BlogGang.com : : sirivinit : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกโดยรวมของไทยในปี 2554 นี้ จะขยายตัวได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 8-12

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกโดยรวมของไทยในปี 2554 นี้ จะขยายตัวได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 8-12

กสิกรฯคาดส่งออกไตรมาสแรกชะลอตัว โตเหลือ 20% เหตุผลกระทบจากแผ่นดินไหวญี่ปุ่น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า การส่งออกของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ยังคงขยายตัวสูงเกินความคาดหมายของทุกฝ่าย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลด้านราคา จากการที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภททะยานสูงขึ้น

ประกอบกับการส่งออกทองคำในช่วงที่ราคาทองพุ่งสูง อีกทั้งจีนและญี่ปุ่นมีการเร่งนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการส่งออกของไทยในเดือนถัดไปอาจประสบกับภาวะชะลอตัว อันเป็นผลมาจากวิบัติภัยร้ายแรงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น

นับจากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ต้องเผชิญทั้งแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ตามมาด้วยคลื่นยักษ์สึนามิที่บันทึกความสูงกว่า 23 เมตร และวิกฤตนิวเคลียร์ที่ยังไม่อาจก้าวพ้นขีดอันตราย

ปัญหาดังกล่าวไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบ ต่อความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อเครือข่ายการผลิตของโลกที่เชื่อมโยงกับการผลิตในญี่ปุ่น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีการพึ่งพาชิ้นส่วนไฮเทคจากญี่ปุ่นจำนวนมาก

โดยในส่วนของไทยนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า โดยเฉลี่ยแล้วในอุตสาหกรรมยานยนต์มีการพึ่งพา ชิ้นส่วนนำเข้าจากญี่ปุ่นประมาณร้อยละ 15 ของมูลค่าผลผลิต

ขณะที่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มีการพึ่งพาชิ้นส่วนนำเข้าจากญี่ปุ่นไม่ถึงร้อยละ 10 ของมูลค่าผลผลิต แต่ต้องยอมรับว่าชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงส่วนใหญ่ ต้องนำเข้าจากญี่ปุ่นเป็นหลัก

ซึ่งการขาดแคลนชิ้นส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญในสินค้ายานยนต์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ คงส่งผลให้อุตสาหกรรมการผลิตของไทยมีการชะลอการผลิต และการส่งออกอย่างน้อยในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน

ขณะที่ระยะต่อจากนั้นคงขึ้นอยู่กับการคลี่คลายวิกฤตนิวเคลียร์และการขาดแคลนกระแสไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น เป็นสำคัญ

จากผลกระทบข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกของไทยในเดือนมีนาคม 2554 อาจชะลอตัวลงอย่างชัดเจน แต่ด้วยอัตราการเติบโตที่ทำไว้สูงถึงร้อยละ 26.7 ในช่วง 2 เดือนแรกของปี

คงทำให้การส่งออกในไตรมาสที่ 1/2554 น่าจะขยายตัวเกินกว่าร้อยละ 20 แต่เมื่อเข้าไตรมาสที่ 2/2554 มีโอกาสที่การส่งออกอาจชะลอลงเป็นตัวเลขหลักเดียว (ต่ำกว่าร้อยละ 10) โดยในส่วนของการส่งออกไปยังญี่ปุ่นนั้น

คาดว่า ในสถานการณ์เฉพาะหน้า ความต้องการอาหารและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นน่าจะมีเพิ่มขึ้นทันที เนื่องจากผลผลิตในพื้นที่ประสบภัยได้รับความเสียหาย อีกทั้งผลผลิตในพื้นที่ในรัศมีใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุคุชิมา อาจได้รับผลกระทบจากการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี

ดังนั้น การส่งออกสินค้าอาหารของไทยไปญี่ปุ่น น่าจะเพิ่มมากขึ้น แต่สินค้าผู้บริโภคประเภทอื่น ส่วนใหญ่อาจชะลอตัวตามความเชื่อมั่นที่ถดถอยลงและชะลอการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น ดังนั้น การส่งออกไปยังญี่ปุ่นโดยรวมจึงอาจยังคงชะลอตัวในไตรมาสที่ 2/2554

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการส่งออกในครึ่งปีหลัง น่าจะเร่งตัวขึ้นจากสินค้าที่นำไปใช้เพื่อการบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งเพื่อทดแทนสิ่งที่เสียหายไปพร้อมกับแผ่นดินไหวและสึนามิ ซึ่งอาจทำให้ความต้องการวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ติดตั้งหรือตกแต่งในอาคาร (เช่น ลิฟต์) รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ เป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น

สำหรับภาพรวมการส่งออกของไทยในปี 2554 นี้ แม้ว่าทิศทางเศรษฐกิจโลก ในระยะข้างหน้าจะเผชิญความเสี่ยงของการชะลอตัว จากภาวะราคาน้ำมันและราคาอาหารที่ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อของโลก

อีกทั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นย่อมส่งผลกระทบ ต่อการส่งออกของไทยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่จากตัวเลขส่งออกที่เติบโตสูงใน 2 เดือนแรก และอานิสงส์ที่อุตสาหกรรมบางกลุ่มอาจจะได้รับจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในญี่ปุ่น

ทำให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกโดยรวมของไทยในปี 2554 นี้ จะขยายตัวได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 8-12 ตามกรอบประมาณการเดิม โดยการส่งออกของไทยไปญี่ปุ่น น่าจะยังคงขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 10

ขอขอบคุณ มติชนออนไลน์
วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554
เวลา 12:31:23 น.

สิริสวัสดิ์จันทรวาร เปรมปรีดิ์มานกมลโรจน์นะคะ

Create Date : 21 มีนาคม 2554

Last Update : 21 มีนาคม 2554 12:39:29 น.

0 comments

Counter : 865 Pageviews.