รอบตัวอย่างไม่มีวันหน่าย กอปรด้วยเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากชอบใจของเด็กหญิงซึ่งพยายามกระโดดไล่จับคว้ามันเล่นเป็นที่สนุกสนาน ช่วยปลุกนักพรตหนุ่มให้พ้นจากภวังค์เหม่อลอย เขาย่อตัวลงต่ำเพื่อเจรจากับสาวน้อย
ยิน้อย ฟังข้านะ เมื่อเราไปถึงผดุงฟ้า เจ้าจะต้องทำตัวนิ่งๆ ให้อาจารย์ของข้าตรวจปานที่หลังของเจ้า เจ้าเข้าใจที่ข้าบอกเจ้าไหม
เด็กหญิงพยักหน้าเหมือนดังว่าเข้าใจ ก่อนยิ้มหวานหยดจนตาหยี เลือดฝาดที่แก้มเปล่งปลั่งราวลูกตำลึงสุกทำให้เด็กน้อยแลดูน่ารัก น่าเอ็นดูยิ่งนัก ในสายตาของผู้สัญจรผ่านไปมา
ครอบครัวของเด็กน้อยตอบรับคำขอที่จะนำตัวเด็กไปยังอารามผดุงฟ้า ราวกับรับรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่า สักวันจักต้องปรากฏเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ทุกคนในหมู่บ้านมิอาจทำนายได้ว่า ชะตาชีวิตของยิน้อยจะเป็นไปอย่างไร เด็กที่ถือกำเนิดมาภายใต้วันอันแปรปรวนที่สุดของฟ้าสวรรค์ ย่อมไม่อาจมีวิถีชีวิตที่ธรรมดาได้
เฮ้~ ฝูอิง ลูกเจ้าโตเร็วจังหนา
บังเกิดเสียงใคร่ร้องทักทายหากแต่มองหาเห็นตัวไม่ พลันเมื่อแหงนหน้าขึ้นมองไปยังทิศเบื้องบนก็เห็นร่างหนึ่งเหินลอยลิ่วลงมาจากยอดเจดีย์สูง ประกายวาววับของจักรผันต้องแสงอาทิตย์สะท้อนส่องให้นัยน์ตาพร่างพร่า ร่างนั้นทะยานลงสู่พื้นอย่างแคล่วคล่องว่องไว ประหนึ่ง โลกานี้มิมีสิ่งใดอาจหาญมาทำให้ประหวั่นกลัว
มู่ฉีเสียน ศิษย์น้องผู้เริงร่าแห่งสำนักสราญรมย์ หมุนควงจักรคู่กายด้วยความเร็วรี่ ก่อนเก็บมันไว้มั่นเหมาะกลางแผ่นหลังของตน เขาทำท่าล่อหลอกให้เด็กเข้าหา ทว่า ยิน้อยถอยไปเกาะยึดชายเสื้อฝูอิงไว้แน่นเหมือนดังว่ากลัว
ข้าเห็นพระกับเด็ก เห็นทีจะมีเรื่องชวนสำราญ หรือไม่เล่า สหาย ออ.. ข้าตั้งใจจะเดินทางพร้อมดรุณีน้อยนี่กลับผดุงฟ้า แล้วเจ้าล่ะ สหายข้า จักไปยังแห่งหนใดรึ
ชายหนุ่มผู้เลือกหนทางสู่วิถีศึกษาศาสตร์สรรพยุทธแห่งข้าทาสกระดิ่งทอง ยกมือขึ้นกอดแนบอก คิ้วเชิดขึ้นนิดดังวางท่าจะแถลงเรื่องสลักสำคัญ
จุ๊ๆ หากข้าบอกเจ้า จงจำจดแล้วอย่าขานต่อ อาจารย์ข้าวานข้า มาสืบข้อเท็จจริงข่าวลือหนึ่งที่เหอหยางนี้ สำนักมารสยบฟ้าครอบครองเคล็ดร่ายและชิ้นส่วนวังจันทรา ว่ากันว่า สามารถเรียกวิญญาณผู้ตายฟื้นคืนชีพได้ วิชามาร แพร่สะพัดไปทั่วแล้วจริงๆ ก็เพราะเป็นด้วยเรื่องนี้ ข้าเห็นว่า ทางสำนักเจ้าวิญญาณ และ เมฆเขียว ก็มิอาจนิ่งเฉยได้อยู่ และหากข่าวลือนี้เป็นจริง ยุทธภพคงมีเรื่องสนุกสนานในเร็ววัน บุรุษในตำนานอย่างจางเสี่ยวฟานต้องออกมาปรากฏตัวอย่างแน่นอน
สมกับเป็นมู่ฉีเสียน ผู้ไม่เคยหวั่นเกรง กล่าวเรื่องสำคัญที่สามารถเขย่าฟ้าดินได้อย่างหน้าตาเฉย บุรุษในชุดชั้นฝึกหัดสีม่วงตามแบบสำนักสราญรมย์ ก้าวอาดๆ ไปซื้อมะยมเชื่อมไม้หนึ่งจากแม่ค้าเสี่ยวหวน ก่อนนำมามอบให้แก่ยิน้อย เขาฉีกยิ้มกว้างอย่างนึกเอ็นดูเด็กหญิงยิ่ง
นี่ให้เจ้า หากเติบใหญ่ขึ้นสวยสะคราญ มู่ฉีเสียนคนนี้จะไปสู่ขอเจ้ามาไว้เคียงกาย
ยิน้อยเอื้อมมือรับขนมหวาน ในขณะที่นักพรตฝูอิงบ่นกล่าวให้กับประโยคมากรัก
สหายผู้สำราญ อย่างไรก็จงระมัดระวังตนไว้ให้ดี อันวาจาดังกล่าวที่เคยลวงล่อ เยี่ยหลัน ศิษย์น้องร่วมสำนักข้ามาแล้วนั้น กาลนี้ นางรุดหน้าสำเร็จวิชาผดุงฟ้าขั้นสาม สมควรแก่การตอบแทนท่านเป็นแม่นมั่น ไอ๊หยา~ เห็นทีว่า ข้ามีธุระต้องรีบไปจัดการ ลาท่านตรงนี้ละ
เห็นจะเป็นเพียงประโยคเดียวที่สามารถสร้างความน่าสะพรึงได้ มู่ฉีเสียนคำนับอำลาพร้อมออกท่าร่างว่องไวไปมาดุจสายลม เพียงพริบตา ศิษย์สำนักสราญรมย์ก็หายไปจากบริเวณนั้นอย่างไร้ร่องรอย
หมู หมูน้อยๆ
ยิน้อยกระตุกชายเสื้อ ชี้ชวนให้ดูหมูป่ากลางเขาตัวหนึ่งซึ่งวิ่งตามจอมยุทธหญิงผู้หนึ่งไปอย่างภักดี
มันเป็นสัตว์เลี้ยง วันหนึ่งเจ้าจะมีสิทธิได้รับสัตว์อัญเชิญมาเป็นสหายคู่กายเจ้า มันจะต่อสู้เคียงคู่ไปกับเจ้า เหมือนกับเครื่องเวทย์ประจำตัวของข้านี้ ..ของข้า เริ่มมีความปรารถนาก่อร่างขึ้นในใจของดรุณีตัวน้อย เอาล่ะ จับมือข้าไว้แน่นๆ เราจะเดินทางโดยผ่านการนำของเซียนลัดฟ้า
ศาลาเล็กโปร่งสี่มุมตั้งอยู่กลางเมืองเหอหยาง ปรากฏร่างหญิงสาวหมดจดงดงามในอาภรณ์สีฟ้ายืนเด่นเป็นสง่า หน้าที่ของนางคือ จัดส่งผู้คนไปตามเมืองต่างๆ ที่มีศิษย์พี่น้องเซียนผู้มีวิชาคอยทำหน้าที่รับ-ส่ง เช่นเดียวกันนี้
ข้าต้องการเดินทางไปยังอารามผดุงฟ้า
ฝูอิงแจ้งความประสงค์อย่างช้าๆ การสนทนากับบุคคลที่บำเพ็ญตนจนสามารถก้าวข้ามขั้นมนุษย์ไปเป็นเซียนแล้ว ก็สร้างอาการประหม่าให้เกิดแก่ตนได้ไม่น้อย
ได้ดังหวัง ขอจงสำรวม
สิ้นเสียงตอบรับเบาๆ ทัศนียภาพรอบด้านก็พร่าเลือน ก่อนกลับมาแจ่มชัดอีกครั้งในสถานที่ที่ฝูอิงคุ้นเคยยิ่งกว่าที่แห่งใด
อารามหลังใหญ่โดดเด่นตั้งตระหง่าน บันไดกว้างทอดยาว กระเบื้องปูเป็นลานขาวสะอาดกระจ่างแก่สายตา กระถางธูปที่ไม่เคยมอดดับตั้งจุดเป็นพุทธบูชา บรรดาศิษย์น้อยใหญ่แห่งสำนักอารามผดุงฟ้าเยื้องย่างอย่างสงบ สำรวม ไร้ซึ่งความวุ่นวาย เป็นบรรยากาศซึ่งก่อให้เกิดความสงบเยือกเย็นภายในอย่างแท้จริง
Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2554 |
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2554 21:47:11 น. |
|
0 comments
|
Counter : 778 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ปทุมธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เขียนนิยาย
ปลดปล่อยจินตนาการ
ไม่ยึดติดกับแนวไหน
เพราะจะไปให้ถึงที่สุด..
เท่าที่เราสามารถแผ่
กิ่งก้านความสามารถ
ออกไปสู่โลกกว้างได้
ยินดีต้อนรับทุกคน
สู่โลกของ zionzany
ที่นี่ .. ตรงนี้นะจ้ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|