"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
13 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 

แนะนำเรื่องสั้นของเจียวต้าย ชุดเรื่องธรรมดาของคนธรรมดา .. บุญรักษา




เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา

บุญรักษา

"เพทาย"




ผมเคยเล่ามาหลายครั้งว่า ผมตั้งใจจะทำบุญในวันสำคัญทางพุทธศาสนา ซึ่งปีหนึ่งมีอยู่เพียงสี่วัน รู้สึกว่าจะน้อยไป จึงเพิ่มเป็นวันอาทิตย์ที่ว่างจากธุระงานการ ก็ได้เพิ่มมาอีกหลายวัน มาปีนี้คิดจะเพิ่มในวันเกิดด้วย คือวันพฤหัสบดี แต่คราวนี้มักจะลืม ก็ไม่เป็นไรอีกหน่อยก็ชินไปเอง เขาว่าอย่างนั้น

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓๑ พฤษภาคม ปีนี้ เป็นวันวิสาขบูชา จึงไปวัดชลประทานรังสฤษดิ์ ปากเกร็ด แต่เช้า ซึ่งเวลา ๐๙.๐๐ น. จะมีการสวดมนต์แปลตามแบบของคณะธรรมทาน สวนโมกขพลาราม

ในคำสวดมนต์ทำวัตรเช้านั้น ผมชอบอยู่บทหนึ่ง ซึ่งมีคำแปลว่า

มนุษย์เป็นอันมาก เมื่อเกิดมีภัยคุกคามแล้ว
ก็ถือเอาภูเขาบ้าง ป่าไม้บ้าง อาราม และรุกขเจดีย์บ้าง เป็นสรณะ
นั่นมิใช่สรณะอันเกษมเลย นั่นมิใช่สรณะอันสูงสุด
เขาอาศัยสรณะนั้นแล้ว ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

ส่วนผู้ใดถือเอา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะแล้ว
เห็นอริยสัจ คือความจริงอันประเสริฐสี่ ด้วยปัญญาอันชอบ
คือเห็นความทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความก้าวล่วงทุกข์เสียได้
และหนทางอันมีองค์แปดอันประเสริฐ เครื่องถึงความระงับทุกข์

นั่นแหละ เป็นสรณะอันเกษม นั่น เป็นสรณะอันสูงสุด
เขาอาศัยสรณะนั่นแล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้.

จบแล้วมีพระสงฆ์มาแสดงปาฐกถาธรรม แทนหลวงพ่อปัญญานันทะหรือพระพรหมมังคลาจารย์ ซึ่งไปปฏิบัติภารกิจนอกวัด ความจริงท่านปัญญานันทะนี้ เราเรียกหลวงพ่อติดปากกันมาสี่สิบกว่าปี คนหนุ่มคนสาวในปัจจุบันน่าจะเรียกหลวงปู่ได้ เพราะท่านก็ได้มีอายุครบ ๙๖ ปีไปเมื่อ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๐ นี้แล้ว

องค์แสดงธรรมท่านพูดได้ดีมาก ได้ความชัดเจนแจ่มแจ้ง เสียงดังฟังชัด ไม่ช้าหรือเร็วเกินไป พอจะสรุปได้ว่าพระพุทธเจ้าทรงใช้ขันติธรรมความอดทน ในการศึกษาหาความรู้ให้แจ้ง และอดทนในการเผยแพร่ธรรมะ ไม่หวั่นไหวต่อคำติฉินนินทาหรือด่าว่าของผู้ไม่เห็นด้วย หรือผู้ที่อาฆาตมาตร้ายต่อพระองค์แต่อย่างใด

จบแล้วก็มีการตักบาตรพระภิกษุทั้งเก่าใหม่ ที่นั่งอยู่รอบลานหินโค้ง เมื่อถึงเวลาเพลก็มีผู้นำสมาทานศีลห้า และกล่าวถวายสังฆทาน แล้วพระสงฆ์ทั้งหมดก็ฉันภัตตาหารเพล

ระหว่างนั้นก็จะมีการสวดมนต์แปลอีกคาบหนึ่ง แต่ผมไม่ได้อยู่แล้ว ขออนุญาตกลับก่อนที่พระสงฆ์จะอนุโมทนาเมื่อฉันเสร็จ เพราะเชื่อว่าได้บุญกุศลตามสมควรแล้ว ไม่ต้องรอพระให้พร

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็พยายามระลึกถึงคำสอนที่พระท่านเทศน์ให้ฟังในวันนี้ จิตใจที่เกิดความน้อยใจ คับแค้นใจ ไม่สบายใจ ที่ท่านว่าเป็นทุกข์ ซึ่งได้รับมาเมื่อวานก็ลดลง และเป็นปกติในที่สุด

พอมาถึงวันอาทิตย์ ผมก็ออกจากบ้านแต่เช้าตามเดิม คราวนี้ไปในทิศตรงกันข้ามกับวันวิสาขบูชา มุ่งไปยังวัดที่มีสวนป่าอยู่กลางกรุง แวดล้อมไปด้วยตึกสูงระฟ้าทั้งสามด้าน ส่วนด้านหน้าก็มีรถไฟฟ้าแล่นผ่านอยู่ทุก ๓-๕ นาที ผมชอบนั่งในสวนอันร่มรื่นฟังเสียงเบา ๆ จากลำโพงที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่บริเวณวัด ซึ่งผมเคยได้ฟังเสียงสวดมนต์ของอุบาสกอุบาสิกา และพระธรรมเทศนาของพระสงฆ์ที่นิมนต์มาจากอารามต่าง ๆ

แต่วันนี้เป็นการเล่าประวัติของพระอาจารย์องค์ใดองค์หนึ่ง ที่ผมไม่ทราบชื่อเพราะมาไม่ทันตอนต้น ซึ่งรู้สึกว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอภินิหารมากมาย

ผมจึงลุกขึ้นเอาเงินใส่ตู้บริจาค ที่ตั้งเรียงอยู่สี่ตู้ แล้วก็เดินออกจากสวนนั้น ผ่านสถานที่รับจองวัตถุมงคลที่กำลังเป็นที่นิยมสูงสุดอยู่ในเวลานี้ ไปยังพระอุโบสถ

ผมยืนพนมมืออยู่หน้าพระอุโบสถ เพราะไม่สามารถเข้าไปนั่งคุกเข่าหรือพับเพียบได้ ด้วยความขัดข้องของกระดูกกระเดี้ยวทั้งหลาย พร้อมกับกล่าวเพียงเบา ๆ พอได้ยินเองว่า

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าถือเอาพระธรรมเป็นสรณะ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าถือเอาพระสงฆ์เป็นสรณะ

แล้วก็เดินออกจากประตูกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถ คิดว่าจะไปฉี่ที่สุขาของวัดซึ่งได้ชื่อว่าสะอาดที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ แต่ขณะนั้นมีรถตู้จอดอยู่ ๒-๓ คันและมีพระสงฆ์กำลังเดินมาขึ้นรถ คงจะรับกิจนิมนต์ไปข้างนอก และรถนั้นจอดบังทางที่จะเข้าสุขาอยู่ จึงเดินเลี่ยงจะมุ่งไปออกประตูวัดไปหาที่ปลดทุกข์เอาข้างหน้า

แต่พอผ่านเต๊นท์ที่คงจะจัดนิทรรศการเมื่อวันวิสาขบูชา เห็นมีแผ่นภาพและข้อความติดอยู่จึงเร่เข้าไปดู และไปหยุดสนใจเรื่องประวัติวันวิสาขบูชาในประเทศไทย ซึ่งพรรณามาตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นราชธานี

อ่านไปได้ไม่ถึงครึ่งแผ่น ก็มีเสียงดังโครม และแผงกระดานที่ติดเรื่องราวซึ่งสูงเลยหัวผมนั้น ก็ผงะเอนลงมาจะทับผม ด้วยความตกใจและสัญชาตญาณป้องกันตัว จึงเอามือขวาดันไว้มือเดียว เพราะมือซ้ายหิ้วย่ามประจำตัวค่อนข้างหนักอยู่

แต่ดันอยู่ได้แป๊บเดียวก็ทำท่าจะไม่ไหว จะผลักกลับไปก็ไม่ไหว จึงตัดสินใจปล่อยมือพร้อมกับกระโดด หลบออกมาทางด้านขวา แผงนั้นก็ล้มโครมเฉียดไปนิดเดียวแค่เส้นยาแดงผ่าสิบสอง

ผมมองไปทางด้านหน้าก็เห็นรถตู้คันหนึ่ง กำลังเลื่อนไปข้างหน้า หลังจากที่ถอยอย่างไม่ระวัดระวังจนเข้ามาชนแผงติดตั้งนิทรรศการในเต๊นท์ และเกือบทำให้ผมเจ็บตัวโดยไม่เจตนาเสียแล้ว เมื่อมองตรงเข้าไปในกระจกมองหลังด้านขวา ก็เห็นคนขับกำลังยิ้มอย่างขบขันอยู่ โดยไม่คิดที่จะลงมาดูผลของการกระทำของตน และขอโทษผมผู้เสียหายแต่อย่างใด

ผมเองก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เพราะไม่ได้เจ็บปวดเคล็ดขัดยอกที่ไหน จึงพนมมือขึ้นไหว้ไปบนอากาศ ตั้งใจอโหสิพร้อมกับแผ่เมตตาให้เขา พร้อมกับนึกในใจว่า ที่เคราะห์ดีไม่เจ็บตัวไปมากกว่านี้ ก็คงจะเป็นผลจากการที่ได้ทำบุญทำกุศลมาสองวันนี้เอง

เพราะผมไม่ได้มีวัตถุมงคลติดตัวเลย แม้แต่ชิ้นเดียว.

##########


โดย: เจียวต้าย วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:7:56:31 น.




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2554
7 comments
Last Update : 13 ตุลาคม 2554 9:17:25 น.
Counter : 688 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ


"ส่วนผู้ใดถือเอา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะแล้ว
เห็นอริยสัจ คือความจริงอันประเสริฐสี่ ด้วยปัญญาอันชอบ
คือเห็นความทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความก้าวล่วงทุกข์เสียได้
และหนทางอันมีองค์แปดอันประเสริฐ เครื่องถึงความระงับทุกข์

นั่นแหละ เป็นสรณะอันเกษม นั่น เป็นสรณะอันสูงสุด
เขาอาศัยสรณะนั่นแล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้."

สาธุค่ะ เวลามีสติ ก็จะระลึกได้ทุกอย่าง
ครั้นขาดสติลงคราใด ได้เรื่องทุกทีค่ะ
พยายามจะมีสติ แต่โรคาพยาธิที่เบียนอยู่
ทำให้จิตหดหู่ใจเศร้าหมอง
ตรองอะไรมิได้ ตรึกอะไรมิตก หมกมุ่นแต่พยาธิสภาพ บาปอีกแล้วที่เบียนตนเอง

ควรที่จะต้องไปวัดทุกวัน แต่มันยาก...


"เมื่อมองตรงเข้าไปในกระจกมองหลังด้านขวา ก็เห็นคนขับกำลังยิ้มอย่างขบขันอยู่ โดยไม่คิดที่จะลงมาดูผลของการกระทำของตน และขอโทษผมผู้เสียหายแต่อย่างใด"

นี่คือเปรต ที่นารกส่งมาทดสอบจิตใจพี่ห่อ
ดีนะคะที่ยาแดงผ่าสิบสองสำแดงเดช
หากไม่มีสติกระโดดหลบ จบแล้วค่ะ .. ก็เจ็บน่ะซีคะ
เวไนยสัตว์ ผู้ยกมือขึ้นจบ เมื่อเป ร ต ตนนั้นขยับรถานึกออกไป
มานคงไม่ไปทำอุบาทว์ อัญไร ต่อใครอีกนะคะ

นาถจิตตกอีกแล้ว เอาใหม่ค่ะเอาใหม่ อโสหิ...

 

โดย: นาถ (sirivinit ) 13 ตุลาคม 2554 9:30:38 น.  

 

แบบนี้ซีนะคะ
ที่เขาชักปืนออกมายิงกัน

 

โดย: นาถ (sirivinit ) 13 ตุลาคม 2554 9:34:37 น.  

 




 

โดย: nart (sirivinit ) 13 ตุลาคม 2554 11:54:06 น.  

 




 

โดย: nart (sirivinit ) 13 ตุลาคม 2554 11:54:29 น.  

 

เรื่องที่ผมเอามาเขียนเล่านี้ เป็นเวลาที่ผมเกษียณอานุราชการแล้วเป็นส่วนมาก ซึ่งผมได้ฝึกจิตมานานพอสมควรแล้วครับ

ผมเริ่มเข้าวัดฟังธรรม อ่านหนังสือธรรมะตั้งแต่ประมาณ พ.ศ.๒๕๒๕ เมื่อเกษียณอายุ พ.ศ.๒๕๓๕ ก็พยายามทำแบบฝึกหัด เรื่องระงับความโกรธ ติดต่อกันตลอดมา

และเมื่อเจอเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วผ่านไป และจิตใจสงบแล้วก็ทบทวนว่าเรื่องนี้เราได้คะแนนสักเท่าไร

แล้วก็บันทึกเรื่องนั้นไว้อ่านวันหลัง
บางเรื่องก็ชมเชยตนเองว่า ทำได้ดีมาก บางทีก็พอใช้
ต่อมาอีกถึง พ.ศ.๒๕๔๕ จะถึง ๒๕๕๕ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
การระงับความโกรธ ก็ชำนาญมากขึ้นครับ

หลักของการปฏิบัตินั้น เอามาจากที่ใดบ้างก็ไม่ได้จำแต่เป็นทฤษฎีว่า
เจอเรื่องที่น่าจะโกรธแล้วไม่โกรธได้ กระทำตอบด้วยกิริยาปกติ พูดด้วยถ้อยคำปกติ เป็นดีที่สุด

เจอเรื่องที่โกรธแล้ว ระงับได้โดยเร็วเมื่อรู้สึกตัว เป็นพอใช้ได้

โกรธแล้ว ระงับได้แล้ว แต่ยังหงุดหงิดในใจ ยังไม่พอใช้

เอาหลักนี้มาทดสอบตนเองอยู่ทุกเรื่องครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 13 ตุลาคม 2554 19:38:31 น.  

 

จิตไม่ค่อยดีค่ะ มันตก..จิตตกเรื่อย
บางอย่างก็พยายามรำงับได้
เช่นไม่โกรธ ทำใจเฉยๆ
แต่พยายามนะคะ ไม่ใช่ทำเฉยๆ ได้เลย
ต้องพยายามอีกมากค่ะ

 

โดย: nart (sirivinit ) 13 ตุลาคม 2554 21:22:38 น.  

 

กรุ๊พบล็อกที่ ๒๙

เปิด ... ท่านผู้เฒ่าเล่าเรื่องด้วยภาพงาม แล้วนะคะ

 

โดย: nart (sirivinit ) 13 ตุลาคม 2554 22:14:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.