พระราชกรณียกิจระหว่างดำรงตำแหน่ง สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2
สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ขณะเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ประเทศไทย
เสด็จไปยังสถานที่ต่างๆ เป็นระยะทางรวมกันกว่า 1,247,613 กิโลเมตร หรือคิดเป็นระยะทางจากโลกไปยังดวงจันทร์ 3.24 เท่า
เสด็จไปยังสถานที่ต่างๆ นอกอิตาลี 104 ครั้ง
เสด็จไปเยือนประเทศและอาณานิคมดินแดนต่างๆ 129 ครั้ง
เสด็จเยี่ยมเขตมิสซังต่างๆ ในกรุงโรม และกัสแตล กันดอลโฟ 748 ครั้ง (ในจำนวนนี้รวมถึงโบสถ์ต่าง ๆ ในโรม 301 แห่ง จาก 333 แห่ง) ทรงใช้เวลา 822 วัน หรือกว่า 2 ปี 3 เดือน ในการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ นอกกรุงโรม
ทรงกล่าวสุนทรพจน์กว่า 20,000 ครั้ง หรือกว่า 100,000 หน้า
ทรงสถาปนาบุญราศี 1,338 องค์ (147 ครั้ง) ทรงประกาศแต่งตั้งนักบุญ 482 องค์ (51 ครั้ง) ซึ่งมากกว่าที่พระสันตะปาปาก่อนหน้าพระองค์ในรอบ 400 ปี ทั้งหมดรวมกันได้เคยปฏิบัติ
ทรงเรียกประชุมคณะพระคาร์ดินัล (Consistory) เพื่อแต่งตั้งพระคาร์ดินัล 9 ครั้ง และสถาปนาพระคาร์ดินัล 231 องค์ กับอีก 1 องค์ที่ทรงสงวนชื่อเป็นความลับ
ทรงเป็นพระสันตะปาปาที่มีผู้แสวงบุญมาเฝ้ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีผู้แสวงบุญมาเฝ้า ณ จตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ในทุกวันพุธ เป็นจำนวนมากกว่า 17.8 ล้านคน โดยนับเป็นจำนวนครั้งได้ 1,161 ครั้ง
ทรงเข้าประชุมร่วมกับผู้นำทางการเมืองกว่า 1,600 ครั้ง รวมไปถึงการเข้าพบกับประมุขของรัฐ 776 คน และนายกรัฐมนตรีอีก 246 คน
พระองค์ทรงเดินทางไปพบคริสตศาสนิกชนในทั่วโลกเสมอ ๆ เสด็จเยือนไปมากกว่า 100 ประเทศ หากนับการเดินทางของพระองค์ ประเมินว่าพระองค์ได้เดินทางรอบโลกแล้ว 27 รอบ
พระประสงค์ของพระองค์ในการใกล้ชิดกับประชาชน ทำให้พระองค์เกือบถึงแก่ชีวิต โดยเมื่อปี ค.ศ. 1981 ขณะที่พระองค์กำลังออกทักทายประชาชน ในจัตุรัสเซนปีเตอร์ สแควร์ มะห์หมัด อาลี อักจา มุสลิมชาวตุรกีได้ยิงปืนหมายปลงพระชนม์พระองค์ แม้จะทรงรอดชีวิต แต่ก็บาดเจ็บสาหัส
ทั้งนี้มีข้อสันนิษฐานที่ไม่ยืนยันว่าสหภาพโซเวียตเป็นผู้บงการ หลังจากทรงพักรักษาพระองค์ที่ใช้เวลายาวนาน 2 ปี ในวันคริสตมาสของปี ค.ศ. 1983 พระองค์ก็ได้เดินทางไปพบกับมือลอบสังหารถึงในคุก ซึ่งไม่มีการเปิดเผยว่าพระองค์ได้ตรัสอะไรกับเขาบ้าง
แม้ว่าพระองค์จะทำให้ศาสนจักรก้าวหน้าไปมาก แต่ทัศนะของพระองค์ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่ถกเถียงไม่จบไม่สิ้นอย่างการหย่าร้าง การคุมกำเนิด และการทำแท้ง การประชุมของวาติกันเมื่อปี ค.ศ.2001
พระองค์ประกาศต่อต้านการอนุญาตให้หย่าร้าง การทำแท้ง การอยู่ด้วยกันของคนรักร่วมเพศ รวมทั้งสิทธิของผู้ที่ไม่ได้สมรสกัน ผู้วิจารณ์ทั้งภายในและภายนอกศาสนจักรระบุว่า ทัศนะของพระองค์เสี่ยงที่จะทำให้เกิดความแตกแยกกันในหมู่ชาวคาทอลิก และวาติกันก็อยู่ไกลเกินเอื้อมของคนในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วเช่นนี้
ไม่นานมานี้ พระองค์มีอาการประชวรและอ่อนแอลงมาก ในปี ค.ศ. 1992 พระองค์ทรงเข้าผ่าตัดเอาเนื้องอกในปลายลำไส้ใหญ่ออก ปี ค.ศ. 1993 ทรงมีอาการไหล่หลุด ปี ค.ศ. 1994 ต้นขาหักปี ค.ศ. 1996 ทรงเข้าผ่าตัดไส้ติ่ง และในปี ค.ศ. 2001 มีการยืนยันว่าพระองค์ทรงมีอาการของโรคพาร์กินสัน หลังจากสงสัยว่าจะป่วยด้วยโรคนี้มาได้ระยะหนึ่งแล้ว
เดือนตุลาคม ค.ศ. 2003 จตุรัสเซนต์ปีเตอร์ เนืองแน่นด้วยด้วยผู้แสวงบุญจากทั่วโลก ซึ่งพากันมาร่วมฉลองการขึ้นเป็นพระสันตะปาปาครบรอบ 25 ปี ของพระองค์ ซึ่งในอีก 5 เดือนต่อมาพระองค์ก็กลายเป็นพระสันตะปาปาองค์ที่ 3 ที่ครองตำแหน่งนานที่สุด และในเดือนพฤษภาคมปีถัดมา ก็มีการเฉลิมฉลองวันประสูติครบ 84 พรรษา
ทั้งนี้แม้พระพลานามัยจะไม่สมบูรณ์นัก พระองค์ก็ทรงปฏิเสธที่จะงดพระกรณียกิจ และการเดินทางเยือนต่างประเทศ โดยปกติแล้วสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 จะทรงออกมาพบกับประชาชนทุกวันพุธ จนกระทั่งการประชวรเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้พระองค์ต้องงดเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนกันยายน ค.ศ. 2003
สิ้นพระชนม์
เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน ค.ศ. 2005 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ก็สิ้นพระชนม์ด้วยพระชนมายุ 84 พรรษา เมื่อเวลา 21.37 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 02.37 น. ของวันอาทิตย์ (ที่ 3) ตามเวลาในประเทศไทย หลังจากที่คืนวันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม ทรงมีไข้สูง
อันเป็นผลจากการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ หลังจากนั้นทรงช็อค และมีอาการพระหทัยล้มเหลว จากนั้นพระอาการของพระองค์ก็ทรุดหนักลงเรื่อยๆ จนสิ้นพระชนม์อย่างสงบในที่สุดในห้องส่วนพระองค์
หลังจากองค์พระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์อย่างเป็นทางการแล้ว คณะพระคาร์ดินัลก็จะทำลายสัญลักษณ์ตำแหน่งของพระสันตะปาปา นั่นคือ "เพสคาโตริโอ" หรือวงแหวนแห่งชาวประมง (Ring of the Fisherman) สั่งลดธงประจำสำนักวาติกันลงครึ่งเสา
และสุดท้ายปิดประตูสำริดของพระมหาวิหาร ที่จตุรัสเซนต์ ปีเตอร์ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีประกาศการสิ้นพระชนม์
พิธีปลงพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 จัดขึ้นอย่างสง่า พระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ในหีบศพจากต้นสนไซเปรสอันเรียบง่ายถูกเคลื่อนออกจากโบสถ์บาซิลิกา ในนครรัฐวาติกัน เพื่อประกอบพิธีฝัง
โดยมีบรรดาผู้นำโลกและผู้นำศาสนากว่า 200 คน มาร่วมไว้อาลัย เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2548 ขณะที่คริสตศาสนิกชนทั่วโลกร่วมรำลึกถึงประมุขแห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิกเป็นครั้งสุดท้ายผ่านจอโทรทัศน์
คณะนักบวชแห่งสำนักวาติกันเริ่มเคลื่อนพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ออกจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เมื่อเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (หรือเวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางแขกคนสำคัญและผู้ศรัทธาจากทั่วโลกมาร่วมพิธี ณ จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์
เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น หีบไม้ภายในบรรจุพระศพถูกเคลื่อนออกมาจากโบสถ์บาซิลิกา โดยเจ้าหน้าที่ของวาติกัน 12 คนซึ่งได้ตั้งหีบศพลงบนพรมหน้าแท่นบูชาที่คลุมด้วยผ้าสีดำและทอง จากนั้นพระคาร์ดินัล โยเซฟ รัตซิงเกอร์(สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน)
ก็เริ่มทำพิธีมิสซา ขณะที่ฝูงชนเริ่มคร่ำครวญด้วยความสลด บ้างก็เริ่มสวดมนต์ ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า ตามขนบธรรมเนียมของวาติกัน ภายหลังพิธีมิสซาสิ้นสุดลง หีบพระศพของพระสันตะปาปาจะถูกนำไปใส่หีบเคลือบสังกะสี ก่อนจะบรรจุลงในหีบไม้โอ๊คและนำไปฝังลงภายใต้แท่นหินอ่อนภายในสุสานใต้ดินในมหาวิหารนักบุญเปโตร
บุคคลสำคัญจากทั่วโลกกว่า 200 คน ทั้งกษัตริย์ ผู้นำทางการเมืองและทางศาสนา อาทิ เจ้าฟ้าชายชาลส์ มกุฏราชกุมารแห่งอังกฤษ สมเด็จพระราชาธิบดีควน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปนและสมเด็จพระราชินีโซเฟีย นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ของอิตาลี ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ
นาย กรัฐมนตรีโทนี แบลร์ของอังกฤษ ประธานาธิบดีฌาคส์ ชีรักของฝรั่งเศส รวมทั้งโคฟี อันนัน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติและเหล่าผู้นำชาติอาหรับเดินทางมาร่วมพิธีกันอย่างคับคั่ง โดยรวมกันอยู่ในที่นั่งด้านซ้ายของปะรำพิธี
ตรงข้ามกับที่นั่งของบรรดาพระคาร์ดินัลแห่งวาติกัน ขณะที่ผู้แสวงบุญคาดว่ามีนับ 2 ล้านคนเบียดเสียดกันอยู่ในลานของจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ทั้งนี้ คาดว่ามีผู้ศรัทธาอีกหลายล้านในทั่วโลกกำลังเฝ้าชมพิธีดังกล่าวผ่านการถ่ายทอดสดจากจอโทรทัศน์
อนึ่ง สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ทรงปกครองศาสนจักรรวมระยะเวลาทั้งสิ้น 26 ปี 15 วัน ซึ่งยาวนานที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ตามประวัติศาสตร์ของศาสนจักรโรมันคาทอลิกอันยาวนานนับ 2,000 ปี โดยเชื่อว่า นักบุญเปโตร ทรงเป็นผู้ดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปายาวนานที่สุด คือ 37 ปี
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สวัสดิ์สิริชีววาร สิริมานรมเยศนะคะ
Create Date : 04 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 11 พฤษภาคม 2554 7:39:05 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1770 Pageviews. |
|
|
|
|
|