บ้านทรงไทยประยุกต์ ใจกลางเมือง ตั้งอยู่ในซอยซอย สุขุมวิท 23 ที่ถูกดัดแปลงมาเป็นร้านอาหารพื้นบ้าน ตามวิถีไทยแท้แต่โบราณ The Local by Oamthong Thai Cuisine คือจุดนัดพบสองสาวสวย แพนเค้ก และ น้ำหวาน ที่มาตรงตามเวลานัดเป๊ะ แพนเค้กอยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวยหวาน ส่วนน้ำหวานสดใสด้วยเดรสน้ำเงิน พร้อมกระโปรงฟูฟ่องสีขาว ดูน่ารัก
เมื่อมาถึงสองสาวไม่รอช้า ขอเดินสำรวจร้านอาหารไทยโบราณ จนพบกับห้อง อยู่คู่ไทย ที่บรรจุความทรงจำ ซึ่งไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา ภายในมีบรรยากาศคล้ายพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ทั้ง จาน ชาม ช้อน ปิ่นโต หม้อ ไห ของเก่าดั้งเดิม ที่เคยใช้ทำอาหารจริงๆ เรื่อยไปจนถึงตำราทำอาหารโบราณ อายุมากกว่า 120 ปี จำนวนกว่า 100 เล่ม ที่สำคัญข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้ ได้บอกเล่าความเป็นมาในอดีต เพื่อเรียนรู้ประเพณีวัฒนธรรมของคนรุ่นเก่า สู่คนรุ่นหลัง ไม่ให้ลืมเลือกรากเหง้าของความเป็นไทย
ที่นี่สวยมาก แพนไม่เคยมาเลย นี่เป็นครั้งแรก ไม่น่าเชื่อว่าจะมีร้านอาหาร ที่มีความเป็นไทยแท้ๆ อยู่ใจกลางเมืองแบบนี้ ได้มาเห็นและเรียนรู้ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมความเป็นไทย ที่ผสมผสานอยู่ในร้านอาหาร แพนคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ สาวแพนเค้กกล่าว ก่อนเดินตรงไปยัง ห้องชลมารค สถานที่รับประทานอาหาร
อันได้แรงบันดาลใจมาจากพระราชนิพนธ์ กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่ทรงนิพนธ์ขึ้นจากความงามแห่งสรรพรส อย่างละเมียดละไม ไม่เว้นแม้กระทั่ง ไม้พาย ทุกเล่ม ซึ่งถูกประดับตกแต่งตามฝาผนัง สื่อความหมายและประวัติความเป็นมา ผ่านสายน้ำตามวิถีไทย
ห้องนี้สวยมากเลย บรรยากาศน่านั่งมากๆ เสียงของสาวน้ำหวานดังขึ้นเมื่อเดินมาถึง ห้องทับเที่ยง ที่หนุ่มรุ่นใหม่หัวใจไทย แคน ธนพร มารควัฒน์ เจ้าของร้านอธิบายให้สองสาวฟังว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย ขณะเสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ เมื่อเสด็จถึงเมือง "ควนธานี" หรือบริเวณศาลหลักเมือง เป็นเวลาเที่ยงพอดี ชาวเมืองจึงเรียกบริเวณนี้ว่า ที่ทับเที่ยง จนเพี้ยนเสียงมาเป็น ทับเที่ยง ในที่สุด
นอกจากนั้นยังมีส่วนของ ห้องดำเนินสะดวก ที่บอกเล่าวิถีชีวิตชาวบ้านริมสองฝั่งคลอง เรียงรายไปด้วยไร่สวนผลไม้ ที่เกิดจากความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตร จนกลายเป็นตลาดน้ำชุมชนใหญ่ที่สุดในโลก ห้องรับประทานอาหารในสถานที่แห่งนี้ นอกจากจะได้เข้ามาลิ้มรสความอร่อย ยังบอกเล่าเรื่องราวสะท้อนความเป็นไทย ผ่านอาหารไทยพื้นบ้านท้องถิ่นจาก 4 ภาค
ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน ที่ปรุงขึ้นด้วยความประณีตและพิถีพิถัน จนสำเร็จเป็นอาหารเลิศรสหนึ่งอย่าง พอเดินดูแล้วรู้สึกว่า ของไทยโบราณมีความขลัง และน่าอนุรักษ์ ได้ดูสูตรการทำอาหาร เพราะปกติน้ำหวานเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้ว เดี๋ยวจะได้ลงมือทำอาหารไทยโชว์ด้วย ต้องมาดูกันว่าจะเป็นอย่างไร สาวน้ำหวาน กล่าว
เดินชมอาหารตาด้วยความเพลิดเพลินไปแล้ว สองสาวมุ่งตรงเข้าไปภายในห้องครัวขนาดย่อม ที่มีกลิ่นหอมของเครื่องแกงลอยคละคลุ้ง สองสาวแม่ครัวมือใหม่กำลังเตรียมพิสูจน์ฝีมือในการทำ แกงรัญจวนเนื้อ และ แกงคั่วปลาใบส้มแป้น ลองมาดูกันว่า ฝีมือการทำอาหารจะยอดเยี่ยมเหมือนฝีมือการแสดงหรือเปล่า
เรากำลังจะลงมือทำแกงที่น่าทานทั้งสองอย่างเลย ดูยากเหมือนกันนะ ปกติแพนไม่ค่อยได้ทำอาหาร จะถนัดกินอย่างเดียว ต้องลองดูว่าจะออกมาเป็นอย่างไร แพนเค้กกล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ
เริ่มต้นจากการโขลกพริกแกง ที่มีส่วนผสมของ พริก กระเทียม น้ำปลา และเครื่องปรุงอีกหลายอย่าง แพนเค้กกับน้ำหวานลงมือทำด้วยความ เก้ๆ กังๆ เล็กน้อย เพราะไม่ใช่แม่ครัวมืออาชีพ ดีที่มีแม่ครัวตัวจริง และเจ้าของร้านมาเป็นผู้ช่วย ทำให้แกงไทยพื้นบ้านทั้งสองอย่างเสร็จออกมาสวยงาม น่ารับประทาน
จากนั้นถึงขั้นตอนการชิม สองสาวดูจะภูมิใจในฝีมือการทำอาหารของตัวเองมาก น้ำหวานชอบรสชาติของ แกงคั่วปลาใบส้มแป้นมากกว่า เพราะมีความเปรี้ยว และรสชาติกลมกล่อม อร่อยมากๆ ก่อนที่แพนเค้กจะเสริมว่า แพนชอบทั้งสองอย่างเลย เพราะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน จะบอกว่า แพนไม่เคยทานทั้งสองอย่าง
พอได้ลองทานรู้สึกว่า รสชาติเข้มข้นมากๆ หอมเครื่องแกง ปกติแพนชอบทานอาหารรสจัดอยู่แล้ว สองเมนูนี้สุดยอดจริงๆ เสร็จสิ้นภารกิจของแม่ครัวมือใหม่ อิ่มอร่อยตามแบบฉบับความเป็นไทยจ้า
ขอบคุณ
คม ชัด ลึกออนไลน์
พักยกวันอาทิตย์
คุณเบญจภรณ์ อำไพรัตนพล
คุณวริศรา วุฒิกุล
อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ