"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
15 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
การดัดแปลงและตำนานยุคใหม่ของกษัตริย์อาเธอร์







ภาพวาด "The last sleep of Arthur"
โดย เอ็ดเวิร์ด เบิร์น-โจนส์ ศิลปินยุคพรีราฟาเอลไลท์






ภาพวาดอาเธอร์และเมอร์ลิน
ประกอบบทกวีเรื่อง Idylls of the King
ของอัลเฟรด ลอร์ด เทนนีสัน
วาดโดย กุสตาฟ โดเร ค.ศ. 1868




การดัดแปลงและตำนานยุคใหม่

วรรณกรรมหลังยุคกลาง

การสิ้นสุดลงของยุคกลาง ทำให้ความสนใจในตำนานกษัตริย์อาเธอร์เสื่อมถอยลงไปด้วย แม้งานแปลฉบับภาษาอังกฤษของ มาโลรี จากนิยายโรแมนซ์ฝรั่งเศสอันยิ่งใหญ่จะยังเป็นที่นิยม แต่ก็ได้กระพือการโจมตีเรื่องข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ในนิยายอาเธอร์ทั้งหลาย นับตั้งแต่ยุคของเจฟฟรีย์แห่งมอนมอธเป็นต้นมา เพื่อค้นหาความถูกต้องของตำนานแห่งบริเตน

ด้วยเหตุนี้ การที่นักมานุษยวิทยาในคริสต์ศตวรรษที่ 16 โพลีโดเร เวอร์จิล ปฏิเสธอาเธอร์ในฐานะกษัตริย์ ผู้ปกครองคนหนึ่งในยุคหลังอาณาจักรโรมัน จึงโด่งดังมาก

แนวคิดนี้พบได้ทั่วไปในวรรณกรรมแบบโพสต์-กัลฟรีเดียน ช่วงกลางการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอันเป็นผลสืบเนื่อง จากการสิ้นสุดของยุคกลาง รวมถึงการเข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ล้วนช่วยกันลบอาเธอร์กับตำนานของเขา ออกจากความคิดจิตใจอันตราตรึงของเหล่าผู้ฟัง

เห็นได้จากในปี 1634 งานพิมพ์ Le Morte d'Arthur ครั้งสุดท้ายของมาโลรีก็ยังตกค้างอยู่เป็นเวลาเกือบ 200 ปี กษัตริย์อาเธอร์กับตำนานของพระองค์ไม่ได้ถูกทอดทิ้งไปเสียทีเดียว แต่ก็ไม่ได้เป็นที่สนใจอย่างจริงจังตราบจนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 19

โดยมากแล้วจะถูกใช้เป็นเครื่องอุปมาอุปไมย สำหรับกิจการเมืองในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17-18 เช่นในงานมหากาพย์ Prince Arthur (1695) และ King Arthur (1697) ของ ริชาร์ด แบล็กมอร์ ก็ใช้อาเธอร์เป็นตัวแทนในการต่อสู้ของพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 ต่อต้านกับพระเจ้าเจมส์ที่ 2

วรรณกรรมเกี่ยวกับอาเธอร์ที่นิยมมากที่สุดในช่วงยุคนี้ เห็นจะได้แก่ผลงานของ ทอม ทัมบ์ ซึ่งในตอนแรกเผยแพร่ทางหนังสือสวดมนต์ และต่อมาก็นำไปแสดงเป็นละครเวทีโดย เฮนรี ฟิลดิ้ง แม้ว่าการแสดงจะบอกว่าเกิดขึ้นในเกาะบริเตนของอาเธอร์ แต่เนื้อหากลับสื่อไปในทางขำขัน และอาเธอร์ก็ได้เปลี่ยนโฉมเป็นละครตลกแทนที่แนวโรแมนซ์


เทนนีสัน และยุคฟื้นฟู

ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 แนวคิดแบบ medievalism ศิลปะจินตนิยม และ สถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิค ได้หวนกลับมาให้ความสำคัญกับอาเธอร์และวรรณกรรมโรแมนซ์ยุคกลางอีกครั้ง ความมีคุณธรรมของสุภาพบุรุษในคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีพื้นฐานแบบอุดมคติอยู่กับบุคลิกของอาเธอร์ในแบบโรแมนซ์ สามารถสังเกตความนิยมอีก

ครั้งนี้จากการตีพิมพ์เรื่อง Le Morte d'Arthur ของมาโลรีซ้ำอีกครั้งเป็นครั้งแรกหลังจากปี 1634 ตำนานอาเธอร์ในยุคกลางแบบดั้งเดิมมักจะเป็นที่สนใจของกวี และเป็นแรงบันดาลใจให้ประพันธ์ผลงานต่างๆ เช่น วิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ธ เขียนเรื่อง "The Egyptian Maid" ในปี ค.ศ. 1835 ในทำนองเปรียบเปรยกับจอกศักดิ์สิทธิ์

ผลงานที่โดดเด่นในยุคนี้เป็นของอัลเฟรด ลอร์ด เทนนีสัน ผู้ประพันธ์บทกวี "The Lady of Shalott" ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1832 แม้ว่าอาเธอร์จะยังคงได้รับบทเพียงตัวประกอบ เช่นเดียวกับในวรรณกรรมโรแมนซ์ยุคกลาง แต่งานเขียนเกี่ยวกับตำนานอาเธอร์ ของเทนนีสันได้สร้างความนิยมสูงสุดจากผลงานเรื่อง Idylls of the King

ซึ่งนำเรื่องราวชีวิตของอาเธอร์มาบรรยายเสียใหม่ ตามขนบของยุควิกตอเรีย ผลงานนี้พิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1859 และจำหน่ายได้ 10,000 ชุดภายในสัปดาห์แรก

ในเรื่องนี้ อาเธอร์กลายเป็นสัญลักษณ์ของบุรุษในอุดมคติ ผู้พยายามสร้างอาณาจักรอันสมบูรณ์ผาสุก ท่ามกลางโลกที่ล่มสลายด้วยน้ำมือมนุษย์ผู้อ่อนแอ งานของเทนนีสันสร้างแรงบันดาลใจต่อนักประพันธ์จำนวนมาก ทำให้สาธารณชนหันมาให้ความสำคัญกับตำนานอาเธอร์และตัวกษัตริย์อาเธอร์อีกครั้ง

รวมถึงพาให้ผลงานของมาโลรีกลับมาสู่ความนิยมของผู้อ่าน มีงานเขียนยุคใหม่ที่พัฒนาจากนิทานอาเธอร์ของมาโลรีตีพิมพ์ออกมาหลังจาก Idylls ไม่นานนัก (ค.ศ. 1862) หลังจากนั้นปรับปรุงอีกกว่า 6 ครั้งและมีผู้ประพันธ์เรื่องอื่นๆ อีก 5 เรื่องก่อนจะสิ้นสุดศตวรรษ

ความสนใจใน "อาเธอร์แบบโรแมนซ์" และภารกิจต่างๆ ของเขาดำเนินต่อเนื่องไปตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนล่วงเข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 20 ส่งอิทธิพลต่อกวีมากมายหลายคน เช่น วิลเลียม มอร์ริส และศิลปินยุคพรีราฟาเอลไลท์มากมาย รวมไปถึง เอ็ดเวิร์ด เบิร์น-โจนส์

แม้แต่นิทานตลกขำขันของ ทอม ทัมบ์ ซึ่งนำตำนานอาเธอร์มาดัดแปลงเป็นเรื่องแรกๆ ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ก็ถูกนำมาเขียนขึ้นใหม่หลังจาก Idylls ตีพิมพ์เผยแพร่ แม้ว่าทอมจะคงระดับของเรื่องและยืนหยัดความขบขันเอาไว้

แต่เรื่องใหม่ของเขาก็มีองค์ประกอบของความเป็นอาเธอร์ในวรรณกรรมโรแมนซ์ยุคกลางมากยิ่งขึ้น อาเธอร์ดูจริงจังมากขึ้น และมีตัวมีตนมากขึ้นในฉบับเรียบเรียงใหม่ ตำนานอาเธอร์แบบโรแมนซ์ยังส่งอิทธิพลต่อวรรณกรรมในสหรัฐอเมริกาด้วย จากผลงานหนังสือหลายเรื่อง

เช่น The Boy's King Arthur ของ Sidney Lanier ในปี ค.ศ. 1880 ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง และส่งแรงบันดาลใจต่องานเขียนล้อเลียนเรื่อง A Connecticut Yankee in King Arthur's Court ของ มาร์ค ทเวน (ค.ศ. 1889)

แม้ว่า "อาเธอร์แบบโรแมนซ์" จะกลายเป็นจุดศูนย์กลางของวรรณกรรมอาเธอร์ยุคใหม่ (เช่นที่ปรากฏใน The Last Sleep of Arthur in Avalon ของ เบิร์น-โจนส์) แต่บ่อยครั้งที่เขากลับไปสู่สถานะเดียวกับอาเธอร์ในยุคกลาง

คืออยู่เพียงขอบข้างของเนื้อเรื่อง หรือบางครั้งก็หายตัวไปเลย ตัวอย่างเช่นในละครโอเปร่าเกี่ยวกับตำนานอาเธอร์ของ วากเนอร์ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี การฟื้นฟูความสนใจในตำนานอาเธอร์ มิได้ดำเนินต่อเนื่องไปโดยตลอด เมื่อสิ้นสุดคริสต์ศตวรรษที่ 19 เรื่องราวของอาเธอร์ก็ตกไปอยู่ในรูปเลียนแบบของพวกพรีราฟาเอลไลท์

เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เกียรติยศศักดิ์ศรีของการต่อสู้ประลองของวีรบุรุษแบบยุคกลางก็ค่อยๆ เลือนหายไป ภาพของอาเธอร์ในฐานะนักรบผู้ทรงเกียรติศักดิ์ก็เลือนหายไปด้วย

ทว่าขนบแบบโรแมนซ์ยังคงมีพลังเพียงพอจะส่งอิทธิพลต่อ โทมัส ฮาร์ดี ลอเรนซ์ บินยอน และ จอห์น เมสฟิลด์ ในการประพันธ์ละครเพลงเกี่ยวกับอาเธอร์

ที. เอส. อีเลียต ยังได้กล่าวถึงบางส่วนของตำนานอาเธอร์ (ไม่ใช่ตัวอาเธอร์) ในกวีนิพนธ์ของเขาเรื่อง The Waste Land โดยได้อ้างถึงกษัตริย์ตกปลา (Fisher King)


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


ศุภสวัสดิ์จันทรวาร มานอวลบุษปคันธาทิพย์นะคะ



Create Date : 15 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2553 19:14:14 น. 0 comments
Counter : 835 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.