พระนางกุสาวดี
พระนางกุสาวดี เป็นอิสตรีที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ไทยอีกพระองค์ โดยมีส่วนเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับพระมหากษัตริย์ไทยในสมัยอยุธยาถึง 3 พระองค์
คือ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระเพทราชา และ สมเด็จพระสรรเพชญที่ 7 (สมเด็จพระสุริเยนทราธิบดี )หรือ หรือพระนามที่เป็นที่รู้จักกันดีว่า สมเด็จพระเจ้าเสือ
จะกล่าวไปแล้ว พระนางกุสาวดี นั้นมีความเกี่ยวพันกับพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์ "พลูหลวง" ของกรุงศรีอยุธยาทั้ง 7 พระองค์ รวมทั้งสมเด็จพระนารายมหาราชแห่งราชวงศ์ปราสาททองแล้ว รวมทั้งหมดเป็น 8 พระองค์
ตามประวัติเท่าที่สืบค้นได้ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา และอาณาจักรล้านนา กล่าวว่า พระนางกุสาวดีหรือมักนิยมเรียกว่า เจ้านางกุสาวดี นั้น เดิมชื่อ เจ้านางกุลธิดา เป็นพระธิดาในพญาแสนหลวง ซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ในพ.ศ. 2193 (ขณะนั้นเป็นเมืองขึ้นแก่พม่า) ครองเมืองได้ 13 ปี
ใน พ.ศ. 2205 ก็เสียเมืองให้แก่เจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) ซึ่งเป็นแม่ทัพในรัชสมัยของพระนารายณ์มหาราช...
ในครั้งนั้น เจ้านางกุลธิดาได้ถูกนำตัวมาถวายเป็นบาทบาจาริกาแก่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นพระสนม นามว่า พระสนมกุสาวดี ต่อมาได้ยกพระนางให้อภิเษกกับพระเพทราชา ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็น เจ้ากรมช้าง
กล่าวกันว่าขณะนั้นพระนางได้ทรงครรภ์พระโอรสกับสมเด็จพระนารายณ์แล้ว แต่เกิดความละอายที่มีลูกกับหญิงลาว (ซึ่งแต่เดิมไทยอยุธยาถือว่าเชียงใหม่หรืออาราจักรล้านนาก็เป็นลาวเหมืองกับล้านช้าง-หลวงพระบาง-เวียงจันทน์ และดูถูกว่าต่ำต้อยกว่าไทยที่อยุธยาหรือรัตนโกสินทร์)
จึงยกนางนั้นให้แก่พระเพทราชาดูแลต่อ กล่าวกันว่าหลังจากที่พระนางได้ให้ประสูติพระโอรสที่จังหวัดพิจิตร (วัดโพธิประทับช้าง) แล้ว ก็ไม่มีผู้ใดได้พบพระนางกลับมาที่วังอีก
ดังนั้นพระโอรสที่ประสูติจากพระนางจึงเป็น บุตรบุญธรรมของ พระเพทราชา ซึ่งก็คือ หลวงสรศักดิ์ (สมเด็จพระเจ้าเสือ) พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาต่อมานั่นเอง
ต่อมาเมื่อสมเด็จพระนารายณ์สิ้นพระชนม์แล้ว หลวงสรศักดิ์ (สมเด็จพระเจ้าเสือ) ได้เป็นกำลังสำคัญในการผลักดันให้ พระเพทราชาบิดาบุญธรรม ยึดอำนาจ โดยพระองค์กำจัดผู้มีสิทธิสืบราชสมบัติ 3 รายคือพระอนุชา 2 องค์ของพระเจ้าแผ่นดินสมัยนั้น
คือพระเจ้าอภัยทศและเจ้าฟ้าน้อย รวมทั้งโอรสบุญธรรมคือ พระปีย์ โดยมีพระสงฆ์จำนวนหนึ่งที่ไม่พอใจบาทหลวงคริสต์ศาสนาเข้าร่วม รวมทั้งกองกำลังจากกองทหารมอญ ที่เข้ามารับราชการอยู่ในไทยเป็นกำลังในการสนับสนุนการยึดอำนาจ
ตั้งพระเพทราชาขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาแทนและสถาปนาราชวงศ์ใหม่ คือ ราชวงศ์บ้านพลูหลวงเป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์บ้านพลูหลวง
ต่อมาเมื่อ พระเพทราชา สิ้นพระชนม์ สมเด็จพระเจ้าเสือ ซึ่งเป็นพระราชโอรสของ พระนางกุสาวดี หรือ เจ้านางกุลธิดา (ธิดาเจ้าครองนครเชียงใหม่) จึงยึดอำนาจจากพระโอรสของพระเพทราชาขึ้นเป็น กษัตริย์แห่งอาณาจักรอยุธยา
โดยเป็นกษัตริย์ของราชวงศ์บ้านพลูหลวงองค์ที่ 2
และต่อมาพระโอรสของ พระเจ้าเสือ ก็ได้สืบทอดเป็นกษัตริย์ของอาณาจักรซึ่งถือว่าเป็น "พระนัดดา" ของพระนางกุสาวดีนั่นเอง ด้วยเหตุนี้พระนางกุสาวดี หรือ มเหสีกุสาวดี จึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับ พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์บ้านพลูหลวง ทุกพระองค์
และเป็นมเหสีเทวีของพระมหากษัติริย์ 2 ยุคสมัย คือในสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช และ พระเพทราชา
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สิริสวัสดิ์จันทรวาร สิริมานปรีดิ์ปราโมทย์ค่ะ
Create Date : 30 พฤษภาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 11 มิถุนายน 2553 11:03:38 น. |
Counter : 2733 Pageviews. |
|
|
|