คิดถึงครู - จักรพันธุ์ โปษยกฤต
จักรพันธุ์ โปษยกฤต (ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๓) ชื่อนี้ น้อยนักที่จะไม่มีใครรู้จัก เพราะผลงานศิลปะที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ของท่านได้ปรากฏออกสู่สายตาสาธารณชนมากมายนับไม่ถ้วน
ทั้งงานจิตรกรรม งานทัศนศิลป์ งานหุ่นไทย และงานวิจิตรศิลป์อื่นๆ แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้มีความสามารถและความรู้ทางด้านศิลปะที่ได้รับการถ่ายทอดและสืบทอดความรู้จากครูบาอาจารย์หลายๆ ท่าน
ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่งดงามเรียบง่ายของหนังสือ "คิดถึงครู" และรูปลักษณ์ภายในของการจัดวางภาพประกอบที่สวยงามลงตัวและการบรรยายเนื้อเรื่อง จากตัวอักษรโลดแล่นผ่านงานเขียนที่สร้างจินตนาการให้กับผู้อ่านอย่างน่าอัศจรรย์
เหล่านี้คือ "ศิลปะการออกแบบหนังสือ" และ "ศิลปะการเล่าเรื่อง" ที่อาจารย์จักรพันธุ์ได้นำเสนอเป็นงานศิลป์อันวิจิตรโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของท่านอีกชิ้นหนึ่ง
หน้าปกหนังสือพื้นสีขาวสะอาด มีรูปวาดสีน้ำมันภาพดอกสีบัวชมพู จัดอยู่บนอ่างสีน้ำเงินเข้มลายมังกรว่างบนผืนผ้าเหลืองอมส้ม ข้างใต้ภาพเป็นตัวอักษรลายมือสองบรรทัด บรรทัดแรกมีตัวอักษรสีชมพูเขียนว่า "คิดถึงครู" นั้นคือชื่อหนังสือ และบรรทัดล่างตัวอักษรสีเทาเป็นชื่อผู้เขียนคือ "จักรพันธุ์ โปษยกฤต"
คิดถึงครูเป็นหนังสือที่เกิดจากความสัมพันธ์และความผูกพันระหว่างครูท่านต่างๆ กับอาจารย์จักรพันธุ์ เป็นหนังสือที่น่าอ่านและชวนติดตามจนวางหนังสือไม่ลง เมื่อได้หยิบและพลิกหน้าหนังสือเปิดออกอ่าน
เสน่ห์ของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่การเล่าเรื่องต่างๆ ด้วยถ้อยคำและภาษาที่เข้าใจง่ายเป็นเอกลักษณ์ เรื่องราวต่างๆ ถูกเล่าผ่านหัวข้อที่อาจารย์จักรพันธุ์ตั้งขึ้น ซึ่งแบ่งเป็นตอนๆ เพื่อสื่อความหมายถึงคุณครูท่านนั้นๆ และมีหลายตอนที่กล่าวถึงครูดนตรีไทย ครูนาฏศิลป์ และครูหุ่นไทย
"คิดไปใจหายไม่วายโศก" "เหมือนเดือนดับลับโลก ไม่แลเห็น" ?"ม่หวนคืนกลับหลัง ดังเคยเป็น" ๓ ตอนที่อาจารย์จักรพันธุ์เล่าถึงความหลังเกี่ยวกับนักระนาดผู้ยิ่งใหญ่ "ครูบุญยงค์ เกตุคง" ถึงบรรยากาศ และความรู้สึกตลอดช่วงระยะเวลาที่อาจารย์ได้ร่วมงานกับคุณครูบุญยงค์ เมื่อครั้งเล่นหุ่นกระบอกครั้งแรก เรื่องพระอภัยมณี ตอนหนีนางผีเสื้อสมุทร พ.ศ. ๒๕๑๘
จวบจนถึงการบรรจุเพลงหุ่นกระบอก เรื่องตะเลงพ่าย และเล่าที่มาที่ไปถึงการบรรจุเพลงต่างๆ ในเรื่องตะเลงพ่ายด้วย เช่น เพลงตระพญาม่าน ๔ ไม้ ที่ใช้ตอนพระมหาอุปราชออกตรวจพล นอกจากคุณครูบุญยงค์แล้ว อาจารย์ยังเล่าถึงคุณครูท่านต่างๆ อีก
คือ คุณครูจำเนียร ศรีไทยพันธุ์ คุณครูบุญยัง เกตุคง คุณครูอร่าม อินทรนัฏ คุณครูวงษ์ รวมสุข ครูผู้มากความสามารถในเชิงการเชิดหุ่นกระบอกและมีทีเด็ดท่าไม้ตายอยู่ที่การเชิดตัวหนุมานให้ตีลังกาหกคะเมนได้ ในตอนหนุมานจับนางเบญจกาย
"หากวิชาความรู้ที่ร่ำเรียนสืบทอดมาทั้งชีวิต เป็นมรดกที่ครูบาอาจารย์ให้จำเพาะเจาะจง ใช้ว่าจะมีจะได้ทุกคนไป ถึงอยากได้ก็ไม่ได้ ถึงอยากมีก็ไม่มี เพราะเจ้าของท่านไม่ให้ การมอบมรดกอันหาค่าไม่ได้นี้ ท่านเรียกว่าประสิทธิ เป็นการให้ด้วยใจ จากจิตถึงจิต ไม่ได้เลื่อยลอย ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของครูบาอาจารย์ และวาสนาของศิษย์เท่านั้น"
ประโยคขึ้นต้นอันแสนลึกซึ้งที่อาจารย์จักรพันธุ์เขียนเล่าเรื่องในตอน "สิบนิ้วลูกจะยกขึ้นประนม ๔" ในตอนนี้เล่าบรรยายถึงคุณครูอีกท่านหนึ่งที่มีความสำคัญในการวางรากฐานเรื่องหุ่นกระบอกให้แก่อาจารย์จักรพันธุ์ คือ "คุณครูชื้น สกุลแก้วฎ ซึ่งมีเรื่องสนุกๆ เกิดจากประสบการณ์ต่างๆ ทั้งที่คุณครูชื้นเล่าเรื่องเก่าให้แก่อาจารย์ฟัง และเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวอาจารย์เอง
อย่างเรื่องพ่อครูฤๅษีที่บูชาอยู่บนหิ้งสูงกลางบ้านของคุณครูชื้น ท่านเล่าว่า "หัวพ่อแก่เป็นฝีมือคุณมณี ใช้ดินจอมปลวกปั้น แล้วปิดกระดาษ พ่อ (ครูเปียก ประเสริฐกุล) ต้องไปขอให้หลวงปู่รอด วัดนายโรง ที่เป็นอาจารย์ของพ่อเบิกพระเนตรให้หัวหุ่นพ่อแก่นี่ หลวงปู่ดำน้ำลงไปเบิกพระเนตรให้ใต้น้ำเชียวนะ พ่อครูถึงได้ศักดิ์สิทธิ์เหลือเกิน"
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับของตัวหุ่นกระบอกสินสมุทร ตัวดั้งเดิมที่เก็บรักษามาตั้งแต่ครั้งคณะหุ่นนายเปียก ประเสริฐกุล ซึ่งคุณครูชื้นหวงนักหวงหนา และยังมีเรื่องราวอีกหลายตอนที่ชวนสนุกและน่าจดจำ เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่อาจารย์จักรพันธุ์ท่านได้เขียนสอดแทรกไว้อย่างถี่ถ้วนจริงๆ
รูปภาพจาก : //www.chakrabhand.org/
ThaiLifeMusic
ขอบคุณ ThaiLifeMusic สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 02 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 2 มิถุนายน 2557 11:07:22 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2299 Pageviews. |
|
|