เพราะน้องหมา ไม่ทาโทนาฟ : การดูแลสัตว์เลี้ยงเบื้องต้นในช่วงน้ำท่วม
สภาวะน้ำท่วมเช่นนี้ ไม่ใช่คนเท่านั้นที่เสี่ยงต่ออาการป่วยไข้ จากโรคภัยที่มากับน้ำท่วม แต่บรรดาสัตว์เลี้ยงแสนรักอย่าง สุนัข แมว หรือสัตว์อื่น ก็ยังเสี่ยงในภาวะเช่นนี้ด้วย
เวลาที่สัตว์เลี้ยงป่วย วิธีการรักษาเบื้องต้น ต่างจากคนป่วยอย่างสิ้นเชิง ใช่ว่าพอน้องหมาที่บ้านเป็นโรคผิวหนัง แล้วจะหาโทนาฟให้มันได้
ร่างกายของเขากับเราต่างกัน จึงต้องดูแลกันอีกแบบ... สัตวแพทย์หญิงลลนา เอกธรรมสุทธิ์ ฝ่ายวิชาการ, โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ได้เขียนบทความที่มีชื่อว่า การดูแลสัตว์เลี้ยงเบื้องต้นยามประสบมหาอุทกภัย ซึ่งมีเนื้อหาดังต่อไปนี้ ช่วงเวลาเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ชาวกทม.และปริมณฑลต่างได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม และแน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงของเราต่างกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของผู้ประสบภัยเช่นกัน สถานการณ์น้ำท่วมนี้ บางท่านไม่สามารถละทิ้งสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่ได้ เกิดภาวะติดเกาะ
ดังนั้นการพาสัตว์เลี้ยงเพื่อเดินทางมาพบสัตวแพทย์ย่อมเป็นไปได้ยาก บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลช่วยเหลือในการดูแลสัตว์เลี้ยงเบื้องต้น รวมถึงรวบรวมข้อมูลการใช้ยาสามัญประจำบ้านที่จำเป็นในการรักษาเบื้องต้น ปัญหาสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่พบได้บ่อยในช่วงน้ำท่วมนี้ ได้แก่ การสำลักน้ำในระหว่างอพยพ สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ในน้ำท่วมประกอบไปด้วยการปนเปื้อนของขยะสิ่งปฏิกูลมากมาย ซึ่งคือเชื้อโรคต่างๆ จำนวนมหาศาลเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีสารเคมีคราบน้ำมัน ที่ก่อให้เกิดการเป็นพิษปนเปื้อนมาด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดความผิดปกติ และการป่วยติดเชื้อกับสัตว์เลี้ยงได้ โดยสามารถจำแนกเป็นระบบต่างๆ ดังนี้
ปัญหาสุขภาพอย่างแรกก็คือ โรคระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ หวัด ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อและสามารถติดต่อสู่สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆได้โดยการหายใจ อย่างไรก็ตามไม่มีการติดเชื้อข้ามสายพันธุ์ สัตว์เลี้ยงจะซึมลง ความอยากอาหารลดลง
นอนมากกว่าปกติ มีขี้มูกขี้ตาเกรอะกรัง ไอ จาม ในตัวที่เป็นรุนแรงอาจมีอาการปอดบวมแทรกซ้อน หายใจลำบาก หอบ อาเจียนเป็นเสมหะปนเลือดได้ เยื่อเมือกซีดหรือม่วง ความรุนแรงของโรคอาจทำให้สัตว์เลี้ยงเสียชีวิต ยาที่สามารถให้เพื่อการรักษาเบื้องต้นได้แก่ ยาปฏิชีวนะ(Amoxicillin, Amoxicillin-Clavulanic, Norfloxacin, Ciprofloxacin) ยาลดน้ำมูก (Chlorpheniramine, Hydroxyzine) ยาละลายเสมหะ (Carbocysteine, Acetylcysteine) และยาลดไข้แก้ปวด (Paracetamol, Aspirin) อย่างที่สองก็คือ โรคระบบทางเดินอาหาร เกิดได้ทั้งจากการติดเชื้อ หรือการได้รับสารเคมีปนเปื้อนที่มากับน้ำเน่าเสีย พบสัตว์เลี้ยงมีอาการท้องเสียถ่ายเหลวมีมูกหรือเลือดปน บางตัวมีอาเจียน เป็นไข้ ปวดตัว ปวดท้อง ไม่กินอาหาร นอนซึม ในรายที่เป็นรุนแรงมาก อาจต้องให้เกลือแร่และให้ดื่มน้ำสะอาดมากๆเพื่อช่วยปรับสมดุลของร่ายกายและลดภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง ยาที่สามารถให้เพื่อการรักษาเบื้องต้นได้แก่ ยาปฏิชีวนะ(Norfloxacin, Ciprofloxacin, Disento, Metronidazole) สามารถให้กิน Activate carbonได้ในกรณีท้องเสียไม่รุนแรงหรือได้รับสารเคมีปนเปื้อน
ช่วยในการดูดซับสารพิษและขับออกทางอุจจาระได้ และยาลดไข้แก้ปวด (Paracetamol) อย่างไรก็ตามข้อควรจำที่สำคัญคือ ห้ามให้พาราเซตามอลในแมวอย่างเด็ดขาด เนื่องจากพาราเซตามอลเป็นพิษกับแมวอย่างรุนแรงทำให้ถึงตายได้ อีกโรคหนึ่งที่อาจจะพบในสัตว์เลี้ยง นั่นคือ โรคผิวหนัง พบได้ทั้งการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราและยีสต์ สัตว์เลี้ยงจะมีอาการคัน มีแผลตุ่มหนองตามตัวและอาจลามเป็นรอยโรคที่กว้างขึ้น เนื่องจากในช่วงเวลาน้ำท่วมเช่นนี้การอาบน้ำและเป่าตัวสัตว์เลี้ยงจนแห้งสนิทอาจจะไม่สามารถทำได้
ดังนั้นการรักษาโรคผิวหนังในช่วงเวลานี้คือ การรักษาเพื่อบรรเทาอาการไม่ให้รุนแรงมากขึ้น โดยให้สัตว์อยู่ในที่แห้งและสะอาด ป้องกันสัตว์ไม่ให้แทะเลียแผล และให้ยากินเพื่อบรรเทาอาการเบื้องต้น ได้แก่ ยาปฏิชีวนะ(Amoxicillin-Clavulanic, Norfloxacin, Cephalexin) ยาแก้แพ้แก้คัน(Chlorpheniramine, Hydroxyzine)
อย่างไรก็ตามสัตว์เลี้ยงที่ป่วยควรถูกแยกออกจากสัตว์ปกติ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและเป็นการควบคุมโรคที่ดีตามหลักสุขาภิบาล ในฐานะของผู้ประสบภัยคนหนึ่งเช่นกัน หมอขอให้ทุกคนเข้มแข็งและเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ พวกเราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันค่ะ"
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน หมายเลขโทรศัพท์ 02-8878321 หรือ kittyavian@hotmail.com
รายการยาและปริมาณยาที่สามารถใช้กับสัตว์เลี้ยงได้
Amoxicillin 11-22 mg/kg วันละ 2-3 ครั้ง ห้ามใช้ในกระต่าย Amoxicillin-Clavulanic 14 mg/kg วันละ 2-3 ครั้ง ห้ามใช้ในกระต่าย Norfloxacin 5-10 mg/kg วันละ 1-2 ครั้ง Ciprofloxacin 2.5-7.5 mg/kg วันละ 1-2 ครั้ง Metronidazole 12-30 mg/kg วันละ 1-2 ครั้ง Cephalexin 10-30 mg/kg วันละ 2 ครั้ง ห้ามใช้ในกระต่าย Disento 1 เม็ด/นน. 10-20 kg วันละ 2-3 ครั้ง ห้ามใช้ในกระต่าย Aspirin 10 mg/kg วันละ 1 ครั้ง (สุนัข) และวันเว้นวัน(แมว) Paracetamol 10 mg/kg วันละ 2 ครั้ง ห้ามใช้ในแมว Chlorpheniramine 2-8 mg/ตัว วันละ 2-3 ครั้ง Hydroxyzine 2.2 mg/kg(สุนัข) 5-10 mg/ตัว(แมว) วันละ 2-3 ครั้ง Acetylcysteine 15-50 mg/kg วันละ 2-3 ครั้ง Carbocysteine 100-200 mg/ตัว วันละ 2 ครั้ง Activate carbon 1 เม็ด/นน. 5 kg ป้อนครั้งเดียว Bromhexine 1.6-2.5 mg/kg(สุนัข) วันละ 2 ครั้ง และ 1 mg/kg(แมว) วันละ 1ครั้ง
ขอบคุณ msn
สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ
Create Date : 17 พฤศจิกายน 2554 |
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2554 12:12:41 น. |
|
0 comments
|
Counter : 5785 Pageviews. |
|
|
|
|
|