หลังจากที่วางแผนกันมานาน เรื่องโรงเรียนของเอื้อ
ปรึกษากันว่าจะพาเอื้อไปดูโรงเรียนตอน 2 ขวบครึ่ง จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้เข้าไปคุยกับทางโรงเรียนซะที จนตอนนี้เอื้อก็ปาเข้าไป 2 ขวบ 8 เดือนแล้ว
และแล้วเวลาที่เหมาะสมก็มาถึง...
วันที่ 8 มกราคม 2551
เรา 3 คน พ่อแม่ลูก ไปถึงโรงเรียนปัญโญทัย ในช่วงบ่าย
(
->โรงเรียนปัญโญทัย)
พอไปถึงก็พบกับคุณครูที่ดูแลเรื่องการสมัครเรียน
หลังจากทักทายกันตามธรรมเนียมไทยแล้ว
คำถามแรกก็คือ "ตัดสินใจดีแล้วเหรอคะ?"
ทำเอาแม่อึ้งไปประมาณ 5 วินาที 1...2...3...4...5
(คุณพ่อเอื้อก็ยังไม่มา เพราะต้องเอารถไปจอดไกล)
คุณครูไม่รอคำตอบส่งเอกสารแนวทางของโรงเรียนมาให้ 3 ใบ แล้วก็บอกเพียงสั้น ๆ ว่า"คุณแม่ลองไปศึกษาดูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจนะคะ"
แม่เริ่มเลี้ยวซ้าย แลขวา(หาผู้ช่วย) เห็นคุณพ่อเอื้อเดินมาเกือบถึงประตูแล้ว
อืม..สูดหายใจลึก ๆ พร้อมกับตอบไปว่า "ค่ะ"
(ไม่มีคำตอบไหนที่พอจะนึกได้ในตอนนั้น กรรมจริง ๆ)
ก็ศึกษาแนวทางของโรงเรียนมาพอสมควร แต่พอเจอคำถามแรก ก็ทำเอาอึ้งไป
เฮ้อ!!! สงสัยมาเก้อซะแล้ว
แล้วคุณพ่อเอื้อเดินมาถึง ก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง แม่ตอบสั้น ๆ ว่า "คุณครูให้ไปศึกษาก่อน"
จากนั้นคุณครูก็พาไปที่ชั้นหนังสือ แล้วบอกว่าลองเอาหนังสือพวกนี้ไปศึกษาดู
ถ้าเลือกเล่มไหนก็เอาเงินใส่ในกล่อง และก็เขียนลงสมุดให้ด้วย
นี่ล่ะ.. โรงเรียนที่พ่อกับแม่เลือกให้เอื้อ
แล้วสถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนไป...
เมื่อคุณพ่อเอื้อเริ่มต้นเล่าถึงความตั้งใจ และเหตุผลที่เลือกโรงเรียนนี้ และแนะนำตัวว่าผมเป็นใคร(อิ อิ อันนี้แซวเล่นอ่ะนะ) หมายถึงบอกว่าผมเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย (เพื่อสร้างความเชื่อมั่น)
คุณครู เลยบอกว่างั้นวันศุกร์นี้ให้เขามาคุยกัน และระหว่างนี้ก็ให้ลองไปตัดสินใจดูอีกที
หุ หุ เอื้อมีหวังแล้วลูก...
ยกที่หนึ่ง สัมภาษณ์พ่อแม่ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงเหตุผลที่ว่าทำไมต้องมีการสัมภาษณ์พ่อแม่ด้วย ไม่ใช่ว่าโรงเรียนเรื่องมาก หยิ่ง หรือ เล่นตัวแต่ประการใด
เนื่องจากต้องการดูแนวคิด และการเลี้ยงดูลูกว่าสอดคล้อง หรือไปในทิศทางเดียวกันกับโรงเรียนหรือไม่ ถ้าไม่ก็เท่ากับล้มเหลวกันทั้งสองฝ่าย
ภรรยาคุณหมอที่เป็นคนก่อตั้งโรงเรียนเป็นคนสัมภาษณ์พ่อกับแม่
(คุณหมอเคยเขียนหนังสือเรื่อง "สลัดเข็มฉีดยามาจับชอล์ก")
เราใช้เวลาคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง
โดยรวมคุณครูต้องการดูทัศนคติของพ่อแม่ และการเลี้ยงดูลูก รวมถึงความคาดหวังในตัวลูก
ขอจับประเด็นหลัก ๆ
แม่ - สิ่งที่คาดหวังในตัวเอื้อก็คือ ต้องการให้เอื้อเอาชนะใจตัวเองได้ เพราะถ้าเอื้อเอาชนะใจตัวเองได้แล้ว ไม่ว่าเอื้อจะทำอะไรก็ย่อมสำเร็จ
พ่อ - ต้องการให้เอื้อเข้าใจความไม่สมบูรณ์แบบของทุก ๆ อย่าง และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันได้อย่างมีความสุข
คุณครู - เด็กเล็ก ๆ ไม่ต้องการสังคมที่ใหญ่ สิ่งที่เขาต้องการคือ ครอบครัว ควรให้เขาอยู่กับครอบครัวให้มาก ๆ เพื่อที่เขาจะไม่ต้องคาใจ และเมื่อโตขึ้นเขาจะเห็นความสำคัญกับครอบครัว การยัดเยียดให้เด็กเล็ก ๆ ไปโรงเรียนในช่วงเวลาที่เขาต้องการครอบครัว เป็นการทำร้ายเขามากกว่า
จากประโยคนี้ของคุณครู พ่อกับแม่เลยตัดสินใจว่าปีหน้า เอื้อค่อยเขาโรงเรียนแล้วกัน
(เอื้อ 4 ขวบแล้วกันนะ ค่อยไปโรงเรียน)
แล้วคุณครูก็ให้เขียนใบสมัครไว้ ในใบสมัครมีสอบข้อเขียนอีกเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอ เอาเท่าที่จำได้นะ
สิ่งที่คาดหวังกับโรงเรียน
บทบาทของพ่อและแม่
ทำไมถึงเลือกที่นี่
สิ่งที่กังวลกับลูก
......
มีประมาณ 6-7 ข้อ แต่จำได้เท่านี้ล่ะ
ยกที่สอง สัมภาษณ์เอื้อคงจะเป็นราวเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2552
เพื่อดูว่าเอื้อมีพัฒนาการ หรือความพร้อมที่เอื้อต่อการเรียนการสอนในแนวทางของโรงเรียนหรือไม่เท่านั้นล่ะ ซึ่งแม่ก็มองดูแล้วว่าคงไม่น่ามีปัญหาอะไร
นี่ล่ะ..โรงเรียนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
อย่างว่าละนะ ก็โรงเรียนดี ๆ ไม่ได้มีทุกหัวถนนนี่หน่า...
ส่วนความต้องการที่พ่ออยากให้ลูกมีเนี่ย ไม่รู้ว่าพ่อมีแล้วหรือยัง