//www.wegointer.com/wp-content/uploads/2015/07/dont_sweat.jpg         ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งในการใช้ภาษาอังกฤษ คือ นึกคำศัพท์ที่จะใช้ไม่ออก บ่อยครั้งที่น้อง ๆ จำเป็นต้องบรรยายลักษณะของสิ่งของหรืออารมณ์ความรู้สึก แต่คิดออกเฉพาะคำศัพท์เบสิคทั่วไป ดังนั้นวันนี้ Life on Campus เลยนำคำศัพท์ทั้งหมด 15 คำมาให้ทำความรู้จัก เผื่อน้อง ๆ จะได้นำคำศัพท์ในลิสต์นี้ไปใช้ในการเขียน Essay หรือการพูดคุยในชีวิตประจำวัน รับรองว่าครั้งต่อไปที่ใช้ภาษาอังกฤษ Native speaker ยังต้องยกนิ้วให้ //learnu.org/wp-content/uploads/2015/04/How-to-Write-an-Essay-About-Yourself-for-a-Scholarship.jpg               1. Good         Good เป็นคำคุณศัพท์ แปลว่า ดี ใช้ขยายหน้าคำนาม คำนี้ถือว่าเป็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ถูกใช้บ่อยที่สุด แต่ก็อาจจะยังขยายความไม่ค่อยชัดเจน จึงอยากให้ลองใช้คำที่มีความหมายเหมือน good แต่เฉพาะเจาะจงมากกว่านี้ ยกตัวอย่างเช่น superb = ดีเลิศ, outstanding = โด่นเด่น และ exceptional = ยอดเยี่ยม                        2. Long         ค่อนข้างเหมือนกับคำว่า “new” long แปลว่า ยาว ในที่นี้จะเกี่ยวข้องกับ ระยะเวลา หรือ การบอกถึงขนาด แทนที่จะใช้คำว่า long ซึ่งเป็นคำเดิม ๆ ในการเขียน ลองหันมาใช้ พวกคำศัพท์อย่าง extended = ซึ่งกว้างออกไป lingering = เอ้อระเหย endless = ไม่มีที่สิ้นสุด เป็นต้น                          3. Old         Old หมายถึง เก่า หรือ แก่ ในที่นี้ต้องการนำมาขยายสิ่งของหรือสิ่งที่พูดถึงว่ามีความเก่าแก่ขนาดไหน คำที่สามารถใช้แทนได้และทำให้ดูเป็นคนมีภูมิมากเพราะรู้นอกเหนือจากคำศัพท์บ้าน ๆ อย่าง Old ยกตัวอย่างเช่น ancient = โบราณ , fossilized = ฟอสซิล (ซากดึกดำบรรพ์) , decaying = ทรุดโทรม หรือ decrepit = เสื่อม                          4. Right         Right มีความหมายว่า ถูกต้อง มักจะพบเห็นคำศัพท์นี้ในโจทย์คำสั่งการเติม ถูก หรือ ผิด ลงในช่องว่าง ถ้ามีใครทำถูกต้อง สามารถพูดแทนได้ว่า exact หรือ precise ก็ได้เพราะมีความหมายเดียวกัน                          5. Different         เป็นคำคุณศัพท์ที่ออกจะธรรมดาสำหรับผู้อ่าน แต่สามารถทำให้เฉพาะเจาจงได้โดยการใช้ คำว่า odd และ uncommon ซึ่งแปลว่าไม่ปกติ ไม่ธรรมดา                         6. Small          Small เป็นคำศัพท์ที่อาจจะกว้างเกินไปในการเขียน ลองใช้คำที่เฉพาะเจาะจงขึ้นไปอีก อย่าง microscopic = ซึ่งมีขนาดเล็กมาก (ใช้กับกล้องจุลทรรศน์) miniature หรือ tiny ที่แปลว่า เล็กมาก ,จิ๋ว หรือแม้กระทั้งคำว่า cramped (คับแคบ) และ compact (อัดแน่น) ก็สามารถใช้ได้และยังช่วยพรรณนาให้ผู้อ่านเห็นภาพมากขึ้น                          7. Large         Large แปลได้สองความหมาย คือ ใหญ่ หรือ มาก สามารถใช้บอกจำนวนหรือขนาดของสิ่งของที่พูดถึง คำที่สามารถใช้แทนได้ ได้แก่ substantial = มากมาย, immense = มโหฤฬาร, enormous = อย่างใหญ่มหึมา และmassive = ใหญ่โต //www.changetc.co.za/images/slider/ctc-bg.jpg           8. Next         เมื่อใดก็ตามที่พยายามจะอธิบายถึงบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือกำลังจะมาถึง โดยใช้คำว่า Next มีโอกาสเสี่ยงที่ผู้อ่านจะเลิกอ่านสิ่งที่ผู้เขียนเขียน แต่โชคดีที่มีคำศัพท์อย่าง upcoming, following หรือ closer ซึ่งแปลเหมือนกับ next แต่ให้ความรู้สึกดึงดูดให้อยากติดตามหรืออ่านต่อมากกว่า                 9. Young          ถ้าคุณต้องการที่จะทำให้งานเขียนเป็นงานที่มีเสน่ห์มากขึ้น ลองเปลี่ยนจากการใช้ young ซึ่งเป็นคำที่คนปกติใช้ทั่วไปและเป็นคำที่กว้างมาก มาใช้คำศัพท์อย่าง youthful (เยาว์วัย) naïve หรือ budding ก็น่าสนใจ                 10. Never         Never มีความหมายว่า ไม่เคย บ่อยครั้งที่ถูกใช้ในความหมายของคำว่า ไม่ถูกต้อง หรือ ใช้บอกว่าสิ่งนั้นหรือเหตุการณ์นั้นไม่เคยเกิดขึ้น ไม่มีทาง แต่อาจจะเป็นคำที่ความหมายออกปฏิเสธชัดเจนจนเกินไป ลองหันมาใช้คำประเภท rarely (ไม่ค่อย) scarcely (แทบจะไม่) หรือ occasionally (บางครั้งบางโอกาส) ซึ่งจะนำไปใช้งานได้ดีกว่า                         11. Things         Things แปลว่า สิ่งของ หรือ ของ มีความหมายโดยกว้าง หากอยากให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ลองเปลี่ยนจากคำศํพท์ things เป็น belongings (สมบัติส่วนตัว) property (ทรัพย์สิน) หรือ tools (เครื่องมือ)                         12. Feel         Feel ใช้บอกความรู้สึก เป็นคำที่ใช้กันโดยทั่วไปและส่วนใหญ่ผู้ใช้ภาษาอังกฤษจะต้องเคยพูดอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แต่หากรู้สึกว่าคำนี้ค่อนข้างซ้ำซาก อาจหันมากลองใช้ คำว่า sense หรือ discern ก็ได้เช่นเดียวกัน เท่านั้นยังไม่พอนักศึกษาสามารถทำให้การบอกความรู้สึกชัดเจนมากขึ้น ยกตัวอย่างประโยค I feel hungry. (ฉันรู้สึกหิว ) ก็เปลี่ยนเป็น I’m famished. (ฉันหิว!) เป็นต้น                13. Almost         อีกหนึ่งคำศัพท์ที่ไม่ควรปล่อยให้พลาดง่าย ๆ อย่างคำว่า almost ที่มีความหมายว่า เกือบ หรือ การสูญเสียโอกาสทั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น คำที่น่าสนใจที่ใช้แทนคำว่า almost ได้และทำให้ดูมีทักษะ ได้แก่ practically , nearly , verging on ซึ่งทั้งหมดแปลว่า เกือบ เหมือนกัน                          14. Just         คำว่า just ที่แปลว่า เพิ่ง หรือ แค่ เป็นคำขยายที่ไม่สามารถทำให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของสิ่งที่เขียนมากนัก หากอยากเอาชนะใจผู้อ่าน ลองพยายามใช้คำว่า narrowly (อย่างแคบๆ ) simply (อย่างง่ายๆ) หรือ hardly จะทำให้การขยายความดูมีน้ำหนักกว่า                         15. Went         มาถึงคำสุดท้าย คำว่า went ที่แปลว่า ไป อยากให้หลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์นี้ในการอธิบายเรื่องที่ต้องการพูด เนื่องจากเป็นคำที่ดูขาดแรงจูงใจเวลาที่ใช้ ลองใช้คำว่า chose, decided on และ rambled ที่แปลว่า เลือก , ตัดสินใจที่จะทำบางสิ่ง น่าจะดีกว่า //www.princetontutoring.com/blog/wp-content/uploads/2014/01/writer.jpg         ขอขอบคุณที่มา :         //www.lifehack.org/articles/communication/18-common-words-that-you-should-replace-your-writing.html

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

Life on campus

ภุมวารสิริสวัสดิ์ค่ะ    

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2558 9:02:42 น.		0 comments
Counter : 1348 Pageviews.
Share Tweet