กำแพงเบอร์ลิน (Berliner Mauer)
ได้ถูกทำลายลงเมื่อปี ค.ศ. 1989
หลาย ๆ คนน่าจะลืมเลือนความโหดร้ายหลังกำแพงนี้ไปแล้ว
แต่เชื่อว่าความทุกข์ที่ชาวเยอรมันเคยได้รับไม่น่าจะลืมเลือน
และลบออกไปจากความทรงจำได้อีกตราบนานเท่านาน
เพราะกำแพงเบอร์ลินเปรียบเสมือนการปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน
ว่ากันว่าเป็นกำแพงแห่งเดียวในโลกที่สร้างขึ้นเพื่อปิดกั้น
ประชาชนในประเทศของตนจากโลกภายนอก
ในขณะที่กำแพงเมืองอื่น ๆ ทั่วโลกมีไว้เพื่อป้องกันศัตรูเข้ามารุกราน
ในทางกลับกันสหภาพโซเวียต กลับมองว่า
กำแพงเบอร์ลิน คือ นวัตกรรมของชนชาติ
แนวกำแพงเบอร์ลินที่เคยกั้น 2 เยอรมนีไว้ 28 ปี
หลังจากเยอรมนีเป็นฝ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2
ประเทศถูกปกครองโดยฝ่ายสัมพันธมิตร 4 ประเทศ คือ
สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหภาพโซเวียต
กรุงเบอร์ลินเป็นเมืองหลวงก็ถูกแบ่งการปกครองออกเป็น 4 ส่วน เช่นกัน
และแล้วก็เกิดความคิดเห็นไม่ตรงกัน
ฝ่ายสหภาพโซเวียตต้องการให้เยอรมนีปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์
แต่อีก 3 ประเทศ ต้องการให้เยอรมนีปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย
ก็เลยต้องแบ่งเยอรมนีออกเป็น 2 ประเทศ คือ
เยอรมนีตะวันตกและเยอรมนีตะวันออก
เยอรมนีตะวันตกปกครองโดย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส
ใช้ชื่อว่า ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
เยอรมนีตะวันออกปกครองโดย สหภาพโซเวียต
ใช้ชื่อว่า ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี
ช่วงแรก ๆ ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ
ยังสามารถเดินทางข้ามแดนไปมาหาสู่กันได้เป็นปกติ
แต่เมื่อเวลาผ่านไป
มีความเจริญแตกต่างกันมากของทั้ง 2 ประเทศ
ซึ่งฝั่งที่เจริญขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็คือเยอรมนีตะวันตก
จึงเกิดการอพยพย้ายออกจากฝั่งตะวันออกมาฝั่งตะวันตกเป็นจำนวนมาก
ทำให้รัฐบาลเยอรมนีฝั่งตะวันออกเริ่มต้นสร้างกำแพงเบอร์ลิน
ในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 1961
28 ปี ของกำแพงเบอร์ลิน
ถูกปรับเปลี่ยนให้สูงและแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ ถึง 4 ครั้ง
แต่ยังคงมีการเสี่ยงชีวิตลอบข้ามกำแพงเสมอ
บางคนโชคดีก็รอดได้ไปต่อ
หลายคนก็ถูกยิงทิ้งถ้าถูกจับได้
ยังคงมีร่องรอยแห่งความทุกข์ความเจ็บช้ำเตือนใจนะคะ
เดินทางปลอดภัยนะคะ