"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
1 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
เจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก


อเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก







เจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก ซึ่งภายหลังคือ สมเด็จพระบรมราชินีแห่งสหราชอาณาจักร (อเล็กซานดรา แคโรไลนา มารี ชาร์ล็อต หลุยส์ จูเลีย; 1 ธันวาคม พ.ศ. 2387 - 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468) ทรงเป็นพระมเหสีในสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร

และสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งอินเดียในช่วงระหว่างรัชกาลของพระสวามี ก่อนหน้านี้ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ระหว่างปี พ.ศ. 2406 - พ.ศ. 2444 (ยาวนานกว่าผู้ใดที่เคยดำรงพระอิสริยยศนี้) หลังการเสด็จสวรรคตของพระสวามีในปี พ.ศ. 2453 ตราบจนถึงการเสด็จสวรรคตของพระองค์เอง ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมราชชนนี

ที่ทรงเป็นทั้งพระราชินีและพระราชชนนีของกษัตริย์ที่ทรงครองราชย์อยู่ คือ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร แต่ไม่โปรดใช้พระอิสริยยศเช่นนี้ จึงได้ทรงมีพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรา" (Her Majesty Queen Alexandra) ตลอดการเป็นม่ายของพระองค์


ชีวิตในวัยเยาว์

เจ้าหญิงอเล็กซานดรา หรือ "อลิกซ์" ที่เรียกกันในหมู่พระประยูรญาติ ประสูติเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2387 ณ พระราชวังสีเหลือง ซึ่งเป็นตึกแถวในสมัยศตวรรษที่ 18 ที่เลขที่ 18 ถนนอมาลีกาด ถัดมาจากพระราชวังอามาเลียนบอร์ก ในกรุงโคเปนเฮเกน

พระชนกคือ เจ้าชายคริสเตียน ซึ่งต่อมาเสวยราชสมบัติเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก ส่วนพระชนนีคือ สมเด็จพระราชินีหลุยส์แห่งเดนมาร์ก แม้ว่าพระองค์จะทรงมีพระราชเปตามหัยกาสองพระองค์คือ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 2 และ สมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 5 แห่งเดนมาร์ก

เป็นพระมหากษัตริย์และทรงมีเชื้อสายของเจ้าชายครองรัฐ ครอบครัวของพระองค์ทรงมีความเป็นอยู่แบบธรรมดา และถึงแม้จะไม่ได้มีความมั่งคั่งมากมาย ก็ยังสามารถมีการอภิเษกสมรสอย่างน่าประทับใจได้

เช่น เจ้าหญิงแด็กมาร์ พระขนิษฐาที่ต่อมาทรงเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินีมาเรีย เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย พระอัครมเหสีในสมเด็จพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย และพระราชชนนีในสมเด็จพระเจ้าซาร์นิโคลาสที่ 2 แห่งรัสเซีย ทำให้พระชนกของพระองค์ทรงมีพระสมัญญาว่า "พระสัสสุระแห่งยุโรป" (Father-in-Law of Europe)


เจ้าหญิงแห่งเวลส์

เจ้าฟ้าชายอัลเบิร์ต เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งเรียกกันว่า "เบอร์ตี้" ทรงทำให้สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียและเจ้าชายอัลเบิร์ต พระชนนีและพระชนกทรงหนักใจอย่างมาก และพระชนนีซึ่งตอนนี้ทรงเป็นม่ายทรงกระตือรือร้นที่จะให้พระองค์อภิเษกสมรส

เจ้าหญิงอเล็กซานดรามิได้ทรงเป็นตัวเลือกแรกของพระองค์ เนื่องจากว่าประเทศเดนมาร์กเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศปรัสเซีย และพระประยูรญาติในพระราชวงศ์อังกฤษส่วนมากเป็นชาวเยอรมัน

ในการเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย เจ้าหญิงอลิกซ์ผู้ทรงพระสิริโฉมงามทำให้พระองค์และเจ้าชายเบอร์ตี้ทรงพึงพอพระทัยมาก อัลเฟรด เทนนีสัน กวีเอกแห่งราชสำนัก ได้ประพันธ์บทกวีสรรเสริญพระเกียรติเจ้าหญิงอเล็กซานดรา

และเซอร์ อาร์เธอร์ ซัลลิแวนก็ได้แต่งดนตรีเป็นพิเศษเพื่อการต้อนรับเจ้าหญิงในการเสด็จมาถึงสหราชอาณาจักร ทั้งสองพระองค์อภิเษกสมรสกันเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2406 ณ โบสถ์เซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์ พระชนกของเจ้าหญิงได้เสด็จขึ้นครองราชบัลลังก์เดนมาร์ก ในอีกแปดเดือนต่อมา

ในการเสด็จไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ของทั้งสองพระองค์ก็ได้มีเด็กนักเรียนจากวิทยาลัยอีตัน ที่อยู่ข้างปราสาทวินด์เซอร์ส่งเสด็จ รวมทั้งลอร์ด แรนดอล์ฟ เชอร์ชิลล์ บิดาของวินส์ตัน เชอร์ชิลล์ ซึ่งต่อมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรด้วย

เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงมีพระโอรสและธิดา 6 พระองค์ดังนี้

เจ้าฟ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ ดยุคแห่งคลาเรนซ์และเอวอนเดล (พระนามแบบเต็ม อัลเบิร์ต วิกเตอร์ คริสเตียน เอ็ดเวิร์ด; ประสูติ 8 มกราคม พ.ศ. 2407 สิ้นพระชนม์ 14 มกราคม พ.ศ. 2435)
ทรงได้รับการเฉลิมพระอิสริยยศเป็น ดยุคแห่งคลาเรนซ์และเอวอนเดล เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2433

สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 (จอร์จ เฟรเดอริค เออร์เนส อัลเบิร์ต; 3 มิถุนายน พ.ศ. 2408 - 20 มกราคม พ.ศ. 2479)
เสด็จขึ้นครองราชสมบัติต่อจากพระบรมราชชนกเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2453
ทรงอภิเษกสมรสกับเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 ณ โบสถ์หลวง พระราชวังเซนต์เจมส์ กรุงลอนดอน กับ เจ้าหญิงวิกตอเรีย แมรี่ ออกัสตา หลุยซา โอลกา พอลีน คลอดีน แอ็กเนสแห่งเท็ค (26 พฤษภาคม พ.ศ. 2410 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2496)

เจ้าฟ้าหญิงหลุยส์แห่งเวลส์ พระวรราชกุมารี (หลุยส์ วิกตอเรีย อเล็กซานดรา แด็กมาร์; 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2410 - 4 มกราคม พ.ศ. 2474)
ทรงได้รับการเฉลิมพระอิสริยยศเป็น พระวรราชกุมารี เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2408
ทรงอภิเษกสมรสในวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2432 ณ พระราชวังบัคกิงแฮม กรุงลอนดอน กับ อเล็กซานเดอร์ ดัฟฟ์ ดยุคที่ 1 แห่งไฟฟ์เล็กซานเดอร์ วิลเลี่ยม จอร์จ ดัฟฟ์ (เกิด 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2392 ถึงแก่กรรม 29 มกราคม พ.ศ. 2455) ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น ดยุคแห่งไฟฟ์ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2432

เจ้าฟ้าหญิงวิกตอเรียแห่งเวลส์ (วิกตอเรีย อเล็กซานดรา โอลกา แมรี่; 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2411 - 3 ธันวาคม พ.ศ. 2478)

เจ้าฟ้าหญิงม็อดแห่งเวลส์ (ม็อด ชาร์ล็อต แมรี่ วิกตอเรีย; 26 พฤศจิกายน
พ.ศ. 2412 - 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481)
ทรงอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2439 ณ พระราชวังบัคกิงแฮม กรุงลอนดอน กับ เจ้าฟ้าชายคาร์ลแห่งเดนมาร์ก (3 สิงหาคม พ.ศ. 2415 - 21 กันยายน พ.ศ. 2500) เสด็จขึ้นครองราชบัลลังก์แห่งนอร์เวย์ และ เถลิงพระนามาภิไธย โฮกุนที่ 7 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2448
ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2448 หลังจากการเสวยราชสมบัติแห่งนอร์เวย์

เจ้าฟ้าชายจอห์นแห่งเวลส์ (อเล็กซานเดอร์ จอห์น ชาร์ลส์ โรเบิร์ต อัลเบิร์ต; 6 เมษายน พ.ศ. 2414 - 7 เมษายน พ.ศ. 2414)

เจ้าหญิงอลิกซ์ทรงทุ่มเทให้กับพระโอรสธิดาและข้าราชบริพารทั้งหลายอย่างมากและทรงรื่นรมย์กับกิจกรรมต่างๆ เช่น การเต้นรำและการเล่นสเก็ตน้ำแข็ง แม้หลังการประสูติของเจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ ("เอ็ดดี้") พระโอรสพระองค์แรกในปี พ.ศ. 2407

พระองค์ก็ยังทรงปฏิบัติพระองค์ดังเดิมเหมือนแต่ก่อน ทำให้การกระทบกระทั่งกันระหว่างสมเด็จพระราชินีนาถกับทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์อยู่บ้าง อย่างไรก็ดี หลังจากการประสูติพระธิดาพระองค์ที่สามในปี พ.ศ. 2410 ความยุ่งยากต่างๆ ก็เข้ามาคุกคามชีวิตของพระองค์

และทรงจมอยู่ในความทุกข์ใจอย่างถาวร อีกทั้งยังทรงทนทุข์กับระดับความหูหนวกที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกรรมพันธุ์ ด้วยความอายรอยแผลเป็นบนพระศอ (ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นผลมาจากอุบัติเหตุเมื่อทรงพระเยาว์) ทำให้พระองค์ทรงพยายามซ่อนแผลเป็นโดยการสวมสร้อยพระศอแบบรัดคอสูงและทรงฉลองพระองค์คอตั้ง เนื่องจากทรงเป็นสตรีที่มีรูปโฉมงดงาม พระศอที่เรียวระหงทำให้การแต่งพระองค์เช่นนี้เกิดเป็นกระแสความนิยมขึ้นมา

เจ้าชายเบอร์ตี้และเจ้าหญิงอลิกซ์ทรงให้ตำหนักแซนดริงแฮมเป็นพระราชฐานโปรด การอภิเษกสมรสของทั้งสองพระองค์ถือว่ามีความสุขในหลายๆ ด้าน อย่างไรก็ตาม เจ้าชายเบอร์ตี้มิได้ทรงสนพระทัยพระชายาหรือพระโอรสธิดามากเท่าที่ควร และทั้งสองพระองค์ก็เหินห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ

จนกระทั่งการประชวรอย่างรุนแรงของเจ้าชายในต้นทศวรรษ 1870 ได้นำความปรองดองกลับคืนมา ความสัมพันธ์ของทั้งสองพระองค์ขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลาหลายปี แม้ว่าเจ้าชายเบอร์ตี้จะทรงได้รับความรักใคร่จากพระชายากลับคืนมา

แต่ก็ยังคงมีพระสนมลับอยู่เรื่อยๆ เช่น ลิลลี แลงทรีย์ ซึ่งเป็นนักแสดงละคร เดซี เกรวิลล์ เค้านท์เตสแห่งวอร์วิค แอ็กเนส เคย์เซอร์ หญิงสาวผู้มีมนุษยธรรม และอลิซ เค็พเพล หญิงสาวแม่งานสังคม

เจ้าหญิงทรงทราบเรื่องราวเกี่ยวกับบรรดาสนมลับส่วนใหญ่อย่างเต็มที่ และเค็พเพลถึงขนาดได้รับพระราชานุญาตจากพระองค์ให้มาเข้าเฝ้าที่ข้างพระแท่นบรรทมของพระสวามีในช่วงการเสด็จสวรรคต อย่างไรก็ตาม

พระองค์ทรงเพียงแค่ยอมทนกับเค็พเพลเท่านั้นแต่ก็ไม่ได้ทรงยอมรับเธอ ในบรรดาหญิงสาวคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าชายเบอร์ตี้ เคย์เซอร์ดูเหมือนจะได้รับการยอมรับอย่างดีที่สุดจากเชื้อพระวงศ์ เนื่องมาจากลักษณะนิสัยที่สุขุมรอคอบและมีความเคารพนบนอบ และความจริงที่ว่าเธอเองก็ยังไม่ได้แต่งงาน

เรย์มอนด์ ลามอนท์-บราวน์ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Edward VII's Last Loves: Alice Keppel and Agnes Keyser (ความรักครั้งสุดท้ายของเอ็ดเวิร์ดที่ 7: อลิซ เค็พเพลและแอ็กเนส เคย์เซอร์) เขียนว่าอิทธิพลด้านบวกที่ความสัมพันธ์นอกสมรสทั้งสองครั้งนี้มีอิทธิพลต่อพระองค์สามารถบรรยายออกมาอย่างเต็มที่ได้

เขาได้อ้างอิงถึงอลิซ เค็พเพลและแอ็กเนส เคย์เซอร์ ซึ่งความสัมพันธ์เกิดขึ้นพร้อมกัน โดยเริ่มต้นในระหว่างปี พ.ศ. 2441 และ พ.ศ. 2443 และดำเนินต่อมาจนกระทั่งการเสด็จสวรรคตของพระองค์ ส่วนเจ้าหญิงอเล็กซานดราเองก็ทรงมีความซื่อสัตย์ตลอดชีวิตการสมรสของพระองค์

การสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ในปี พ.ศ. 2435 เป็นความหายนะอันรุนแรงต่อเจ้าหญิงซึ่งทรงจิตใจที่อ่อนไหว และพระองค์ทรงยืนยันให้คงสภาพห้องพระบรรทมและสิ่งของทุกอย่างให้เหมือนเดิม อย่างที่เจ้าชายทรงทิ้งไว้มาก

เท่ากับที่พระสัสสุ (แม่สามี) เคยปฏิบัติหลังจากการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายอัลเบิร์ตในปี พ.ศ. 2404 เจ้าหญิงอลิกซ์ยังคงทรงมีพระโฉมที่อ่อนเยาว์ในช่วงกลางพระชนม์ชีพ ต้องขอบคุณผ้าคลุมอันปราณีตและการแต่งพระพักตร์อย่างหนา (นักสังเกตคนหนึ่งบรรยายพระองค์ว่า ทรงดูเหมือนเคลือบเอาไว้)

สมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรา

เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียเสด็จสวรรคตในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2444 เจ้าชายแห่งเวลส์ก็เสวยราชสมบัติสืบต่อเป็นสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 และเจ้าหญิงแห่งเวลส์ได้กลายเป็นสมเด็จพระราชินี

ตั้งแต่ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระราชินีในรัชกาลของพระสวามี และสมเด็จพระราชชนนีต่อจากนั้นจนกระทั่งสวรรคต พระองค์ทรงเป็นที่รักของประชาชนชาวอังกฤษอย่างมาก พระองค์ทรงประกอบการกุศลมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Alexandra Rose Day ในช่วงของสงครามบัวร์

พระองค์ได้ทรงก่อตั้งกองร้อยพยาบาลแห่งสมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรา (Queen Alexandra's Nursing Corps) หรือที่รู้จักกันในนาม "Q.A.s" ไม่ได้มีหลักฐานอันชี้ชัดว่าพระองค์ทรงขาดไหวพริบทางการการเมือง

พระองค์ทรงมีความไม่โปรดจำเพาะกับชาวเยอรมัน เป็นความเกลียดชังซึ่งเกิดมาจากการที่ปรัสเซียยึดครองชเลสวิกและโฮลชไตน์ ซึ่งเป็นอดีตดินแดนของเดนมาร์กในช่วงสงครามชเลสวิกในปี พ.ศ. 2407

เฉกเช่นเดียวกับพระราชวงศ์ต่างๆ ในสมัยของพระองค์ สมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรามิทรงมีความเข้าพระทัยเรื่องเงินตรา แม้จะมีความอุตสาหะของเซอร์ ดิกตัน โพรบีน ผู้ควบคุมบัญชีอันจงรักภักดี ซึ่งมีบทบาทที่คล้ายคลึงกันเมื่อพระสวามีทรงเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์และต่อมาทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7

พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 ด้วยอาการพระหทัยวาย ณ พระราชวังแซนดริงแฮม และพระบรมศพฝังอยู่ในหลุมผังพระศพที่ตกแต่งอย่างปราณีตทางด้านขวาของแท่นบูชาหลัก เคียงข้างพระราชสวามีในโบสถ์เซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


สิริสวัสดิ์ภุมวาร ปรีดิ์มานกมลสรวล ที่มาอ่านค่ะ


Create Date : 01 ธันวาคม 2552
Last Update : 1 ธันวาคม 2552 14:03:02 น. 0 comments
Counter : 1528 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.