ระหว่าง "ตัวจริง" กับ "ขวัญใจ" 2 เรียลิตี้ "ต่างขั้ว"
บันเทิง มติชน
ลองยกนิ้วขึ้นนับรายการเรียลิตี้ ที่เป็นเวทีประกวดหาคนมากฝีมือเข้ามาประดับวงการบันเทิงของเมืองไทย ก็พบว่าค่อยๆ มีเพิ่มขึ้นๆ ตั้งแต่ "อคาเดมี่ แฟนเทเชีย, เดอะ สตาร์, เคพีเอ็น, ไทยแลนด์ ก็อต ทาเล้นต์" และอื่นๆ อีกมากมาย
ล่าสุด ก็มี 2 รายการน่าสนใจที่เปิดเวทีในช่วงไล่เลี่ยกัน แต่เนื้อในนั้นดูต่างอย่างเหลือเกิน ระหว่าง ขวัญใจไทยแลนด์ ไทยแลนด์ โมสต์ เฟมัส และ เดอะ วอยซ์ เสียงจริง ตัวจริง
ที่ต่าง เพราะ "เดอะ วอยซ์" มาพร้อมคอนเซ็ปต์ไม่สนใจหน้าตาหรือว่าสิ่งใด นอกจาก "เสียง" ด้วยเหตุนี้จึงกำหนดให้ "โค้ช" ทั้ง 4 คน คือ เจนนิเฟอร์ คิ้ม, ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา, โจอี้ บอย-อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต และ แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข
คัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน ด้วยวิธีการ "Blind Audition" คือนั่งหันหลังให้ผู้เข้าแข่งขัน เปิดหูเพื่อฟัง จากนั้นเจอเสียงที่ถูกใจ จึงกดเลือกให้เข้ามาอยู่ในทีมของตัวเอง และคอยให้คำปรึกษาเพื่อพัฒนาทักษะการร้องเพลง
จากนั้นจะชนะหรือแพ้ก็มีเสียงและความสามารถในการร้องนี่ละตัดสิน
โดยผู้ชนะจะได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินกับทรู มิวสิค
ขณะที่ "ขวัญใจไทยแลนด์" ประกาศชัดว่าถึงจะหน้าตาดีแค่ไหน เสียงดีเพียงไร ถ้าไม่มี "ออร่า" ก็หมดสิทธิเกิด
ก่อนจะได้ออกมาแสดงความสามารถบนเวที ผู้เข้าแข่งขันจึงต้องเข้า "ตู้ ดร.ขวัญใจ" ดูรูปร่างหน้าตาก่อน ว่าผ่านหรือไม่
ถ้าไม่ก็ตกรอบไปทันที
แต่ถ้าผ่าน ค่อยยกความสามารถมาโชว์ให้ แพม-ลลิตา ตะเวทิกุล, ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล และ เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ชี้ ว่าจะ "ดัง" หรือ "ดับ" ก่อนผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ให้ อนันดา เอเวอริ่งแฮม, ชาคริต แย้มนาม, บีม-กวี ตันจรารักษ์ คัด ซึ่งผู้ชนะนั้นจะได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงกับช่อง 3
รายการหนึ่งเอา "เสียง" อีกรายการเอา "ออร่า"
ต่างกันสุดขั้วไหมล่ะ?
"มันเป็นความท้าทายมาก" อาจกิจ สุนทรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจเพลง บริษัท ทรู มิวสิค ผู้ดูแลการผลิต "เดอะ วอยซ์" บอกเมื่อถามถึงการคัดเลือกคนจากเสียงเพียงอย่างเดียว โดยไม่อาศัยหน้าหรือว่าอื่นๆ เข้าประกอบ
"ดูรายการของประเทศอื่น เห็นคนเก่งเยอะมาก ก็กลัวว่าบ้านเราจะมีคนเก่งขนาดนั้นไหม ไม่มั่นใจเลย"
แต่เจ้าของลิขสิทธิ์กลับว่า คนเก่งๆ ที่ไม่เคยไปรายการไหนมาก่อนจะมาโผล่ที่รายการนี้นี่ล่ะ
"เพราะมันไม่มีที่อื่นให้เขาไป
"ที่หน้าตาเขาไม่ดี หุ่นไม่ดี อายุเกินเกณฑ์ ไปรายการอื่นไม่ได้ จะมาที่เราทั้งหมด"
แล้วก็จริง
"ตกใจเลยนะ คนพวกนี้ไปอยู่ที่ไหนกันมา เก่งขนาดนี้" อาจกิจบอก พร้อมรอยยิ้มกว้าง
นั่นคงเพราะตอนนี้นอกจากจะได้คนเก่งมาร่วมในรายการแล้ว ยังมั่นใจแล้วว่ารายการนี้ต้องดัง และต้องได้คนมีความสามารถมากๆ มาประดับวงการแน่นอน
หาก แพม-ลลิตา ตะเวทิกุล โปรดิวเซอร์และหนึ่งในคอมเมนเตเตอร์หลักของรายการ "ขวัญใจไทยแลนด์" ก็ว่า จากประสบการณ์กว่า 20 ปี ในวงการบันเทิง พบว่าวงการนี้มีคนมีความสามารถเยอะ คนเสียงดีก็แยะ แต่คนเหล่านั้นใช่จะโด่งดังมากมาย
"กลายเป็นว่าคนที่ดังที่สุดไม่ได้หล่อที่สุด ไม่ได้เก่งที่สุด"
เพราะของเหล่านี้ต้องมี "ออร่า" หรือความมีเสน่ห์ดึงดูดมาสนับสนุน
"มันคือออร่าที่ทำให้คนดังได้
"คือรัศมี เสน่ห์ที่เปล่งประกาย เดินผ่านแล้วทุกคนหันมอง มีแรงดึงดูดที่ทำให้คนหมู่มากสนใจอยากรู้จัก"
หากก็ใช่ว่าจะไม่ต้องมีความสามารถอะไรเลย เพราะออร่าต้องมาพร้อมหน้าตาและความสามารถส่วนหนึ่งด้วย
ส่วนเรื่องที่ว่ารายการดูจะเน้นไปทางการมองหาสิ่งอื่น มากกว่าความสามารถนั้น ลลิตากล่าวว่า นั่นเป็นเรื่องแนวคิดของรายการ ที่แต่ละรายการก็ต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม ถ้าผลลัพธ์คือทำให้คนดูสนุกก็โอเคแล้ว
"ถ้าถามว่าใครผิด ไม่มีหรอกค่ะ แค่คนละแนวความคิดกันเท่านั้น"
และไม่ว่าจะแนวความคิดแบบไหนต่างก็สร้างบุคลากรเข้ามาในวงการเหมือนกันทั้งนั้น
แต่เข้ามาแล้วจะอยู่ต่อไปได้นานเพียงไร เรื่องนี้อยู่ที่ตัวเขาเองล้วนๆ
ขอบคุณ มติชนออนไลน์ บันเทิง มติชน
สวัสดิ์สิริศุกรวารค่ะ
Create Date : 14 กันยายน 2555 |
Last Update : 14 กันยายน 2555 13:31:58 น. |
|
0 comments
|
Counter : 5049 Pageviews. |
|
|
|
|
|