BlogGang.com : : sirivinit : เปตรานคราแต่เบื้องบุรพกาลปานเทพสรรค์ นาบาเทียนร่วมช่วยกันสร้างสรรค์ขึ้น

เปตรานคราแต่เบื้องบุรพกาลปานเทพสรรค์ นาบาเทียนร่วมช่วยกันสร้างสรรค์ขึ้น

อาคารที่ใหญ่ที่สุดในนครเปตรา

วิหารใหญ่ในเมืองเปตรา

นครเปตรา (πέτρα) คือนครหินแกะสลักโบราณที่ซ่อนตัวอย่างลึกลับในหุบเขาวาดี มูซา หุบเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบเดดซีกับทะเลอัคบาในประเทศจอร์แดน

นครนี้แต่เดิมนั้นเป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี จนเมื่อมีนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ลุควิก บวร์กฮาร์ท เดินทางผ่านมาพบเห็นเข้าเมื่อปี พ.ศ. 2355 (ค.ศ. 1812)

นครเปตราได้รับลงทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดยกล่าวอธิบายไว้ว่า "เป็นหนึ่งในสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งมวลมนุษยชาติ" (one of the most precious cultural properties of man's cultural heritage)

ปัจจุบันสามารถเดินทางเข้าไปโดยอาศัยม้าเท่านั้น

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 นครเปตราได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ของโลก จากการลงคะแนนทั่วโลกทั้งทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ

ประวัติ

ก่อตั้งและเจริญรุ่งเรือง

ชนกลุ่มแรกที่เดินทางเข้ามาสู่เปตราคือพวกเอโดไมต์ ซึ่งเข้ามาราวปี 1000 ปีก่อนคริสตกาล แต่ชนชาติที่สร้างเมืองเปตราขึ้นมานั้นคือชาวนาบาเทียน (Nabataeans) ในช่วงศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล ซึ่งแต่เดิมเป็นเพียงชนเผ่าเร่ร่อนในทะเลทรายอาหรับ

คนกลุ่มนี้สกัดผาหินทรายเป็นบ้านเรือนและอาศัยอยู่ในถ้ำทีมีอยู่ทั่วเมือง พวกเขามีอาชีพเป็นคนเลี้ยงแกะ แต่เปลี่ยนมาค้าขายและรับจ้างเป็นยามรักษาความปลอดภัยให้แก่กองคาราวาน

คนเผ่านี้มีความซื่อสัตย์ ค่าธรรมเนียมผ่านทางที่เรียกเก็บจากผู้สัญจรก็ช่วยให้พวกนาบาเทียนมีชีวิตที่รุ่งเรื่องขึ้น

สาเหตุที่เปตราตั้งอยู่บนดินแดนอันแห้งแล้ง มีแต่หินกับทรายนั้นก็น่าจะเพราะเปตราตั้งอยู่เส้นทางการค้าสำคัญที่สุดของโลกในขณะนั้น 2 สาย

ได้แก่เส้นทางสายสายตะวันออก - สายตะวันตก คาบสมุทรอาหรับกับอ่าวเปอร์เซีย จนถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และสายสายเหนือ - ใต้ ที่เชื่อมทะเลแดงกับ กรุงดามัสกัส ซีเรีย

นอกจากนั้นเมืองนี้ยังมีแหล่งน้ำจืดสำคัญซึ่งต่อมาเรียกกันว่า วาดี มูซา หรือ หุบเขาโมเสส ซึ่งเล่ากันว่าเป็นน้ำที่ได้เมื่อโมเสสเสกออกมาเพื่อให้ชาวยิวได้กินแก้กระหาย

เหล่าพ่อค้าหรือนักเดินทางที่เดินทางผ่านทะเลทรายอันว่างเปล่าและแห้งแล้งใกล้เคียงนั้นไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากมุ่งมาที่เมืองเปตราอย่างเดียว

เปตราเป็นศูนย์กลางค้าขนาดใหญ่ จนทำให้นักเดินทางชาวกรีกมักนำเรื่องความมั่งคั่งมาเล่าให้ฟัง ตามบันทึกของสตราโบ นักภูมิศาสตร์ชาวกรีกได้อธิบายไว้ว่า

เมืองเปตราเป็นตลาดซื้อสินค้าสำคัญที่สุดของโลกตะวันออก ยางไม้หอม กำยาน เครื่องเทศของชาวอาหรับ ทองแดง เหล็ก เครื่องปั้นดินเผา รูปปั้น

ผ้าย้อมของชาวฟินิเซียนล้วนถูกลำเลียงผ่านเมืองเปตราไปสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และชาวเปอร์เซีย

เปตราเจริญถึงขีดสูงสุดในช่วง 50 ปีก่อนคริสตกาล จนถึงคริสต์ศักราชที่ 70 ในช่วงเวลานี้เปตราถูกปกครองด้วยกษัตริย์นาม อารีตัสที่ 4 (Aretas IV)

ผู้ที่ชาวกรีกยกย่องให้ว่า ฟิโลเดมอส (Philodemos) ซึ่งแปลว่า ผู้รักประชาชน และด้วยความมั้งคั่ง ความเป็นเมืองที่อยู่ห่างไกล และชัยภูมิอันจากแก่การพิชิต จึงทำให้เมืองมีโอกาสเจริญเติบโตได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องกลัวศัตรูจากภายนอก

ชาวเปตรานับถือเทพเจ้าสององค์คือ เทพดูซาเรส (Dushares) เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ และเทพอัลอัซซา (Al Uzza) ชายาของเทพดูซาเรส เทวีแห่งน้ำ

การล่มสลาย

ด้วยเหตุที่เกิดเมืองใหม่และเส้นทางค้าขายใหม่ที่ปลอดภัยและสะดวกกว่าในช่วงเวลาต่อมา เปตราที่เคยเจริญรุ่งเรืองด้วยการค้าก็เริ่มสูญเสียอำนาจลง เมืองอ่อนแอและถูกต่างชาติโจมตีเข้าได้ง่าย

เมื่อถึงปี พ.ศ. 649 (ค.ศ. 106) พวกโรมันนำโดยจักรพรรดิทราจัน หรือ ไทรอะนุส (Traianus) ได้เข้ายึดครองเปตราและผนวกนครนี้เข้าเป็นจังหวัดในจักรวรรดิโรมัน

แต่เปตราก็ยังคงดำรงอยู่เรื่อยมาจนถึงราวปี ค.ศ. 300 เมื่อจักรวรรดิโรมันเริ่มคลอนแคลน ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 906 (ค.ศ. 363) แผ่นดินไหวก็ได้ทำลายอาคารและระบบชลประทานที่ถือว่าดีมากของเมืองลง

ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 เปตรากลายเป็นที่ตั้งคริสต์ศาสนามณฑลของบิชอป แล้วถูกมุสลิมยึดในคริสต์ศตวรรษที่ 7 แล้วก็เสื่อมถอยมาเรื่อยๆ จนลบเลือนหายไปจากผู้คน

การค้นพบ

ถึงแม้ซากเมืองเปตราจะเป็นสิ่งที่น่าอยากรู้อยากเห็นของผู้คนในช่วงยุคกลาง เช่นมีสุลต่านไบบารส์ (Sultan Baibars) ของอียิปต์ เดินทางเข้าไปเยี่ยมชมในช่วงก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 13

แต่การค้นพบเปตราที่นำไปสู่การเปิดเผยต่อสายตาชาวโลกเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ เมื่อปี พ.ศ. 2355 (ค.ศ. 1812) เมื่อมีนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ลุควิก บวร์กฮาร์ท (Johann Ludwig Burckhardt)

ซึ่งกำลังเดินทางจากจอร์แดนไปอียิปต์เพื่อไปศึกษาถึงแหล่งที่เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำไนล์ บวร์กฮาร์ทได้เห็นด้านหน้าอันใหญ่โตของเปตรา แต่ผู้นำทางท้องถิ่นสั่งห้ามมิให้เขาลงไปทำอะไรที่นั่น

บวร์กฮาร์ทจึงแอบบันทึกย่อไว้ขณะที่อูฐเดินผ่าน ถึงแม้จะเป็นเพียงบันทึกเล็กๆ คร่าวๆ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เปิดเมืองสู่สายตาชาวโลก

ต่อมาในปี พ.ศ. 2369 (ค.ศ. 1826) เลออง เดอ ลาบอร์ด (Leon de Laborde) ชาวฝรั่งเศสที่ได้เดินทางเข้าไปสำรวจเมืองและเขียนหนังสือออกมาเล่มหนึ่งชื่อว่า "Voyage de I' Arabir Petree" แปลว่า "การเดินทางในเปตราแห่งอาหรับ" (ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2373)

ซึ่งการเขียนหนังสือครั้งนี้ถือเป็นการนำภาพและความรู้ต่างๆที่ชาวโลกไม่เคยเห็นมาเปิดเผยให้ได้รับรู้

การสำรวจทางโบราณคดีเริ่มขึ้นในช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงดำเนินการสำรวจอยู่

มรดกโลก

เปตราได้รับลงทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 9 เมื่อปี พ.ศ. 2528 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังต่อไปนี้

(i) - เป็นตัวแทนที่แสดงถึงผลงานชิ้นเอกทีได้ถูกจัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันแสนฉลาด

(iii) - เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว

(iv) - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนาทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อาทิตยวารสิริวิบูลย์ รัศมิสูรย์ส่องจำรูญประภัสสร์นะคะ

Create Date : 31 มกราคม 2553

Last Update : 31 มกราคม 2553 3:46:20 น.

24 comments

Counter : 2027 Pageviews.

สวัสดีครับ

โดย: หนูหล่อ (nulaw.m

) วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:3:58:54 น.

มาแทนน้องเปิ้ลครับ พอดีอยู่ที่บ้านเธอ

เดี๋ยวมาอ่านบ้างครับ

โดย: หนูหล่อ (nulaw.m

) วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:4:03:16 น.

โดย: Suessapple

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:4:12:02 น.

คุณวิจ๋า..
มาช้านิดนุง มัวเข้าไปยูทู๊ปไปดูซีรี่เกาหลีมาจ้า
...
แต่พี่หนูหล่อเป็นตัวแทนมาเจิมให้แล้วนะคะ อิ อิ
ขอบคุณพี่หนูหล่อค่ะ

โดย: Suessapple

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:4:13:47 น.

คุณวิจ๋า...
อ่านเรื่องนี้แล้ว เรานึกถึงเรื่องอินเดียน หน้าโจร ขึ้นมาเลยค่ะ
เพราะมีอยู่ตอนนึงที่เค้าไปถ่ายทำที่เมืองเปตรานี่
...
เป็นเมืองหนึ่งที่เราอยากไปเยือนมากๆๆๆๆ อยากไปเดินถ่ายรูป
อยากไปดูให้เห็นกับตา อิ อิ
....
รักและคิดถึงคุณวิมากๆนะคะ จุ๊บๆๆๆๆ

โดย: Suessapple

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:4:19:01 น.

น้องตัวนี้ก็น่ารักดีค่ะคุณวิ

โดย: Suessapple

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:4:29:21 น.

พี่หนูหล่อน่ารักมากๆค่ะคุณวิ
รีบมาเจิมให้
....
แหมพูดเรื่องผู้ชายไม่ผิดวิสัยหญิงหรอกค่ะ เพราะพวกเราต้องแก้แค้น พวกผู้ชายเค้าก็พูดกันแต่เรื่องของพวกเราค่ะคุณวิ
....
พระเอกเกาหลีเรารุ้จักไม่กี่คนหรอกค่ะคุณวิ ก็เด็กหลังเขาอ่ะค่ะ ที่นี่หาหนังเกาหลีดูยาก คนที่เราชอบเราก็ไม่รุ้จักชื่อ ฮ่าๆๆๆ เราเป้นคนจำชื่เกาหลีไม่ค่อยได้ มันเรียกยากมากๆค่ะ
...
ท่าทางคุณวิจะชอบหนุ่มๆสูงๆขาวๆนะคะ หน้าตี๋ๆด้วยเปล่าคะ อิ อิ
....

โดย: Suessapple

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:4:42:40 น.

กรี๊ดดดดด
พระเอกหนังอินเดียชอบชาร์รุก ข่าน
ฮ่าๆๆๆ จำได้ชื่อเดียว
วันก่อนไปร้านหนังสือ ไปยืนดูหนังสือประวัติคุณข่าน
คนไรมะรุ้ หล่อตั้งแต่หนุ่มยันเดี๋ยวนี้เลยยย ฮ่าๆๆๆๆ
....
อายจัง คุยแต่เรื่องปู้ชาย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

โดย: Suessapple

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:4:46:21 น.

มาใหม่ เราลืมบอกคุณวิไปว่าน้องโม เราไปแฮบมาจากบ้านคุณญามี่น่ะค่ะ

โดย: Suessapple

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:4:47:48 น.

คุณวิจ๋า..
มายเกิร์ลนี่ Sassy ใช่เปล่าคะ ถ้าใช่เราดูแล้วค่ะ ชอบเพลงในเรื่องนี้มากๆเลย เพลงเพราะมาก
...
เกรงใจคุณวิค่ะคุณวิอยู่ถึงออสเตรเลีย ถ้าส่งมามันไกลมากๆค่ะ แต่เอาเป็นว่า เราส่งที่อยู่ให้คุณวิไว้เป็นที่ระลึกนะคะ..ที่หลังไมท์ค่ะคุณวิ

โดย: Suessapple

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:5:24:23 น.

สวัสดียามเช้าครับน้องวิ

พีเ่ปิ้ลกลายเป็นเจ้าแม่อีโมชั่นไปแล้วนะครับ 5555

ขอให้มีความสุขกับการทำบุญนะครับ

เดี๋ยวสายๆป้อนข้าวเสร็จ
จะพาหมิงหมิงไปเรียนครับ

วันนี้พี่ก๋าหยุด
เข้ามาอีกทีไม่รู้เป็นตอนค่ำๆรึเปล่านะครับ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:6:47:20 น.

เป็นที่ที่อยากไปมากกกกกจ๊ะ

โดย: อุ้มสี

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:7:19:44 น.

สวัสดีในวันสีแดงครับ คุณวิฯ

จากบล็อก... มิได้อยู่ฝ่ายเหลืองหรอกรึ

มีความสุขกับการพักผ่อน รักษาสุขภาพ นะครับ

โดย: เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:8:27:47 น.

สวัสดีตอนเช้าค่ะน้องวิ เม้นท์ไม่ได้เหรอคะ ไม่รู้ว่าทำไมค่ะ

โดย: redclick

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:9:08:20 น.

เป็นวิหารที่ดูศักดิ์สิทธิ์และสวยงามมากกกกกกก

โดย: ถุงก๊อปแก๊ป

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:9:40:06 น.

เคยดูในรายการของคุณนวัฒน์ อิสระไกรสี น่ะครับ แปลกและสวยดี

โดย: pooktoon

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:16:34:14 น.

เชื่อแล้วครับว่าเป็นลิเกเ่ก่า

โดย: มะโรง

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:19:11:01 น.

สุริยงคสายัณหสมัยสวัสดิ์ค่ะพี่ก๋าขา

พี่ก๋าบอกว่า "ขอให้มีความสุขกับการทำบุญ..."

ก็สุขบ้าง ไม่สุขบ้าง และท่าจะได้บาปซะมากกว่าค่ะ...
วันนี้อยู่วัดนานกว่าสองปีก่อน และเป็นการไปวัดที่ต่างกัน สองปีก่อน ไปงานวัด "วันเฉลิมฯ สมเด็จฯ"

วันนั้นคนมาก.. ทำพิธีในโบสถ์ พระเจ้าอร่ามเรืองในผ้าเหลืองดูขรึมขลัง เสร็จกิจสงฆ์ ฆราวาสก็เจี๊ยะ ผู้คนเอื้อเฟื้อมาก เรานำแต่อาหารแห้งไปถวาย ได้พริกป่น ที่ละเอียดราวกับแป้งสีแดงอมส้มจากญี่ปุ่นถวายพระด้วย...หลายซอง นึกอิ่มเอมบุญในใจว่า...พระท่านจะได้เผ็ดถึงใจ...

ดังคุณยายเล่าว่า ไปทำบุญกับหลวงปู่หลุยส์ จันทสาโร ท่านมาโปรด..พักอยู่ที่พักพระ กม. 25 เป็นที่ซึ่ง พล.อ.อ.โพยม เย็นสุดใจสร้างถวาย...

วันนั้นมีน้ำพริกปลาร้าแซ่บๆ เผ็ดๆ พี่นีปรุงอย่างสุดฝีมือ ผักสดผักลวกสำหรับจิ้มมากมาย...ไปถวายด้วย พร้อมกับข้าวอื่นอีก 3 อย่าง...

คุณหญิงคุณนาย ลูกศิษย์ลูกหามากมายหลายหลาก..ท่านเจ้าคะ.. ท่านเจ้าขา..กันเซ็งแซ่ กราบเรียนหลวงปู่ว่านำสิ่งนั้นๆ มา...

คุณตาคุณยาย นั่งอยู่สงบๆ หลวงปู่ก็ทักว่า "อ้าว...ท่าน...มาคุยกันหน่อยซี" คุณตาคุณยายจึงเข้าไปใกล้ๆ กราบนมัสการว่า มีน้ำพริกปลาร้ามาถวายพระคุณท่าน..."

พระเลขา...ก็ยกปิ่นโตเถายักษ์ของคุณยายไปไว้ตรงหน้าหลวงปู่ แล้วยกชั้นปิ่นโตออกจากเถา..."กลิ่นอันอุยฮุย..."ตามที่คุณทวดเรียก ก็ตรลบอบอวลไปทั้งห้องนั้น...

ไม่อยากจะบอกเลยว่า...หลวงปู่ฉันน้ำพริกปลาร้า...แทบจะอย่างเดียว...555

วันนี้ที่วัด เป็นวันแรกที่เปิดเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ มีสอนนั่งวิปัสนา สอนภาษาไทย กิริยามารยาทไทย รำไทย ฯลฯ

พระท่านว่ามีนักเรียน 21 คน รวมทั้ง "เจ้าตัวเล็ก" ที่วิเคยเล่าว่า... ร้องนางช้าง...หลายโขลงเห่กล่อมในอ้อมแขนกว่าจะหลับ...ด้วย

ท่านเจ้าอาวาส พระหนุ่ม อัธยาศัยดี สังเกตุจากเสร็จกิจแล้ว ท่านเดินทักผู้คน และ "เขยฝรั่ง" ทั้งหลาย..ท่าน ป.ธ.9 นะคะ

พระองค์แรกที่เดินออกมาทักพวกเรา ท่าน ป.ธ.6 มาจากวัดพระปฐมเจดีย์ นี่ก็คุยยืดยาว เราซักท่านตอบ วิเห็นพระ 4 รูป...ก็ชื่นใจว่า พระหนุ่ม มีความรู้ มีจิตเมตตา มาเผยแผ่พระพุทธศาสนา ยังคนให้อยู่เย็น ยังโลกให้อุ่นชื่น...

แล้วจบเปรียญธรรม 9 นี่สุดยอดแล้ว องค์ที่จบประโยค 6 ก็ยังหนุ่มกว่า ท่าจะเรียนจนจบได้ในอนาคต...

ตรงพระนี้ดี ....

อีกองค์พาญาติโยมเข้าสู่พิธีการ ท่านขาเสียนิดหน่อย เดินกระเผลก ก็พูดดี...
วิพอใจในวัตรปฏิบัติของสงฆ์

แต่...ไม่พอใจคน...
เอาไว้ในใจนะคะ พอขึ้นรถกลับบ้านออกพ้นเขตวัดแล้วเราจึงคุยกันเรื่องนี้ค่ะ

พี่ก๋ามีลูกสาวเมื่อใด...อย่าให้ทำดังนี้เวลาไปวัด ไม่ว่านอกหรือในประเทศ..นะคะ...

นุ่งกางเกงยีนส์เก่าๆ ขากว้างนิดนึงชายรุ่ยยาวสักคืบ...และเสื้อสายเดี่ยวตัวจิ๋วสั้นรัดรึงทรวดทรง...

นุ่งกางเกงยืดขาวฟิตเปรี๊ยะแค่เข่า ใส่เสื้อยืดดำฟิตเปรี๊ยะแขนเว้าเข้าไปจรดคอ โชว์ไหล่....

ใส่เสื้อคอแหลมลึก...ไหล่ล้ำ...ก้มลงไหว้พระ ให้ทรวงอกออกมาสวัสดีหลวงพี่ด้วย...ใส่เสื้อแบบที่ว่าหลายคน ท่าจะเป็นที่นิยมของคนแถวนี้แฮะ...

สงสารพระ...พระหนุ่มๆ ทั้งนั้น ท่านต้องปลงอาบัติ นานสักเพียงใดใน 1 วัน...หนอ

555...แม่ชีวิบ่นจบแล้ว จะลาไปสวดมนต์ต่อละค่ะ สี่ทุ่มครึ่งแล้วค่ะ กลับมานานแล้ว แต่ฝนตกแฉ่ๆ ทังวัน เป็นพักๆ เลยไม่ค่อยสบายตัว ถูกละอองฝนนิดนึง หลับไปตื่นนึง ลุกอาบน้ำทานข้าว แล้วก็มาคุยนี่แหละค่ะ

วันนี้ชื่อว่า วัดไทยพุทธาราม นครบริสเบน 1 Paradise Road FORESTDALE Queensland

17 เม.ย.นี้ มีเทศน์มหาชาติ
18 เม.ย.ทำบุญสรงน้ำพระวันสงกรานต์ค่ะ

ของฝากพี่ก๋าวันนี้....
...นาคารชุนถือคติว่า “เมื่อไม่มีแผลบนฝ่ามือ ยาพิษก็ไม่สามารถซึมซาบเข้าไปได้”

สิริสวัสดิ์อาทิตยวาร ปรีดิ์มานรมเยศนะคะพี่ก๋า

โดย: sirivinit

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:19:43:38 น.

กรี้ดดดดด....จอร์แดน
อยากไปมากกกค่ะคุณวิ
มีโลเคชั่นสวยๆเพียบเลยนะคะ
คลาสสิกมากกก...

ปล1 ไม่รู้เป็นไง เดี๋ยวนี้อยากไปประเทศที่เป็นทะเลทรายบ้าง..
โดยเฉพราะจอร์แดนนี่..

ปล2 มาส่งคุณวิเข้านอนค่ะ..
ใช่เปล่าหว่า..คิ คิ...

โดย: ตัวp_box

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:20:28:19 น.

พี่ก๋านึกถึงเรื่องนึง
คุณนายทำอาหารมากมายมาถวายหลวงพ่อ
เสร็จแล้วท่านก็เอาทั้งหมดมาผสมรวมกันในบาตรครับ 555
ทั้งอาหารคาวและหวาน
ขยีขยำรวมกัน
แล้วท่านก็ทานอย่างสำรวมจนหมด

ก็ปล่อยวาง
แล้วจะไปยึดติดทำไมกับรสชาติ

เรากินเพื่ออยู่
หรืออยู่เพื่อกิน

กินๆถ่ายๆกันอยู่อย่างนี้ล่ะครับ

สาวๆเดี๋ยวนี้ใส่ชุดเป็นอาหารตาครับ
แจกทานด้วยการนุ่งน้อยห่มน้อย
พี่ก๋าก็ชอบดูครับ
แต่ก็ได้แต่ดูนะครับ 5555
พระท่านจะเป็นยังไงน้อ

“เมื่อไม่มีแผลบนฝ่ามือ
ยาพิษก็ไม่สามารถซึมซาบเข้าไปได้”

คมคายมากเลยครับน้องวิ

อ่านจบแล้วนึกถึงท่านหุ่ยเขอ
ศิษย์คนแรกของท่านตั๊กม้อ
ที่ยอมตัดแขนตัวเองทิ้ง
เพื่อพิสูจน์ความมุ่งมั่นในการเข้าถึงธรรม

ถ้าไม่มีแขน
ยาพิษจะซึมซาบลงไปในฝ่ามือใดได้อีก

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:20:31:37 น.

หุหุหุ

พี่ก๋าน่ะมึนมากเลยครับ
เมื่อคืนนอนตีสองตื่น 6 โมงเช้ามาอัพบล้อก
วันนี้ก็เล่นกับหมิงหมิงทั้งวันครับ

เจ้าตัวน่ะหลับไปตั้งแต่ทุ่ม
แต่พี่ก๋ายังนั่งทำนู่นนั่นนี่เกี่ยวกับบล็อกอยู่เลยครับ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:20:59:51 น.

วันนี้ครูเรดฯ ออกไปข้างนอกเหมือนกันค่ะ สบายดีค่า วันนี้ทำต้มยำปลา แซ่บมากค่ะ

โดย: redclick

วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:21:43:22 น.

คุณวิจ๋า...
เราไม่มาเม้นท์เพราะรอๆว่าจะเม้นท์ในบล๊อคใหม่ของคุณวิน่ะค่ะ
ปรากฎว่าคุณวิไม่อัพ อิอิ อดเลยย
...
งั้นมาคุยที่นี่ก็ได้นะคะ
อ่านเรื่องราวไปทำบุญที่วัดของคุณวิแล้ว เหมือนเราได้ตามไปทำบุญด้วยเลยค่ะ
เหมือนเราได้นั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่ข้างหลังท่านผู้เฒ่าในศาลาวัดเลย
....
ที่นี่วัดไทยอยู่ไกลบ้านเรามากค่ะ ครั้งสุดท้ายที่เราไปวัด ก็ตอนไปทำบุญวันเกิดค่ะ
วนนั้นโชคดีมากๆที่ท่านเจ้าอาวาสออกมารับสังฆทานเองเลย
ตอนหลังถึงมารู้ว่าท่านเป็นถึง พระเทพ ตำแหน่งพระที่สูงมาก
....
ท่านก็ได้พูดคุยเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับวัดให้เราฟัง และยังให้พระหนึ่งรูปนำเราชมวัด พร้อมทั้งอธิบายเรื่องราวภาพวาดภายในโบสถ์
....
เรื่องการแต่งตัวของผู้หญิงที่ไปวัดนี่
เราว่าควรจะแต่งตัวให้เรียบร้อยจริงๆด้วยค่ะ เราไปวัดทีไรเราจะนุ่งเดรสยาว เอาแบบนั่งได้สบายๆ ไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยนมาก เราไม่ชอบนุ่งกางเกงเข้าวัดค่ะ ไม่รู้เป็นไร คงเป็นเพราะรู้สึกว่าเวลานั่งพับเพียบแล้วมันไม่ค่อยถนัดมั๊งคะ
...
คราวหลังคุณวิไปไหนมา อย่าลืมมาเล่าให้เพื่อนรักฟังบ้างนะคะ
ในโลกแห่งความเป้นจริง เราก็ชอบฟังเพื่อนๆเล่าไรต่ออะไรให้ฟัง
จริงๆแล้วเราคุยไม่เก่งเลย
ชอบเป็นผู้ฟังมากกว่าค่ะ
....
มีความสุขมากๆนะคะคุณวิ
วันนี้ทำงานเหนื่อยมั๊ยคะ
เป็นห่วงนะคะ

โดย: Suessapple

วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:3:51:05 น.

ครูเรดไม่ต้องบรรยายน้องบรรยายเองซะเห็นภาพชัดเจนค่ะ ปลาช่อนจริงๆ ด้วยตัวเล็กๆ เท่าแขนกำลังดีค่ะ เนื้อไม่เหนียว ช่วงนี้ใบแต้วอ่อนเยอะ อ้อ มีดอกด้วย ต้มไว้หม้อใหญ่เชียวค่ะ ตอนนี้เนื้อปลาหมดแล้ว แต่มีน้ำเหลืออยู่ ตอนเช้าว่าจะเจียวไข่ใส่ลงไป เป็นต้มยำไข่เจียว

ยั่วน้ำลายตั้งแต่เช้าๆ

โดย: redclick

วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:3:51:59 น.