นุเทพ สารภิรมย์

เผลอแวบเดียวนักกีฬาทีมชาติไทยที่ลงชิงชัยในภูมิภาคย่อย "ซีเกมส์" เมื่อปี ที่แล้ว จะต้องไปสู้ศึกในภูมิภาคที่ใหญ่ขึ้น "เอเชี่ยนเกมส์" ในวันที่ 19 ก.ย.- 4 ต.ค. 2557 นี้ที่อินชอน เกาหลีใต้

เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์อย่างทีมฟุตบอลกำลังจะเผชิญความท้าทายครั้งใหม่ หลังผ่านพ้นช่วงเวลาแก้ปัญหาและสร้างทีม เบื้องหลังเหล่านี้แฟนๆ อาจรู้ไม่มากนัก แต่เปิดเผยอยู่ในหนังสือเล่มใหม่ ผลงานของ "บิ๊กน็อต"ภาคภูมิ ธีระภัทรานนท์ ผู้ช่วย ผู้จัดการทีมชุดแชมป์ซีเกมส์ วัย 33 ปี

"บิ๊กน็อต" ผู้ได้รับการทาบทามจาก บิ๊กโต้ง-กิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้จัดการทีม เข้ามาช่วยงานคุมทีมชาติไทยลุยถิ่นเมียนมาร์ ถ่ายทอดความเพียรพยายามของทีมงานสต๊าฟโค้ช นักเตะ จนสำเร็จบรรลุวัตถุ ประสงค์ นำเหรียญทองและความภาคภูมิใจกลับถิ่นมาตุภูมิอีกครั้งหนึ่ง ในหนังสือ Behind THE GOAL

ในงานเปิดตัวหนังสือเล่มนี้ที่ร้านหนังสือ B2S เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 บิ๊กน็อตมาเผยเรื่องราวการทำหนังสือเล่มนี้ว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณ "บิ๊กโต้ง"กิตติรัตน์ที่ดึงตนเองเข้ามาร่วมทีมฟุตบอลไทย จึงทำให้มีส่วนร่วมกับความสำเร็จในภารกิจพาทีม บอลไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ที่พม่า ทวงคืนเจ้าลูกหนังกลับมาอยู่ในใจของคนไทยอีกครั้ง

การจัดงานในวันนั้นยังมีมวลมิตรคนวงการลูกหนังไทยมาร่วมให้กำลังใจ เช่น "โค้ชซิโก้"เกียรติศักดิ์ ผู้นำทัพนักเตะไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ ดาเรน บัคลีย์ ผู้จัดการใหญ่ธนาคารซิตี้แบงก์ ประจำประเทศไทย พร้อมด้วยผู้ช่วยโค้ชและนักเตะมากมายหลายคน

บิ๊กน็อตกล่าวว่า หน้าที่หลักๆ ของตนเองคือการประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทีมสต๊าฟโค้ช และทัพนักเตะไทย ทั้งเรื่องภายนอกสนามและเรื่องในสนาม เพราะเมื่อทุกด้านได้รับความสะดวกสบาย

การเริ่มต้นฝึกซ้อมโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ มารบกวน จะทำให้นักเตะมีสมาธิกับการทำภารกิจรับใช้ชาติได้อย่างเต็มที่ ทุกขั้นตอนการทำผ่าน การเรียนรู้อย่างเป็นระบบ รวมถึงอุปสรรคมากมายถูกขจัดจนกลับเข้าสู่ในทิศทางที่ดี

เหนือสิ่งอื่นใดคือการได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทีมงานทุกด้านทุกคน ดังนั้นภารกิจนับตั้งแต่เริ่มประชุมนัดแรกวันที่ 7 ม.ค.2556 ผ่านเรื่องราวมากมาย มีทั้งทุกข์ สุข จนถึงความสำเร็จสมหวังในวันที่ 21 ธ.ค.2556 ข้อมูลทั้งหมดจัดเก็บและสรุปเป็นสาระผ่านตัวหนังสือ

จากการจดจำอย่างแม่นยำ รวมถึงการบอกเล่าจากประสบการณ์จริงจากเพื่อนร่วมงานและภาพถ่ายอ เพื่อให้แฟนกีฬา ชาวไทย แฟนบอลไทย และเยาวชนไทย ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดว่า นักเตะไทย ทีมสต๊าฟโค้ชไทย ได้ทำอะไรไปบ้าง ทำงานหนักขนาดไหน ไล่ตั้งแต่ฟอร์มทีมจนทีมประสบชัยชนะ

"สิ่งที่มุ่งหวังจากหนังสือเล่มนี้มากกว่ายอดจำหน่ายคือ การสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กไทยที่สนใจฟุตบอล และต้องการสานฝันตัวเองจนขึ้นมาติดทีมชาติ รวมทั้งการแฝงการปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบและ วินัย

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อเด็กไทยได้อ่าน Behind THE GOAL แล้วนำไปศึกษาและ เรียนรู้ กระทั่งฉุดความคิดต่อยอดตัวเอง จนประสบความสำเร็จ ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติ โดยมีหนังสือเล่นนี้เป็นแรงบันดาลใจ เพียงแค่นี้ผมก็สุขใจ" บิ๊กน็อตกล่าว

ด้านโค้ชซิโก้กล่าวว่า หากได้อ่านหนังสือ "Behind THE GOAL จะรู้ทันทีว่า พวกเราทุ่มเทกันมากขนาดไทย ถ้าบุคลากรในวงการลูกหนังไทยระดับสโมสร และโค้ชระดับโรงเรียน ได้อ่านและนำไปต่อยอดศึกษา ถ่ายทอดให้กับเยาวชน

เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้ จะช่วยนำทางและทำให้มีกำลังใจในการทำทีมบอลต่อไป รวมทั้งหากเด็กเยาวชน นักบอลได้อ่านก็น่าจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้มุ่งมั่นพัฒนาฝีเท้าตัวเอง เพื่อก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จบนเส้นทางลูกหนัง

เมื่อถามถึงการสู้ศึกครั้งต่อไปของทีมขุนพลช้างศึกในเอเชี่ยนเกมส์ โค้ชซิโก้กล่าวว่า เป้าหมายครั้งนี้คือ 4 ทีมสุดท้ายให้ได้ ถ้ามีเหรียญติดมือถือว่าเป็นโบนัส ที่วางเป้าไว้สูงเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักเตะทำผลงาน สร้างความมุ่งมั่นและความฮึกเหิม

เกมอุ่นเครื่องครั้งต่อไปคือวันที่ 7 ก.ย. เตะกับประเทศ กาตาร์ จากนั้นวันที่ 10 ก.ย. จะเดินทางสู่อินชอน ถึงตอนนั้นเชื่อว่า ทีมคงพร้อมที่สุด

"ศึกเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้เป็นงานยาก ทุกทีมแข็งแกร่ง ส่วนผมและลูกทีม ทุกคน จะทำผลงานให้ดีที่สุด ดังนั้นขอร้องแฟนบอล แฟนกีฬาชาวไทย ทุกคน กีฬาต้องมีแพ้มีชนะ ทุกคน เข้ามาทำหน้าที่เพื่อชาติ เชื่อว่าทุกคนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทีมชาติเป็นสมบัติของคนไทยทุกคน"

หน้า 5

ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์

คุณนุเทพ สารภิรมย์

อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ   

Create Date : 31 สิงหาคม 2557
Last Update : 31 สิงหาคม 2557 8:57:37 น.		0 comments
Counter : 1008 Pageviews.
Share Tweet