ย้อนหลังไปเมื่อปี พ.ศ.2551 กองบรรณาธิการข่าวสด ผู้บุกเบิกและนำเสนอข่าวสารด้านธรรมะและพระเครื่องในหนังสือพิมพ์รายวันมาอย่างยาวนาน จัดพิมพ์หนังสือ "ไหว้พระประธาน 76 จังหวัด"

จากแนวคิดเริ่มต้นที่เห็นว่า คนไทยที่เป็นชาวพุทธนิยมการเข้าวัด ฟังเทศน์ ฟังธรรม และไหว้พระเสริมมงคลให้ชีวิต

ในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศไทย จะมีวัดเก่าแก่ชื่อดังมากมาย ในแต่ละวัดมีพระประธาน ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญของวัดนั้น มีความสวยงามด้วยพุทธศิลป์ และมักจะมีตำนานความเชื่อและความเป็นมาที่น่าสนใจ และส่วนมากเป็น "พระคู่บ้านคู่เมือง"

หนังสือไหว้พระประธาน 76 จังหวัด จึงพยายามรวบรวมพระพุทธรูปประธานและพระพุทธรูปสำคัญ อันเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศมารวมไว้ในเล่มเดียวกัน และได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากท่าน ผู้อ่าน

ด้วยข้อมูลเนื้อหาที่น่าสนใจ ยังมีอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ในปีถัดมา พ.ศ.2552 กองบรรณาธิการข่าวสดจัดทำหนังสือ "เดินสายไหว้พระพุทธทั่วไทย" รวบรวมพระประธานและพระพุทธรูปสำคัญอันเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธ ซึ่งมิได้บรรจุอยู่ในเล่มไหว้พระประธาน 76 จังหวัด ขึ้นมาอีกเล่มหนึ่ง

ปรากฏว่ายังคงได้รับการตอบรับจากผู้อ่านอยู่เช่นเดิม จึงไม่เป็นเพียงหนังสือยอดนิยม ตีพิมพ์หลายครั้ง แต่ยังผลิตเป็นสารคดีสั้นทางโทรทัศน์ในเวลาต่อมาอีกด้วย

รายการดังกล่าวคือรายการสารคดี "พระคู่บ้านคู่เมือง" ความยาว 2 นาที ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 เป็นสารคดีสั้นที่มีความงดงามอลังการ จัดทำโดย บริษัท ป่าใหญ่ ครีเอชั่น จำกัด

ทีมงานนำข้อมูลส่วนหนึ่งจากหนังสือไหว้พระประธาน 76 จังหวัดไปศึกษาถ่ายทำและถ่ายทอดในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว พร้อมบทสัมภาษณ์ ของผู้เชี่ยวชาญทั้งฝ่ายสงฆ์และฝ่ายฆราวาส สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ชมเป็นอย่างมาก

จากความสำเร็จทั้งผ่านทางหน้ากระดาษ และทางสารคดีโทรทัศน์ กองบรรณาธิการข่าวสด จึงเห็นควรนำหนังสือไหว้พระประธาน 76 จังหวัดดังกล่าว มาปรับปรุงเนื้อหาสาระใหม่ให้ทันสมัยขึ้น และให้ได้ข้อมูลเรื่องราวครบครอบคลุมถึง "จังหวัดบึงกาฬ" อันเป็นจังหวัดที่ 77 ซึ่งเกิดขึ้นในภายหลังอีกด้วย

เป็นที่มาของหนังสือ "ไหว้พระประธาน 77 จังหวัด" ผลงานเล่มล่าสุด กองบรรณาธิการข่าวสด

เนื้อหาในเล่มได้รวบรวมพระประธานและพระพุทธรูปสำคัญจากวัดต่างๆ 4 ภาค ทั่วประเทศไทย อันเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนและเป็นมรดกมงคลของบรรพชนที่สร้างขึ้นด้วยความศรัทธาอย่าง ลึกซึ้งในพระพุทธศาสนามานับร้อยนับพันปี

สาระสำคัญที่นำเสนอ คือ ประวัติที่มา ความโดดเด่นของพระพุทธรูป เกร็ดประวัติหรือความเชื่อของประชาชนในท้องถิ่น วิธีการสักการบูชาของชาวบ้านในชุมชนที่รายรอบวัดที่พระพุทธรูปประดิษฐาน

ทั้งในกรุงเทพมหานคร ภาคกลาง-ตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ พร้อมด้วยภาพถ่ายล่าสุดที่สวยงาม คมชัด เหมาะแก่การเก็บสะสมเป็นอย่างยิ่ง

และใช้สำหรับเป็นคู่มือให้ผู้อ่านทุกท่านที่ เดินทางไปจังหวัดต่างๆ ได้ไปกราบไหว้บูชาเพื่อความสุขสงบทางจิตใจ เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตส่วนตัวและครอบครัว

หนังสือ "ไหว้พระประธาน 77 จังหวัด" จึงเป็นรูปเล่มขึ้น เพื่อเปิดเผยข้อมูลและตำนานเกี่ยวกับพระประธาน  ใช้เป็นคู่มือ สำหรับผู้สนใจจะเดินทางไปนมัสการ หรือจะอ่านเพื่อประดับความรู้ก็ได้เช่นกัน

พร้อมกันนี้ สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 อนุญาตให้ใช้ลิขสิทธิ์ดีวีดีสารคดี "พระคู่บ้านคู่เมือง" จำนวน 128 ตอน แนบมาในหนังสือเล่มนี้ด้วย เพื่อเพิ่มอรรถรสแก่ท่านผู้อ่านครบถ้วนมากขึ้น

และต่อไปนี้ เป็นเนื้อหาบางส่วนจากหนังสือ "ไหว้พระประธาน 77 จังหวัด"


ภาคเหนือ

เริ่มจากปกใหม่ของหนังสือไหว้พระประธาน 77 จังหวัด คือ พระประธานวัดภูมินทร์ จ.น่าน เป็นพระพุทธรูป 4 องค์ ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ สร้างจากปูนปั้นลงรักปิดทอง ศิลปะสมัยล้านนา สกุลช่างเมืองน่าน พระพุทธรูปทั้ง 4 องค์ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงพระพุทธเจ้าที่เสด็จมาแล้ว

คือ พระกกุสันธะ พระโกนา คมนะ พระกัสสปะ และพระโคตมะ สำหรับวัดภูมินทร์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2139 เดิมชื่อวัดพรหมินทร์ มีอาคารจัตุรมุขที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ คือรวมพระอุโบสถและพระวิหารเข้าไว้ในอาคารเดียวกัน

พระพุทธสุโขโพธิ์ทอง (หลวงพ่อทองคำ) จ.สุโขทัย ประดิษฐานอยู่ที่หอพระทองคำ วัดพิพัฒน์มงคล อ.ทุ่งเสลี่ยม สร้างด้วยทองคำโบราณ ศิลปะสุโขทัย ปางมารวิชัย มีอายุราว 500 ปี เดิมฉาบไว้ด้วยรักดำ ต่อมารักที่ฉาบกะเทาะออกบริเวณพระสนับเพลา (เข่า) ขวา พระอาจารย์พิพัฒน์มงคล (ในสมัยนั้น) พบว่าเป็นพระทองคำโบราณ จึงสร้างหอพระทองคำไว้เป็นที่ประดิษฐานอย่างถาวร

พระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในโลก สันนิษฐานว่าพระมหาธรรมราชาลิไท ทรงให้หล่อขึ้นเมื่อราว พ.ศ.1900 เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย พระพักตร์ทรง รูปไข่ แสดงออกซึ่งความสงบเย็น และความเมตตา


ภาคกลาง

หลวงพ่ออภัย วัดแก้วพิจิตร พระอารามหลวง จ.ปราจีนบุรี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง สร้างโดยเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) เป็นพระพุทธรูปโลหะสำริด นั่งทำปางลักษณะพิเศษ คือ พระหัตถ์ขวายกขึ้นวางตั้งบนพระเพลา หันฝ่าพระหัตถ์ออกด้านนอก ส่วนพระหัตถ์ซ้ายวางหงายฝ่าพระหัตถ์บนพระเพลา

หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นหนึ่งในพระพุทธรูป 3 องค์ ที่มีตำนานว่าลอยมาตามน้ำ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ปางสมาธิ ลงรักปิดทอง จุดเด่น คือ ข้อพระกรข้างขวามีกำไล มีประชาชนเดินทางมากราบหลวงพ่อโสธรอย่างคับคั่งทุกวัน


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

หลวงพ่อองค์ดำ หรือ พระพุทธสัมฤทธิ์นิรโรคันตราย วัดกลาง พระอารามหลวง จ.กาฬสินธุ์ เป็นพระ พุทธรูปสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย มีพุทธลักษณะน่าเกรงขาม เมื่อมีการอัญเชิญหลวงพ่อองค์ดำชุ่มเย็นนี้ไปประดิษฐานเป็นพระประธานในงานสำคัญใดๆ ก็มักจะมีฝนตกลงมาทุกครั้ง จึงเป็นที่มาของชื่อว่า "หลวงพ่อองค์ดำชุ่มเย็น"

หลวงพ่อพระใหญ่ วัดบ้านท่าไคร้ จ.บึงกาฬ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยล้านช้าง เป็นพระพุทธรูปโลหะที่มีการฉาบปูนโอบไว้ ตามตำนานเล่าว่า เมื่อ 200 ปีก่อน สมัยที่ชาวเมืองยศมาตั้งถิ่นฐานแถบริมฝั่งแม่น้ำโขง และร่นขึ้นมาทางเขตเมืองชัยบุรี (บ้านท่าไคร้ จ.บึงกาฬ ในปัจจุบัน)

ชาวบ้านบุกป่าถางพง สร้างบ้านสร้างเมือง พบพระพุทธรูปเก่าแก่ พระเกตุมาลาขององค์หลวงพ่อหัก จึงบูรณะซ่อมแซมและสร้างพระอุโบสถครอบ ชาวบ้านเรียกกันว่าหลวงพ่อพระใหญ่ เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบึงกาฬ


ภาคใต้

พ่อท่านบรรทม วัดคูหาภิมุข หรือ วัดหน้าถ้ำ ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา เป็นพระพุทธไสยาสน์ ชาวบ้านนิยมเรียกว่า พ่อท่านบรรทม ขนาดยาวจากพระเศียรถึงพระบาท 81 ฟุต ที่แปลกออกไปจากพระนอนองค์อื่น คือมีพญานาคแผ่อยู่เหนือเศียรพระนอน

จึงมีการสันนิษฐานถึงที่มาของพระนอนองค์นี้ว่า เดิมอาจเป็นเทวรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ตามศาสนาพราหมณ์ ต่อมาเมื่อพระพุทธศาสนาได้เผยแผ่เข้ามายังดินแดนส่วนนี้ จึงได้ดัดแปลงเทวรูปดังกล่าว ให้เป็นพระพุทธรูปดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

หลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดชนาธิปเฉลิม พระอารามหลวง จ.สตูล หล่อด้วยทองเหลือง ประดับเรือนแก้วทองเหลืองเช่นกัน มีพระพักตร์อมยิ้ม แผ่เมตตา ประวัติการสร้างและที่มาไม่มีใครทราบแน่ชัด แต่คาดว่าจะมีอยู่คู่กันมาตั้งแต่ครั้งสร้างวัดชนาธิปเฉลิม หรือวัดมำบัง เป็นวัดแห่งแรกของจังหวัดสตูล อายุร้อยกว่าปี จนเป็นที่เคารพบูชาของพุทธ ศาสนิกชนทั่วไป ด้วยถือว่าเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง

หนังสือ "ไหว้พระประธาน 77 จังหวัด" มีภาพสี่สีและข้อมูลประกอบอย่างครบครัน ราคา 340 บาท ใช้เป็นคู่มือเบื้องต้นสำหรับผู้สนใจจะเดินทางไปนมัสการ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือเทศกาลวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่ผู้คนส่วนใหญ่ออกเดินทางไปทำบุญตาม พระอารามสำคัญทั่วประเทศ หรือจะอ่านเพื่อประดับความรู้ก็ได้เช่นกัน


กรุงเทพมหานคร

ในส่วนของกรุงเทพฯ มีเนื้อหาเพิ่มเติม ได้แก่ พระพุทธมหาจักรพรรดิ วัดนางนอง พระพุทธปฏิมากร วัดหนังราชวรวิหาร และ พระพุทธอนันตคุณอดุลญาณบพิตร วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

พระพุทธมหาจักรพรรดิ วัดนางนอง ทรงเครื่องสำริดปิดทอง พระพักตร์พุทธศิลป์สมัยสุโขทัยทรงเครื่องที่ทำเครื่องทรงเครื่องประดับ ตกแต่งทุกชิ้นแยกออกจากองค์พระสวมทับลงไว้ ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีปั้นลายปิดทองประดับกระจก ถือเป็นประติมากรรมชิ้นเยี่ยม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระพุทธปฏิมากร วัดหนัง เป็นพระที่เจ้านายในราชวงศ์สมเด็จพระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัย ทรงพระศรัทธา สร้างขึ้นในครั้งนั้น คงจะประดิษฐานไว้ในวัดที่สำคัญ วัดใดวัดหนึ่งในแคว้นสุโขทัย

และ พระพุทธอนันตคุณอดุลญาณบพิตร วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เป็นประธานที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้หล่อขึ้นใหม่ กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุสถานในปี 2492

หน้า 21

ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ    

Create Date : 12 พฤษภาคม 2557
Last Update : 12 พฤษภาคม 2557 9:23:03 น.		0 comments
Counter : 1407 Pageviews.
Share Tweet