cyber_aum
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




<*center><*/center>
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
1 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cyber_aum's blog to your web]
Links
 

 
Japan Trip Day#2~Yoshinoya & Nagoya Castle

วันนี้ตื่นประมาณ 6 โมงเมืองไทย
รีบเปิดม่านดูอากาศวันนี้ของ
Nagoya
เพราะห่วงเรื่องฝน เนื่องจากดู Weather Forecast ไว้เค้าว่ามีฝนตกราวๆ 20-30% ของพื้นที่
แต่....ฟ้ากลับปลอดโปร่ง มองเห็นวิว Panorama ไกลไปจนถึงทิวเขาโน้นนนน


++วิวเมือง Nagoya++


มองไปด่านล่างของโรงแรม ก็จะเป็น Bic Camera, และรางรถไฟ
Shinkanzen
ที่ JR Nagoya นี้เป็นสถานี Shinkanzen
ระหว่าง Tokyo -> Nagoya -> Osaka จึงไม่แปลกที่จะมีคนพลุกพล่าน


++zoom zoom ไปด้านล่างเป็น Shinkanzen++


โทรฟี่และป่าป๊าทยอยตื่นกันตามแสงแดดที่ส่องเข้ามาในห้อง
เพราะผนังห้องจะเป็นกระจกทั้งบาน

เด็กน้อยรีบตื่นมาอาบน้ำแปรงฟัน
และมื้อเช้ารองท้องของวันนี้คือข้าวปั้นไส้ไข่ปลากับนมสตรอเบอร์รี่


++เติมพลัง พร้อมเที่ยวค่าหมี่มี๊++


วันนี้เอื่อยเฉื่อยกันมาก
กว่าจะได้ออกก็สายมากแล้วไม่เจียมตัวเลยว่ามาแค่
3 วันตามราคาตั๋ว 55
เตรียมตัวกันพร้อมแล้วก็ไปหาของกินกันค่ะ แต่มาสะดุดกับโซนที่เค้าจัดสถานที่น่ารักๆกันก่อน
จริงๆเค้าเป็นเทศกาลตรง Nagoya Station นี่และ แต่จำชื่องานไม่ได้ Confused
รู้แต่ว่าโทรฟี่ปราบปลื้มมากกกก..ถ่ายรูปวิ่งเล่นอยู่นานสองนานจนลืมหิว 55


++เทศกาลตรง JR Nagoya Station++


++น่ารักจนตัวแม่ยังกระโดดไปขอถ่ายด้วย 55++


++ยิ้มแฉ่งยังกะมาสวนสนุก++


++ตรงนี้ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยมากๆ++


ถ่ายรูปกันเสร็จก็ตรงดิ่งไปเป้าหมายแรกวันนี้
ร้านข้าวหน้าเนื้อ
Yoshinoya ร้านโปรดของป่าป๊า

การเดินทาง : จาก JR Nagoya Station เดินขึ้นมาทางด้าน
Bic Camera
ถ้าหันหน้าเข้า Bic Camera เดินเลาะริมถนนไปทางซ้าย ข้ามถนน 1 ทีก็ถึงแล้วค่ะ


++Yoshinoya++


หน้าร้านเป็นสีส้มๆเยี่ยงนี้...โทรฟี่ก็ขอเก็บภาพเป็นที่ระทึก 1 ทีก่อนลงมีโซ้ยย
ที่นี่เป็นร้านข้าวหน้าเนื้อราคาประหยัด ไม่แพง (Set นึงประมาณ 500Y++) และก็อร่อย
โอยยยจะไม่ให้เป็นร้านในดวงใจป๊าได้ไง เจอร้านนี้ทีไรป่าป๊าขอลุย!!
อุ๋มสั่ง
Set ข้าวหน้าเนื้อกับแซลมอนให้โทรฟี่
พี่แมนก็เป็นข้าวหน้าเนื้อชามโต

++ชามนี้ไม่กี่ Y เองน๊า อร่อยไม่แพงงงง++


++Set นี้เหมือนจา 580Y ค่ะ++


โทรฟี่ทานปลาแซลมอนไปครึ่งชิ้น เนื้ออีกนิดหน่อย ข้าวไป 2 ชาม ซุป 1 ถ้วยคนเดียวเรียบ
ข้าวญี่ปุ่นนี่มันช่างวิเศษกับเด็กน้อยๆคนนี้จริงๆ ชอบเกิ๊นนนน




ท้องอิ่มก็พร้อมเที่ยวกันโลด..ออกมาหน้าร้านก็เดินลงไป Nagoya Station ได้เลย
ลืมบอก!! Nagoya Station ได้ชื่อว่าเป็นสถานีรถไฟที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกกกกกเลยทีเดียว
นอกจากมีพื้นที่สำหรับ Subway แล้วยังมีแหล่งช๊อปปิ้งอย่าง Esuka Shopping Arcade
ที่รวมที่กิน ที่ช๊อปปิ้ง ร้านรวงต่างๆอีกมากมาย


เป้าหมายที่เที่ยวแรก (แฮร่..เด๋วจะหาว่ามากินอย่างเดียว) คือ
...Nagoya Castle...


การเดินทางที่นี่ง่ายมากเพราะว่ามี Subway ไปทุกหนแห่งได้สะดวก และมี One day pass ให้ได้ประหยัดกัน
เราก็เลยไปซื้อ
One day pass แบบ Subway อย่างเดียวในราคา 740Y กันก่อน
(ถ้ารวมขึ้นรถลงเรืออะไรด้วย
ราคาก็จะบวกเพิ่มเข้าไปอีกตามลำดับ
)


++ลายตา++


ตอนซื้อ...ปรากฏว่างงเพราะตู้ไม่เหมือน
line ที่ไป
Survey มา มองหาปุ่ม 740Y ไม่เจอ
ก็เลยยืนงงๆกันอยู่พักนุงว่าตู้ไหนหละเนี่ย
จนคุณลุงเจ้าหน้าที่มาช่วยชีวิตเอาไว้
คุณลุงพูดภาษาอังกฤษได้
แล้วก็บริการกดตั๋วให้ด้วยเรียบร้อย...ไป
Nagoya Castle กันโลด


++คุณลุงคนนี้แล..ถึงกับถอดแว่นกดกันเรย 55++


++ตั๋ว One Day Pass ของเราได้แว้ว++


++ไม่สวย ไม่หรู แต่ว่ามีหลากหลายสายสะดวกสบายมากๆ++




การเดินทาง: จาก Nagoya Station นั่ง Sakura-dori
Line
(สายสีเหลือง) ไปลง Sakae
แล้วต่อ
Meijo Line (สายสีม่วง) ไปสถานีเดียวไปลงสถานี Shiyakusho(City Hall) ออก Exit7


++สถานีนี้..สร้างได้เข้ากับบรรยากาศมากๆ++


++City Hall สวยสง่า++


ขึ้นมาก็ถึงรั้วปราสาทเลยค่ะ
หันไปด้านหลังเป็น
City
Hall อาคารสวยตระหง่าน
เดินชมใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงริม
2 ข้างทาง
และใบเมเปิ้ล อากาศดีมากๆ


++บรรยากาศเงียบสงบ++


++ฝาท่อ สัญลักษณ์เมืองต่างๆของญี่ปุ่นเรย++


++ฝาท่อของ Nagoya มีหลายลายแต่ส่วนใหญ่เป็นลายนี้กับลายมด++


++ใบไม้เปลี่ยนสี 2 ข้างทาง++


เดินไปตามทางสักพักก็ถึงแล้ว Nagoya
Castle


++นึกว่าจะได้เจอเจ้าหญิงในปราสาท++





ค่าเข้าชม 500Y ส่วนโทรฟี่ไม่เสียเงินค่ะ
ก็หยอดเหรียญกันไปตามระเบียบ

ระหว่างทางเดินเข้ามาโทรฟี่ก็นั่งพักไป
กินไป แล้วก็เดินชิลๆไปจนถึงด้านในปราสาทกันเลย


++ทางเข้าปราสาท ต้นไม้ใหญ่มาก++


++หยอดเหรียญเช่นเคย++


++ได้มาแว้ว มีหลายลายดั่วน้า++


ยังๆๆๆ ยังไม่ถึงตัวปราสาทค่ะ เพราะด้านหน้าจะมีที่ขายของที่ระลึก ที่นั่งพัก
เรียกว่าแค่ตรงนี้ ก็เดินกันเพลินตาเลยทีเดียว..โทรฟี่ก็กินหนมวิ่งเล่นกันแถวนี้นานเหมือนกัน ถือว่าพักเหนื่อย LOL

++เมืองแห่งการ์ตูนจริงๆ ธงปราสาทน่ารัก++


++การ์ตูนประจำปราสาท++


++55 ขำดีซามูไรพ่อลูกอ่อน++


สวนญี่ปุ่นระหว่างทางเดินเข้าไป ก็สวยงามตาน่าเดินเล่น เพราะอากาศเย็นนนนเดินไงก็ไม่เหนื่อย


++ทางเดินไปปราสาท++


++ฟ้าใสมากเลยเนอะ++


++แวะถ่ายรูปหน่อย อารายหว่าอ่านไม่ออก++




และเราก็มาถึงแล้ว Nagoya Castle เป็นปราสาทที่สร้างเสร็จในปี
ค.ศ.
1612
แต่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่
2 ได้เกิดไฟไหม้ขึ้นจากระเบิดของกองทัพสหรัฐอเมริกา
ปราสาทหลังที่เห็นนี้จึงถูกสร้างใหม่ขึ้นบนฐานหินเดิมเมื่อปี
พ.ศ.
2502


++ถึงแล้ว สวยสง่า...ถ้าเป็นฤดูซากูระก็จะงามมมมเหมือนกัน++


++สู้ตายอยู่แล้ว แฮ่กๆ++




ด้านรอบปราสาทจะขุดเป็นร่องกว้าง
เค้าบอกว่าเมื่อก่อนเลี้ยงจระเข้ แต่ตอนนี้เลี้ยงกวางน่าร๊าก

ก่อนเดินผ่านประตูไปด้านใน ซึ่งจะต้องเดินผ่านบริเวณที่มีการบูรณะสร้าง
Hommaru Palace ขึ้นมาใหม่
กว่าจะเสร็จเห็นว่าเป็นปี
2014 เลยทีเดียว
บริเวณนี้สามารถใส่หมวก
Safety เดินเข้าไปชมได้ค่ะ


++Hommaru Palace ที่เด่นๆคือภาพเขียนบนประตู ฝาผนัง++


สองข้างทางก็จะประดับไปด้วยภาพวาดของเด็กๆ
ที่มาประกวดกันเหมือนฉลองปราสาทจะอายุครบ
400 ปี


++ภาพวาดเค้าน่ารักเนอะ++


พ้นจากเขตที่มีการบูรณะ
เราก็ได้เห็นตัว
Nagoya Castle กันแบบเต็มๆตาแล้วค่ะ


++งั่มๆๆๆๆ จะกินหมดนี่เลย++




เด็กอ้าปากหวอกับปราสาทตรงหน้า
หันมาถ่ายรูปแวร๊บบบแล้ววิ่งปรู๊ดดดตรงดิ่งไปเลย

แต่เอ๊ะ..ทำไมไม่ตรงไปปราสาท
กลับตรงไปร้าน
Soft
Cream แทน...แฮร่!!
เรื่องไอติมกับเด็กนี่..ไม่เข้าใครออกใครเลยจริงๆ
เลยได้
Soft Cream ชาเขียวมา 1 โคน 350Y
ป่าป๊าบอกว่า หนาวววจะแย่ยังกินไอติม..บร้า
! 55 (ที่นี่กลางวันราวๆ 8 องศา)


++น่ากินม๊ากกกกก ถือไว้ยังไงก็ไม่ละลาย++


หยอกกันเล่น...ดูเซร่
เค้าก็นั่งกลางแดดกินกันทั้งนั้นแหละ อุ่นจะตาย
อุ่นใจที่ได้กินไม่ได้กินหละเศร้าเรย

แม่กินไปสามสี่คำ
นอกนั้นเสร็จโทรฟี่ทั้งไอติม
ทั้งโคน...กว่าจะได้เข้าปราสาทกินไปกินมาก็เกือบชั่วโมง ฮา..


++แผลบๆๆๆ++


++แม่ได้กินสามสี่คำ นอกนั้นเป็นของลูกเรียบ ทั้งโคน.. 55++




ด้านในปราสาทจะมีทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นแรกเราไปเจอสิ่งนี้กันก่อนเลยค่ะ
รวมทั้งมีการสร้าง
Kinshachi หรือปลาโลมานำโชคสีทองประดับบนยอดปราสาท

ซึ่งจริงๆแล้วในภาษาญี่ปุ่นเหมือนจะแปลว่าสัตว์ในเทพนิยาย

แต่ภาษาอังกฤษเรียก Golden Dolphins ม๊างเค้าเลยเรียกเป็นโลมา

Kinshachi ที่ประดับบนยอดปราสาทจะเป็นตัวเีมีย 1 ตัว ตัวผู้ 1 ตัว ทำจากทองคำ 18K หนัก 44 กิโลกรัม

ตัวตัวดั้งเดิม เหมือนเคยอ่านเจอว่าทำจากไม้และหุ้มทองอีกที


++Kinshachi++


++Kinshachi ดั้งเดิมสมัยโดนไฟไหม้++


++Wooden Frame of Golden Well++


มีการแสดงผังเมืองเก่า ประตูทองที่
ชำรุดเนื่องจากไฟไหม้
ข้าวของเครื่องใช้ ดาบซามูไร ประตู
ฉากกั้นต่างๆที่ยังคงอนุรักษ์เอาไว้


++ผังเมืองสมัยก่อน++


++ขนหินก้อนยักษ์++


มีหนัง 3D เกี่ยวกับปราสาทรอบละ
9 นาทีให้ได้รู้เรื่องราวประวัติของ Nagoya Castle


++3D++




ตอนแรกโทรฟี่นึกว่า Nagoya Castle
จะเหมือนปราสาทใน Disneyland
ตอนมาดี๊ด๊า
เข้าไปแล้วขอหลับนั่งนิ่งๆอยู่กับป่าป๊าดีกว่า งืออออ

แม่ก็เดินดูตามชั้นต่างๆไปให้ป่าป๊ากล่อมเด็กนอน
แต่สงสารโทรฟี่คงง่วงจัด และก็ไม่ถูกใจปราสาทอย่างแรง

แม่เลยรีบๆเดินดูไม่ครบทุกชั้น แล้วก็พาโทรฟี่ไปดู
Model Kinshachi กัน
ทีนี้หละเด็กถึงยิ้มได้
แต่...หาที่หยอดเหรียญใหญ่เลยเพราะคิดว่าจะนั่งแล้วโยกได้เหมือนที่เอ็มโพเรี่ยม...
Y_Y


++เด็กนั่งหนุกหนาน ยกแข้งยกขาโยกไปมา 55++


++Bye Bye Nagoya Castle++


ด้านบนของปราสาทจะมีจุดให้ชมวิว
มีกล้องส่องทางไกลหยอดเหรียญ และก็มีร้านขายของที่ระลึก

อุ๋มไม่ได้เดินดูครบหมดทุกชั้น เพราะเกือบได้เวลาอาหารกลางวันของเด็กที่บ้านแล้ว
และโทรฟี่ก็แบบว่าตาปรือ ก็เลยพาเด็กไปนั่งเล่นกันนอกปราสาท สัมผัสอากาศหนาวๆ
Refresh กันก่อนไปหาอะไรหม่ำค่ะ ก็ออกมาถ่ายรูปกันสนุกสนาน เก็บบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีกันให้จุใจ


++เหนื่อย(ใจ) 55++


++สีสวยดีเน้อ++


++แดงเต็มไปโม๊ดดด++


++สวนญี่ปุ่นมีประวัติอะไรเขียนไว้มะรู้..อ่านมะออกแปลไม่ถูก 55++




ขาออกเดินพักอยู่ตรงโซนด้านหน้าอีกเช่นเคย มองไปมีร้านน้ำชาและโซนใบไม้สีเหลือง
แต่ว่าท่าทางเด็กจะเหนื่อยแน่นอน...ทริปนี้ไม่ได้เอารถเข็นไปเพราะเห็นว่าไม่กี่วัน
แต่นะ...ลืมสิ่งสำคัญที่สุดไปได้ไง ถือว่าเป็นบทเรียนสำหรับทริปหน้าละกัน
โทรฟี่ก็เพลินกับการหยอดเหรียญกาแฟให้แม่..และการทิ้งขยะมากกกก
เพราะที่นี่จะมีตู้ทิ้งขยะแยกประเภท กินเสร็จก็ให้เด็กไปทิ้งให้ถูกถังกันโลด


++หมี่มี๊..กาแฟๆๆ++


++ตู้กดที่ปราสาท น่าร๊ากกก++


++จบทริปนี้..แยกขยะได้เองโดยปริยาย 55++


ปิดท้ายด้วยภาพที่ระลึกกับป้าย 400 ปี Nagoya Castle กันค่ะ


++จะกลับจริงๆแระน้า++


และเนื่องจากว่ารูป และเรื่องแยะเกิน เดี๋ยวจะอ่านกันยาวเหยียด จะเบื่อกับการโหลดรูปซะก่อน
มื้อกลางวัน และการเที่ยงช่วงบ่ายแก่ๆใน Nagoya ขอยกยอดไปตอนถัดไปไม่ว่ากันนะค้า
^^
แล้วไว้ตามอ่านกันอีกค่า...ตอนหน้าจะมี Ramen เจ้าดังของญี่ปุ่นด้วยน๊า
รวมทั้งวัด..และแหล่งช๊อปของแบรนด์เนมชื่อดัง มือสองสถาำพกิ๊กแบบไม่เคยใช้ก็มี
**โปรดติดตามตอนต่อไป**
TongueTongueTongue





Free TextEditor


Create Date : 01 กรกฎาคม 2554
Last Update : 20 กันยายน 2554 8:55:29 น. 0 comments
Counter : 1066 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.