Neverending Story จินตนาการไม่รู้จบ................
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
6 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้งภาค 1






1.


น้ำท่วมบ้านท่วมเมืองเริ่มจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว
ทุกอย่างกลับคืนมาเหมือนเดิม ท่ามกลางความเสียหายนับไม่ถ้วน
เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับเขาด้วย
ไอ้ที่คิดว่าไม่เครียดๆ รับมือได้ไม่มีปัญหา
ตั้งแต่รู้ว่าได้รับเกียรติเป็น 4 เขตแรกที่จะรับน้ำจำนวนมหาศาล
ที่จะผันลงมาจากด้านบน น้ำจากฟ้าก็ส่วนหนึ่ง
น้ำจากการบริหารเขื่อนใหญ่ผิดพลาด
ที่หลายคนพูดกันว่า เป้นความจงใจที่จะทำลายรัฐบาลใหม่
มีข้อมูลน้ำในเขื่อนก่อนและหลังฝนตกตีแผ่กันออกมามากมาย
โลกไซเบอร์กลายเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญเรื่องน้ำท่วม
ทั้งเรื่องการผันน้ำ การป้องกัน การปิดจราจร
รวมถึงการสั่งอพยพ และความขัดแย้งของคนทำงาน
เต็มไปด้วยความวุ่นวาย สับสนอลหม่าน
สมองก็เริ่มซึมซับความวุ่นวายเหล่านั้นไว้
สะสมทีละนิดละน้อย กว่าจะรู้ตัวก็เครียดกับเค้าเหมือนกัน
ทำท่าจะ ปสด เอาด้วยซ้ำไป 555
แล้วก็ไม่รู้ตัวว่า มันเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ ...







2.


พื้นที่ที่บ้านเป็นพื้นที่แรกๆของ กทม ที่มีคำสั่งเก็บของขึ้นที่สูง
และเป็นพื้นที่ที่คาดการณ์กันว่าจะโดนสั่งอพยพก่อนใคร
กทม บอกว่า พื้นที่เป็น flood way และจะต้องเสียสละ
เพื่อไม่ให้พื้นที่อื่นน้ำท่วม อ้าว...เป็นงั้นไป
ไม่เข้าใจ แต่ก็ต้องเข้าใจ เพราะกทม กำหนดมาอย่างนี้นี่
ที่ไม่เข้าใจก็คือ ถ้าพื้นที่เป็น flood way
ก็ต้องเป็นพื้นที่ว่าง หรือใช้เพื่อการเกษตรเท่านั้น
หรือจะทำเป็นบึงรับน้ำ หรือ แม่น้ำลำคลองอะไรก็ว่ากันไป
แต่กลับปล่อยให้ใช้พื้นที่เป็น นิคมอุตสาหกรรมใหญ่ๆ
เป็นหมู่บ้านจัดสรร โรงเรียน ศูนย์การค้าต่างๆมากมาย
แล้วใครจะรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น
หรือจะต้องรับผิดชอบตัวเอง
ประมาณว่า ความฉิบหายของใครของมัน รับผิดชอบกันเอง
อะไรทำนองนั้นละมั้ง
ทั้งยังทำให้มองเห็นถึงความไม่เสมอภาคหรือสองมาตรฐาน
ในการบริหารจัดการบ้านเมืองนี้อย่างชัดเจน
ไหนว่าทุกคนเท่าเทียมกันไงล่ะ ...
หรือเท่าเทียมกันแค่ตัวหนังสือที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญเท่านั้น
เปลี่ยนเรื่องดีกว่า.. การเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์
และอำนาจที่เหนือกว่าทางชนชั้นเท่านั้นละ







3.


ถึงแม้ทุกคนอยู่ในภาวะมึนงง แต่ก็ต้องทำหน้าที่ที่จำเป็นกันไป
คือเก็บข้าวของชั้นล่างขึ้นไปไว้ชั้นบน
ที่หนักหนาสาหัสก็คือพวกตู้ใหญ่ๆ ตู้เย็น คอมแอร์
แล้วก็มาถึงกระสอบทราย แผ่นพลาสติกปิดกั้นไม่ให้น้ำเข้าบ้าน
ที่หากว่ามันท่วมมากจริงๆแล้ว แค่นี้ก็เอาไม่อยู่หรอก
ก็เลยทำมันแค่พอเป็นพิธีเท่านั้นเอง
เพราะจากข่าวที่ได้ยินมาก่อนหน้านั้น กระแสน้ำมาถึงเร็วมาก
และท่วมสูงเป็นเมตรๆ ในเวลาแค่ครึ่งวัน
บิลท์อินชั้นล่างทุกห้องคงไม่มีปัญญายกย้ายไปไว้ที่ไหน
ถ้าน้ำจะมาขนาดนั้นจริงๆ ก็คงต้องต้องปล่อยให้ท่วมไป
ต้องยกคอมแอร์หนักๆ ขึ้นไว้ที่สูง ย้ายปั้มน้ำ เครื่องซักผ้า
อุดห้องน้ำ และท่อระบายน้ำต่างๆไว้ก่อนให้เรียบร้อย
เผื่อทำไม่ทันเวลาที่ต้องเจอน้องน้ำแบบฉุกเฉินและไม่คาดคิด
นอกนั้นก็ได้แต่บอกตัวเองว่า เวลาจะตอบคำถามตัวมันเอง 555







4.


หลังจากเก็บข้าวของแล้ว สิ่งที่ทำให้เครียดและ ปสด ทุกวัน
ก็คือการเช็คข่าว รอเวลาว่า น้องน้ำจะมาเยี่ยมบ้านเมื่อไหร่ แค่ไหน
และทำให้รู้ว่า การรอคอยอะไรอย่างใจจดใจจ่อมันทรมานมาก
เหมือนรอคนรักที่จะมาเซอร์ไพรส์ถึงบ้านยังไงยังงั้น
และแล้ว เขาก็มาจริงๆๆ สมหวังซะที 555
จะได้ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องตื่นมากลางดึกเวลาได้ยินเสียงอะไร
แล้วก็เพ้อไปว่า เธอมาหาฉันแล้ว อะไรทำนองนั้น
แต่อาการลุ้นก็ยังไม่จบนะ ยังลุ้นอีกว่า พรุ่งนี้จะขึ้นอีกเท่าไหร่
กับความพยายามลุยออกไปดูสถานการณ์รอบนอกว่ามันเป็นไง
นัยว่าจะต้องอพยพหรือเปล่า เตรียมจัดแบ็คแพ็คไว้ล่วงหน้า
ย้ายรถไปไว้ในที่ปลอดภัย ที่ไม่ใช่ทางด่วนหรือบนสะพาน
เซฟตี้เฟิร์ส คือไม่เกิดอุบัติเหตุ และไม่หาย


มีการประเมินสถานการณ์ไว้อย่างเลวร้ายที่สุดว่าจะอยู่หรือไปในแต่ละวัน
ถ้าไป จะไปไหน ไปยังไง เวลาไหนถึงจะไม่ลำบากมากนัก
ถ้าอยู่ จะอยู่ยังไง เตรียมพร้อมไว้ก่อนละกัน
กระบวนการตุนอาหาร น้ำดื่ม สิ่งของจำเป็นระหว่างที่ยังไม่ไปไหน
ในขณะที่สินค้าต่างๆ หายไปจากชั้นวางของในห้างจนเกลี้ยง
แค่ไหนถึงจะอพยพ ถ้าไม่ไปจะอยู่ยังไง
เพราะไม่ใช่แค่อาหารที่จะกินเข้าไป แต่หมายถึงสิ่งที่จะเอาออกด้วย
ถ้าน้ำท่วมเยอะ ต้องตัดไฟ เครื่องปั้มน้ำใช้ไม่ได้ ห้องน้ำใช้ไม่ได้
จะอยู่ในสภาพแบบนั้นยังไงได้ จะเตรียมตัวอพยพหรือเปล่า
จะไปไหน ใครที่จะต้องทำงานจะทำไง คิดไว้หมดทุกอย่าง
แค่นี้ถ้าไม่ ปสด ทุกวัน ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว







5.


แม้น้ำจะไม่ท่วมบ้าน เพราะความโชคดีหลายชั้นที่เกิดขึ้น
อย่างแรกคือ ทำเลของหมู่บ้านอยู่ในพื้นที่คันกั้นน้ำถึง 3 ด้าน
และพื้นที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1-1.5 เมตร
ทำให้ปริมาณน้ำที่คาดว่าจะหลากมา และทางการประกาศว่า
จะท่วมประมาณ 1-2 เมตร ก็เหลือเพียงแค่ .50 ซม
แม้จะติดคลองสามวา ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำหลักของกทม
แต่ก็มีคันกั้นน้ำล้อมรอบอยู่ด้วย ทำให้ไม่มีผลกระทบมากนัก
กลายเป็นติดเกาะไปซะงั้น เพราะน้ำเข้าหมู่บ้านเพียงเล็กน้อย
และสามารถสูบออกไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ถนนรอบนอกท่วมหมด
ตั้งแต่ถนนซอยที่ท่วมราวๆครึ่งเมตร และถนนใหญ่ท่วมเกือบเมตร
ออกไปยากหน่อย แต่ยังพอหาทางออกไปสู่โลกภายนอกได้
ทำให้ไม่ลำบากมากนักสำหรับอภิมหาอุทกภัยแห่งปีคราวนี้
แต่ก็ทำให้เกิดความตื่นตัวกันถ้วนหน้า







6.


ทุกๆวัน ผู้คนก็จะจ้องอยู่หน้าคอม ทีวี ฟังข่าวจากวิทยุ
รวมถึงออกไปสำรวจพื้นที่ภาคสนามกัน
น้ำท่วมจึงกลายเป็น topic สำคัญ ที่เป็น talk of the town
อยู่เป็นเดือนๆ จนเบื่อกันไปข้างนึง
สุดท้าย ก็ไม่ได้ย้ายไปไหน เพราะที่ไหนๆ ก็ท่วมเหมือนกันหมด
ยกเว้นพื้นที่ที่ได้รับการปกป้องอย่างสุดฤทธิ์สุดเดช
นัยว่า.. ทำให้ผู้บริหารจัดการ กทม หน้าแตกกันเป็นเสี่ยงๆ
เพราะพื้นที่ที่คิดว่าจะปกป้องไว้ได้อย่างที่คุยโม้แต่แรก
กลับโดนสั่งอพยพกันเป็นแถวๆ ไอ้ที่ว่าไม่ท่วมๆๆ เอาอยู่ๆๆ
ท่วมกันไปทั้งนั้น ไม่หมดก็เหลือน้อยเชียวละ ...
แต่คนโชคดีอย่างเราก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
เพราะโชคช่วย หรือ ทำบุญมาดี ก็ไม่อาจรู้ได้
ไม่เชื่อ ก็อย่าลบหลู่...555
(หัวเราะทีหลังดังกว่า และนานกว่าจริงๆน่ะละ )


น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้งหรือเปล่าไปอ่านต่อตอน 2 แล้วกันนะ
หน้านี้ยาวแล้ว จบตอนก่อน










Create Date : 06 ธันวาคม 2554
Last Update : 6 ธันวาคม 2554 16:59:33 น. 0 comments
Counter : 557 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

vistapa
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]











ปีใหม่นี้ไม่มีของขวัญมาให้
มีก็แต่หัวใจดวงนี้
มามอบให้แด่เพื่อน..ที่แสนดี
ด้วยรักและหวังดีอย่างจริงใจ


ให้ร่ำรวยสวยฉลาดสมปรารถนา
ให้ชีวิตมีคุณค่าดังฝันใฝ่
ให้พ้นทุกข์พ้นโศกไร้โรคภัย
ตั้งแต่นี้ตลอดไปทุกท่านเทอญ...




Friends' blogs
[Add vistapa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.