เจิง ฟานจื้อ (ซ้าย) และแจ็ค หม่า ยืนข้าง“ พาราไดส์”ภาพวาดสีน้ำมันบนผ้าใบ ที่สร้างสรรค์ร่วมกัน – ภาพจากโซเทอบีส์

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์- แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอะลีบาบา บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน จับงานอะไรก็ดูจะประสบความสำเร็จไปเสียทั้งหมด

นอกจากเคยนั่งแท่นมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุด บนแดนมังกรแล้ว ล่าสุดเขายังเป็นมหาเศรษฐีพันล้านคนแรกของจีน ได้รับการจัดให้อยู่ในทำเนียบ “ศิลปินผู้ยังมีชีวิตและประสบความสำเร็จมากที่สุด”

หลังจากภาพวาดสีน้ำมันบนผ้าใบ ที่เขาสะบัดแปรงร่วมกับเจิง ฟานจื้อ นักศิลปะร่วมสมัยแถวหน้าของจีน เพื่อหาเงินเข้ามูลนิธิการกุศล สามารถประมูลขายได้เงินถึง 5 ล้าน 4 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 189 ล้านบาท

ในงานประมูลงานศิลปะเอเชียสมัยใหม่และร่วมสมัย ซึ่งสำนักประมูลโซเทอบีส์ จัดขึ้นที่ฮ่องกงเมื่อ ต.ค.ปีที่แล้ว

ภาพวาดสีน้ำมันบนผ้าใบชิ้นแรกของหม่า ซึ่งมีชื่อว่า พาราไดส์ (Paradise) ติดอันดับผลงานของศิลปินผู้ยังมีชีวิตอยู่ ที่มีราคาแพงมากที่สุดอันดับ 4 จากการจัดอันดับงานศิลปะของหูรุ่น อาร์ต ลิสต์ ( Hurn Art List) ประจำปี2559

ซึ่งนิตยสารหูรุ่นรีพอร์ตในนครเซี่ยงไฮ้ มีการรายงานเมื่อวันพฤหัสฯ ( 24 มี.ค.)

       พาราไดส์ เป็นภาพลูกโลก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 79.6 เซ็นติเมตร หม่าเขียนในแคตตาล็อกการประมูลว่า วาดภาพนี้เพื่อปลุกเร้าให้ผู้คนได้ตระหนักถึง ความจำเป็นในการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยบุคคลทั้งสองปัดป้ายสีไปมา เสร็จภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

       ผู้ที่ซื้อภาพวาดไปคือเชียน เฟิงเหล่ย นักธุรกิจแผ่นดินใหญ่จากมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีพันล้านใจบุญ และเพื่อนสนิทของหม่า โดยราคาที่ประมูลได้สูงกว่าที่ตั้งไว้ถึงราว 17 เท่า

เงินจำนวนนี้นำเข้ามูลนิธิพาราไดส์ อินเตอร์เนชันแนล ฟาวน์เดชัน ซึ่งหม่าจัดตั้งขึ้นร่วมกับนักธุรกิจและนักอนุรักษ์ เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัทเฟซบุ๊ก กับแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของอะลีบาบากรุ๊ป บนเวทีการประชุมไชน่า ดิเวลอปเมนต์ ฟอรั่ม ในกรุงปักกิ่งของจีน วันที่ 19 มี.ค. 2559 – รอยเตอร์ส

รายงานของหูรุ่นยังระบุด้วยว่า ตลาดงานศิลปะของจีน ที่ครั้งหนึ่งเคยบูม ตอนนี้อยู่ในช่วงขาลง โดยยอดเงินประมูลงานศิลปะของศิลปินที่ยังมีชีวิตอยู่ตกลงร้อยละ 45 ในปี 2558 จากปีก่อนหน้า เหลือ 3,700 ล้านหยวน หรือราว 18,500 ล้านบาท ซึ่งตกต่ำสุด นับตั้งแต่หูรุ่นเริ่มติดตามข้อมูลเรื่องนี้เมื่อ 8 ปีก่อน

       ขณะนี้จำนวนงานศิลปะ ที่มีการซื้อขายในปีที่แล้ว ยังลดลงเหลือแค่ 68 ชิ้น จาก 159 ชิ้นในปี 2557 เนื่องจากนักสะสมงานศิลป์ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ในภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอการเติบโต

       สำหรับผู้ครองแชมป์ “ศิลปินผู้ยังมีชีวิตและประสบความสำเร็จมากที่สุด” ประจำปี 2559 คือนาย ชุย หรูโจว ชาวเมืองปักกิ่ง วัย 72 ปี ซึ่งเชี่ยวชาญการวาดภาพทิวทัศน์โบราณของจีน

โดยเขาขายผลงานได้ทั้งสิ้น 800 ล้านหยวน หรือประมาณ 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 69 จากเมื่อปี 2557

ส่วนเจิง วัย 52 ปี ซึ่งสร้างผลงานร่วมกับหม่านั้น ติดอันดับ 2 หลังจากราคาจากยอดขายผลงานตกลงร้อยละ 62 ในปี 2558 จากปี 2557

โดยผลงานราคาแพงที่สุดของเขาจนถึงขณะนี้ คือภาพวาดสีน้ำมันบนผืนผ้าใบ ที่วาดร่วมกับหม่านั่นเอง