คริสทีนกับจอช ระหว่างทำอาหารในรอบสุดท้าย ซึ่งในที่สุดเมนูจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งส้มตำปูรสชาติจี๊ดจ๊าดของชาวไทยก็สามารถเอาชนะสูตรอาหารอันสลับซับซ้อนของชาวอเมริกันได้ หญิงนัยน์ตาพิการเชื้อสายเวียดนามคว้าแชมป์ US MasterChef ปีนี้ พร้อมเงินรางวัล 250,000 ดอลลาร์ ซึ่งเธอกล่าวว่ามันทำให้ช็อกหลายตลบเพราะไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง.        .         ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- คริสทีน ห่า (Christine Ha) สาวเวียดนาม-อเมริกัน กลายเป็นเจ้าของตำแหน่งยูเอสมาสเตอร์เชฟ หรือ "สุดยอดแม่ครัวแห่งสหรัฐ" พร้อมเงินรางวัล 250.000 ดอลลาร์ ในการแข่งขันรอบสุดท้ายในนครฮิวส์ตัน เทกซัส คืนวันจันทร์ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา อันเป็นชัยชนะที่เธอกล่าวว่าทำให้ช็อกอยู่ 2 วันเต็มๆ                ครั้งนี้เป็นการแข่งขันฤดูที่ 3 สาวนัยน์ตาพิการวัย 33 ปี ที่เคยทำแต่กับข้าวให้คนในครอบครัวได้รับประทาน สามารถเอาชนะจอช มาร์คส (Josh Marks) พ่อครัวอาชีพที่ทำอาหารให้กองทัพบกสหรัฐ ด้วยเมนูจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ล้วนๆ รวมทั้งส้มตำปู (Papaya Salad and Crab) เมนูยอดนิยมของชาวไทยด้วย                ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 คนในรอบไฟนัล คือ คริสทีนกับจอช จะต้องเสนออาหาร 3 อย่าง รวมทั้งของหวาน                คริสทีนซึ่งนัยน์ตาพิการเนื่องจากอาการภูมิคุ้มกันอัตโนมัติในตัวของเธอเอง อันเป็นโรคที่หาได้ยาก ได้เลือกส้มตำปูปรุงด้วยน้ำปลาเวียดนามรสชาติจี๊ดจ๊าดเป็นจานนำ ตามด้วยพุงหมูย่างราดซอสเห็ดไมตาเกะกับเข้าเกรียบกรอบและไอศกรีมกะทิมะนาวกับขิงอ่อน เมนูอาหารเวียดนามพื้นๆ                “ดิฉันตัดสินใจเลือกอาหารยอดนิยมจากบ้านที่คุณแม่ดิฉันชอบทำ” คริสทีนบอกกับกรรมการให้คะแนน เมื่อนำเสนอเมนูของเธอ                แต่เธอรู้สึกหดหู่จนหน้าถอดสี เมื่อกอร์ดอน แรมเซย์ (Gordon Ramsay) กรรมการที่ได้ชื่อหินที่สุดกล่าวว่า “อาหารมีพื้นเพจากเวียดนาม ... แต่เราไม่ได้อยู่ในเวียดนาม และไม่ได้อยู่ที่บ้าน”                “คุณกำลังอยู่ในรอบสุดท้ายของมาสเตอร์เชฟ” กรรมการซึ่งเป็นทั้งพิธีกรรายการและผู้ผลิตรายการกล่าวพร้อมยกหางตาขึ้นสูง และ คริสทีนเป็นกังวลหนักข้อเมื่อกรรมการคนนี้เริ่มหั่นชิ้นพุงหมูย่าง                “ฉันย่างหมูไม่สุกนัก มันอาจจะทำให้ฉันพลาดรางวัลได้” คริสทีมเอ่ยขึ้นมาแสดงความกังวล                อย่างไรก็ตามทุกอย่างกลับเป็นตรงข้าม เมื่อกรรมการกอร์ดอนชมพุงหมูย่างของเธอว่าอร่อยมาก กรอบนอก มันนุ่มเนียนข้างใน และ “ละลายไปในปาก”                                  ส่วนจอชสเปเชียลลิสต์ด้านอาหารวัย 24 ปี ได้โชว์ฝีมือจากประสบการณ์ในกองทัพบกด้วยกุ้งลอบสเตอร์ย่างกับมันเทศบดและซี่โครงแกะอบซอสเขียวหวาน ตบท้ายด้วยพายเบคอนกับไอศกรีมวานิลลาผสมอบเชย                เมนูยากๆ ของจอชได้รับคำชมจากกรรมการทั้ง 3 คน ทั้งในด้านความพยายามและทักษะของเขา แต่การย่างกุ้งลอบสเตอร์กึ่งสุกกึ่งดิบเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยได้บั่นทอนโอกาสสำหรับเขา                เมื่อชิมเสร็จวิจารณ์เสร็จ กรรมการได้ประชุมกันเป็นครั้งสุดท้ายและสรุปว่า “ตัวเลือกของเราคงไม่ได้เป็นอย่างอื่น คงเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง ชัดเจนอยู่แล้ว” ซึ่งหมายถึงเมนูจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้                กรรมการประกาศผลแจ้งให้ทราบว่าทั้งสองคน ต่างก็เป็นสุดยอดแห่งเชฟในฤดูกาลนี้ และ ต่างทำได้เกินความคาดหวัง แต่ตำแหน่งยูเอสมาสเตอร์เชฟนั้นมีเพียงหนึ่งเดียว และในที่สุดก็ประกาศชื่อคริสทีนเป็นเจ้า ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้องจากสามีกับญาติๆ และผู้ชมในห้องส่ง                “ปฏิกิริยาแรกเมื่อฉันได้รับชัยก็คือช็อก ฉันไม่เชื่อเลยจริงๆ ฉันช็อกตลอดอีก 48 ชั่วโมงต่อมา ฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อนว่า ฉันต้องการมัน (ตำแหน่ง) มากเพียงไรและหฤหรรษ์มากเพียงไร” คริสทีนให้สัมภาษณ์ TV Guide                ตามรายงานของสื่อออนไลน์ เมนูที่ชนะเลิศนี้จะถูกนำไปพิมพ์เผยแพร่ใน “กุ๊กบุ๊ค” Cook Book) หรือ “ตำราอาหาร” ของรายการยูเอสมาสเตอร์เชฟ นี้ด้วย.

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ

Create Date : 13 กันยายน 2555
Last Update : 13 กันยายน 2555 6:35:01 น.		0 comments
Counter : 2435 Pageviews.
Share Tweet