"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
30 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 
"ติช นัท ฮันห์" วอนใช้สติแก้ไขปัญหา ในงานปฐกถาธรรมพิเศษที่ ม. มหิดล








29 มี.ค.56 พระอาจารย์ ติช นัท ฮันห์ เข้าปฐกถาธรรมพิเศษสำหรับผู้นำทางการเมืองและสังคมที่มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมวอนทุกฝ่ายใช้สติแก้ไขปัญหา

พระอาจารย์ ติช นัท ฮันห์ พระมหาเถระแห่งพุทธศาสนามหายาน นิกายเซ็น เดินทางเข้าปฐกถาธรรมพิเศษสำหรับผู้นำทางการเมืองและสังคม เรื่อง "เส้นทางผู้นำกับการสรรค์สร้างความกรุณา และกล้าหาญ" จัดขึ้นที่ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ หอประชุมภูมิพลสังคีต มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

ในช่วงเริ่มงานครั้งนี้ พระอาจารย์ทรงให้ทุกคนในงานร่วมเจริญภาวนาด้วยการให้ทุกคนหยุดคิด หยุดสนทนา และจับจ้องจิตไปที่เสียงบทเพลงแห่งการภาวนาเพื่อเป็นการระลึกจิตให้อยู่กับปัจจุบัน รวมถึงลมหายใจเข้า - ออก จากนั้นท่านก็เริ่มการปฐกถาธรรม

พระอาจารย์ ได้เริ่มกล่าวถึง การสร้างสันติสุขในสังคมนั้นเกิดขึ้นได้ โดยยกคำของนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เคยพูดเอาว่า เราสามารถสร้างสันติสุขได้ ในระหว่างการเยือนอิสราเอล เมื่อสัปดาห์ก่อน

ซึ่งพระอาจารย์พยายามยกตัวอย่างการเป็นผู้ฟังที่่ดี และผู้รับฟังที่ดี โดยได้เล่าถึงการนำชาวปาเลสไตน์ และชาวอิสราเอล 2 ชาติที่มีปัญหาด้านประวัิติศาสตร์มายาวนานมาคุยกัน

โดยหากพิจารณานำคน 2 ชาติมาพูดคุยกันนั้นถือเป็นเรื่องยาก ด้วยเหตุที่พวกเขามีปัญหาในตัวเองไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความกลัว ความระแวงสงสัย ทั้ง 2 คน ต่างเป็นทุกด้วยกันทั้งนั้น เมื่อเจอหน้ากันก็ไม่อยากคุย หรืออยากมองหน้ากัน แต่หากลองเปิดใจ และพยายามลดปัญหาในตัวเองโดยการเป็นผู้ฟังที่ดี และผู้พูดที่ดี ทุกอย่างก็จะดีขึ้น

การเป็นผู้พูด และผู้ฟังที่ดีนั้น คือผู้พูดต้องพูดอย่างมีวาทะศิลป์ ไม่มีอคติ ไม่ใช้คำพูดในเชิงตำหนิ เมื่อผู้พูด สนทนาให้ ผู้ฟังรับรู้ถึงสิ่งที่เป็นทุกข์ และสิ่งที่ต้องการแล้ว ผู้พูดก็รู้สึกได้ระบาย และกาีรเป็นทุกข์ก็จะลดน้อยลง

ขณะที่ อีกฝ่ายก็ผควรเป็นผู้รับฟังที่ดี ปล่อยให้เขาพูด ให้เขาได้ผ่อนคลายความทุกข์ ดังนั้น การเป็นทุกข์ของทั้งสอง ก็จะลดลง จากที่ทั้งคู่ไม่สามารถเจอหน้ากันได้ หรือ สนทนากันได้ ก็กลับมาคุยกัน และเข้าใจกันมากขึ้น

นอกจากนี้ พระอาจารย์ยังได้กล่าวถึงอำนาจในสังคมว่า บ่อยครั้งคนเราชอบใฝ่หาอำนาจในทางที่ผิดอยากมี อยากได้ เมื่อมีเงินทางมากมายแล้วก็ไม่มีความสุข บางคนต้องฆ่าตัวตาย เนื่องจากไม่มีสติ และไม่เข้าตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นวงการธุรกิจ หรือแม้กระทั้งวงการด้านการเมือง เช่น ฝ่ายค้านในสภาก็พยายามหาเรื่องโจมตี ฝ่ายรัฐบาลหวังที่จะมีอำนาจ แต่จริงๆ แล้วนั้น การทำงานไม่ต้องมีอำนาจก็สามารถทำเพื่อประเทศชาติได้ แต่ทำแบบเชิงสร้างสรรค์ ( Constructive Opposition)

หากทุกคนละทิ้งปัญหาในใจ ความโกรธ ความกลัว ความระแวงสงสัย และมองปัญหาอย่างลึกซึ้งแล้ว ก็จะพบกับความสันติ


พระอาจารย์ กล่าวถึง อำนาจในทางพระพุทธศาสนาที่มีหลักๆ ด้วยกัน 3 ประการ คือ

1. อำนาจแห่งการละทิ้ง หมายถึงทุกคนควรละทิ้งสิ่งที่เรียกว่า ปัญหาที่เป็นรากในใจของมุนษย์คือ ความกลัว ความโกรธ และความระแวงสงสัย โดยเราจะต้องไม่ยึดติดกับความกลัว พยายามทำตัวให้ตระหนักรู้อยู่กับปัจจุบัน ละทิ้งอดีต และอนาคต

2. อำนาจแห่งความเข้าใจ หมายถึงต้องใช้สติในการทำความเข้าใจสถานการณ์อย่างรอบคอบ รวมถึงตัวเราเองด้วย โดยการทำสมาิธิ

3. อำนาจแห่งความรัก และความเมตตา คือทุกคนต้องใส่ความรัก ความเมตตาเข้าไป และพร้อมให้อภัย โอบกอดผู้อื่นด้วยความเมตตากรุณาอย่างแท้จริง

หากคนเรามีอำนาจ ทั้ง 3 ประการนี้แล้ว ก็เป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนจะเข้าถึงความสุข และความสันติ

ทั้งนี้ ในช่วงท้าย พระอาจารย์ ยังพูดถึงการแก้ไขปัญหาการเมืองไทย โดยระบุว่า ทุกฝ่ายควรจะเริ่มที่ตัวเองก่อน โดยเฉพาะในพรรคการเมือง จากนั้นก็ทำการละทิ้งความกลัว ความโกรธ ความระแวงต่อกัน พร้อมทั้งทำความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยสติ

หากทำสำเร็จ ก็จะผ่านอุปสรรคไปได้ เหมือนคำที่พระอาจารย์ได้ยกขึ้นมาในช่วงปฐกถาธรรมไว้ว่า สิ่งอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นนั้นคือเราอาจจะสามารถเดินเหนือน้ำ หรือบนอากาศได้ แต่สิ่งที่อัศจรรย์เหนือกว่าคือการที่เราได้เดินบนโลกอย่างมีสติ




ขอบคุณ มติชนออนไลน์

สิริสวัสดิ์โสรวารค่ะ



Create Date : 30 มีนาคม 2556
Last Update : 30 มีนาคม 2556 12:12:34 น. 0 comments
Counter : 1646 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.