American History X หนังที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึก

หลังจากที่ปันใจให้กับการทำ slide รูปการ์ตูนเรื่องโปรดซะหลายวัน ขอรีวิวหนังในดวงใจซะหน่อย

ได้เวลาของหนังสุดยอดทางด้านอารมณ์รุนแรงอีกเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วลืมยากจริงๆ American History X



เราได้ดูหนังเรื่องนี้โดยบังเอิญ ด้วยการตามหาหนังในร้านวีดิโอดู แล้วสะดุดตากับหน้าปก แถมก่อนหน้านั้นเคยได้อ่านคำวิจารณ์ในนิตยสารประมาณว่าดีมาก แต่ไม่ดังในไทยและฉายไม่นานเพราะเนื้อหาที่รุนแรง อารมณ์อยากเข้าใจนักวิจารณ์หนัง (อยากรู้ว่าเค้าว่าดีแล้วเราจะว่ายังไง) เลยเอามาดู แล้วก็ไม่ผิดหวัง

หนังพูดถึงการเหยียดผิว เชื้อชาติ ชนชั้น ทำให้เห็นและเข้าใจว่าบางครั้งคนเราไม่ได้อยากเป็นผู้ร้าย ไม่ได้อยากเลว แต่ถ้าอยู่ผิดที่ผิดเวลา สถานการณ์จึงบังคับให้ต้องเป็น "นักสู้" เหมือนกับคู่ 2 คนพี่น้อง พี่ชาย (Edward Norton) เป็นหัวโจกของแก๊งหนึ่ง ที่ได้รับการยอมรับจากคนในแก๊งดั่งเทพเจ้า และมีเรื่องกับแก๊งตรงข้ามเสมอๆ เค้ามีน้องชาย (Edward Furlong) ที่โตขึ้นมาพร้อมกับเห็นภาพนั้นของพี่มาตลอด จึงชื่นชม ลึกๆ แล้วพี่ชายก็เหนื่อยกับการต่อสู้ แต่ในสถานการณ์แบบนั้น เราไม่ฆ่าเขา เขาก็ฆ่าเรา ต้องดูแลและปกป้องตัวเอง จากที่ทำอย่างค่อนข้างระมัดระวัง ก็ถึงจุดที่ไม่กลัวกฎหมาย หลังจากฆ่าคนด้วยวิธีที่ทำให้เราทึ่งมากว่ามีวิธีนี้อยู่ในโลกและคนเขียนบทคิดได้ยังไง (ให้อีกคนนอนบนพื้นถนน หันหน้าไปให้ศีรษะเกยฟุตบาทและอ้าปากงับขอบฟุตบาทไว้ แล้วพี่ชายก็กระทืบศีรษะ จนกะโหลกแตก ) พี่ชายก็ถูกตำรวจจับเข้าคุก



จากที่เคยมีแต่คนเกรงกลัว แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า พี่ชายไปเจอนักเลงที่เหนือกว่า และถูกข่มขืนโดยขาโจ๋ในนั้น ทำให้พี่ชายรู้ว่าชีวิตอย่างนี้มันไม่มีดีอะไร จึงคิดจะถอนตัว เมื่อออกจากคุกก็พบว่าน้องชายเข้าไปอยู่ในแก๊งแล้ว พี่ชายจึงทำทุกอย่างที่จะไม่ให้น้องต้องเจอเหตุการณ์แบบที่ตนเองเจอมา แต่แน่นอน การล้างมือจากความชั่ว ทำยากเสมอ

ตอนดูพบว่าน้องชายเล่นโดย Edward Furlong ที่เรากรี๊ดค้างมาจาก Terminator II ในเรื่องนี้โตขึ้นมาก และเล่นเก่งมาก เด็กอะไรไม่รู้สามารถทำสายตาที่นิ่งและเย็นชาได้สุดๆ ส่วนพี่ชายของเรานั้น ขอสารภาพว่าตอนดูไม่มีอยู่ในสมองเลยว่าเป็น Edward Norton ก่อนหน้านี้เราดูหนังของเค้าหลายเรื่อง (ยกเว้น Hannibal) ภาพของเค้าในใจเรา คือ ผู้ชายผมทอง ตัวผอม ดูแหยนิดๆ และสุภาพเรียบร้อย พลิกบทบาทมาเล่นเรื่องนี้ได้เจ๋งเป้งมาก ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนรูปลักษณ์ (มีหนวด เพิ่มน้ำหนัก เล่นกล้าม) การแสดงอารมณ์ทางสายตาและท่าทาง หนังเรื่องนี้ทำให้เราติดตามดูผลงานของเค้าไปเลย ฉากที่เค้าอดทนพยายามไม่ร้องไห้หลังจากโดนข่มขืนนั้น เล่นได้ดีมากเพราะเค้าต้องเสียทั้งศักดิ์ศรีและความภูมิใจในตนเองไป จากที่เหมือนเป็นผู้นำของคนมากมาย เรามองเห็นความเป็นเด็ก ความหวาดกลัวในตัวเค้าอีกครั้ง

ดูแล้วก็ขอบคุณเหลือเกินที่เกิดมาเป็นคนไทย ที่ไม่มีการแบ่งแยกเหยียดผิวพรรณหรือชนชั้น เพื่อนชาวอเมริกันบอกว่าจนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอยู่ในบางรัฐ และจบลงอย่างน่าเศร้าเสมอ ขอให้โลกนี้ไม่มีสงคราม

ความแตกต่างไม่ใช่ความแตกแยก (เดี๋ยวตกเทรนด์)

Create Date : 23 กันยายน 2550 Last Update : 30 สิงหาคม 2552 3:17:06 น. Counter : 7263 Pageviews.		9 comments
Share Tweet