สิงหาคม 2550

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
นักดนตรีหนีตายอลหม่าน
ถ้าโรงเรียนที่เราทำงานอยู่มีชมรมหนังสือพิมพ์ และออกหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ฉบับหน้าคงไม่พ้นพาดหัวข่าวตามชื่อบล็อกหนนี้

จบไปแล้วกับงาน Fun Fair ประจำปีการศึกษานี้เมื่อวาน 22 ธันวา งานนี้เล่นเอาครูและนักเรียน อืม ผู้ปกครองนิดหน่อย อยู่ไม่สุขมาเกือบ 3 สัปดาห์ โดยเฉพาะเรา เพราะเป็นงานเราโดยตรง บ้าพลังแค่ไหนก็เป็นอันหมด เรียกว่าชาร์จแบตกันวันต่อวันทั้งคนทั้งมือถือ แต่ผลของงาน หึ หึ คุ้มมั่กมาก

เริ่มจากได้รับงานมา จริงๆ ก็ไม่มีปัญหาเพราะเป็นงานที่ชอบอยู่แล้ว แต่เซ็งเพราะมีงานอื่นประดังประเดมาพร้อมกัน แถมงานปีนี้มีกดดันเนื่องจากเจ้านายแสนดีมีไอเดียแสนบรรเจิดที่จะจัดควบคริสต์มาส จึงต้องเป็นวันศุกร์เพราะโรงเรียนปิดตั้งแต่วันเสาร์ ครูฝรั่งจะไม่อยู่กัน เลยเครียดกับเงื่อนไขที่ว่าเป็นวันศุกร์ กลัวผู้ปกครองแล้วก็แขกข้างนอกมาน้อย แถมยังช่วงเทศกาลเลยต้องแย่งชิงตบตีกับคนอื่นในการประสานงานเพื่อให้ได้มาซึ่ง แสง สี เสียง ของเล่น และอื่นๆๆๆๆ การที่ได้ทุกอย่างอย่างที่ได้ ถือว่าโชคดีมากๆ

งานนี้เปิดโพยปีที่แล้ว ซึ่งไม่ได้อะไรเกินไปกว่าความทรงจำตัวเองมากนัก เพราะไม่มีบันทึกฉบับสุดท้าย (มีแต่ระหว่างทาง) แต่ก็คิดไว้แล้วล่ะว่าอยากได้อะไร พอเริ่มได้คุยกับคนที่จะมาจัดไฟกับเต๊นท์ ก็เลยไอเดียบรรเจิดเพริดแพร้ว อลังการดาวล้านดวงไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นต้นคริสต์มาสอารมณ์ประมาณหน้าพารากอน ไฟมลังเมลืองทั่วโรงเรียน ปิดท้ายด้วยพลุปิดงาน (ที่ตอนแรกเรานึกว่าเว่อร์ ที่ไหนได้นายเอาด้วย อิอิ) หลังจากติดต่อหมดแล้ว คอนเฟิร์มทั้งหลายแหล่ ทำงานล่วงหน้า พอใกล้งานก็เดิมๆ ประสาทแ_ก ข้อเสียของการทำงานล่วงหน้า คือ งานมันพร้อมแล้วจนต้องประสาทเสียว่าเราลืมอะไรป่าว อาการนี้เป็นอยู่สองสามวันจนทนไม่ไหวต้องระบายกับคนใกล้ตัว หนึ่งในนั้นคือนายเลยพาลทำให้นายประสาทไปด้วย อิอิ หนูขอโต้ด นี่แหละ อยากจ้างคนบ้าทำงาน แต่ในที่สุดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

เมื่อได้ไฟพร้อม แสง สี เสียงพร้อม ของเล่นพร้อม เต๊นท์พร้อม ก็หาคนมาออกร้านล่ะ สาบานเลยว่าไม่ได้กระเสือกกระสนดิ้นรนหาเลยแต่คนมาเยอะมากกกกก มาจากไหนหว่า ต้องมีคนช่วยเราอยู่เงียบๆ แน่ๆ (หรือจะมีคนแอบหลงรัก อิอิ บ้าไปแล้วชั้น) เดาว่าคงจะมาจากทุกท่านที่โรงเรียนที่คุยกับใครก็ชวนเค้ามา ขอบคุณทุกท่านมากๆ ค่ะ งานนี้ซึ้งจาย มาแม้กระทั่งสินค้าโอทอป (งงไปเลย) ที่เราคิดตอนต้นมีแต่ว่างานนี้ร้านที่มาออกต้องเป็นส่วนผสมอย่างดี ระหว่างของกิน เกมส์ ของช้อปปิ้ง ผู้ปกครองตอบรับมาเยอะมาก (คงเห็นปีที่แล้วปีนี้เลยโอเค) ส่วนของญาติๆ ครูในโรงเรียนอีก รวมทั้งคนข้างนอกที่ผสมกันระหว่าง เสื้อผ้า เครืองสำอาง เกมส์ หนังสือ สื่อการศึกษา เฟอร์นิเจอร์เด็ก และอื่นๆ ของอื่นๆ ของกินนอกจากของผู้ปกครองแล้วก็มีที่เราเอามา คือ ข้าวหมูแดงนายไซเจ้าอร่อยแถวประชาชื่น ซึ่งงานนี้เป็นอีกหนึ่งหัวข้อฮาของน้องจอย 1 ดังว่า วันหนึ่งเรากำลังติดสาย เธอคงโอนมาหาและโอนไม่ได้เลยวิ่งเข้ามาเหมือนทุกครั้ง เราวางหูพอดีเธอก็ทำเสียงเต้นหน้าตื่นว่า "พี่เอียดๆ รีบรับนะจากสมุดแดงลายไทย" อารมณ์เราก็ ฮ้า! ชั้นไปติดต่อตั้งแต่เมื่อไหร่ สินค้าโอทอปอีกแล้วเหรอวะ แต่พอรับสาย หลังจากฮัลโหล ปลายสายก็ตอบว่า "สวัสดีครับ จากข้าวหมูแดงนายไซ" เอ๋อ... งานนี้เอ๋อครับท่าน ขณะที่ต้องพยายามกลั้นหัวเราะแทบตายตอนคุยกับเค้าก็นึกในใจว่า อีจ๊อย... ทำกรูอีกแล้ว

นอกจากนี้ที่ต้องขอบคุณเลย คือ ทีมประชาสัมพันธ์ ที่มีทั้งโทรศัพท์ จดหมาย ดีลิเวอรี่ (ประมาณพิซซ่าฮัท) ถึงผู้ปกครองนอก ใน บ้านใกล้เรือนเคียง คนมางานเยอะมาก รู้มาว่าผู้ปกครองที่เคยมาดูโรงเรียน พอเราโทรไปเชิญก็พูดว่า แหม นึกว่าจะไม่เชิญซะแล้ว แสดงว่าเค้าต้องรู้มาก่อนว่ามีงาน และรู้ว่ามีคนถูกเชิญ แล้วหนึ่งก็บอกว่าคนที่มาเป็นคนแถวนี้ทั้งนั้น อารมณ์ประมาณคนแถวโรงเรียนเดินมางานกันหมด ปลื้มหัวจุยจิงๆ แล้วระหว่างงานยังมีคนมาติดต่อขอขายของ ได้ความว่าไปออกร้านที่โรงเรียนพระหฤทัยนนท์แล้วทางโน้นบอกว่าให้มาดรุณพัฒน์ด้วยเพราะว่ามีงานเหมือนกัน เค้ารู้ได้ไงหว่า ทีมประชาสัมพันธ์ชั้นเดิ้นซ้า

งานนี้เราเลือกของเล่นมา 2 อย่าง คือ บ้านลมกับม้าหมุนของเด็ก บวกกับเกมตามบูธกับไฮไลท์ คือ บ้านผีสิงกับสอยดาวแล้ว ก็ทำให้คนสนุกได้ไม่ยาก เด็กๆ ที่ตอนแรกไม่อยากทำบ้านผีสิงเพราะปัญหาที่เกิดปีที่แล้ว พอได้คุยกันก็เปลี่ยนใจ หลังจากแนะนำกันไป ก็แก้ไขกันได้ งานนี้เด็กๆ เก่งมากแถมทำเลเวิร์ค มืดสนิท... น่ากลัวดี เด็กๆ แต่งตัวกันเหมือนผีมากๆๆๆๆๆๆๆ ตัวเล็กๆ ร้องไห้กันกระจาย หันไปดูบ้านบอลก็เด็กๆ ตรึม ส่วนสอยดาวที่เราไปซื้อของขวัญมารวมกับที่ผู้ปกครองบริจาคซึ่งมีเยอะมากๆๆๆๆๆๆ จนไม่คิดว่าจะหมดก็หมดเกลี้ยง คุ้มกับที่ไปเอาต๊กตาถึงราชบุรีจิงๆ งานนี้ทีมสอยดาวเวิร์คค่ะ แต่งแดงกัน เราเอายายกิ๊ฟมาช่วยบอกให้มันแต่งแดง เธอล่อแดงทั้งตัว สมเป็นอาหมวยน้อย เอ็มก็มาช่วย John อีก งานนี้ใช้คนคุ้ม ของรางวัลถ้าให้เทียบเราว่าดีนะ (อิอิ ชมตัวเอง) เล่นยังไงก็ได้ของ ไม่มีไม่ได้ ส่วนทีมประชาสัมพันธ์เค้านัดกันแต่งเขียว ส่วนครูก็คาดผมแฟนซี ใส่หมวกซานต้ากันเมามันส์ งานจริงๆ ต้องเริ่ม 5 โมงเย็น พิธีเปิด 4 โมงครึ่ง ก็กลายเป็นว่าคนมาตั้งแต่บ่ายโมง เริ่มเยอะขึ้นตั้งแต่บ่ายสอง ผ่านไปสองชั่วโมงพี่นุสบอกว่าขายคูปองไปแล้วหมื่นนึง ส่วนของใหม่อีกอย่าง คือ ดรุณพัฒน์ แฟนเตเซีย ที่ได้ไอเดียจากคุณชายเราเอง บวกกับเราไปเจอปากกาที่สมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนาของ Staedtler แถมมี Christmas Carol Competition ระหว่าง K3-G3 เมื่อเอาสามอย่างมาบวกกันก็ได้ผลลัพธ์ว่า เราจะจัดโหวตว่าห้องไหนร้องเพลงดีที่สุดจากการซื้อปากกาและใช้ปากกาแทนเสียง 1 เสียงไปหย่อนในขวดโหล งานนี้ประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า ใจก็กังวลว่าผู้ปกครองจะไม่รู้เรื่อง แต่พอเอาเข้าจริงๆ ผู้ปกครองรู้เรื่องหมดแถมตั้งใจมาซื้อโดยเฉพาะ ถึงขนาดเดินตามหาเพื่อซื้อ แถมงานนี้มีเตี๊ยมกันระหว่างห้องเรียนเดียวกันว่าจะซื้อกี่ด้าม ปากกาทุกด้ามที่ซื้อก็คือเราช่วยในหลวง ปากกาที่ได้ก็จะเอาไปบริจาคโรงเรียนประชากรรังสฤษฎ์ที่อยุธยาที่น้ำท่วม ที่เราไปเลี้ยงวันเกิดที่ผ่านมา (ดร.เรียกโรงเรียนจำรัสศรีอุปถัมภ์) งานนี้ซื้อมาพันด้าม หมด แถมไม่พอต้องวิ่งไปเอาปากกาจากห้องธุรการมาใช้แทนแถมกลายเป็น 1 ด้ามแทน 2 เสียง มีผู้ปกครองเอาเงินมาแทนก็มี ฮาว่ะ เรากำลังยุ่งๆ ช่วงก่อนปิดโหวตเลยไม่ได้เห็นภาพเหมือนขวัญ (ที่งานนี้เป็นผู้กำกับเวทีแล้วก็นับคะแนนบนเวที) ขวัญบอกว่าคนวิ่งกันมาโหวตอย่างเมามันส์ เราเลยต้องออกไปบอกให้ปิดโหวต ผลออกมา คือ G3 ชนะ คุณริชาร์ดที่ตอนแรกทำเฉยๆ ปลื้มซะ งานนี้ทั้งสนุกทั้งได้บุญ เดี๋ยวต้องไปดูวีดิโอ นอกจากนี้ก็มีบูธขายเสื้อช่วย 3 จังหวัดภาคใต้ บูธ To Be Number One ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ รายได้ส่วนหนึ่งนอกจากให้โรงเรียนประชากรฯ ก็จะสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา ตอนที่กำลังจะแบกปากกากลับออฟฟิศตอนงานเลิก ก็ได้เวลาปิดงาน เพลงสรรเสริญก็ขึ้น หยุดยืนเคารพก็ฟัง พอถึงท่อน เย็นศิระเพราะพระบริบาล ซึ่งเป็นวรรคที่ชอบมาก ลมก็พัดมาวูบหนึ่ง ก้มลงมองปากกาในมือที่เป็นสีเหลืองและเขียนว่า Our Beloved King แล้ว นึกว่างานที่เหนื่อยมาทั้งหมดนี้ส่วนหนึ่งได้ถวายในหลวงก็ดีใจ ตอนนั้นอยู่กับเอ็มก็เลยพูดกับเอ็มไป (ไม่รู้มันคิดไง เพราะเราอินอยู่) โอ๊ย ดีใจ

งานนี้ที่จะขาดไม่ได้ คือ การแสดงบนเวที ไม่ว่าจะดนตรีไทย จะเต้น จะรำ ลูกดิชั้นมันส์สุดๆ เต้นกันเหมือนทีมก๊อต จักรพรรณมาเอง ขอบคุณครูที่ฝึกทุกคน วงดนตรีก็มี 3 วง ถ้าไม่นับอารมณ์ติสท์ขึ้นของอีนิวที่นับวันจะมากขึ้นทุกวัน ก็ถือว่าดี มีเพลงมันส์จาก Start เด็กสุดมันส์ของโรงเรียน แล้วโจก็ร้องด้วย พวกเราก็เต้นกระจายเหมือนเดิม สำหรับที่มาของชื่อบล็อกตอนนี้ มันเริ่มจากว่าที่จะจุดพลุปิดงานนั่นล่ะ งานนี้ได้ทีมจากกองทัพบกที่จัดงานวันเฉลิมฯ มาช่วย เค้าก็บอกว่าพลุจะไปไหน เศษมันจะตกตรงไหน ก็แล้วแต่ลมพาไป ไอ้เราก็นึกว่ามันจะจุดจากตรงกลางๆ ตึก (จุดจากบนชั้น 5) ที่ไหนได้ มันเห็นคนดูเวทีอยู่ เลยจุดเหนือเวที เพราะกะว่าถ้าลมพัด เศษก็จะปลิวไปหลังเวที ถ้าจุดหลังเวที เดี๋ยวเศษจะปลิวไปบ้านปีศาจ ที่ไหนได้ ลมนิ่งครับ งานนี้เศษพลุที่ติดไฟ ตกดิ่งลงมาบนเวทีที่ยังมีนักดนตรีอยู่กันครบถ้วนทั่วทุกตัวคน!!! งานนี้นักดนตรีหนีตายกันอลหม่านกลางเวที ตอนแรกมันก็ดูพลุสวยอยู่ดีๆ พอเริ่มเห็นเศษพลุก็ตะลึงงันกันหมด กลัวมันจะตกใส่ลูกๆ แทบตาย เด็กๆ พวกนี้ก็สมกับเป็นเด็ก คือ ไม่เครียดแถมคิดว่าสนุกซะอีก แม่มือเบสสุดเจ๋งของโรงเรียนก็ไม่หลบไม่หนี ได้ยินว่าเบสหนัก ไม่มีปัญญาขยับ งานนี้เลยโดนแม่เค้ามาว่านิดหน่อย แต่ก็สมควร หนหน้ารับรองไม่พลาด พูดถึงบ้านปีศาจ มันคือบ้านที่เพิ่งมาปลูกหันหลังชนกับโรงเรียนหลังจากที่เราเปิดโรงเรียนได้ไม่นาน และก็มีปัญหากับเรามาตลอด ว่าเราเสียงดังบ้างล่ะ กิ่งไม้ยื่นเข้าไปบ้างล่ะ หนซ้อมใหญ่ตอนกลางคืนก็เรียกตำรวจค่ะ ดิชั้นนึกว่าต้องไปโรงพักซะแล้น แต่ไม่กลัวหรอกเพราะงานนี้ขอตำรวจไว้แล้วล่วงหน้า ตำรวจก็มาตามหน้าที่ เดี๋ยวหนหน้าจะจุดพลุให้ไม่พลาดเลย ให้ลงบ้านมัน เหอ เหอ

ตบท้ายงานด้วยการคุยพอหอมปากหอมคอถึงเหตุการณ์น่าประทับใจในงานระหว่างคนนั้นคนนี้ แล้วก็ไปต่อเพราะเป็นคืนสุดท้ายที่จะเจอ John เพราะว่าจะกลับไปแคนาดา หลังจากแดนซ์กระจายได้เวลากลับ จอห์นก็พูดมาว่าไม่อยากกลับ น่าสงสารยิ่งนัก งานนี้ทำของที่ระลึกให้เป็นปฏิทินปีหน้าที่เราออกไอเดียให้ลงวันเกิดของแต่ละคนไว้จอห์นจะได้อีเมลมา อิอิ คงได้เจอกันอีกนะ

เป็นปีที่ดีของเราอีกปีนึง หนนี้ยาวหน่อย ถือว่าเขียนส่งท้ายปลายปี ดีใจที่ทำงานใหญ่ได้สำเร็จแถมได้อยู่กับคนที่รักทั้งนั้น ถึงแม้จะอยู่กันไม่ครบแต่ก็ถือว่าดีมากๆ แล้ว ขอให้ทุกคนมีความสุข ร่างกายแข็งแรง มีปีหน้าที่ดีรออยู่ ทุกคนเลย สาธุ



Create Date : 29 สิงหาคม 2550
Last Update : 15 พฤษภาคม 2552 22:55:44 น.
Counter : 362 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ViPaSa
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



รักครอบครัวเป็นชีวิตจิตใจ
ชอบดูหนังเป็นชีวิต
ชอบการ์ตูนเป็นจิตใจ
มีเพื่อนดีๆ มากมายช่วยสร้างชีวิต
มี Dark Chocolate ชิ้นนิดๆ สร้างความสุขให้จิตใจ
มีการท่องเที่ยวเพิ่มประสบการณ์ชีวิต
มีความรักที่ดีขึ้นทุกครั้งเพิ่มประสบการณ์จิตใจ มี...