Acerola Cherry เป็นผลไม้เมืองร้อนที่มีปริมาณของกรดแอสคอร์บิกหรือวิตามินซีสูงที่สุดอีกชนิดหนึ่ง และ มีไฟโตนิวเทรียท์ที่เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยทำให้ผิวพรรณขาวกระจ่างใส พร้อมยังช่วยส่งเสริมการทำงานของภูมิคุ้มกันของร่างกาย บำรุงร่างกาย และ ป้องกันหวัด อะเซโรล่า เชอรรี่ มีความโดดเด่นในเรื่องของวิตามินซีธรรมชาติที่มีอยู่ในปริมาณที่มาก โดยมีปริมาณของวิตามินซีสูงกว่าส้ม 30-80 เท่า และ ยังมีสารอาหารอื่นๆที่ประกอบไปด้วยไบโอฟลาโวนอยด์วิตามิน และ แร่ธาตุอื่นๆ รวมไปจนถึงสารต้านอนุมูลอิสระ Acerola Cherry คือ แหล่งวิตามินซีที่ร่างกายขาดไม่ได้ อะเซโรล่าเชอร์รี่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร - ช่วยเร่งการเสริมสร้าง Collagen และ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคอลลาเจน เพราะอะเซโรล่าเชอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซีที่สูง จึงมีส่วนช่วยเร่งการเสริมสร้างคอลลาเจน และ เป็นโปรตีนที่ช่วยทำให้ผิวเต่งตึง จึงทำให้ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัย และ ทำให้ผิวพรรณมีความกระชับ และ ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
- ช่วยสมานผิว และ ลดเลือนริ้วรอย เพราะอะเซโรล่าเชอร์รี่เป็นตัวช่วยอีกตัวที่สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆบนผิวหนัง และ เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนังพร้อมช่วยในเรื่องระบบทางเดินอาหาร นอกจากนั้นน้ำจากเชอรี่ยังสามารถใช้เป็นยาน้ำบ้วนปากที่ทำลายหรือช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้
- ช่วยปกป้องผิว หากรับประทานอะเซโรล่าเชอร์รี่เป็นประจำก็จะช่วยทำให้ผิวของคุณได้รับการปกป้องจากตัวทำให้เกิดความตึงเครียด จากสารเคมี (Chemical Stressor) ยางควันบุหรี่ มลพิษ และ สารที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้
- ช่วยเร่งการฟื้นฟูสภาพผิว เพราะอะเซโรล่าเชอร์รี่ยังสามารถช่วยเร่งการฟื้นฟู ซ่อมแซมบาดแผล แผลไฟไหม้ แผลเป็น ไปจนถึงรอยแตกลาย
- ต่อสู้กับความเสื่อมสภาพของผิว เนื่องจากมีไบโอฟลาโวนอยด์เป็ส่วนสำคัญในการช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของผิวออกไป ส่วนองค์ประกอบอื่นๆนั้นยังสามารถช่วยต่อสู้กับรอยเหยี่ยวย่นบนใบหน้า ริ้วรอยร่องตื้น รอยตีน รอยใต้โหนกแก้ม จุดด่างดำ รอยหมองคล้ำ และ อื่นๆ
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เพราะอะเซโรล่าเชอรี่มีวิตามินซีที่สูง จึงทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และ ยังช่วยป้องกันผิวหนังจากการถูกทำลาย เนื่องจากอนุมูลอิสระเหล่านี้เป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียร จึงทำให้ผิวหนังอ่อนแอลง และ ถูกทำร้ายในที่สุด อีกทั้งอนุมูลอิสระยังสามารถนำไปสู่การเจ็บป่วย และ โรคเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้
- ช่วยซ่อมแซมผิวเสีย เนื่องจากอะเซโรล่าเชอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามิน เอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และ วิตามินบี 3 ที่ทำให้ผิวสวยงามกระจ่างใสเปล่งปลั่ง และ วิตามินเอยังมีส่วนช่วยทำให้ผิวหนังสามารถต่อสู้กับรอยย่นบนใบหน้าที่ทำให้เกิดผิวเสียได้ ส่วนวิตามินบี 1 บี 2 และ บี 3 มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย
- ทำให้ผิวขาวขึ้น หากรับประทานอะเซโรล่าเชอร์รี่เป็นประจำก็จะพบว่าผิวดูขาวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ช่วยปกป้องจากรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อผิว เพราะอะเซโรล่าเชอร์รี่สามารถช่วยปกป้องรังสี UV ได้ โดยปริมาณในวิตามินเอที่อยู่ในอะเซโรลาเชอร์รี่จะช่วยปกป้องผิวหนังจากรังสีจากดวงอาทิตย์ที่เป็นอันตรายได้
- ทำให้ผิวชุ่มชื้น เพราะสารอาหารต่างๆมากมายที่อยู่ในอะเซโรล่าเชอร์รี่มีส่วนช่วยทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ และ คงความชุ่มชื้นไว้ โดยไม่ว่าผิวของคุณจะเป็นประเภทใดก็ตาม
- จัดการกับสิว และ ปัญหาผิวหนังอื่นๆได้เป็นอย่างดี ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่มักพบเกี่ยวกับผิว คือ สิว สะเก็ดเงิน และ ผิวหนังอักเสบ มักจะเกิดจากผิวหนังขาดวิตามินซี ซึ่งอะเซโรล่าเชอรี่นั้นมีวิตามินซีตามธรรมชาติสูง หากบริโภคอาหารที่มีวิตามินซีตามปกติก็จะช่วยทำให้คุณไม่ต้องเจอกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผิวเหล่านี้อีกต่อไป
Create Date : 17 พฤษภาคม 2565 |
Last Update : 17 พฤษภาคม 2565 16:55:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 352 Pageviews. |
|
|