เหยาคารวะมนุษย์ที่แท้แห่งกู่เซ่อซัน หลงลืมอาณาจักร
ภาพโดย จูตา (朱耷-ค.ศ.1676-1705) หรือ ปาต้าซันเหริน(八大山人) จิตกรยุคสมัยราชวงศ์ชิง
เจียนอู๋ บอกเล่าแก่เหลียนสู ว่า ข้าได้ฟังเรื่องราวจากเจียอี๋ว์ ฟังดูเพ้อเจ้อไร้แก่นสาร ยิ่งเล่าก็ยิ่งฟุ้งฝัน ข้าถึงแก่ตะลึงงัน ไม่สิ้นสุดดังทางช้างเผือกอันไร้ขอบเขต ยิ่งห่างไกลจากเรื่องทางโลก เขากล่าวถึงสิ่งใดหรือ? เหลียนสูถาม เขากล่าวว่า มีคนศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่ ณ ขุนเขากู่เซ่ออันไกลโพ้น ผิวกายขาวใสราวหิมะ อ่อนโยน เอียงอายราวดรุณีแรกรุ่น* คนผู้นี้ไม่กินธัญญาหารทั้งห้า สูดเพียงอากาศบริสุทธิ์ ดื่มเพียงน้ำค้างใสกลางหาว ป่ายปีนเคลียเคล้าหมู่เมฆหมอก ควบขี่มังกรท่องไปยังทะเลใหญ่ทั้งสี่
เพียงเพ่งกระแสจิต ก็สามารถคุ้มครองสรรพสัตว์ จากโรคร้ายภยันตรายนานา บันดาลความอุดมสมบูรณ์สู่ใต้หล้า ข้าคิดว่านี่เป็นเรื่องเหลวไหล แลไม่อาจเชื่อถือได้ ท่านพึงเชื่อถือ! เหลียนสูกล่าว คนตาบอดไม่อาจชื่นชมลวดลายอันงดงาม และคนหูหนวกไม่อาจสดับยินเสียงระฆังเสียงกลอง ความบอดมืดและหนวกใบ้ ไม่จำกัดอยู่เพียงรูปกายเท่านั้น แม้ปัญญาก็ยังอาจมีความมืดบอดเช่นกัน
ดังคำพูดที่ท่านกล่าวออกมา คนศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ ด้วยคุณธรรมของเขาอาจหลอมรวมสรรพสิ่งเข้าเป็นหนึ่งเดียว แม้นยุคสมัยมืดมนไยเขาจะต้องเดือดร้อนวุ่นวายกับเรื่องราวทางโลกด้วยเล่า?
ไม่มีภยันตรายใดอาจกล้ำกรายเขาได้ แม้นน้ำท่วมสูงเทียมฟ้า ก็ไม่อาจจมวารีวายชนม์ แม้ความร้อนหลอมละลายโลหะและศิลา กระทั่งให้แผ่นดินเนินเขาเป็นรอยแยกแตกระแหง เขาก็ไม่อาจมอดไหม้
แม้เพียงเศษธุลีคราบไคลของเขา ก็อาจปั้นกษัตริย์ราชาผู้ยิ่งใหญ่เยี่ยงเหยาหรือซุ่น ไฉนเขาจึงต้องใส่ใจกับเรื่องราวทางโลกด้วยเล่า ชาวซ่งเร่ขายหมวกสำหรับสวมในงานพิธี ไกลถึงแคว้นเย่ว์ ทว่าชาวเย่ว์ล้วนยึดถือขนบประเพณีตัดผมสั้น สักลวดลายตามร่างกาย ล้วนไม่ต้องการเครื่องแต่งศีรษะใด
เหยาได้สร้างระเบียบนำความสงบแก่ประชาชน ทรงอำนาจยิ่งใหญ่ปกครองใต้หล้าแดนดินจรดมหาสมุทร เมื่อได้ไปคารวะมนุษย์ที่แท้ทั้งสี่ผู้บรรลุเต๋า ณ ขุนเขากู่เซ่อ ขณะนิวัติกลับสู่พระราชวัง ก็หลงลืมอาณาจักรของตนสิ้น* แปลเรียบเรียงตัดตอนจากหนังสือจวงจื่อ(庄子) บทที่หนึ่ง อิสรจร (逍遥游)
ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์
สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ
Create Date : 12 มิถุนายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 12 มิถุนายน 2555 13:53:21 น. |
Counter : 2330 Pageviews. |
|
|
|