“..การศึกษาวิชามานุษยวิทยา มีจุดประสงค์ให้มนุษย์เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับมนุษยชาติทั้งมวล มนุษย์จะได้เข้าใจตนเองและเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เป็นพื้นฐานให้เกิดความเข้าใจอันดี และการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข...” สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ๒๕๓๗

 
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 มีนาคม 2550
 

จตุคามรามเทพ กับข้อคิดทางวิชาการ ไม่เชื่อ....ไม่ลบหลู่

ความนิยมของพระเครื่องมีมานานกว่า 2500 ปีแล้ว
แต่ในยุคหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน ไปกว่า 400 ปี จึงเพิ่มมีการทำรูปเคารพแทนพระพุทธองค์

แผ่นดินเหนียว โลหะและสถูปจำลอง เป็นความนิยมของชนโบราณในยุคกุษาณะ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาตามมหาเจดีย์ของพระศากยมุนนี

เวลาผ่านไป อิทธิพลของกรีกโรมัน สร้างให้การแทน"สัญลักษณ์" เปลี่ยนแปลงไป ผู้คนเริ่มสร้างรูปเหมือนในยุคคันธาราฐ และใช้เป็นแม่แบบของผู้บิ่งใหญ่บนเหรียญเงินในยุคพระเจ้ากนิษกะ มหาราชาในยุคพุทธศตวรรษที่ 6 ของกุษาณะซึ่งถือว่าเป็นพระเครื่อง(บนเหรียญ)รุ่นแรกของโลก



และยังมีเหรียญทองคำในยุค2000 ปี ที่มีราคาในตลาดมืดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท



พัฒนาของเหรียญและการสร้างพระเครื่องรุ่นแรก มานิยมในยุคคุปตะราวพุทธศตวรรษที่ 8 ลงมา แต่ก็สร้างตามนิกายที่มีองค์ประกอบของพระศากยมุนีที่แตกต่างกัน (แนะนำให้อ่านพัฒนาการของศาสนาพุทธ ในBlog ที่แล้ว)

จนปัจจุบัน การผสมผสานและสร้างTrand เพื่อการค้า นำเอาความแตกต่างและสร้างใหม่มาเป็นจุดขาย

ผม Post เรื่องราวของจตุคามรามเทพไว้ในฐานะ"เทพปกรณัม" ที่มีรากฐาน ไว้ที่ pantip

ไม่ใช่ ฐานะของเทพปกรณัม ที่แต่งชื่อกันขึ้นมาเองและแห่กันตาม สร้างประวัติศาสตร์เทียมเอามาสวมทับ

"....จตุคามรามเทพ ไม่ปรากฏในชื่อของเทพเจ้าในศาสนาใด ๆ ก่อนหน้าปี พ.ศ.2530 และไม่ปรากฏในเทพปกรณัม Mythrology ของศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ ใด ๆ

ปกรณัมของพุทธและพรามหณ์-ฮินดู มีรากเง้าในช่วงเวลาหนึ่งเกี่ยวข้องกัน ตามกลบทของการแย่งชิงลูกค้า
เทพประจำทิศ เป็นเทพเจ้าเก่าแก่ ยังถูกใช้สืบต่อมา เพราะโลกยังมี google earth เสมอ
เทพประจำทิศเข้ามาอยู่ในพุทธศาสนาสายมหายาน บ้างก็หลุดเข้ามาในเถรวาทิน(บางลัทธิ)

รามเทพ เป็นเทพเจ้าหลักในศาสนาฮินดู เป็นภาคอวตารที่มีอิทธิพลในอุษาคเนย์มากที่สุดผ่านเรื่องราวในคัมภีร์เรื่องรามายณะ และผนวกหรือส่งอิทธิพลเข้ามาในศาสนาพุทธสายมหายานในช่วงพุทธศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา
ทั้ง ๆ ที่มหากาพท์เรื่องมหาภารตะ สงครามกุรุเกษตร มีความสำคัญมากกว่าในความเชื่อของอินเดียโบราณแต่มิได้สืบทอดมาในอุษาคเนย์มากกว่ารามยณะ

รามเทพจึงเป็นรากฐานของความเชื่อที่"ยืม"มาจากเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู
"ยืม"มา โดยละทิ้งรากเง้าของกำเนิดที่มาจากองค์อวตารของพระนารายณ์

จัตุคาม กับ รามเทพ จึงเป็นคนละองค์กันและไม่เคยมีอวตารร่วมกัน

ผู้สร้างจึงพยายามดึงเอาอวตารของพราหมณ์-ฮินดู แบบเปลือก ๆ มาอ้างเรื่องเกี่ยวกับการอวตาร ว่า หากในอวตารที่ เก้าเป็นพระพุทธเจ้า
รามเทพย่อมเป็นพระพุทธเจ้า ในรูปของพระโพธิสัตว์

แต่พระโพธิสัตว์ ในศาสนาพุทธสายวัชรยาน (มหายาน) มีจำนวนมากมาย ความเชื่อของพุทธศาสนาในสายหนึ่ง ศรีธรรมโศก คือพระโพธิสัตว์ผู้ปกครองโลก( ทวีปทั้งสี่) หากไม่มีพระพุทธเจ้า( ศากยมุนี) ถือกำเนิด
ศรีธรรมโศก คือกษัตริย์ในร่างของเทวราชาโพธิสัตว์ผู้ปกครองโลกในจักรพรรดิราชา

ซึ่งสามารถศึกษาได้ในไตรภูมิ ( ของอาจารย์เสถียรโกเศฐ)

เทวราชาโพธิสัตว์ผู้ปกครองอาณาจักร ถูกใช้เป็น"ระบอบ"ในการปกครองรัฐโบราณ ทั้งสมัยของตะเบงชะเวตี้ พระมหาจักรพรรดิ พระนเรศวร อลองพญา ฯลฯ
ซึ่งล้วนประกาศตนเป็นจักรพรรดิราชา ( ศรีธรรมโศก)

ผู้สร้าง ได้นำเทพเจ้าระดับล่างของสวรรค์ คือเทพสี่ทิศ มารวมกับ เทพระดับสูงของสวรรค์ คือพระนารายณ์ ในศาสนาฮินดู มานั่งประดับในท่ามหาราชาลีลาสนะ

ผสมกับพระโพธิสัตว์ในสายมหายาน ในระบอบของจักรพรรดิราชาของศาสนาพุทธโบราณ
และนำพญานาคแบบฮินดู ( ผ่านเขมร)มาผสม

พร้อมกับนำราหู อันเป็นยักษ์มารจากปกรณัมกวนเกษียรสมุทร ผู้กลืนกินแสงสว่าง ผู้เป็นอมตะ ผู้ไม่ตาย มาใส่ไว้โดยรอบ

จึงนับได้ว่า เทพเจ้า"จัตุคามรามเทพ"ที่ได้ถือกำเนิดขึ้น มิใช่เทพเจ้าในพระพุทธศาสนา แต่เป็นเทพเจ้า mix-up ที่ถูกสร้างขึ้นโดย มีอัตราส่วนของความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู กว่า 70% เป็นศาสนาพุทธสายมหายาน(หลากหลาย) 18 % เป็นศาสนาพุทธสากลที่มีหลักธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเพียง 2 % ส่วนสุดท้ายคือ การถือเรื่องของ animism (ภูติ ผี อำนาจเหนือธรรมชาติ)10 %

เทพจัตุความ ปัจจุบันนิยมในหมู่คนชั้นกลาง ที่มีลักษณะของคนนิยมพระใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย ปกปักษ์รักษา แคล้วคลาดปลอดจากภัยอันตราย ตามความเชื่อ ( belief)ราคาเป็นไปตามกลไลราคา ทางการตลาด ซึ่งมีเรื่องของรสนิยมและเทรนด์ เป็นตัวแปรสำคัญ



เชื่อและปฎิบัติตามคำสอนของทุกพระศาสดา ดีกว่า เชื่อในโลกแห่งความเฟ้อฝัน และโชคลางในระบบอำนาจเหนือธรรมชาติ จะทำให้เรามืดบอดทางปัญญานะ




 

Create Date : 21 มีนาคม 2550
9 comments
Last Update : 22 มีนาคม 2550 8:13:37 น.
Counter : 2035 Pageviews.

 
 
 
 
ผมว่าถ้าไม่งมงาย..เอาแบบเป็นกำลังใจดีกว่า...
 
 

โดย: Kurt Narris วันที่: 21 มีนาคม 2550 เวลา:10:07:53 น.  

 
 
 
ที่จริงชาวพุทธทำความเข้าใจดีๆ

ถึงพระไตรสรณคมณ์แล้วก็ถือว่าสูงสุดแล้วน่ะ

 
 

โดย: แป้งหอม (floral_flory ) วันที่: 21 มีนาคม 2550 เวลา:15:12:03 น.  

 
 
 
จุเลยหน้าแตกเลย เพิ่งจะคอมเมนท์ไปในบล็อกศาสนา ว่า ด้วยความเห็นจตุคาม

ขอบคุณสำหรับแง่มุมทางวิชาการของพระเครื่องค่ะ
 
 

โดย: กระจ้อน วันที่: 22 มีนาคม 2550 เวลา:11:53:18 น.  

 
 
 
สวัสดีครับ พอดีอ่านเรื่องของคุณแล้วติดใจ เลยเข้ามาใน
bloggang

ก็มาสะดุดตรง จตุคาม รามเทพ อ่านไปอ่านมาในฐานะคนนครศรีธรรมราชแต่กำเนิด ขอแสดงความเห็นนิดนึง

ที่ฐานรูปปั้นนั่งชันเข่า บริเวณทางขึ้น ลานประทักษิณา
ถ้าหันหน้าเข้าประตู องค์ซ้ายที่ผมรู้จัก และเห็นมาแต่เด็ก มีข้อความจารึกที่ฐานว่า "เท้า ขัตตฺคาม"

องค์ขวา จารึกว่า "เท้า รามเทพ"

ต่อมามีการบูรณะเกิดขึ้น
"ขัตตฺคาม" เลยเพี้ยนเป็น "ขัตตุคาม" คือจากตัวกลมๆ ใต้ ต.เต่า ก็กลายเป็นสระอุ แล้วเพี้ยนกันไปยกใหญ่กลายเป็นจตุคาม

ผมตีความเบื้องต้น "ขัตตฺ" อ่านว่า ขัตตัส ลองเทียบๆ เคียงๆ กับพจนานุกรม คำที่น่าจะให้ความหมายได้ใกล้ที่สุดคือ

"เชื้อกษัตริย์"

ถ้าตีความแบบกำปั้นทุบดิน คือ
คาม= ที่อยู่
ราม= องค์อวตารของนารายณ์
เทพ= เทพตรงตัว

ตีความรวม

เทพอันเป็นองค์อวตารของนารายณ์ ได้มาเป็นกษัตริย์ ณ สถานที่นี้

ยังงี้พอไหวมั้ยครับ
พอดีมันโพศต์รูปไม่ได้ ไม่งั้นเอารูปตอนที่พ่อถ่ายไว้ตอนผมเด็กๆ (30 กว่าปีมาแล้ว) มายืนยัน "ขัตตฺคาม"

 
 

โดย: พี่คนใต้ใจดี IP: 125.24.147.130 วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:14:20:12 น.  

 
 
 
ป.ล. ตอนนี้เพี้ยนกันใหญ่โตแล้วครับ

จากเทพรักษาเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมืองของนครศรีธรรมราช

พ่อค้าพระสร้างซะใหญ่กว่าองค์พระประธานในโบสถ์ซะอีก

ผมไปไหว้พระแก้วมรกตเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ก็ไปไหว้พระสยามเทวาธิราชด้วย

ก็อดเปรียบเทียบกันไม่ได้ครับ ท่านองค์ไม่ถึงศอก แต่คุ้มครองทั้งประเทศสยาม กับคนสยามทั่วโลก

แต่เทพรักษาเมืองบ้านผม ทำไมใหญ่จัง

ป.ล. ขออนุญาตนำบทความจตุคามรามเทพที่อาจารย์เขียนไปใช้ได้เปล่าครับ

พอดีผมจะเขียนหนังสือสวนกระแส+แสกหน้า พ่อค้าพระบ้านผมครับ ตอนนี้กำลังจะปั้น ขุนพันธรักษ์ราชเดชเป็นเทพอีก ผมละกลุ้มเลย

พอดีผมนักเขียนหน้าใหม่เขาให้ 5 % เองครับ
 
 

โดย: พี่คนใต้ใจดี IP: 125.24.147.130 วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:14:30:42 น.  

 
 
 
ยินดีมาก ๆ ครับ
เรื่องของการปรับเปลี่ยนเทพเจ้าและผีมาใช้ประโยชน์ เกิดขึ้นโดยตลอดเวลา ในทุกยุคสมัยครับ
แต่เทพตรงประตู มักจะเป็นเทพประจำทิศและทวารบาล ที่มักเป็นเทพระดับล่างครับ

แต่การปรับปรุงเทพระดับล่างที่มาจากบรรพชน เช่นเรื่อง"นัต" ของพม่า จากกษัตริย์มาสวมเป็นเทพ หรือเอาเทพประจำทิศมาสวมเป็นเทพอีกลักษณะหนึ่ง

คนสมัยก่อนเขาจะคำนึงถึงปกรณัมที่เหมาะสมและระดับที่สมควรใช้ เช่นการนับถืออดีตกษัตริย์แห่งตามพรลิงค์ คืออวตารแห่งพระนารายณ์(ซึ่งในปัจจุบันก็ยังใช้อยู่) มาเฝ้าทางขึ้นและทำหน้าที่ปกปักษ์รักษาพระมหาธาตุเจดีย์

ถึงแม้ว่าอายุของรูปปั้นทั้งสองจะมีไม่เกินรัชกาลที่ 6 ขึ้นไป หรืออ่อนกว่า ผู้สร้างได้ใช้"คติ"ที่เหมาะสมมาบูรณะสืบพระศาสนาอย่างสวยงาม

ความประทับใจของผู้สร้างเป็นกุศลและพุทธบูชาที่ยิ่งใหญ่
แต่ผู้นำใช้และใช้แบบดัดแปลง แผลง ๆ ไปตามความรู้หรืออคติของตน นำมารวมเป็นเทพองค์เดียว และผสมกับราหูอมจันทร์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันในพื้นฐานของปกรณัม

ผู้สร้างย่อมเสียใจ ผู้แปลงจากสองเทพผู้พิทักษ์พระมหาธาตุ สัญลักษณ์แห่งพระศากยมุนีย่อมขาดความเข้าใจ ผู้ใช้ย่อมไข่วเขวและงมงาย

งมงายและตีความ สร้างประวัติศาสตร์ลวง ๆ ออกมาสร้างกิเลส ตัณหา ให้กับผู้คน

ยกให้เทพแค่ผู้เฝ้าพระบรมธาตุแห่งพระศาสดา อยู่เหนือกว่า"คำสอน"พระศาสดา

จตุคามของแท้จะต้องประกอบด้วย เทพกษัตริย์ 2 องค์ และมีพระบรมธาตุอยู่เหนือขึ้นไป ไม่ใช่เทพเจ้าที่มานั่งท่ามหาราชลีลาสนะ

ในขณะที่รูปปั้น ต้นของเรื่องราวทั้งหมด อ่อนน้อมและทำหน้าที่ปกป้องพระศาสนา

ผู้ดัดแปลงกลับเอามารวมและใส่ไข่ใส่สี ให้เป็นพระโพธิสัตว์ ดันไปนั่งในโลก"มหายาน"

พระบรมธาตุ เป็นเถรวาทสายลังกาวงศ์ ไม่ใช่มหายานโพธิสัตว์

สุดจะกู่กลับ.........แล้ว

 
 

โดย: วรณัย IP: 222.123.113.139 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:9:31:04 น.  

 
 
 
พี่คนใต้ใจดี ช่วยส่งรูปที่มีหลักฐานคำว่า ขัตตฺคาม ให้ได้มั้ยจะขอบพระคุณมาก ๆ เพราะอยากได้รูปมาก ๆ บอกให้ใครฟังก็บอกไปเอารูปมาดู ไม่รู้จะติดต่อ พี่คนใต้ใจดี ได้อย่างไรนะจ๊ะ..
รักและเคารพ
 
 

โดย: แสงเทียน IP: 203.188.22.61 วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:20:46 น.  

 
 
 
เออ รูปสแกนไว้แล้ว แต่โพสต์รูปตรงไหนอ่ะ

แต่อาจจะต้องเพ่งนิดนะ เพราะเก่ามาก
 
 

โดย: พี่คนใต้ใจดี IP: 203.156.32.154 วันที่: 5 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:46:06 น.  

 
 
 
เริ่มต้นดีที่ท่านขุนพันธ์สร้างและต่อมาถึงปี45เขาเรียกพระผงสุริยัน จันทราหมายถึงพระโพธสัตว์สุริยะประภา จันทรประภา ของมหายานที่เข้ามาในศรีวิชัยก่อนเถรวาทเรา ต่อมาคนทรงบ้าง พระบ้าง เซียนพระบ้างมาทำเขากลายเป็นพระรามสี่บ้านไป จตุคาม=สี่บ้าน รามเทพ=พระรามความจริงเรายืมเทพจากลังกามารักษาพระบรมธาตุสี่องค์คือ ท้าวขัตตุคามเทพ=พระขันธกุมารโอรสพระศิวะ รามเทพ=พระราม รักขเทพ=พระลักษมณ์ และพระสุมณเทพที่รักษาเขาสุมณกูฏที่มีรอยพระพุทธบาท จากการที่ด้อยประวัติศาสตร์ อ่อนแอพุทธศาสนาจึงเพี้ยนเปลี่ยนไป
 
 

โดย: รู้น้อย IP: 222.123.34.91 วันที่: 6 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:43:22 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วรณัย
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เวลาผ่านไป หัวใจยังคงเดิม
[Add วรณัย's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com