แต่เดิมพื้นที่ดอยตุงยังเป็นสภาพป่าหัวโล้น เมื่อปี 2530 สมเด็จย่าได้เสด็จพระราชดำเนินไปเยือนดอยตุงเป็นครั้งแรก ทรงทอดพระเนตรเห็นชาวเขาตัดไม้ทำลายป่า ทำไร่เลื่อนลอย และปลูกฝิ่นเพื่อยังชีพ มีการค้าอาวุธสงคราม กองกำลังชนกลุ่มน้อยตามชายแดน จากความเชื่อของสมเด็จย่าที่ว่า ไม่มีใครเกิดมาเป็นคนไม่ดี แต่ที่เขาไม่ดีเพราะขาดโอกาสและทางเลือก จึงกลายมาเป็นพระราชปณิธานที่จะพัฒนาพื้นที่ดอยตุงให้มีความสมบูรณ์ดังเดิม พร้อมกันไปกับการดำเนินการพัฒนายกระดับความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น ในชื่อโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริเมื่อปี 2531 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 93,515 ไร่ ให้ประโยชน์แก่ชาวบ้าน 29 หมู่บ้าน ประมาณ 11,000 คน
กว่า 24 ปี ที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงเข้ามารับหน้าที่บริหารจัดการโครงการ เริ่มตั้งแต่แก้ปัญหาด้านสาธารณสุขให้ชาวบ้านได้มีน้ำดื่มน้ำใช้ที่สะอาด มีถนนหนทาง มีไฟฟ้า และมีโรงเรียนในชุมชนสำหรับลูกหลานชาวเขา พอถึงช่วงปี 2537 ทางมูลนิธิเริ่มส่งเสริมการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยการหาวิธีเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ จากพระราชปรัชญาในการทรงงานของสมเด็จย่า เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งเสริมให้คนอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างมีสำนึกและพึ่งพาอาศัยกัน จึงเป็นโจทย์ที่เจ้าหน้าที่ต้องมาสานต่อว่า ทำอย่างไรคนกับป่าถึงจะพึ่งพาอาศัยกันได้อย่างยั่งยืน
|