|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช หรือ สมเด็จพระสรรเพชญที่ 1
สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช หรือ สมเด็จพระสรรเพชญที่ 1 ตำแหน่งเดิม ขุนพิเรนทรเทพ กรมพระตำรวจฝ่ายขวา ทรงสืบเชื้อสายข้างพระราชบิดามาจากราชวงศ์พระร่วงแห่งกรุงสุโขทัย ส่วนพระราชมารดานั้นกล่าวกันว่าเป็นราชนิกูลในราชวงศ์สุพรรณภูมิแห่งกรุงศรีอยุธยา
พระราชประวัติ เมื่อครั้งขุนวรวงศาธิราชและท้าวศรีสุดาจันทร์ ซึ่งตามพงศาวดารฉบับหนึ่งกล่าวไว้ว่า ได้สมคบกันก่อการทรยศโดยลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระไชยราชาธิราชและ พระยอดฟ้าโอรสของตนเอง ซึ่งในช่วงนั้นพระสุริโยทัย เกรงว่าท้าวศรีสุดาจันทร์จะลอบปลงพระชนม์พระสวามีของตนจึงให้อุปสมบทเป็นพระ
ต่อจากนั้นขุนวรวงศาธิราชได้ตั้งตนเป็นกษัตริย์ เมื่อความแจ้งไปถึงขุนพิเรนทรเทพ ซึ่งขณะนั้นรั้งตำแหน่งเจ้าเมืองพิษณุโลก พระองค์จึงเสด็จลงมาจากเมืองพิษณุโลก เพื่อชิงพระราชบัลลังก์คืนจากขุนวรวงศาธิราช ถวายราชสมบัติแด่ พระเฑียรราชา ผู้เป็นพระอนุชาของสมเด็จพระไชยราชาธิราช
หลังจากพระเฑียรราชาขึ้นครองราชย์ ทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระองค์ได้ทรงสถาปนาขุนพิเรนทรเทพ ซึ่งเป็นราชนิกูลข้างพระราชมารดาแต่เดิมขึ้นเป็นเจ้า ทรงนามว่า สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ให้ไปประทับอยู่ที่เมืองพิษณุโลก รั้งตำแหน่งเจ้าราชธานีฝ่ายเหนือ มีอำนาจสิทธิ์ขาดในหัวเมืองเหนือทั้งหมด
และพระราชทาน พระวิสุทธิกษัตรีย์ (พระราชธิดาในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิและสมเด็จพระศรีสุริโยทัย) เป็นอัครมเหสี ต่อมามีพระราชโอรสและพระราชธิดาสามพระองค์คือ พระสุพรรณเทวี หรือพระสุพรรณกัลยา ซึ่งต่อมาสมเด็จพระมหาธรรมราชา ได้ถวายเป็นพระมเหสีของพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง เมื่อปี พ.ศ. 2112 เมื่อพระชนมพรรษาได้ 17 พรรษา เพื่อขอสมเด็จพระนเรศวรมาช่วยงานของพระองค์
องค์ที่สองคือ พระองค์ดำ หรือสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จพระราชสมภพ เมื่อปี พ.ศ. 2078 พระเจ้าบุเรงนองได้ขอไปอยู่ที่กรุงหงสาวดี ตั้งแต่พระชนมายุได้ 9 พรรษา
เมื่อพระชนมายุได้ 15 พรรษา สมเด็จพระมหาธรรมราชา ได้ขอตัวมาช่วยงานของพระองค์ และทรงตั้งให้เป็นพระมหาอุปราช ไปครองเมืองพิษณุโลก ดูแลหัวเมืองเหนือทั้งปวง องค์ที่สามคือ พระองค์ขาว หรือสมเด็จพระเอกาทศรถ ประสูติเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2100
จากนั้นพม่ากรุงหงสาวดีเห็นว่าเป็นช่วงผลัดแผ่นดินจึงบุกโจมตีกรุงศรีอยุธยาเมื่อพระมหาจักรพรรดิทรงทราบ จึงทรงนำทัพออกต้านศึก และในขณะที่พระมหาจักรพรรดิทรงกระทำยุทธหัตถีกับ พระเจ้าแปรอยู่ ช้างพระที่นั่งของพระมหาจักรพรรดิก็เสียที ทำให้พระเจ้าแปรไล่ชน แต่สมเด็จพระสุริโยทัยได้นำช้างมาขวาง ทำให้พระศรีสุริโยทัยเสด็จสวรรคต
หลังจากนั้นกรุงศรีอยุธยาก็ส่งเรือรบไปยิงค่ายพม่า ทำให้พม่าต้องถอยทัพกลับหงสาวดี เมื่อกลับถึงเมืองพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้กลับยึดติดกับการตีกรุงศรีอยุธยาไม่ได้ จึงทรงติดสุราอย่างหนักจนออกว่าราชการไม่ได้ต้องให้บุเรงนองผู้เป็นพระญาติเป็นผู้สำเร็จราชการแทน
จากนั้นพวกมอญก็ได้ลวงพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ไปลอบปลงพระชนม์ แล้วยึดหงสาวดีไปได้ ต่อมาพระเจ้าบุเรงนองได้นำกำลังเข้ายึดหงสาวดีกลับคืนมา และก็นำกองทัพเข้ากรุงศรีอยุธยาหมายจะตีอยุธยา เรียกว่าสงครามช้างเผือก ตอนแรกทรงส่งสาส์นมาขอช้างเผือก
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิได้ส่งพระราชสาส์นตอบกลับไปว่า "ถ้าประสงค์จะได้ช้างเผือก ก็ให้เสด็จมาเอาโดยพระองค์เองเถิด" ทำให้พระเจ้าบุเรงนองถือเอาสารนี้เป็นเหตุยกทัพเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา
โดยจัดกำลังประมาณ 500,000 คนพร้อมด้วยช้าง ม้า และอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก โดยยกเข้ามาทางเมืองตาก ด้วยกำลังมากกว่า ทำให้ทัพหงสาวดีสามารถยึดหัวเมืองเหนือไว้ได้เกือบทั้งหมดจนมาถึงเมืองพิษณุโลก
เรื่องที่น่าสังเกตในรัชกาลนี้
เป็นกษัตริย์ไทย พระองค์เดียวที่พม่าเป็นผู้ปราบดาภิเษกให้ครองกรุงศรีอยุธยา เป็นกษัตริย์ไทย พระองค์เดียวที่ครองพิษณุโลก แล้วยอมอ่อนน้อมต่อพม่า เป็นกษัตริย์ไทย พระองค์เดียวที่พม่าตั้งให้ถึง 4 พระนาม เป็นกษัตริย์ไทย พระองค์เดียวที่ครองราชย์ขึ้นต่อพม่านานถึง 15 ปี เป็นกษัตริย์ไทย พระองค์เดียวที่ประทานธิดาให้กษัตริย์พม่าโดยไมตรี นับว่าทรงมีความเป็น กษัตริย์ไทย พระองค์เดียว อย่างน้อย 5 อย่าง
เรื่องราวในรัชกาลสมเด็จพระมหาธรรมราชานี้ เกี่ยวพันใกล้ชิดกับ สมเด็จพระนเรศวรพระราชโอรส ดังนั้นจะกล่าวกันไปในตอนต้นแห่งพระราชประวัติพระนเรศวร
ยอมอ่อนน้อมต่อหงสาวดี
สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชได้ทำการป้องกันเมืองอย่างดี พระเจ้าบุเรงนองจึงขอเจรจา พระมหาธรรมราชาธิราชจึงส่งพระสงฆ์จำนวน 4 รูป แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ อีกทั้งในเมืองยังขาดเสบียง และเกิดโรคระบาด
ทำให้สมเด็จพระมหาธรรมราชา เปิดทางให้พระเจ้าบุเรงนองด้วยเกรงว่าหากขืนสู้ รบต่อไปด้วยกำลังคนที่น้อยกว่าอาจทำให้เมืองเมืองพิษณุโลกถูกทำลายลง เหมือนกับหัวเมืองเหนืออื่นๆ ก็เป็นได้
พระเจ้าบุเรงนองจึงได้แต่งตั้งให้สมเด็จพระธรรมราชา เป็นพระศรีสรรเพชญ์ ครองเมืองพิษณุโลกดังเดิม แต่อยู่ในฐานะเป็นหัวเมืองประเทศราชของหงสาวดี กับขอสมเด็จพระนเรศวรไปองค์ประกันอยู่ที่หงสาวดี
ในปี พ.ศ. 2112 พระเจ้าบุเรงนองได้ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง โดยได้เกณฑ์หัวเมืองทางเหนือ รวมทั้งเมืองพิษณุโลกมาร่วมสงครามด้วย โดยพระเจ้าบุเรงนองให้พระมหาธรรมราชาเป็นกองหลังดูแลคลังเสบียง จนกระทั่งกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อเดือนเก้า พ.ศ. 2112
พระเจ้าบุเรงนองประทับอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งในวันศุกร์ขึ้นหกค่ำ เดือนสิบสอง ปีมะเส็ง พ.ศ. 2112 ได้อภิเษกให้สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ขึ้นเป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา ในฐานะประเทศราช ทรงพระนามว่า สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 1 บางแห่งเรียก พระสุธรรมราชา เป็นต้น
พระราชกรณียกิจ
สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ครองกรุงศรีอยุธยาในฐานะประเทศราชของพม่าอยู่ถึง 15 ปี จนถึง พ.ศ. 2127 สมเด็จพระนเรศวร องค์รัชทายาทก็ได้ทรงประกาศอิสรภาพ ในห้วงระยะเวลา 10 ปี แรกในรัชสมัยของพระองค์ เขมรได้ส่งกำลังมาโจมตีหัวเมืองทางตะวันออก และรุกเข้ามาถึงชานพระนคร
แต่ฝ่ายไทยก็สามารถต่อสู้ขับไล่เขมรกลับไปได้ พระองค์ทรงเห็นเป็นโอกาสในการป้องกันพระนคร จึงได้บูรณะซ่อมแซมกำแพงและป้อมต่าง ๆ รอบพระนครให้แข็งแรงขึ้น
กล่าวคือ ในปี พ.ศ. 2123 ได้โปรดเกล้า ฯ ให้ขุดคูพระนครทางด้านทิศตะวันออก หรือคูขี่อหน้า ซึ่งแต่เดิมแคบข้าศึกสามารถเข้ามาสู่พระนครได้สะดวกกว่าด้านอื่น
โปรดเกล้า ฯ ให้รื้อกำแพงพระนครด้านทิศตะวันออก แล้วสร้างให้ไปจรดริมฝั่งแม่น้ำเช่นเดียวกับด้านอื่น ๆ ทรงสร้างป้อมมหาชัย ตรงบริเวณที่แม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำป่าสักไหลมาบรรจบกัน
และสร้างพระราชวังจันทร์เกษม (วังหน้า) สำหรับใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวร ไว้คอยสกัดกั้นทัพข้าศึกที่เข้าโจมตีพระนครทางด้านทิศตะวันออก
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สิริสวัสดิ์ภุมวาร สิริมานรมณีย์ค่ะ
Create Date : 20 กันยายน 2553 |
Last Update : 21 กันยายน 2553 15:09:55 น. |
|
0 comments
|
Counter : 6439 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
/
2558
2556
2555
น้ำใจจากคุณ krittut 2554
2553
สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ
ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ
เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ
๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์
ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ
เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552
08.27 - 250811
207 flags collected 300316
|
|
|
|
|
|
|
|