"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 
17 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
บริษัทโอเชียนิกสตีมแนวิเกชัน สายการเดินเรือของอังกฤษ ผู้เป็นเจ้าของเรือไททานิก







ทอมัส อิสเมย์ (Thomas Ismay)




เจ.พี.มอร์แกน




Postcard ของ อาร์เอ็มเอส ไททานิก




บริษัทโอเชียนิกสตีมแนวิเกชัน (Oceanic Steam Navigation Company) หรือ ไวต์สตาร์ไลน์ (White Star Line) คือสายการเดินเรือของอังกฤษ ผู้เป็นเจ้าของเรือไททานิก (RMS Titanic) ที่โด่งดังซึ่งอัปปางในการเดินทางครั้งแรก


ประวัติ

ก่อนหน้าที่จะถึงยุคการเดินทางด้วยเครื่องบินเหมือนในปัจจุบัน การเดินทางจากทวีปยุโรปไปยังสหรัฐอเมริกา มีทางเดียวเท่านั้นคือ การเดินทางด้วยเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก

ดังนั้นกิจการเดินเรือจึงเป็นกิจการที่มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูงในช่วงนั้น เกิดสายการเดินเรือขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ด้วยอุดมการณ์การเดินเรือที่ต่างกัน บ้างก็เน้นความใหญ่ บ้างก็เน้นความหรูหรา บ้างก็เน้นความประหยัด บ้างก็เน้นความเร็ว บ้างก็เน้นการรักษาสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

ซึ่งมีสถิติมากมาย ที่สายการเดินเรือต่างๆ ต้องพยายามแข่งขันกัน เพื่อครองสถิติให้ได้มากๆ


ในราวปี ค.ศ. 1850

สายการเดินเรือไวต์สตาร์ได้ถือกำเนิด ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการเดินเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ต่อมาได้ถูกซื้อกิจการไปโดยทอมัส อิสเมย์ (Thomas Ismay) และเซอร์เอ็ดเวิร์ด ฮาร์แลนด์ นักธุรกิจผู้มั่งคั่งชาวอังกฤษ ซึ่งต่อมาทอมัส อิสเมย์ได้ผลักดันลูกชายคนโตคือ เจ. บรูซ อิสเมย์ ให้เข้ามารับช่วงแทน

สายการเดินเรือไวต์สตาร์สร้างเรือ 4 ลำ สำหรับเรือตระกูลโอเชียนิก (Oceanic-class ship) ได้แก่ อาร์เอ็มเอสโอเชียนิก (ค.ศ. 1870) (RMS Oceanic) , อาร์เอ็มเอสแอตแลนติก (RMS Atlantic) , อาร์เอ็มเอสบอลติก (RMS Baltic) และ เอสเอสรีพับลิก (ค.ศ. 1872) (SS Republic)

ชื่อเรือส่วนใหญ่ของสายการเดินเรือไวต์สตาร์จะลงท้ายด้วย -ic; ส่วนชื่อเรือส่วนใหญ่ของสายการเดินเรือคูนาร์ด (Cunard Line) จะลงท้ายด้วย -ia


ต่อมาในปี ค.ศ. 1902

เจ. พี. มอร์แกนกิจการของสายการเดินเรือไวต์สตาร์ ได้ถูกซื้อไปอีกต่อหนึ่งโดยบริษัทของ เจ. พี. มอร์แกน ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน แต่ก็ยังคงใช้พนักงานและลูกเรือชาวอังกฤษโดยไม่เปลี่ยนแปลง รวมทั้ง เจ. บรูซ อิสเมย์ ก็ยังคงมีบทบาทอยู่ในสายการเดินเรือแห่งนี้โดยเป็นกรรมการผู้จัดการของสายการเดินเรือ

สายการเดินเรือไวต์สตาร์นั้น เชื่อเสมอว่าคนทั่วไปสามารถโดยสารกับเรือได้นาน ถ้าเรือนั้นมี ความเพรียบพร้อมในการบริการที่ดีเยี่ยม สะดวกสบายราวกับอยู่บ้าน และความเร็วเรือที่ได้ต้องใช้เชื้อเพลิงซึ่งเป็นถ่านหินจำนวนมาก ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม (ไวต์สตาร์เป็นพวกนักอนุรักษ์)


การแข่งขันของสายการเดินเรือ

เรือลำใหญ่ 4 ลำ

ในปี ค.ศ. 1858 สายการเดินเรือ "อีสเทิร์น สตีม เนวิเกชั่น คอมปานี" (Eastern Steam Navigation Company) ได้สร้างเรือยักษ์ เอสเอส เกรทอีสเทิร์น (SS Great Eastern) ซึ่งเป็นเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลกในยุคนั้น SS Great Eastern มีขนาด 18,915 ตัน ใหญ่กว่าเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดลำก่อนหน้ามันมากกว่า 4.5 เท่า

แต่ใช้ได้เพียง 9 ปี ก็ต้องเลิกใช้ไปใน ค.ศ. 1867 และหลังจากสูญเสียมันไปนานกว่า 30 ปี ยังไม่มีเรือโดยสารลำใดที่ใหญ่กว่า SS Great Eastern

สายการเดินเรือไวต์สตาร์สร้างเรือ 4 ลำที่โด่งดัง ได้แก่ เอสเอส บริแทนนิก (1) (RMS Britannic) , เอสเอส เยอรมนิก (ค.ศ. 1875) (SS Germanic) , SS Teutonic (ค.ศ. 1889) และ SS Majestic (ค.ศ. 1890)

ในปี ค.ศ. 1899 สายการเดินเรือไวต์สตาร์สร้างเรือ อาร์เอ็มเอส โอเชียนิก (2) (RMS Oceanic) ที่ยาวกว่า SS Great Eastern

แต่ใน ค.ศ. 1901 สายการเดินเรือไวต์สตาร์ไลน์ ได้ตัดสินใจสร้างเรือโดยสารที่ใหญ่กว่าเรือ SS Great Eastern เป็นลำแรก โดยจัดทำเป็นโครงการสร้างเรือใหญ่ 4 ลำ

เรือทั้งสี่จะมีขนาดกว่า 20,000 ตัน เน้นการออกแบบภายในเรือที่สะดวกสบาย ดังนั้นเรือทั้งสี่ลำนี้จึงมีความเร็วบริการประมาณ 16-17 น็อต (29.632-31.484 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ซึ่งความเร็วระดับนี้น้อยเกินกว่าจะสู้เรือของสายการเรืออื่น ๆ ได้

โดยเรือลำแรกของโครงการดังกล่าว คือเรือ อาร์เอ็มเอส เคลติค (ค.ศ. 1901) (RMS Celtic) ปล่อยลงน้ำครั้งแรกในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1901 กลายเป็นเรือใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาด 21,035 ตัน ตามมาด้วยเรือ อาร์เอ็มเอส เซดริก (RMS Cedric) แต่มันไม่ได้เป็นเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ใน ค.ศ. 1905 เอสเอส อเมริกา (SS America) ของสายการเดินเรืออื่นสร้างเสร็จ แย่งตำแหน่งเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปจาก Celtic แต่อยู่ในตำแหน่งได้ไม่ทันจบปี ค.ศ. 1905 เรือโดยสารลำที่ 3 ของโครงการสร้าง 4 เรือยักษ์ ชื่อ อาร์เอ็มเอส บอลติก (ค.ศ. 1903) (RMS Baltic) สร้างเสร็จในปีเดียวกัน

ชิงตำแหน่งเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลับคืนสู่สายการเดินเรือไวต์สตาร์ไลน์ได้ 1 ปี ก่อนจะถูกสายการเดินเรืออื่นแย่งตำแหน่งไปอีก

และเรือลำสุดท้ายของโครงการ สร้างเสร็จใน ค.ศ. 1907 คือเรือ อาร์เอ็มเอส เอเดรียติก (RMS Adriatic) แต่เรือลำนี้ไม่ได้เป็นเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เรือ SS Kaiserin Auguste Victoria (RMS Empress of Scotland (1906)) จากสายการเดินเรืออื่น แย่งตำแหน่งเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปจาก RMS Baltic ในปี ค.ศ. 1906


เรือคู่แฝดของสายการเดินเรือคูนาร์ด

ต่อมา สายการเดินเรือคูนาร์ด (Cunard Line) ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญของไวต์สตาร์ไลน์ ได้ต่อเรือ อาร์เอ็มเอส ลูซิทาเนีย (RMS Lusitania) ต่อขึ้นในอู่ต่อเรือ John Brown ใน ค.ศ. 1907 เป็นเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลกแทนเรือ SS Kaiserin Auguste Victoria

และในปีเดียวกัน คูนาร์ดก็สร้าง อาร์เอ็มเอส มอริทาเนีย หรือ อาร์เอ็มเอส มอร์ทาเนีย (RMS Mauretania) ที่ต่อขึ้นในอู่ต่อเรือ Tyneside ได้ออกบริการในปีเดียวกัน เป็นเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลกแทน RMS Lusitania ทั้งคู่มีขนาดใหญ่กว่า 30,000 ตัน

แล่นด้วยความบริการ 24 นอต (44.448 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เป็นเรือแฝดรุ่นใหม่ของคูนาร์ด ล้ำหน้ากว่าเรือ 4 ลำของไวต์สตาร์ ทั้งด้านความเร็ว และขนาด


เรือตระกูลโอลิมปิก (Olympic class ships)

อาร์เอ็มเอส ไททานิก (RMS Titanic) ใน ค.ศ. 1907 หรือปีที่เรือแฝดคูนาร์ดออกบริการนั่นเอง บุคคลสำคัญของสายการเดินเรือไวต์สตาร์ ได้ร่วมจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำที่บ้าน downshire Belgrave Square ในกรุงลอนดอน เพื่อร่วมกันคิดรูปแบบเรือลำที่ดีกว่าเรือแฝดคู่นั้น

หลัง RMS Mauretania เป็นเรือโดยสารใหญ่ที่สุดในโลกมาราว 4 ปี เรือลำแรกในโครงการต่อเรือ 3 ลำของไวต์สตาร์ไลน์ (เป็นการต่อเรือขนาดใหญ่ 3 ใบเถา เน้นรูปแบบการบริการของสายการเดินเรือที่หรูหราเป็นหลักความเร็วเป็นรอง) ชื่อ อาร์เอ็มเอส โอลิมปิก (RMS Olympic)

สร้างเสร็จใน ค.ศ. 1911 มีขนาดใหญ่กว่าเรือ RMS Mauretania มากกว่า 40% ทำให้กลายเป็นเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก และต่อมา เรือลำที่สองในโครงการ ชื่อ อาร์เอ็มเอส ไททานิก (RMS Titanic) สร้างเสร็จใน ค.ศ. 1912 เป็นเรือโดยสารใหญ่ที่สุดในโลกแทนโอลิมปิก

และเรือลำสุดท้ายของโครงการ ตอนแรกจะใช้ชื่อ อาร์เอ็มเอส ไจแกนติก หรือ อาร์เอ็มเอส ไกแกนติก (RMS Gigantic) แต่ว่า มันสร้างเสร็จใน ค.ศ. 1914 ภายหลังการล่มของไททานิก ส่งผลให้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น อาร์เอ็มเอส บริแทนนิก (RMS Britannic)

ในการออกแบบขั้นต้นเรือทั้ง 3 ลำมีโครงสร้างคล้ายคลึงกัน และทั้งสามมีขนาดใหญ่กว่าเรือแฝดของคูนาร์ด ขับเคลื่อนด้วย 2 ใบจักร 2 เครื่องยนต์กระบอกสูบ แต่ต่อมาเพิ่มเครื่องยนต์เทอร์ไบน์อีกกลายเป็น 3 ใบจักร

เนื่องจากเรือรุ่น 4 ลำก่อนมีเพียง 2 เครื่องยนต์สามารถทำความเร็วได้ต่ำ ในขนาดที่เรือคู่แข่งมี 4 เครื่องยนต์ เรือทั้งสามมีเสากระโดงเรือ 2 หรือ 3 แห่ง ปล่องไฟ 3 ปล่อง แต่ต่อมาเพิ่มเป็น 4 ให้เท่ากับจำนวนปล่องบนเรือ Mauretania และ Lusitania เพื่อให้เรือดูสมดุล (และหลอกว่ามีกำลังขับเคลื่อนสูง)

โดย 3 ปล่องแรกจะไว้ใช้ระบายอากาศจากเครื่องยนต์ แต่ปล่องสุดท้ายไว้ใช้ระบายอากาศภายในเรือ เรือทั้ง 3 มีโครงสร้างเหมือนกันเกือบทั้งหมด รวมทั้งมีขนาดใกล้เคียงกันมาก โอลิมปิกและไททานิกถูกสร้างขึ้นก่อนที่อู่ต่อเรือในเมืองเบลฟาสต์ในไอร์แลนด์เหนืออันเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเรื่องการต่อเรือในยุคนั้น

ต่อมา ใน วันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 เรือไททานิกจมลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ หลังจากกชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง ในการเดินทางครั้งแรก มีผู้รอดชีวิตทั้งสิ้นกว่า 700 คนและมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 คน นับเป็นภัยพิบัติครั้งร้ายแรงครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเดินเรือ


ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

ภายหลังการล่มของไททานิก เรือโอลิมปิกได้รับการปรับปรุงอีกครั้งเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ทำให้เรือโอลิมปิก กลายเป็นเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เรือโอลิมปิก ต้องถูกส่งซ่อมเป็นเวลา 6 เดือน เพราะเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับเรืออีกลำที่ชื่อ HMS Hawke ด้วยสาเหตุที่สรุปออกมาว่ามาจาก ขนาดและความเร็วของเรือ Olympic มีผลทำให้เกิดกระแสน้ำดึงเอาเรือ Hawke เข้าไปทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว

หลังจากการจมของเรือไททานิก ทำให้เรือโอลิมปิก ต้องมีการปรับปรุงขนานใหญ่เพื่อความปลอดภัยเป็นเวลา 6 เดือน เช่นการเพิ่มความแข็งแรงของส่วนล่างของเรือ และที่แน่นอน คือการรวมถึงการเพิ่มเรือชูชีพเข้าไปอีกด้วย

ต่อมา สายการเดินเรือฮาเป็ก (Hapag หรือ Hamburg Amerika Line) จากเยอรมนี ได้สร้างเรือ เอสเอส อิมเพอเรเตอร์ (SS Imperator) (ต่อมาเป็น RMS Berengaria ของสายการเดินเรือคูนาร์ด) สร้างเสร็จใน ค.ศ. 1912 เป็นเรือลำแรกในโครงการต่อเรือ 3 ลำ SS Imperator ใหญ่กว่าเรือโอลิมปิก

ในปี 1914 (2 ปีกว่าหลังเรือไททานิกจม) เรือโอลิมปิกได้ถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นเรือรบเพื่อเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 และเปลี่ยนชื่อเป็น เอชเอ็มที โอลิมปิก (HMT Olympic) และอยู่รอดจนจบสงคราม และถูกนำกับมาใช้เป็นเรือโดยสารเหมือนเดิมในปี 1920

กระทั่งในปี 1935 เรือได้เดินทางขนส่งผู้โดนสารเป็นเที่ยวสุดท้ายแล้วกลับเข้าอู่เรือในเมืองเซาท์แธมตัน ประเทศอังกฤษ (Southampton, England) และถูกขายต่อให้บริษัทอุตสาหกรรมโลหะ และถูกแยกชิ้นในปี 1937 นับว่าเป็นเรือลำเดียวจากเรือคู่แฝด 3 ลำที่หมดอายุการใช้งานบนบก

เรือ อาร์เอ็มเอส บริแทนนิก (RMS Britannic) โดยคาดว่าจะใช้รับส่งผู้โดยสารเพื่อข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ก็เป็นแค่ความฝันเพราะตรงกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 พอดี ส่งผลให้ใน ค.ศ. 1915 มันถูกเปลี่ยนจากเรือสำราญเป็นเรือพยาบาล รับ-ส่ง ทหารในต่างแดนในคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน แทน

และเปลี่ยนชื่อเป็น เอชเอ็มเอชเอส บริแทนนิก (HMHS Britannic) แม้บริแทนนิกจะใหญ่กว่าไททานิกกว่า 1,800 ตัน แต่บริแทนนิก ไม่มีโอกาสได้เป็นเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะสายการเดินเรือฮาเป็ก (HAPAG หรือ Hamburg Amerika Line) จากเยอรมนี ได้สร้างเรือ SS Imperator ที่ใหญ่กว่าบริแทนนิก เสร็จก่อนบริแทนนิก

แต่เป็นที่น่าเศร้าเพราะในปี 1916 เรือได้อัปปางลงในทะเลอีเจียน เนื่องจากโดนทุ่นระเบิดจากเรือดำน้ำฝ่ายเยอรมัน ที่ยังหลงเหลือจากการกู้ระเบิดในเส้นทางดังกล่าว จึงส่งผลให้เรือเสียหายหนักและจมลงในระยะเวลา 55 นาที หลังการเดินทางเพียง 6 ครั้ง เท่านั้น


จุดจบของไวต์สตาร์ไลน์

ต่อมา สายการเดินเรือไวต์สตาร์สร้างเรือ อาร์เอ็มเอส โอเชียนิก (RMS Oceanic) แต่สร้างไม่เสร็จ และต่อมา สายการเดินเรือไวต์สตาร์ได้หันมาสร้างเรือที่เล็กกว่า คือเรือ อาร์เอ็มเอส จอร์จิก (RMS Georgic) หรือ เอ็มวี จอร์จิก (MV Georgic) และ เรือ อาร์เอ็มเอส บริแทนนิก (RMS Britannic) (ค.ศ. 1929) หรือ เอ็มวี บริแทนนิก (MV Britannic)

สายการเดินเรือไวต์สตาร์ ได้ซื้อ SS Bismarck และเปลี่ยนชื่อ เป็น RMS Majestic

เรือ เอสเอส นอร์มองดี (SS Normandie) ของสายการเดินเรือ Compagnie Générale Transatlantique หรือ French Line (สายการเดินเรือของฝรั่งเศส) กลายเป็นเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลกแทน Majestic

ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1934, สายการเดินเรือไวต์สตาร์ได้รวมตัวกับสายการเดินเรือคูนาร์ด เพราะภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ และกลายเป็น บริษัทสายการเดินเรือคูนาร์ดไวต์สตาร์จำกัด (Cunard White Star Limited)


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


สิริสวัสดิ์จันทรวาร สิริมานรมณีย์นะคะ



Create Date : 17 มกราคม 2554
Last Update : 17 มกราคม 2554 11:47:54 น. 0 comments
Counter : 2760 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.