cyber_aum
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




<*center><*/center>
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
1 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cyber_aum's blog to your web]
Links
 

 
Japan Trip Day#3~Last (Tired) Day

วันสุดท้ายที่จะอยู่ Nagoya...วันนี้มีเวลาถึงช่วงบ่ายๆ Wake Up Call ราวๆบ่ายสอง
เราก็กะว่าในวันนี้ยังมีเวลาที่จะเที่ยวกันอีกเล็กน้อย..ยังมี
plan ที่จะต้องไปอยู่ในมือ
ก่อนนอนก็คุยกันไว้คร่าวๆว่าไว้ค่อยเลือกไป
1 หรือ 2
ที่จากที่เลือกไว้ เช่น
Nagoya Port ที่นี่มี Aquarium
ค่าผ่านประตู 2000Y สำหรับผู้ใหญ่ 1700Y
สำหรับเด็ก(ถ้าจำไม่ผิด ><’)

TOYOTA
AUTOMOBILE MUSEUMที่เค้าว่ามา Nagoya แล้วห้ามพลาดเพราะที่นี่เป็นบ้านกิดของรถยนต์ยี่ห้อ
Toyota
หรือวัดสำคัญๆและสวยงามอย่าง
Atsuka Shrine
แต่ตื่นมาแล้วป่าป๊าบอกว่า ไม่ไหวแล้วววปวดหลังเหลือเกิน
อันเกิดมาจากที่ไม่ได้เอารถเข็นมา

เดินมากเข้า เหนื่อยเข้า เด็กไม่ไหวก็ต้องทั้งอุ้ม
ทั้งถือของไหนจะกระเป๋ากล้องอีก ดีที่ซื้อเป็นแบบคาดเอวมา

อย่าว่าแต่พี่แมนเลย
อุ๋มก็แขนเดี้ยงเหมือนกันเพราะว่าก็ผลัดกันอุ้มและถือของกับป่าป๊าอ่ะนะ..




ก็เลยตกลงกันว่า วันนี้ไป
Shopping ของกินของใช้เครื่องสำอางกันเก็บตกละกัน
555 เล่นง่ายซะงั้น..
แต่มาทริปนี้อยากมาหาซื้อ
Eyeliner Majolica
ที่เคยดูรีวิวเอาไว้ว่าเวลามีโปรแล้วถูกมว๊าก
แต่อนิจจาเท่าที่มาที่นี่ตั้งแต่วันแรก
ไม่ว่าจะห้างหรือร้านขายยาก็ขายเท่าๆราคาเมืองไทยทั้งนั้น
(1250Y)
พี่แมนเลยบอกว่า....วันนี้ยังมีอีกที่ๆเรายังไม่ได้ไปซึ่งจริงๆจะแวะตั้งแต่วันแรกแล้วไม่มีเวลา


 เด้งมาจากเตียง...มองตากันว่าจะกินอะไรดี
ก็พุ่งไป
Yoshinoya เจ้าเก่าเพราะมีเมนูหมูจานนี้ยังไม่ได้ลอง
วันเสาร์คนเดินทางพลุกพล่านมาก เรียกได้ว่าเยอะกว่าวันธรรมดาหลายเท่าเลย
แต่บรรยากาศจะแตกต่างตรงที่จะเห็นลูกเด็กเล็กแดงมากขึ้น คงเป็นเพราะว่าวันธรรมดานอนหนาวอยู่บ้านกัน
++พลุกพล่านมากกกก++


++ถ้ามีเวลาไป Osaka Tokyo ได้สบายๆ จนเค้ายกเลิก Flight บินไปเลย++




ส่วนเมนูหมูหน้าตาเยี่ยงนี้ ... อร่อยสมการรอคอย เรียกว่า 3 มื้อที่ทาน Yoshiniya
ชอบเมนูนี้มากที่ซู๊ดดดดด
ส่วนโทรฟี่ก็ยังคงทานแซลมอนบ้าง
เนื้อบ้าง แจมเค้าไปเรื่อยเหมือนเคย ไม่เบื่อเช่นเดียวกัน..คบกันได้ ฮี่ๆ


++เมนูหมู ที่อร่ยยย โฮกกก++



เติมพลังที่ Yoshinoya กันเสร็จเรียบร้อยก็ข้ามถนนมาอีกฝั่ง
เดินข้ามแยกไปอีกนิด ก็ถึงที่หมายที่พี่แมนจะพามาละลายทรัพย์กัน

ลักษณะที่นี่ก็แนวๆ
ร้านขายอุปกรณ์ทำผมที่อยู่ตามตลาดอ่ะค่ะ แต่จะขายของทั้งตึกเลยโดยด้านในจะแยกประเภทสินค้าเป็นชั้นๆ


++ฝาก Map ไปละกันน้า อธิบายไม่ค่อยถูก อาคารเค้าจะสีเขียวๆอ่ะค่ะมุมถนนพอดี++


ชั้นล่างเป็นของใช้ในบ้าน ชั้น 3 เป็นเครื่องสำอาง
ชั้น
4 เป็นชั้นอุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับเด็กๆ ประมาณนี้
พุ่งไปชั้น
4 ก่อนโลด...ตั้งแต่มีลูกเนี่ยจะไปห้างไหนก็พุ่งไปแผนกเด็กก่อนทุกที
อิอิ
ลิฟท์เปิดก็ตาโตเลย เพราะที่นี่มีครบจะมองหาอะไรล่ะไม่ว่า
Pigeon, Combi ตั้งแต่ผ้าอ้อม ไปยังเครื่องใช้ต่างๆ
ส่วนใหญ่โทรฟี่จะใช้ของสาธารณูปโภค(ฮา)ของ
Pigeon อยู่แล้ว
ซึ่งก็ถูกกว่าเมืองไทยมากโขอยู่

แต่ของส่วนมากจะราคาเดียวกันกับ
Aeon ดีที่ว่าจะมีของให้เลือกมากกว่า

Remark
..Pigeon ที่ถูกกว่านี่คือสินค้าที่ made in japan นะคะไม่ใช่ที่ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายใต้ชื่อ TP (Thailand Pigeon) อ่ะค่ะ
สินค้าเค้าจะคนละประเภทกัน ถูกกว่าในกรณีของนำเข้าค่ะ
เช่น สบู่สูตรโฟม 500 ml เมืองไทยราวๆ 700 ที่นี่ก็ราวๆ 300 อ่ะค่ะ ถ้าเป็น refill ก็จะถูกลงไปตามลำดับ ^^


++สังเกตเด็กน้อย..ท่าเตรียมพร้อมฉวยของลงตะกร้ามากๆ++




กดลิฟท์ลงมาชั้นเครื่องสำอาง
ยังชั่งใจว่าคงไม่ถูกหรอกเพราะของเด็กไม่เห็นจะถูกกว่าเลยแค่มีให้เลือกแยะ
แต่เหลือบไปเห็นป้าย
SK-II ลด 30% เข้า ก็เลยตัดสินใจแว่บไปดูซะหน่อยไม่ให้เสียเที่ยวละกัน
ลิฟท์เปิด กรี๊ดดตาโตอีกแล้วเดินไม่ถูกกันเลยทีเดียว
แบบว่าทั้งชั้นอยากได้หมดเลย..ฮา


ส่องหา Majolica กันก่อนละกัน...หยิบแบบเสียไม่ได้ด้วยซ้ำเกือบเดินกลับแล้วเพราะหาราคาไม่เจอ
จนปร๊าดดดไปเป็นราคาตัวเล็กๆ ราวๆ
800Y ++
รีบคว้าใส่ตะกร้าทันที

ถ้าใครแต่งหน้าหรือชอบเครื่องสำอาง
คาดว่าชั้นนี้เดินได้หลายชั่วโมงเชียว

แต่อุ๋มกรีดตาอย่างเดียวก็มีเป้าหมายแต่
Eyeliner อ่ะเน้อออ
แวะไปดูราคา
Hadalabo ที่มีคนฝากซื้อกัน
แบบขวดแพงกว่า
Aeon 100Y แบบ Refill ถูกกว่า
100Y
สรุปว่า ควรเดินสำรวจราคาก่อนระหว่าง
2 ที่เพราะยังไงก็ต้องเดินผ่านตอนกลับ
Nagoya Station อยู่ดี




ออกจากที่นี่ก็ไป Aeon กันต่อ
โทรฟี่ชอบทานลูกพลับมากก็เลยจะไปซื้อของสดกลับบ้านกัน


++โดน Take โดย MaxValu ไปแล้ว..แต่ยัง still เรียก Aeon กันติดปาก++


++กองนี้เสียดาย Package ไม่ชวนขนกลับ ไม่งั้นเสร็จแน่++


โทรฟี่ก็ไปซื้อขนมเช่นเคย
แต่ออกแนวอันนี้ฝากครู อันนี้ฝากเพื่อน อันนี้ฝากพี่น้องไม่มีของตัวเองเลย

55555
คือ
เค้าเห็นอุ๋มซื้อแล้วพูดว่าอันนี้ซื้อไปฝากคนโน้นคนนั้น
เลยอยากเลียนแบบบ้าง..ได้หนมไปแบบว่าหนักอึ้ง


++จ่ายตังค์แล้วมาแพ็คของกันโลด++


++หนูช่วยๆๆๆ อยากมีส่วนร่วมตลอดแม่เลยให้แพ็คของตัวเองไป++


พี่แมนขนกลับ 2 กระเป๋าถ้วน
อุ๋มบอกช่วยถือ พอหิ้วแล้วแบบเจ็บมือมากเลยขอผ่าน



++ร้านกาแฟทางผ่าน แอบมองไอติม 555++


++ดอกไม้ทางผ่าน..น่ารักอ่า..แค่ดอกหญ้ายังน่ารักเรยยยย++


ส่วนเส้นสีเหลืองนี่..ขอชื่นชมญี่ปุ่นเลย เพราะทุกหนทุกแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ Subway ต่างๆจะมีทุกที่
ถามพี่แมนว่ามีไว้ทำไม..พี่แมนบอกว่าเค้าเอาไว้สำหรับคนตาบอดได้เดินทางได้สะดวกสบาย
อยากบอกว่าแอบ Simulate ตัวเองเป็นคนตาบอด แล้วเดินตามเส้นนี้ขึ้น Subway ขึ้นลงบันไดไปยังที่หมาย
โอ้ว..สะดวกมาก จะขึ้นจะลงบันได หรือแยกต่างๆ เค้าจะมีแบบนี้บอกเป็นสัญลักษณ์ไว้หมด
ไม่เว้นแม้แต่ Subway หรือซอกซอยเล็กๆ ทางเดินใน Subway ก็จะมีราวจับตลอดไม่ใ่ช่แค่ที่บันได
อยากให้เมืองไทยมีแบบนี้บ้างจัง


++ตอนแรกแอบนึกว่าเค้าเอาไว้แบ่งเลนส์จักรยาน 555++


ของฝากสุดฮิตคงไม่พ้น Glico มีทั้งโคลินแท่ง โคลอนยักษ์ ป๊อกกี้ยักษ์ ฯลฯ ให้เลือกกันเพลินเป๋าก็เบากันเพลินด้วย 55
ร้านอยู่ที่ ESCA นี่และ..ที่เดิมไม่ต้องเดินไปไหนไกล เดินเล่นแต่ใน Nagoya Station นี่แหละ 55







เราใช้เวลาเดิน 2 ที่นี่ร่วมๆ 3
ชั่วโมงเลยทีเดียว แล้วก็ไปเดินหาร้านยากิโซบะที่ป่าป๊าบอกว่าอร่อยใต้
Nagoya Station
แต่ป่าป๊าหาร้านไม่เจอ เป็นร้านเล็กๆ
แต่ว่ามีคนกินแบบไม่ขาดสาย..เดินอยู่นานมากจนได้มา
1 กล่อง


++ร้านนี้หละค่า++


++ของเค้าสดมั่กๆ++




เดินเล่นช๊อปปิ้งของกุ๊บกิ๊บน่ารักๆกันเล็กน้อย ระหว่างป่าป๊าเลือกหมวกโทรฟี่ก็มาเพลินกันตรงทางเดิน
แบบว่า เธอชอบเสา
โซนนี้มาก 55 เสาในห้างนี่แหละ กอดดดดดทุกครั้งที่เจอ


++บรรยากาศ ESCA XMAS++


++ร้านนี้ เลิฟๆมากกก ที่เห็นเป็นเฟอร์ๆ แขวนอยู่น่ะราคาประมาณพันนุง++



ก่อนจะเดินไปสำรวจ Ramen Stadium ที่รวมราเมนอร่อยๆจากหลายๆที่
คนกินเยอะมากกกก ต่อคิวกันแน่นเอี่ยด
เดินไปนิดเดียวต้องขอออกเพราะหายใจไม่ออก

ยังคิดว่านั่งกินกันได้ไง..แค่เดินผ่านก็แทบเป็นลมแล้ว
..


++Ramen Stadium++


++เมนูเค้าหลากหลายดีเนอะ++


เดินกลับโรงแรมมาเก็บภาพสถาปัตยกรรมบริเวณด้านหน้าของโรงแรมซะหน่อยฃ




ภารกิจสุดท้าย..สุดหิน
คือการแพ็คของกลับ


เนื่องจากพี่แมน On Duty มา
ตอนโหลดของลงที่สุวรรณภูมิเราต้องจัดการเองหมด

เพราะว่าพี่แมนจะมีรถลูกเรือมารับที่เครื่องบิน
เพื่อกลับไปยัง
Crew Center ก่อน แล้วค่อยเอารถมารับเราที่ขาออก
แล้วไหนจะลูก จะของ รถเข็นที่
Gate
ก็หายาก..ยังคิดเลยว่าอื่มมมมถ้าขนของเล่นมามากกว่านี้คงจะเดี้ยง

พี่แมนเลยต้องเอาของใส่ถุงเสื้อและกระเป๋าพี่แมนให้มากที่สุด
เพื่อให้อุ๋มได้ขนของกลับน้อยที่สุด

ถึงขั้นให้โทรฟี่ไปยืนเหยียบบนกระเป๋าเพราะปิดไม่ลงกันเลย
ของกินล้วนๆ
555 อายจัง


ตอน Check Out เราแวะนั่งเล่นกันตรงร้านดอกไม้ใต้โรงแรมกันก่อนที่จะนั่งรถบัสไปที่ท่าอากาศยาน
Centrair
ดอกไม้ตรงนี้สวยมากๆเลย ชอบๆๆๆ
ขนาดเด็กยังเพลินขอให้ถ่ายรูปให้หน่อย
^^






Check in & ผ่าน Immigration
เรียบร้อย จริงๆที่สนามบินก็มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเหมือนกัน
แถมสัญลักษณ์สนามบินยังเป็นตัวการ์ตูนน่ารัก แต่ผ่าน..ของพะรุงพรังเกิน 55




แวะปฏิบัติภารกิจสุดท้าย...ได้ Royce Au Lait กับ Potato Chocolate ของโปรดฟี่มาเต็มกระเป๋าอย่างภาคภูมิ
ซื้อจนพี่แมนบอกว่าอุ๋มจะผ่าน
Custom เมืองไทยหรือเปล่า
555 มีแต่คนอยากทานนี่นา




เราไม่ได้เดินไปตรงไหนกันอีกเลย
แบบว่าเหนื่อยอยากกลับบ้านสุดๆ

ทั้งๆที่รู้ว่าในนี้มี
Character Shop ที่น่าเข้าไปอีกร้าน..
เลยมานั่งรอเวลากัน
2 คนแม่ลูกกันตรงโซนเด็กเล่น
ตอนแรกจะไม่ให้เฉียดแต่แบบว่าสะอาดมาก..นั่งมองคนทำความสะอาดที่นี่แล้วเค้ามีความตั้งใจในการทำความสะอาดสุดๆ

ไม่ใช่แค่ดูดฝุ่น ทุกซอกทุกมุม
ขนาดมีรอยนิดเดียวที่พรมก็เอาอะไรมาขูดๆๆๆดูดๆๆๆฝุ่น

ยังมีการตรวจสอบความเรียบร้อย
ความแข็งแรงของๆเล่นเพื่อให้มีความปลอดภัยอีก

เล่นกันแบบสบายใจได้โลดดด แถมคนก็ไม่มากมีเด็กเล่นกันอยู่แค่
2 คนพอฆ่าเวลาได้
(ที่สุวรรณภูมิก็ไม่ค่อยมีคนเล่นนะคะ เพราะเดินไกลมากกกกก 55)








พอขึ้นเครื่อง..ก่อนโทรฟี่จะหลับยาวจน
Landing

เธอก็ควักอาหาร
super executive ของตัวเองออกมาหม่ำอันได้แต่ยากิโซบะที่ตุนมา


++เมนูลูก กินเพลิน++


++เมนูแม่ เป็น Seafood อร่อยมากกก++


หมดของคาวซักพักก็ควักโมจิสวรรค์มาหม่ำอีก
1 ลูก
สบายใจ ก่อนกินลูกพลับอีก
1 ลูก
กร๊ากกกก ของหม่ำแยะกว่า
Business Class อีกนะเนี่ย...ก่อนจะอิ่มนอนแอ้งแม้งรวดเดียว
เกือบ
6 ชั่วโมงบนเครื่องก็สบายยเช่นขามา
เริ่มคิดว่าโทรฟี่สามารถเดินทางได้ไกลอีกระดับนึงแล้ว

(ซึ่งเราเป็นตั๋วพนักงานอ่ะนะ
ก็ไม่อยากให้ลูกไปโยเยบนเครื่องให้เป็นภาระของเพื่อนพนักงานด้วยกันของป่าป๊า
)

แอบบอกป่าป๊าว่า
หลับรวดอย่างนี้เดินทางซัก
10 ชั่วโมงกำลังสบาย กร๊ากกกกก Perth จ๋าฟี่อยากไป ฮุๆๆ


++สู้ตายค่า..++


ทริปนี้ถือว่าเป็นทริปที่ราบรื่น
เด็กสนุกบ้าง ไม่สนุกบ้างตอนเดิน ถือว่าเป็นบทเรียนที่(กล้า)ไม่เอารถเข็นไป
55
แต่เด็กแอบบ่นว่าชอบ
HK มากกว่า ดิสนีย์ใหญ่กว่า
มีถ้วยน้ำชาเยอะกว่า มีม้ากอดๆ(
Cinderella Carousel)
55555




จบทริปนี้ด้วยบะหมี่ลุงเฉื่อยเอกมัย
นั่งโซ้ยกัน
3 คนพ่อแม่ลูกตอนเที่ยงคืน
เป็นอันทิ้งท้ายทริปตะลอนกินทริปนี้หละค่ะ
ก็นะ.....ไม่มีอาหารที่ไหนอร่อยกว่าอาหารไทยแล้วเนอะ
^^





Free TextEditor


Create Date : 01 กรกฎาคม 2554
Last Update : 20 กันยายน 2554 8:55:49 น. 0 comments
Counter : 1156 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.