| | เขาคือ... ศิริสวัสดิ์ พันธุมสุด บรรณาธิการฝ่ายศิลป์และผู้ร่วมก่อตั้งฯ นิตยสารชื่อดังในสมัยก่อนอย่าง ลลนา เขาคือ
คู่ชีวิต และความรักครั้งสุดท้ายของ สุวรรณี สุคนธา นักเขียนชื่อดัง ผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้ก่อตั้ง และบรรณาธิการของนิตยสารฯ เขาคือ... น้าแพ็ท ชื่อเล่นที่ทุกคนเรียกติดปากจนแทบจะลืมชื่อเล่นเดิมของเขา มีที่มาจาก Pat Boon ชื่อของนักร้องดนตรีผู้ที่เขาชอบนำเพลงชื่อ Bernadine ของนักร้องนักดนตรีคนนี้มาร้องคนให้เพื่อนๆฟัง วันที่ 3 มีนาคมพ.ศ.2558 ที่ผ่านมา เป็นวันเปิดนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา !? ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยจัดแสดงผลงานศิลปะมาก่อน และไม่เคยมีความคิดที่จะจัดแสดง แต่เมื่อคนที่รักและนับถือในตัวเขาทราบว่าเขาล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งในระยะสุดท้าย และอยากให้เขามีกำลังใจ เมื่อหายป่วยจะได้กลับมาทำงานศิลปะ แต่ในที่สุดเขาในวัย 76 ปี ก็ได้จากทุกคนไปในช่วงย่ำรุ่งของวันเดียวกันกับวันที่เป็นวันเปิดนิทรรศการ จึงทำให้ช่วงเย็นของวันนั้น กลายเป็นวันที่ทุกคนต่างมาร่วมแสดงความยินดีและอาลัยกับการจากไปของเขาไปพร้อมๆกัน ในนิทรรศการ จดหมายจากโรม ณ HOF ART Residency นิทรรศการศิลปะที่อาจกล่าวได้ว่ามีผู้มาร่วมงานมากที่สุดงานหนึ่ง ซึ่งชื่อนิทรรศการมีที่มาจาก ชื่องานเขียนของ สุวรรณี สุคนธา ที่เขียนส่งให้กับนิตยสารที่เมืองไทย ในระหว่างที่เขาและสุวรรณี อยู่ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวไปในหลายๆเมืองของประเทศอิตาลี ก่อนที่จะอำลาโรมแล้วกลับมาเมืองไทย และร่วมกันก่อตั้งนิตยสารลลนา ขณะที่ผลงานศิลปะที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการ นอกจากจะประกอบไปด้วย ผลงานภาพลายเส้นของเขาที่หอบหิ้วมาจากโรม เมื่อครั้งยังศึกษาที่ Academia di belle Art di Rome ประเทศอิตาลี โดยเฉพาะภาพลายเส้นนู้ด ยังมีผลงานต้นฉบับภาพประกอบที่เขาเขียนให้กับลลนา ซึ่งผลงานบางส่วนหยิบยืมมาจากบรรดาศิลปินที่เคยได้ผลงานไป เนื่องจากมเคยมอบให้กันไปฟรีๆ ด้วยความรักใคร่,บางส่วนหยิบยืมมาจาก ชมพัชร์ มิฟสุด คู่ชีวิตคนสุดท้ายของเขา ซึ่งผลงานในส่วนนี้เคยติดแสดงในร้านอาหาร เรือธง ที่ทั้งคู่สร้างทำมาด้วยกัน และบางส่วนศิลปินที่ชื่นชมและเก็บรักษาผลงานของเขาไว้ คืนกลับมาให้เพื่อจัดแสดง ประมูล และจำหน่าย ไปพร้อมๆกับของที่ระลึกอื่นๆ ซึ่งทำขึ้นเพื่อนิทรรศการนี้โดยเฉพาะ อาทิ เสื้อยืด ลลนา ออกแบบโดย ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี และเมนาท นันทขว้าง ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์แห่งแบรนด์ SODA (โซดา)ผู้เป็นทายาทของสุวรรณี รวมถึงโปสเตอร์ สูจิบัตร และอื่นๆอีกมากมายจากสมาคมศิษย์เก่า คณะจิตรกรรมฯ ซึ่งรายได้ทั้งหมดจะถูกนำเข้า กองทุน ศิริสวัสดิ์ เพื่อนำไปส่งเสริมนักศึกษาศิลปะที่มีความสามารถในด้านการวาดเส้นแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ดังนั้นในวันแรกที่ จดหมายจากโรม ถูกเปิดอ่าน นอกจากกุหลาบหลายดอกจะถูกนำมาวางหน้าภาพถ่ายและประวัติของเจ้าของจดหมายด้วยความอาลัย ผลงานศิลปะจำนวนไม่น้อยจึงถูกแปะสติกเกอร์เพื่อจับจองไปในเวลาอันรวดเร็ว ร่วมหลายชั่วโมง ผู้คนจำนวนมากยังรวมตัวกันอยู่เพื่อพูดคุยถึงคนๆเดียว อาหารส่งกลิ่นหอมไปทั่ว เสียงดนตรีดังต่อเนื่อง ขาดก็แต่เสียงเพลง Bernadine จาก แพ็ท (บูน) ของพวกเขา ก่อนไปโรมพี่แพ็ทได้แค่อนุปริญญา เรียนอยู่ 9 ปี ที่คณะฯ จนตันโควต้าแล้ว คือ ถ้าเขาเรียนจริงๆ เขาจบ แต่เขาไม่อยากเรียน มันหมดแล้วสำหรับเขา เขาได้คะแนนเต็มร้อยทุกอย่างนะ อาจารย์ศิลป์ ให้เขาเต็มร้อยทุกอย่าง เราเข้าใจแกนะ คนไม่อยากทำแล้ว เรื่องฝีมือไม่ต้องถาม มหาศาลนะ พี่แพ็ท เรื่องดรออิ้ง เขาไม่เคยยกเกรยองเลย หายาก ขณะที่ผมไม่ได้เก่งอะไรนักหนา เวลาผมติดอะไร เฮ้ย...พี่แพ็ทอะไรธิบายให้ผมฟังหน่อย เขาก็จะ มึงทำแบบนี้นะไอ้อ่อน มึงต้องอย่างนี้นะ ทำตรงนี้ให้ได้แล้วมึงจบเลย มึงไม่ต้องคิดอะไรมาก เขาจะเป็นมนุษย์ที่อธิบายและสอน ผมว่าเขาเก่งมาก และคุยแต่เรื่องสนุก สุจินตน์ ตรีณรงค์ ผมเป็นรุ่นน้อง เรียนไม่ทันหรอก แต่คลุกคลีกับแก เพราะผมและเพื่อนอีก 3 คน เป็นนักเรียนทุนของอาจารย์สุวรรณี และผมเป็นเพื่อนของกบ (เมนาท นันทขว้าง) ตอนนั้นน้าแพทกับอาจารย์สุวรรณีก็อยู่ด้วยกันแล้ว อาจารย์สุวรรณีเคยกระเตงพวกเราไปโน่นไปนี่บ่อยๆ โดยส่วนตัวเรื่องงานดรออิ้งนู้ด จนเดี๋ยวนี้ผมก็ยังไม่เชื่อว่าจะมีใครทำได้ดีเท่าแก เวลาเรียนผมเปิดรูปแกดูบ่อยๆ เพราะอยากรู้ว่าทำไมเราเขียนไม่ได้ซักที ไปเเห็นงานที่บ้าน แกม้วนๆ ไว้ แล้วพวกเราก็ไปรื้อดู งานดรออิ้งเขียนทีเดียวหยุด โดยเฉพาะดรออิ้งนู้ดแล้ว ไม่เคยเจอใครที่จะทำได้อร่อยเท่านี้ ชาญชัย พินทุเสน น้าแพ็ท เป็นรุ่นพี่ที่สุภาพและเป็นแรงบันดาลใจ เป็นตำนานของคณะจิตรกรรมฯ ในเรื่องการวาดเส้น ทุกคนจะพูดถึงเสมอว่าน้าแพ็ทเก่ง และสมัยเรียนผมก็เดินผ่านร้านมิ่งหลี ซึ่งน้าแพ็ทกับอาจารย์สุวรรณีจะนั่งอยู่ รวมทั้งพวกที่ทำหนังสือลลนา เราใฝ่ฝันกันว่าอยากเป็นอย่างรุ่นพี่พวกนี้ที่เขาเก่ง แต่งตัวสะอาดสะอ้าน ดูดี และน้าแพ็ทก็เป็นคนสุภาพมาก ใช้คำแทนตัวเองว่าเรา เราอย่างโน้นเราอย่างนี้ ซึ่งเป็นคนอื่นก็จะเรียกมึง กดรุ่นน้องแบบเอ็นดูบ้าง หมั่นไส้บ้างก็ตาม แต่น้าแพ็ท แกจะไม่เคยพูดหยาบ แกจะพูดเพราะ ชอบเล่าเรื่องการใช้ชีวิต การทำงาน เล่าเรื่องอาจารย์ศิลป์บ้าง เล่าเรื่องเก่าๆบ้าง และผมฝันอยากทำงานกับน้าแพ็ท กับหนังสือลลนา จนจบออกมาก็ได้ทำจริงๆ แต่เป็นรุ่นหลัง รุ่นที่อาจารย์สุวรรณีไม่อยู่แล้ว สมัยเป็นนักเรียน มันมีการแสดงภาพเขียนทะเล เราเชิญน้าแพทมาเป็นประธาน น้าแพทซื้องานไปสองชิ้น หนึ่งในนั้นมีงานของผมด้วย มันก็เลยเป็นความดีใจมากๆ บังเอิญมากที่ฮี่โร่ของเรามาซื้องานเรา ทำให้เรามีไฟที่จะเขียนรูป งานของน้าแพ็ท แสดงถึงความมีพื้นฐานของความสามารถในการวาดเส้นสูงมาก ผมอยากจะเชิญชวนให้มาดู ความเป็นสุภาพบุรุษ ความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ทุกคนรักมาก บางคนไม่เคยออกงานก็ยังมางานนี้ เพราะเป็นการให้เกียรติศิลปินในวันสุดท้ายของชีวิตเขา และเป็นวันแรกของการแสดงผลงานศิลปะของเขา ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี
|